วันนี้ตอนประมาณ 18.45 น. เรากำลังจะข้ามสะพานลอยไปฝั่งโรงแรมมารวยตามปกติ แต่ก่อนที่จะก้ามขึ้นสะพานมีผู้หญิงคนนึงเรียกไว้ก่อน เราหันไปมองก็เห็นเป็นผู้หญิงสองคน คนนึงแก่กว่า อีกคนอ่อนกว่า(แต่ก็ไม่สาวมาก) ตัวสูงแต่ท้วมๆ ทีนี้ป้าก็บอกว่าเรา ‘หนูๆ ป้าจะขอความช่วยเหลือหน่อย คือป้ากับลูกสะใภ้ตกรถ ตอนนี้กำลังจะไปหมอชิต แล้วจะไปต่อรถเข้า บขส.สระบุรี แต่ขาดเงินคนละ 68 บาท รบกวนหนูช่วยป้าหน่อยได้ไหม’
เราก็ยังงงๆว่า เลยถามว่าค่ารถอะไร 68 บาท ? ป้าแกอธิบายว่า ‘ป้าจะไปหมอชิต แล้วต่อจากหมอชิตเข้า บขส สระบุรี แต่ไม่มีค่ารถไป บขส สระบุรี ยังขาดอีกคนละ 68 บาท ป้ากับลูกสะใภ้จะมาหาลูกชาย จะมาขอเงิน แต่ตกรถก่อน เลยไม่ได้เจอลูกชาย ไม่มีเงินกลับบ้าน นี่ลูกสะใภ้ก็ท้องสามเดือนแล้ว’ เราก็มองท้องคนที่คนที่แกบอกว่าเป็นลูกสะใภ้แก ก็เห็นว่าท้องป่องจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าท้องจริงๆหรืออ้วนกันแน่ ป้ายังบอกต่อว่า ‘ป้าไม่โกหกหรอกหนู ป้าคนดี ที่ป้ามาขอแบบนี้ ป้าก็อายนะ แต่ป้าไม่มีจริงๆ ไม่รู้จะทำยังไง’
เราก็เลยให้ไป 140 บาท ตอนนั้นคิดในใจว่า เออ…ถ้าเดือดร้อนจริงๆก็ถือว่าช่วยไป แต่ถ้าหลอกลวง ก็รับบาปกรรม ขอให้ตกนรกหมกไหม้ไปก็แล้วกัน สาธุๆ ตอนให้ก็ยังมึนๆอยู่ คือมาคิดได้ตอนหลังว่าทำไมเราช่วยคนง่ายจังว้า 140 ไม่น้อยนะเฟ้ยยยย แล้วคนท้องสามเดือนทำไมใส่กางเกงยีนส์ได้ว้า มันสมควรแล้วเหรอ หรือจริงๆไม่ได้ท้อง แต่อ้วน? แล้วทำไมตอนนั้นไม่บอกให้เค้าขึ้นรถเมล์ แล้วไปลงป้ายหน้าสถานีตำรวจวะ หรือกองปราบก็ได้ ยังไงตำรวจคงไม่ใจร้ายกับคนที่เดือดร้อนจริงๆหรอก เพราะคนที่เดือดร้อนจริงก็คงไม่กลัวที่จะทำตามที่เราแนะนำ แต่เราเป็นอบบี้ตลอด ตอนเจอมุกคนขอเงินนี่คิดกลวิธีลองเชิงไม่ออกจริงๆ นี่ยังตกใจตัวเองว่าเป็นคนขี้สงสารขนาดนั้นเลยเหรอออ เฮ้อ… ยิ่งพอมาเจอคนในพันทิปเอามาแชร์ว่าเจอเหตุการณ์คล้ายๆกัน ยิงนอยด์เลยทีนี้ –“ จนอดคิดไม่ได้ว่าแล้วต่อไป ถ้ามีคนเดือดร้อนจริงๆ จะมีคนกล้าช่วยไหม ????
