เรื่องเล่าเส้นทางไปลี้-เถิน
เส้นนี้อยู่ในจังหวัดลำปาง ปกติแล้วเค้าคงไม่ค่อยได้ผ่านเส้นทางนี้กันเท่าไหร่หรอก แต่น้องที่คอยเลือกเส้นทาง Baitong Sathitkun ให้เราบอกต้องผ่านเส้นทางนี้กันเพื่อย่นระยะทางที่จะไปเชียงใหม่ได้อีกเกือบ 40 กิโล แต่เส้นนี้มีทางคดเคี้ยว ลาดชัน และมีรถบรรทุกวิ่งกันค่อยข้างเยอะตลอดทาง เพราะคาดว่าเป็นเส้นทางที่สั้นกว่าทางปกติและคาดว่ารถบรรทุกคงไม่อยากไปวุ่นวายกับที่หนวดข้างทางที่คอยตรวจตราอยู่เป็นแน่
เส้นนี้คงเป็นเส้นทางแรกในทริป ที่เราได้ขึ้นภูเขาสูง และเริ่มรู้สึกถึงการเป็นป่าครั้งแรกของทริป ขนาดพึ่งจะเริ่มขึ้นเขาเท่านั้น พลันสัญญาณโทรศัพท์ของผมก็ล่มหายไป เหลือไว้แต่ข้อความด้านซ้ายบนของโทรศัพท์ว่า "ไม่มีบริการ"
เหมือนเดิมครับ ผมขับอยู่คันท้ายขบวน เหลือแค่สองคันสุดท้ายตามไป ด้านหน้าผมเหลือแค่ Beer Zoomer นอกนั้นผมมองไม่เห็นใคร เนื่องจากเป็นทางคดเคี้ยว ลาดชัน ทำไมบดบังเพื่อนข้างหน้า ไม่เห็นใครจริง ๆ
ในที่สุดอาถรรพ์ของป่าก็ต้อนรับเราจริง ๆ และสุดท้ายคงต้องโทษพวกเรากันเองจริง ๆที่ไม่ได้คุยกัน หรือให้สัญญาณกันดีพอ หรือไม่ระวังกันเอง ทำให้วิ่งผ่านมาได้สักเกือบ 10 กิโล โค้งนั้นผมเห็นภาพพี่เบียร์ Beer Zoomer จอดรถ แล้วก้มลงไปช่วยเหลือพี่ปอ Poramon Pokham ที่ล้มหลุดโค้งไปกระแทกกับข้างทาง แถมไปคุยกับแผ่นสะท้อนแสงที่ติดอยู่ด้วย วินาทีนั้น เอาแล้ววว เสียวว่าพี่ร่วมทริปจะเป็นไรมากป่าว
เอารถเข้าทางเสร็จ คำแรกที่ได้ยินพี่ปอบอกไม่เป็นไรมาก ให้ช่วยย้ายรถและคนมาอีกหน่อยเพื่อหลบทางโค้งมา นัยว่ากลัวรถด้านหลังจะวิ่งมาไม่เห็น และให้ล้างแผลให้
"ล้างแผล!!!" ... แว่บแรกที่เปิดกางเกงยีนส์พี่ปอมาเพื่อจะล้างแผล ผมบอกแกว่าอย่ามองแผล เพราะสิ่งที่เห็นคือ เนื้อที่หน้าแข้งหายไปแล้ว เปิดลึกถึงกระดูก ผมจึงไม่กล้าล้างแผลให้พี่ปอ เพราะกลัวว่าน้ำจะไปทำให้บาดแผลเสียหายกว่าเดิม แถมผมป๊อด..!! ด้วย อาการตกใจมึน ๆจึงยังไม่หายไปเท่าไหร่ ผมเลยคว้าโทรศัพท์เพื่อกดโทรบอกเพื่อนๆในกลุ่มด้านหน้า และคิดหาทางช่วยเหลือจากรถพยาบาล แต่เดชะบุญ สิ่งที่ขึ้นหน้าจอระบบเอไอเอสคือ "ไม่มีบริการ"
