เบญจมรณา เรื่องราวของความตายที่ไม่ปรารถนา...ความผิดบาปที่ถูกนำมายัดเยียดให้...ความแค้นที่ฝันแน่นในใจ
แม้ชีวิตมรณาไป...ยังคงต้องการให้มัน ตาย ชดใช้กรรม
1.บ่วงสไบ
มนุษย์เราเกิดมาหาได้มีบุญวาสนาเท่าเทียมกันไม่
ดังเช่น ‘พุดจีบ’ ลูกของ ‘คุณหลวงนฤเดช’ ซึ่งมีทุกอย่างตามที่ใจปรารถนา
ผิดกับ ‘แก้ว’ ลูกเมียทาสที่คุณหลวงหาได้ยอมรับไม่
ความลับที่ไม่เป็นความลับ เป็นสาเหตุให้ ‘แม่อิ่ม’ แม่ของแก้วถูกเฆี่ยนจนตาย
ลูกนางทาสเก็บความแค้นฝังใจ สักวันจะต้องได้ทุกอย่างมาเป็นของตน!
เรื่อง
บังเกิดเมื่อพุดจีบแอบลักลอบได้เสียกับ ‘นายมิ่ง’ ทาสชั้นต่ำ
ซ้ำร้าย ‘คุณเทพ’ ลูกบุญธรรมที่เรียนจบมาจากเมืองนอกดันไปคว้าแก้วมาทำเมีย
เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น สร้างความอับอายมาสู่ครอบครัว จนเกิดโศกนากฎกรรม
พุดจีบโทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุนั้น ก่อนจะพบศพเธอใช้ผ้าสไบผูกคอตายที่ต้นจำปี
วิญญาณของเธอยังคงวนเวียน บ่วงความแค้นยังพันผูก รอคอยการ ‘สะสาง’
กูจักมิปล่อยวาง‘ความแค้น’ ที่สร้าง จักต้อง ‘ทวงคืน!’
บ่วงรัก...ผักผูก...ปลูกเสน่หา
บ่วงกรรม...ชักพา...มาชิดใกล้
บ่วงเวร...เร่งเร้า...ร้อนดั่งไฟ
‘บ่วงสไบ’ ผูกเงื่อนตาย...ไว้ที่ ‘!’
แคสนักแสดง
อาภา ภาวิไล – แก้ว
ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์ – คุณพุดจีบ (เป็นผี)
กันตพงศ์ บํารุงรักษ์ - พี่เทพ
ปิยพันธ์ คำกฤษ – ไอ้มิ่ง
ศักราช ฤกดำรงค์ - คุณหลวงนฤเดช
กมลชนก เขมะโยธิน - นางอิ่ม
อำภา ภูษิต - ยายเมี้ยน
2.สาปสังคีต
การเปลี่ยนโจทย์เพลงที่จะใช้ประกวดในงานสังคีตศิลป์ถิ่นไทย
ทำให้ โฉมยงค์ ผู้ดูแลวงดนตรีของมหาวิทยาลัยต้องไปพบกับศิษย์เก่าอย่าง ยชญ์
เพื่อขอนำเพลง ‘พลายคลั่ง’ ที่ ครูพุก ตาทวดของยชญ์ประพันธ์ไว้มาใช้
วันหนึ่งโฉมยงค์ได้รับจดหมายปริศนาเตือนว่าห้ามยุ่งกับเพลงพรายคลั่ง
แต่หล่อนไม่เชื่อ กลับนำเพลงนี้มาร้องในคืนวันเพ็ญ ก่อนขาดใจตายในห้องดนตรีไทย!
ต่อมา พวงแพร นักร้องสาวของวงก็ตายคาเวทีประกวดขณะร้องเพลงพรายคลั่ง
สองสาวตายด้วยลักษณะอาการเดียวกัน คือมีเลือดออกจากทวารทั้งเก้า
เงื่อนงำนี้ทำให้ เมญากร นักร้องดนตรีซอสามสาย ต้องช่วยยชญ์ค้นหาคำตอบ
ทั้งคู่พบว่าคนที่แต่งบทร้องพรายคลั่ง แท้จริงไม่ใช่ครูพุก แต่เป็น ครูเทิด
ความลับที่ไม่เคยมีใครรู้คือเขาฝังความพยาบาทไว้ในบทเพลง
และบทเพลงนี้ หากใครรินำมาร้อง...มันต้องแลกด้วยความตาย!
