เอาบุคลิกแต่ละตัว

MG3 จะเป็นรถที่มีความน่ารักในตัว ด้วยลักษณะการตกแต่งภายนอกที่ไล่สีที่สร้างความดึงดูดได้ ของแต่งสีจากศูนย์ก็มีขายให้เลือกหลายแบบดี ออพชั่นที่ให้มาจะไม่เน้นด้านการตกแต่งและความสะดวกสบายอะไรมากมาย แต่ที่ให้มาก็ถือว่าสมราคา จะไปเน้นจริงๆ คือพวกออพชั่นระบบเสริมความปลอดภัยที่จัดเต็มในราคาที่ถูกกว่าชาวบ้าน ภายในมีพื้นที่ใช้งานที่เพียงพอคิอไม่กว้างแต่ไม่แคบ สามารถเปลี่ยนอิริยาบถเหยียดแข้งขาได้อยู่ เบาะนั่งที่รับตัวในระดับพอใช้ อีกทั้งยังมาพร้อมกับเครื่อง 1.5 ที่ให้พละกำลังสมรรถนะที่ใช้ได้ ไม่ปรู๊ดมากแต่พอกับการใช้งานจริง และจุดเด่นที่สำคัญคือคุคงณภาพการขับขี่โดยรวมโดยเฉพาะช่วงล่างที่ให้บุคลิกแบบตัวเล็กคล่องแคล่ว คือมุดได้ คุมอาการรถดี เกาะถนนใช้ได้ แต่แลกกับการเก็บแรงสะเทือนที่เข้ามาในรถระดับนึง ส่วนจุดติงของรถจะเป็นเรื่องหลักๆ เลยคือการใช้วัสดุคุณภาพรวมของชิ้นส่วนและงานประกอยที่ถูกลดทอนลงไป คอนโซลบ้านๆ ไม่มีอะไรดึงดูดแบบภายนอก และเกียร์ AMT ที่พื้นฐานมาจากเกียร์ธรรมดา แปลงเป็นชุดคลัชท์ออโต้ อาจจะรู้สึกว่าความไวและฉลาดในการเปลี่ยนเกียร์จะไม่เท่า AT ทั่วไปในยามต้องการอัตราเร่ง และเรื่องศูนย์บริการที่ต้องดูกันยาวๆ อีกที ตอนนี้ยังไม่มีใครตอบได้

MG5 จะเป็นรถทรง Coupe ที่จะเพิ่มความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาจาก 3 อีกระดับ วัสดุที่ใช้ในบางจุดเริ่มดีขึ้น ออพชั่นความสะดวกสบายเริ่มมีให้เพียบพร้อมขึ้นมาบ้างนิดหน่อย และในขณะเดียวกันออพชั่นเสริมความปลอดภัยก็เพิ่มขึ้นมาให้อีกในระดับจัดเต็มสุดในกลุ่ม จุดที่แตกต่างจาก 3 อย่างเห็นได้ชัดเลยคือเกียร์ AT เปลี่ยนมาใช้ Toque Converter แบบรถทั่วไป ผลที่ได้คือความไวในการเปลี่ยนเกียร์พัฒนามาดีขึ้นมาก ส่วนพละกำลังนั้นยังไม่มีใครได้ทดสอบตัว 1.5 NA ที่ จขกท. สนใจ แต่อยากจะบอกว่า 1.5 Turbo ในรุ่นที่ราคาสูงกว่ามีแรงม้ามากกว่าก็ไม่ได้ปรู๊ดปร๊าดอะไรมากนักนะครับ คืออยู่ในเกณฑ์ 1.5 NA ทั่วไปนั่นแหละ แรงพอใช้งานแน่ แค่ไม่สมกับ Turbo ที่ใส่มาเพิ่มแค่นั้น ส่วนภาพรวมการขับขี่ก็คล้าย 3 คือช่วงล่างที่ให้การทรงตัวมฝในระดับไว้ใจได้ สบายหายห่วงอยู่แล้ว ส่วนจุดติงของรถคราวนี้เป็นเรื่องพื้นที่ภายใน ด้วยรถที่ออกแบบมาในทรง Coupe หลังคาลาดลง ผลที่ได้คือพื้นที่ศีรษะเหลือน้อยกว่า 3 ชัดเจนครับ อาจจะทำให้คนตัวสูงนั่งไม่สบายเท่าไหร่ และด้วยปีกเบาะที่ไม่ได้ใหญ่มากก็จะทำให้การรับสรีระของเบาะหลังที่ไม่ดีนัก และศูนย์บริการระยะยาวอีกเช่นกัน