โอ๊วว แม่สาวน้อยยย ฉุกเฉินเลยตอนนั้น ผมเลยตกลงกับพี่เบียร์ว่า ให้พี่เบียร์ดูแลพี่ปออยู่ตรงนี้ ผมจะขับรถไล่กลุ่มหน้าไป และหาความช่วยเหลือต่อไป
ผมขับวนไปเกือบสิบกว่ากิโล ทั้งคดเคี้ยวลาดชัน และก็มีหินหล่นตามทางตลอดเวลา พึ่งเห็นเหตุการณ์อุบัติเหตุมาด้วย เลยไม่กล้าขับเร็ว เสียว
ขับไปสักพัก เจอป้อมสีดำ ๆนัยว่าเป็นป้อมตำรวจล่ะว่ะ ขับขึ้นไปถามหาความช่วยเหลือ เค้าบอกเป็นแค่ป้อมพัก หรือสังเกตุการณ์รถบรรทุกวิ่ง บอกต้องไปแจ้งที่ป้อมด้านหน้า ห่า..!! จุดนั้นผมเลยคิดว่าเอาไงต่อดี แต่ทำไงได้ วิ่งมาตั้งไกลแล้ว ยังไงก็ต้องวิ่งต่อไป
ผ่านจุดเกิดเหตุมาได้สักเกือบ 20 กิโล ผมเจอชาวบ้าน และร้านขายอาหาร ตรงนั้นมีป้อมตำรวจอยู่ และโชคดีที่ผมไปเคาะกระจกแล้ว
"ไม่เจอตำรวจ" สักแมวนึง
ชาวบ้านบอกนายตำรวจคนนี้แกไม่ค่อยอยู่ป้อมหรอก แต่ทิ้งตัวอักษรชอล์คเขียนไว้บนกระดานดำ มีชื่อและเบอร์โทรติดอยู่ แต่โทรไป "ไม่รับ" สาธุ
ลำพังสัญญาณ #Ais
ก็หายากอยู่ละ ต้องยืมโทรศัพท์ชาวบ้าน #True โทร ดันจะไม่รับอีก
ต้องขอบคุณชาวบ้านตรงนั้นมากที่ขวนขวายช่วยเหลือผม โทรไปนั่นนี่สารพัด จนสุดท้ายก็ต้องพึ่ง #1669 อันนี้พึ่งรู้ว่า เวลามีอุบัติเหตุในป่า หรือที่ที่เข้าถึงยากนั้น ต่างจังหวัดเค้าต้องพึ่ง #1669 ผมเริ่มติดต่อเพื่อนๆ ในกลุ่มได้ ทุกคนจึงวิ่งกลับไปจุดเกิดเหตุด้วยกัน และคอยดูแลพี่ปอ
ภาพระหว่างทางกลับ ช่างภาพ พรรษา แกคงรักพี่ปอมาก หน้าตาตกใจ และวิ่งเร็วที่สุดในกลุ่มเพื่อกลับไปดูอาการพี่ปอ คู่นี้ถ้าเกิดเป็นหญิงกับชาย คงได้กันเองแล้วแน่ ๆ
ไปถึงที่นั่น เราช่วยกันโบกรถ ส่วนคุณบุ๊ค Twister Saensurin คอยช่วยส่งสัญญาณให้รถบรรทุกระวังกลุ่มพวกเราที่อยู่ริมถนนคอยดูอาการพี่ปอ
จากนั้นอีกไม่นาน พี่ตำรวจที่ประสานกับ #1669 ก็เข้ามา ยกรถขึ้นกะบะ แล้วเอาพี่ปอใส่รถไปร้านหีบศพ เอ๊ย ไม่ใช่ไปโรงพยาบาล