ทางเดียวที่จะยับยั้งคำสาปได้ คือทำลายบทร้องพรายคลั่งให้สิ้นซาก
ไม่มีทางเลือก ยชญ์และเมญากรพยายามหาหนทางหยุดความตายที่อาจจะเกิดขึ้นอีก
แต่แล้วจู่ๆ กลับมีหญิงลึกลับขโมยบทร้องเพลงพรายคลั่งไปจากห้องดนตรี
ท่ามกลางความน่าสะพรึงที่ควรหลักหนี...ไม่มีใครล่วงรู้ว่าหายนะครั้งนี้จะจบลงที่ใด
แคสนักแสดง
มิกค์ ทองระย้า - ยชต์
พีชญา วัฒนามนตรี - เมญากร
อังคณา วรรัตนาชัย - พวงแพร
สาวิตรี สามิภักดิ์ - โฉมยงค์
รอง เค้ามูลคดี - ครูมาโนช
กัญญา รัตนเพชร์ - อิงอร
พูลภัทร อัตถปัญญาพล - ปกรณ์
3.วังนางโหง
เบื้องหน้าของสายน้ำอาจสวยงาม แต่เบื้องล่างของมันอาจพรากชีวิต!
เหมือนกับที่มันพรากเอาชีวิตพ่อ พี่ชาย และน้องชายของ ทับ ไปอย่างไม่มีวันกลับ
พ่อของเขาเสียชีวิตอย่างแปลกประหลาดบนเรือ
โดยก่อนตายได้เตือนลูกๆเอาไว้ว่า .จงอยู่ห่างน้ำ ระวังนางโหง
ทว่าในเวลาต่อมา ทวนและทัน พี่ชายและน้องชายของเขาก็เสียชีวิตในน้ำกันทั้งคู่
จากนั้นเรื่องราวประหลาดมากมายก็เกิดขึ้น...
ทับมีลูกสาวสามคน...ดาริกา เป็นหญิงม่าย มีลูกชายชื่อดานุ
ดารา เกิดมาหน้าตาขี้ริ้วและเจ้าอารมณ์ ส่วน ดาเรศ เจ็บไข้ได้ป่วยมาตั้งแต่เด็ก
จนกระทั่งคืนหนึ่ง มีหมอหญิงนามว่า พิกุล เดินเข้ามาเพื่อรักษาดาเรศ
การมาถึงของหมอหญิงคนนั้น เป็นจังหวะเดียวกับที่ดาริกาเข้าไปในบ้านของบรรพบุรุษ
บ้านเรือนไทยที่บิดาสั่งลูกหลานเอาไว้ว่า .ห้ามกลับไปเด็ดขาด!
ขณะที่ดานุนั้น เขาฝันถึงผู้หญิงคนหนึ่งมาตลอด
ผู้หญิงรูปร่างบอบบาง งดงามราวกับนางในวรรณคดืนั่งอยู่บนเรือลำน้อย
เธอลุกขึ้นร่ายระบำขอพรเทวดา เพื่อสาปแช่งให้ตระกูลชั่วช้าพบกับความตายและหายนะ!
ใครจะเชื่อว่า...เรือน้อยลำนั้นกำลังจะนำพาตัวเขากลับไปสู่วันวาน
ไปสู่อดีตกาลในท้องน้ำ...สถานที่ซึ่ง .ใครบางคน เคยฝังร่างและดวงวิญญาณไว้
ที่นั่นเต็มไปด้วยแรงแค้นอันทุกข์ทรมานในหัวใจ...ยาวนานนับกว่าร้อยปี!
แคสนักแสดง
ทิสานาฎ ศรศึก - พิกุล
ธันวา สุริยจักร - ดานุ
สรพงศ์ ชาตรี - ทับ
นุสบา ปุณณกันต์ - ดาริกา
สุวัจนี ไชยมุกสิก(ถ้าความจริงคิดว่าเป็นหยกแน่นอน) - ดารา
ธมลพรรณ์ ภานุชิตพุทธิวงศ์ - ดาเรศ
4.สิเน่หารอยคำ
วงศ์ตะวัน นักธุรกิจหนุ่มหน้าใหม่แห่งวงการโรงแรมและการท่องเที่ยว
ได้เข้ามากว้านซื้อที่ดินและบ้านเรือนเก่าๆแบบล้านนาในเชียงใหม่
เพื่อสร้างโรงแรมแบบล้านนาประยุกต์ในหมู่บ้านวัวลาย แหล่งหัตถกรรมเครื่องเงินชื่อดัง
เมื่อรู้ว่า .เรือนปั้นหยา เป็นบ้านของสล่าสาละวิน ช่างทำเครื่องเงินในอดีต
ชายหนุ่มก็ตัดสินใจซื้อมาไว้ในครอบครองทันที และเพียงวันแรกที่เข้าไปสำรวจนั้น...