Mazda 2 จะเป็นรถที่จับตลาดในกลุ่มเดียวกับ MG3 แต่จะมีบุคลิกรถที่ต่างกันออกไป โดยจะเน้นไปทางความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวภายใต้ร่างที่กะทัดรัด ถ้าคาดหวังถึงออพชั่นการจงตกแต่งภายใน ตัวนี้ให้คุณได้ด้วยวัสดุภายในที่ทำมาดีในระดับต้นๆ ของกลุ่ม ออพชั่นความสะดวกสบายที่มีให้ในระดับแพรวพราวซักนิด แถมยังมาพร้อมกับออพชั่นความปลอดภัยที่ยังคงให้มาครบๆ จุดเด่นของรถก็จะเหมือนกับ 2 รุ่นที่ผ่านมา คือช่วงล่างที่ให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้ดี เพียงแต่จะมีความรู้สึกที่ออกแนวความเป็นญี่ปุ่นที่ให้ความนิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย ภาพรวมการขับขี่ถือว่าทำได้ดีในจุดนี้ครับ สิ่งที่จะทำให้ได้เปรียบกว่า 2 ตัวที่ผ่านมาก็คือเรื่องความเชื่อมั่นต่อศูนย์บริการที่ทำมานานกว่า เห็นการปรับปรุงพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ แต่อาจจะยังไม่ดีสุด ค่าอะไหล่ที่ศึกษาจากคนใช้จริงหลายตัวที่เป็นอะไหล่สิ้นเปลืองก็อยู่ในระดับทั่วไป และสิ่งที่ถือว่าเป็นจุดขายที่ได้เปรียบในทุกตัวที่ว่ามาจริงๆ ของรถคือเทคโนโลยีรถที่สามารถทำให้รถมีความประหยัดน้ำมันที่สุดในกลุ่ม สามารถขับปกติแล้วทำได้ถึง 20 km/l จริงจากสภาวะทั่วไปได้เลย ส่วนจุดติงของรถสำหรับตัวนี้ก็เห็นจะเป็นเรื่องความกว้างภายในที่ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร MG3 ยังทำได้ดีกว่า คือเป็นรถที่คำนึงถึงการขับขี่ที่เน้น 2 คนหน้าเป็นหลัก ทำให้เบาะหน้ามีความโอบกระชับรัดตัวได้ดี แต่พื้นที่ไม่ได้กว้างขวางหากปรับเบาะหน้าอยู่ในตำแหน่งสบายแล้วย้ายมานั่งหลัง จะพบว่า Legroom ให้เหยียดขาน้อยมากถ้าไม่สอดเข้าไปใต้เบาะ และ Headroom ที่ไม่ได้เหลือเยอะเท่าที่ควร ตรงนี้จะสู่คู่แข่งในระดับเดียวกันไม่ได้จริงๆ อีกอย่างคือพละกำลังของเครื่องรถ 1.3 เบนซินนี้ทำได้เพียงแค่เกาะกลุ่ม Eco car ทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้แรงเท่าบรรดา 1.5 ต่างๆ ซึ่งจะอืดหรือพอต่อการใช้งานมั้ยต้องไปลองขับเองดูครับ
ปล. Mazda 2 ตัวท็อปเบนซิน High Plus ไม่ใช่ 665,000 แล้วนะครับ ปรับราคาใหม่ตามภาษีใหม่เหลือ 642,000 แล้วครับ

City จะเป็นรถที่ทำออกมาทุกอย่างอยู่ในระดับกลางๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้รถที่ไม่ได้เน้นไปด้านในด้านนึง แต่จะให้รสชาติของทุกๆ ด้านมาแบบดีและเป็นที่ต้องการของคนส่วนมาก โดยจุดเด่นของรถที่มีความเป็นเจ้าตลาดยอดขายดี ดังนั้นเรื่องระยะยาวทั้งศูนย์บริการและอุปกรณ์ตกแต่งย่อมไว้ใจได้อยู่แล้ว ศูนย์มีทั้งดีและแย่ปะปนกันไป แต่รวมแล้วยังมีภาพที่ดีกว่าทุกตัวใน list จริงๆ จุดเด่นของรถก็คือความที่ทำมากลางๆ แต่มีดีหลายๆ ด้าน คุณจะได้รถที่ภายในมีความโปร่งโล่ง นั่งสบาย ด้วยเบาะที่รองรับสรีระได้ใหญ่ และมีพื้นที่ภายในที่ดี Legroom กว้าง เปลี่ยนอิริยาบถได้ดี Headroom ยังพอใช้งานเพียงแต่จะลดลงจากตัวก่อนหน้าบ้างจากการออกแบบ และออพชั่นที่มีความแพรวพราวและลูกเล่นที่ใช้งานได้ดีและทันสมัย และออพชั่นความปลอดภัยพื้นฐานที่ครบ อาจจะไม่จัดเต็มแบบ 3 ตัวบน แต่สมราคาไม่น่าเกลียด ส่วนพละกำลังเป็นจุดที่สร้างชื่อได้อีกอย่างเพราะเครื่อง 1.5 ให้อัตราเร่งที่โดดเด่นทันใจ เหลือเฟือต่อการใช้งานทั่วไป อาจจะมีความช้าจากการเค้นรอบและถ่ายกำลังไปยังเกียร์ CVT ที่อาจจะไม่ทันเท้าไปบ้าง ส่วนความประหยัดก็มาในรูปแบบกลางๆ คือเกาะไปในกลุ่ม ถือว่าประหยัดแต่ไม่ได้เด่นแบบ 2 ส่วนจุดติงของรถก็จะเป็นเพราะความกลางๆ ของรถนี่แหละเลยทำให้ช่วงล่างจะออกแนวเน้นนุ่มนิ่มมากขึ้น ความมั่นใจจะไม่เท่า 3 ตัวบน แต่ก็เป็นมิตรกับคนนั่งแทนหากมีผู้ใหญ่นั่งไปด้วย พวงมาลัยที่ยังคงทงมีความเบาซึ่งอาจทำให้ตอนใช้ความเร็วสูงไม่สบายในการจับให้อยู่เท่าไหร่ และวัสดุต่างๆ ในจุดที่มองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ดีจะมีถูกลดต้นทุนไปบ้างจากรุ่นก่อนหน้า

ที่เหลือ ไปลองขับดูครับ