พวกเราขยันขันแข็งช่วยเหลือกันในตอนมีทุก ใจก็คิดว่าพี่ปอแกคงไปต่อไม่ได้ และพวกเราก็ได้ภาวนาให้แกกลับบ้านเถอะ พวกผมจะได้ไปต่อสักที 5555
แต่ในใจทุกคนห่วงพี่ปอมากกว่าครับ
เมื่อพี่ปอปลอดภัยพวกเราก็ไปต่อ ผมและ Tom Varavut Thanuthammanont ก็ไม่วายที่จะแวะขอบคุณพี่ ๆน้อง ๆชาวบ้านทั้งสองจุดที่คอยให้ความช่วยเหลือและติดต่อประสานงานให้
ข้อเสียของการล้มของพี่ปอคือ พี่ปอเจ็บ รถเสียหาย และต้องรักษาตัว
แต่ข้อดีของมันคือทำให้พวกเราระวังขึ้น และรู้ว่าจุดนี้ พวกเราต้องเริ่มระวังมากขึ้น เพราะเส้นทางมันไม่ได้ง่ายๆ เหมือนเส้นที่วิ่งผ่านมาแล้ว
ขอบคุณน้ำใจของทุกคน เพื่อน และทุกอย่างสองข้างทางที่ทำให้เราเก่งขึ้น เข้มแข็งขึ้น และจิตใจมันคงขึ้น
ท่อนสุดท้ายนี้ ก็แค่อยากจะขอบคุณ Ais ที่ไม่มีสัญญาณ ในจังหวะฉุกเฉิน
ขอบคุณพี่ป้อม(ยาม") บนจุดนั้นที่บอกว่าให้ติดต่อตำรวจด้านล่าง(ฟวย)
ขอบคุณคุณป้าที่ให้ยืมโทรศัพท์โทรโดยไม่คิดเงิน
และขอบคุณรถบรรทุกเส้นนั้นที่ไม่ยอมจอดลงมาดูดำดูดีเลยซ๊ากกกกคันนน
เรื่องเล่าเส้นทางลี้-เถิน
เส้นนี้อยู่ในจังหวัดลำปาง ปกติแล้วเค้าคงไม่ค่อยได้ผ่านเส้นทางนี้กันเท่าไหร่หรอก แต่น้องที่คอยเลือกเส้นทาง Baitong Sathitkun ให้เราบอกต้องผ่านเส้นทางนี้กันเพื่อย่นระยะทางที่จะไปเชียงใหม่ได้อีกเกือบ 40 กิโล แต่เส้นนี้มีทางคดเคี้ยว ลาดชัน และมีรถบรรทุกวิ่งกันค่อยข้างเยอะตลอดทาง เพราะคาดว่าเป็นเส้นทางที่สั้นกว่าทางปกติและคาดว่ารถบรรทุกคงไม่อยากไปวุ่นวายกับที่หนวดข้างทางที่คอยตรวจตราอยู่เป็นแน่
เส้นนี้คงเป็นเส้นทางแรกในทริป ที่เราได้ขึ้นภูเขาสูง และเริ่มรู้สึกถึงการเป็นป่าครั้งแรกของทริป ขนาดพึ่งจะเริ่มขึ้นเขาเท่านั้น พลันสัญญาณโทรศัพท์ของผมก็ล่มหายไป เหลือไว้แต่ข้อความด้านซ้ายบนของโทรศัพท์ว่า "ไม่มีบริการ"
เหมือนเดิมครับ ผมขับอยู่คันท้ายขบวน เหลือแค่สองคันสุดท้ายตามไป ด้านหน้าผมเหลือแค่ Beer Zoomer นอกนั้นผมมองไม่เห็นใคร เนื่องจากเป็นทางคดเคี้ยว ลาดชัน ทำไมบดบังเพื่อนข้างหน้า ไม่เห็นใครจริง ๆ