เขาก็เจอ .วิญญาณสาวชาวล้านนา ต่อมายังพบ .สลุง หรือขันเงินมากมายในนั้นอีก
น่าประหลาด เมื่อพบว่ารูปรอยสลักในสลุงที่ได้เห็นเป็นเรื่องเล่าของใครบางคนในอดีต
ทันทีที่ได้จับมัน วงศ์ตะวันก็ได้เห็นภาพนิมิตของเรื่องราว...
เรื่องราวที่ดุจดั่งตัวเองมีตัวตนอยู่ในภาพนั้น คล้ายภาพฝันทว่ามันก็เหมือนจริงเหลือเกิน
ด้วยความสงสัย ชายหนุ่มจึงเชิญ นีรา ผู้เชี่ยวชาญเรื่องลายสลุงมาตรวจสอบ
ทว่าเธอกลับเป็นคนหนึ่งในภาพเหล่านั้นและยังเห็นนิมิตเช่นเดียวกับเขา!
ทั้งคู่เริ่มคิดตรงกันว่าภาพสลักในสลุงนั้นเป็นเหมือนเรื่องเล่าและคำสาป
เพื่อหาคำตอบและหนทางแก้ไข พวกเขาจึงต้องเอาสลุงออกมาดูให้หมด
แต่วงศ์ตะวันและนีราจะหลีกหนีคำสาปพวกนั้นได้อย่างไร...
เมื่อภาพสุดท้ายกลับเป็น .ความตายของเขาและเธอ!
แคสนักแสดง
ภัทรเดช สงวนความดี - เจ้าน้อยวันสว่าง,วงศ์ตะวัน
อุษามณี ไวทยานนท์ - ตาลวิน ,นีรา
พัชญา เพียรเสมอ - เจ้าสร้อยฟ้า,แพรวดาว
5.ป้อมปางบรรพ์
เข็มหอม ถูกหลอกหลอนด้วยความฝันอันแปลกประหลาดมาตั้งแต่เด็ก
เธอหาคำตอบไม่ได้ กระทั่งวันที่ต้องติดตาม อินทนิล พี่สาวคนสวยไปทำงานต่างจังหวัด
ที่หมู่บ้านเล็กๆอันเคยเป็นอาณาเขตของอาณาจักรโบราณ มีป้อมปราการ ที่ถูกลืมเลือน
และมีเรื่องราวเกี่ยวกับรักสามเศร้าของหนึ่งชายสองหญิงในอดีตเมื่อหลายร้อยปีก่อน
ความรักที่จบลงด้วยเลือดและน้ำตา คำสัญญาซึ่งถูกเลือนไปกับเวลาที่ผ่านเลย
ทั้งคู่ได้พบกับ แดนธรรม ที่นั่น...เขาคือชายหนุ่มที่เข้ามาเปลี่ยนทุกอย่างระหว่างสองพี่น้อง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่รู้ว่านั่นเป็นโชคชะตาหรือว่าความบังเอิญ?
ทว่าเข็มหอมกลับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง...บางอย่างที่เป็นเหมือนพันธนาการในอดีต
หรือว่าความฝันนั้น คือความจริงที่เธอต้องรับรู้
คำสัญญาที่ติดค้างไว้ในวันวาน...อาจกำลังต้องการให้ชดใช้!
เมื่อ .ใครบางคน รอคอยด้วยความมั่นในสัญญาแห่งรัก
.ใครอีกคน ผูกจิตอาฆาตด้วยแรงพยาบาทจากรักที่ถูกหักหลัง
และ .ใครคนหนึ่ง ต้องชดใช้เพื่อปลดปล่อยหัวใจรักที่ยึดมั่นมิคลอนคลาย
.สัญญารักที่ผูกไว้ด้วยเลือด ความแค้น และความตาย จำต้องจบลงตรงจุดเริ่มต้น!
