เอเอฟพี – บริษัทสายการบินสัญชาติญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่ 2 แห่ง สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ส หรือ “JAL” และสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์ หรือ “ ANA” ออกแถลงการณ์ด่วนในวันศุกร์(4 กพ.)จำเป็นต้องสั่งเปลี่ยนเส้นทางการบินในบางเที่ยวบินในระหว่างวันที่ 8-25 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อความปลอดภัยจากจรวดมิสไซล์ของเกาหลีเหนือ ที่ทางเปียงยางอ้างว่า มีกำหนดจะยิงจรวดส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรเพื่อสำรวจทรัพยากรโลกในช่วงเวลาเดียวกันนี้
เอเอฟพีรายงานวันนี้(5 กพ.)ว่า เที่ยวบินของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ส หรือ “JAL” และสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์ หรือ “ ANA” ที่คาดว่าน่าจะมีผลกระทบจากการเปลี่ยนเส้นทางการบินนั้นอยู่ในช่วงระหว่างวันที่8-25 กุมภาพันธ์นี้
โดยจากแถลงการณ์ของทั้งสองบริษัทที่ออกอย่างเร่งด่วนในวันศุกร์(4 กพ.)พบว่า บริษัทสายการบินทั้งสองจะเปลี่ยนไปใช้เส้นทางการบินผ่านทางนอกน่านน้ำฟิลิปปินส์แทน เพื่อหลบเลี่ยงมิสไซล์ขนดาวเทียวของทางเกาหลีเหนือที่มีกำหนดจะยิงขึ้นสู่วงโคจรในช่วงระหว่างวันที่ 8-25 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
เอเอฟพีรายงานว่า จากแถลงการณ์ของสายการบินANAระบุว่า จะมีเที่ยวบินของ ANAจำนวน 3 เที่ยวบินที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทางการบิน ซึ่งมีเส้นทางการบินจากสนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว มุ่งหน้าไปยังกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ และเที่ยวบินจากกรุงมะนิลามายังสนามบินนาริตะ กรุงโตเกี่ยว นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเที่ยวบินจากกรุงจากาตาร์ อินโดนีเซียไปยังสนามบินนาริตะ
และเอเอฟพียังรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของสายการบิน JAL พบว่า มี 2เที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบต้องเปลี่ยนเส้นทาง ซึ่งเกิดขึ้นในเที่ยวบินจากกรุงจากาตาร์ ไปสนามบินนาริตะ กรุงโตเกียว และในเส้นทางจากสนามบินนาริตะไปกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์
ทั้งนี้พบว่า เที่ยวบินที่จำเป็นเปลี่ยนเส้นทางการบิน คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการดีเลย์เป็นเวลา 5-10 นาที บริษัทสายการบิน เจแปนแอร์ไลน์สและสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์แถลง
ซึ่งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization) เปิดเผยว่า พวกเขาได้รับคำเตือนด้านการเดินทางมาจากเกาหลีเหนือ ที่บอกว่าพวกเขามีความตั้งใจจะปล่อยดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลกขึ้นสู่วงโคจรระหว่างวันที่ 8-25 กุมภาพันธ์
และพบว่าการยิงจรวดขนดาวเทียมสำรวจทรัพย์กรธรรมชาติขึ้นสู่วงโคจรของเกาหลีเหนือครั้งนี้ เป็นการละเมิดมติของสหประชาชาติครั้งสำคัญครั้งที่ 2 ในเวลาห่างกันไม่ถึงเดือน หลังจากเพิ่งทดสอบนิวเคลียร์ไปเมื่อเดือนก่อน
โดยในมติของสหประชาชาติห้ามเกาหลีเหนือจากการใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ และได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ หลังจากเปียงยางยิงขีปนาวุธหนสุดท้ายในเดือนธันวาคม 2012
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000013060
สายการบินญี่ปุ่น “JAL” และ “ANA” แถลงด่วน!! เปลี่ยนเส้นทางบินฉุกเฉิน หลบมิสไซล์ติดดาวเทียมของเกาหลีเหนือ
เอเอฟพีรายงานวันนี้(5 กพ.)ว่า เที่ยวบินของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ส หรือ “JAL” และสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์ หรือ “ ANA” ที่คาดว่าน่าจะมีผลกระทบจากการเปลี่ยนเส้นทางการบินนั้นอยู่ในช่วงระหว่างวันที่8-25 กุมภาพันธ์นี้
โดยจากแถลงการณ์ของทั้งสองบริษัทที่ออกอย่างเร่งด่วนในวันศุกร์(4 กพ.)พบว่า บริษัทสายการบินทั้งสองจะเปลี่ยนไปใช้เส้นทางการบินผ่านทางนอกน่านน้ำฟิลิปปินส์แทน เพื่อหลบเลี่ยงมิสไซล์ขนดาวเทียวของทางเกาหลีเหนือที่มีกำหนดจะยิงขึ้นสู่วงโคจรในช่วงระหว่างวันที่ 8-25 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
เอเอฟพีรายงานว่า จากแถลงการณ์ของสายการบินANAระบุว่า จะมีเที่ยวบินของ ANAจำนวน 3 เที่ยวบินที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทางการบิน ซึ่งมีเส้นทางการบินจากสนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว มุ่งหน้าไปยังกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ และเที่ยวบินจากกรุงมะนิลามายังสนามบินนาริตะ กรุงโตเกี่ยว นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเที่ยวบินจากกรุงจากาตาร์ อินโดนีเซียไปยังสนามบินนาริตะ
และเอเอฟพียังรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของสายการบิน JAL พบว่า มี 2เที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบต้องเปลี่ยนเส้นทาง ซึ่งเกิดขึ้นในเที่ยวบินจากกรุงจากาตาร์ ไปสนามบินนาริตะ กรุงโตเกียว และในเส้นทางจากสนามบินนาริตะไปกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์
ทั้งนี้พบว่า เที่ยวบินที่จำเป็นเปลี่ยนเส้นทางการบิน คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการดีเลย์เป็นเวลา 5-10 นาที บริษัทสายการบิน เจแปนแอร์ไลน์สและสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์แถลง
ซึ่งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization) เปิดเผยว่า พวกเขาได้รับคำเตือนด้านการเดินทางมาจากเกาหลีเหนือ ที่บอกว่าพวกเขามีความตั้งใจจะปล่อยดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลกขึ้นสู่วงโคจรระหว่างวันที่ 8-25 กุมภาพันธ์
และพบว่าการยิงจรวดขนดาวเทียมสำรวจทรัพย์กรธรรมชาติขึ้นสู่วงโคจรของเกาหลีเหนือครั้งนี้ เป็นการละเมิดมติของสหประชาชาติครั้งสำคัญครั้งที่ 2 ในเวลาห่างกันไม่ถึงเดือน หลังจากเพิ่งทดสอบนิวเคลียร์ไปเมื่อเดือนก่อน
โดยในมติของสหประชาชาติห้ามเกาหลีเหนือจากการใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ และได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ หลังจากเปียงยางยิงขีปนาวุธหนสุดท้ายในเดือนธันวาคม 2012
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000013060