ในที่สุดอาถรรพ์ของป่าก็ต้อนรับเราจริง ๆ และสุดท้ายคงต้องโทษพวกเรากันเองจริง ๆที่ไม่ได้คุยกัน หรือให้สัญญาณกันดีพอ หรือไม่ระวังกันเอง ทำให้วิ่งผ่านมาได้สักเกือบ 10 กิโล โค้งนั้นผมเห็นภาพพี่เบียร์ Beer Zoomer จอดรถ แล้วก้มลงไปช่วยเหลือพี่ปอ Poramon Pokham ที่ล้มหลุดโค้งไปกระแทกกับข้างทาง แถมไปคุยกับแผ่นสะท้อนแสงที่ติดอยู่ด้วย วินาทีนั้น เอาแล้ววว เสียวว่าพี่ร่วมทริปจะเป็นไรมากป่าว
เอารถเข้าทางเสร็จ คำแรกที่ได้ยินพี่ปอบอกไม่เป็นไรมาก ให้ช่วยย้ายรถและคนมาอีกหน่อยเพื่อหลบทางโค้งมา นัยว่ากลัวรถด้านหลังจะวิ่งมาไม่เห็น และให้ล้างแผลให้
"ล้างแผล!!!" ... แว่บแรกที่เปิดกางเกงยีนส์พี่ปอมาเพื่อจะล้างแผล ผมบอกแกว่าอย่ามองแผล เพราะสิ่งที่เห็นคือ เนื้อที่หน้าแข้งหายไปแล้ว เปิดลึกถึงกระดูก ผมจึงไม่กล้าล้างแผลให้พี่ปอ เพราะกลัวว่าน้ำจะไปทำให้บาดแผลเสียหายกว่าเดิม แถมผมป๊อด..!! ด้วย อาการตกใจมึน ๆจึงยังไม่หายไปเท่าไหร่ ผมเลยคว้าโทรศัพท์เพื่อกดโทรบอกเพื่อนๆในกลุ่มด้านหน้า และคิดหาทางช่วยเหลือจากรถพยาบาล แต่เดชะบุญ สิ่งที่ขึ้นหน้าจอระบบเอไอเอสคือ "ไม่มีบริการ"
โอ๊วว แม่สาวน้อยยย ฉุกเฉินเลยตอนนั้น ผมเลยตกลงกับพี่เบียร์ว่า ให้พี่เบียร์ดูแลพี่ปออยู่ตรงนี้ ผมจะขับรถไล่กลุ่มหน้าไป และหาความช่วยเหลือต่อไป
ผมขับวนไปเกือบสิบกว่ากิโล ทั้งคดเคี้ยวลาดชัน และก็มีหินหล่นตามทางตลอดเวลา พึ่งเห็นเหตุการณ์อุบัติเหตุมาด้วย เลยไม่กล้าขับเร็ว เสียว
ขับไปสักพัก เจอป้อมสีดำ ๆนัยว่าเป็นป้อมตำรวจล่ะว่ะ ขับขึ้นไปถามหาความช่วยเหลือ เค้าบอกเป็นแค่ป้อมพัก หรือสังเกตุการณ์รถบรรทุกวิ่ง บอกต้องไปแจ้งที่ป้อมด้านหน้า ห่า..!! จุดนั้นผมเลยคิดว่าเอาไงต่อดี แต่ทำไงได้ วิ่งมาตั้งไกลแล้ว ยังไงก็ต้องวิ่งต่อไป
ผ่านจุดเกิดเหตุมาได้สักเกือบ 20 กิโล ผมเจอชาวบ้าน และร้านขายอาหาร ตรงนั้นมีป้อมตำรวจอยู่ และโชคดีที่ผมไปเคาะกระจกแล้ว
"ไม่เจอตำรวจ" สักแมวนึง
ชาวบ้านบอกนายตำรวจคนนี้แกไม่ค่อยอยู่ป้อมหรอก แต่ทิ้งตัวอักษรชอล์คเขียนไว้บนกระดานดำ มีชื่อและเบอร์โทรติดอยู่ แต่โทรไป "ไม่รับ" สาธุ