สุดท้ายนี้ ถ้าใครเจอผู้หญิงสองคนมาขอเงินไปหมอชิต รวมค่ารถคนละ 68 บาท หรืออาจจะเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนจำนวนเงิน ก็ขอให้รู้ว่าถูกมิจฉาชีพหลอกแล้วววว อย่าให้เด็ดขาดๆ
เจอคนขอเงินไปหมอชิต 68 บาท ที่สะพานลอยตรงข้ามโรงแรงมารวย แถวๆ ม.เกษตร
เราก็ยังงงๆว่า เลยถามว่าค่ารถอะไร 68 บาท ? ป้าแกอธิบายว่า ‘ป้าจะไปหมอชิต แล้วต่อจากหมอชิตเข้า บขส สระบุรี แต่ไม่มีค่ารถไป บขส สระบุรี ยังขาดอีกคนละ 68 บาท ป้ากับลูกสะใภ้จะมาหาลูกชาย จะมาขอเงิน แต่ตกรถก่อน เลยไม่ได้เจอลูกชาย ไม่มีเงินกลับบ้าน นี่ลูกสะใภ้ก็ท้องสามเดือนแล้ว’ เราก็มองท้องคนที่คนที่แกบอกว่าเป็นลูกสะใภ้แก ก็เห็นว่าท้องป่องจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าท้องจริงๆหรืออ้วนกันแน่ ป้ายังบอกต่อว่า ‘ป้าไม่โกหกหรอกหนู ป้าคนดี ที่ป้ามาขอแบบนี้ ป้าก็อายนะ แต่ป้าไม่มีจริงๆ ไม่รู้จะทำยังไง’
เราก็เลยให้ไป 140 บาท ตอนนั้นคิดในใจว่า เออ…ถ้าเดือดร้อนจริงๆก็ถือว่าช่วยไป แต่ถ้าหลอกลวง ก็รับบาปกรรม ขอให้ตกนรกหมกไหม้ไปก็แล้วกัน สาธุๆ ตอนให้ก็ยังมึนๆอยู่ คือมาคิดได้ตอนหลังว่าทำไมเราช่วยคนง่ายจังว้า 140 ไม่น้อยนะเฟ้ยยยย แล้วคนท้องสามเดือนทำไมใส่กางเกงยีนส์ได้ว้า มันสมควรแล้วเหรอ หรือจริงๆไม่ได้ท้อง แต่อ้วน? แล้วทำไมตอนนั้นไม่บอกให้เค้าขึ้นรถเมล์ แล้วไปลงป้ายหน้าสถานีตำรวจวะ หรือกองปราบก็ได้ ยังไงตำรวจคงไม่ใจร้ายกับคนที่เดือดร้อนจริงๆหรอก เพราะคนที่เดือดร้อนจริงก็คงไม่กลัวที่จะทำตามที่เราแนะนำ แต่เราเป็นอบบี้ตลอด ตอนเจอมุกคนขอเงินนี่คิดกลวิธีลองเชิงไม่ออกจริงๆ นี่ยังตกใจตัวเองว่าเป็นคนขี้สงสารขนาดนั้นเลยเหรอออ เฮ้อ… ยิ่งพอมาเจอคนในพันทิปเอามาแชร์ว่าเจอเหตุการณ์คล้ายๆกัน ยิงนอยด์เลยทีนี้ –“ จนอดคิดไม่ได้ว่าแล้วต่อไป ถ้ามีคนเดือดร้อนจริงๆ จะมีคนกล้าช่วยไหม ????
สุดท้ายนี้ ถ้าใครเจอผู้หญิงสองคนมาขอเงินไปหมอชิต รวมค่ารถคนละ 68 บาท หรืออาจจะเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนจำนวนเงิน ก็ขอให้รู้ว่าถูกมิจฉาชีพหลอกแล้วววว อย่าให้เด็ดขาดๆ