ลำพังสัญญาณ #Ais ก็หายากอยู่ละ ต้องยืมโทรศัพท์ชาวบ้าน #True โทร ดันจะไม่รับอีก
ต้องขอบคุณชาวบ้านตรงนั้นมากที่ขวนขวายช่วยเหลือผม โทรไปนั่นนี่สารพัด จนสุดท้ายก็ต้องพึ่ง #1669 อันนี้พึ่งรู้ว่า เวลามีอุบัติเหตุในป่า หรือที่ที่เข้าถึงยากนั้น ต่างจังหวัดเค้าต้องพึ่ง #1669 ผมเริ่มติดต่อเพื่อนๆ ในกลุ่มได้ ทุกคนจึงวิ่งกลับไปจุดเกิดเหตุด้วยกัน และคอยดูแลพี่ปอ
ภาพระหว่างทางกลับ ช่างภาพ พรรษา แกคงรักพี่ปอมาก หน้าตาตกใจ และวิ่งเร็วที่สุดในกลุ่มเพื่อกลับไปดูอาการพี่ปอ คู่นี้ถ้าเกิดเป็นหญิงกับชาย คงได้กันเองแล้วแน่ ๆ
ไปถึงที่นั่น เราช่วยกันโบกรถ ส่วนคุณบุ๊ค Twister Saensurin คอยช่วยส่งสัญญาณให้รถบรรทุกระวังกลุ่มพวกเราที่อยู่ริมถนนคอยดูอาการพี่ปอ
จากนั้นอีกไม่นาน พี่ตำรวจที่ประสานกับ #1669 ก็เข้ามา ยกรถขึ้นกะบะ แล้วเอาพี่ปอใส่รถไปร้านหีบศพ เอ๊ย ไม่ใช่ไปโรงพยาบาล
พวกเราขยันขันแข็งช่วยเหลือกันในตอนมีทุก ใจก็คิดว่าพี่ปอแกคงไปต่อไม่ได้ และพวกเราก็ได้ภาวนาให้แกกลับบ้านเถอะ พวกผมจะได้ไปต่อสักที 5555
แต่ในใจทุกคนห่วงพี่ปอมากกว่าครับ
เมื่อพี่ปอปลอดภัยพวกเราก็ไปต่อ ผมและ Tom Varavut Thanuthammanont ก็ไม่วายที่จะแวะขอบคุณพี่ ๆน้อง ๆชาวบ้านทั้งสองจุดที่คอยให้ความช่วยเหลือและติดต่อประสานงานให้
ข้อเสียของการล้มของพี่ปอคือ พี่ปอเจ็บ รถเสียหาย และต้องรักษาตัว
แต่ข้อดีของมันคือทำให้พวกเราระวังขึ้น และรู้ว่าจุดนี้ พวกเราต้องเริ่มระวังมากขึ้น เพราะเส้นทางมันไม่ได้ง่ายๆ เหมือนเส้นที่วิ่งผ่านมาแล้ว
ขอบคุณน้ำใจของทุกคน เพื่อน และทุกอย่างสองข้างทางที่ทำให้เราเก่งขึ้น เข้มแข็งขึ้น และจิตใจมันคงขึ้น
ท่อนสุดท้ายนี้ ก็แค่อยากจะขอบคุณ Ais ที่ไม่มีสัญญาณ ในจังหวะฉุกเฉิน
ขอบคุณพี่ป้อม(ยาม") บนจุดนั้นที่บอกว่าให้ติดต่อตำรวจด้านล่าง(ฟวย)
ขอบคุณคุณป้าที่ให้ยืมโทรศัพท์โทรโดยไม่คิดเงิน
และขอบคุณรถบรรทุกเส้นนั้นที่ไม่ยอมจอดลงมาดูดำดูดีเลยซ๊ากกกกคันนน