แคสนักแสดง
วงศกร ปรมัตถาวร - แดนธรรม
เมลดา สุศรี - เข็มหอม,เมืองฟ้า
ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ - อินทนิล (ขิม) - น้ำหวาน
ทัศนียา การสมนุช คำแก้ว (รับเชิญ)
ศุกลวัฒน์ คณารส - แสน (รับเชิญ)
ชวนมาลองแคสซีรี่ห์"เบญจมรณา"ช่อง7
เบญจมรณา เรื่องราวของความตายที่ไม่ปรารถนา...ความผิดบาปที่ถูกนำมายัดเยียดให้...ความแค้นที่ฝันแน่นในใจ
แม้ชีวิตมรณาไป...ยังคงต้องการให้มัน ตาย ชดใช้กรรม
1.บ่วงสไบ
มนุษย์เราเกิดมาหาได้มีบุญวาสนาเท่าเทียมกันไม่
ดังเช่น ‘พุดจีบ’ ลูกของ ‘คุณหลวงนฤเดช’ ซึ่งมีทุกอย่างตามที่ใจปรารถนา
ผิดกับ ‘แก้ว’ ลูกเมียทาสที่คุณหลวงหาได้ยอมรับไม่
ความลับที่ไม่เป็นความลับ เป็นสาเหตุให้ ‘แม่อิ่ม’ แม่ของแก้วถูกเฆี่ยนจนตาย
ลูกนางทาสเก็บความแค้นฝังใจ สักวันจะต้องได้ทุกอย่างมาเป็นของตน!
เรื่องบังเกิดเมื่อพุดจีบแอบลักลอบได้เสียกับ ‘นายมิ่ง’ ทาสชั้นต่ำ
ซ้ำร้าย ‘คุณเทพ’ ลูกบุญธรรมที่เรียนจบมาจากเมืองนอกดันไปคว้าแก้วมาทำเมีย
เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น สร้างความอับอายมาสู่ครอบครัว จนเกิดโศกนากฎกรรม
พุดจีบโทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุนั้น ก่อนจะพบศพเธอใช้ผ้าสไบผูกคอตายที่ต้นจำปี
วิญญาณของเธอยังคงวนเวียน บ่วงความแค้นยังพันผูก รอคอยการ ‘สะสาง’
กูจักมิปล่อยวาง‘ความแค้น’ ที่สร้าง จักต้อง ‘ทวงคืน!’
บ่วงรัก...ผักผูก...ปลูกเสน่หา
บ่วงกรรม...ชักพา...มาชิดใกล้
บ่วงเวร...เร่งเร้า...ร้อนดั่งไฟ
‘บ่วงสไบ’ ผูกเงื่อนตาย...ไว้ที่ ‘!’
แคสนักแสดง
อาภา ภาวิไล – แก้ว
ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์ – คุณพุดจีบ (เป็นผี)
กันตพงศ์ บํารุงรักษ์ - พี่เทพ
ปิยพันธ์ คำกฤษ – ไอ้มิ่ง
ศักราช ฤกดำรงค์ - คุณหลวงนฤเดช
กมลชนก เขมะโยธิน - นางอิ่ม
อำภา ภูษิต - ยายเมี้ยน
2.สาปสังคีต
การเปลี่ยนโจทย์เพลงที่จะใช้ประกวดในงานสังคีตศิลป์ถิ่นไทย
ทำให้ โฉมยงค์ ผู้ดูแลวงดนตรีของมหาวิทยาลัยต้องไปพบกับศิษย์เก่าอย่าง ยชญ์
เพื่อขอนำเพลง ‘พลายคลั่ง’ ที่ ครูพุก ตาทวดของยชญ์ประพันธ์ไว้มาใช้
วันหนึ่งโฉมยงค์ได้รับจดหมายปริศนาเตือนว่าห้ามยุ่งกับเพลงพรายคลั่ง
แต่หล่อนไม่เชื่อ กลับนำเพลงนี้มาร้องในคืนวันเพ็ญ ก่อนขาดใจตายในห้องดนตรีไทย!
ต่อมา พวงแพร นักร้องสาวของวงก็ตายคาเวทีประกวดขณะร้องเพลงพรายคลั่ง
สองสาวตายด้วยลักษณะอาการเดียวกัน คือมีเลือดออกจากทวารทั้งเก้า
เงื่อนงำนี้ทำให้ เมญากร นักร้องดนตรีซอสามสาย ต้องช่วยยชญ์ค้นหาคำตอบ
ทั้งคู่พบว่าคนที่แต่งบทร้องพรายคลั่ง แท้จริงไม่ใช่ครูพุก แต่เป็น ครูเทิด
ความลับที่ไม่เคยมีใครรู้คือเขาฝังความพยาบาทไว้ในบทเพลง
และบทเพลงนี้ หากใครรินำมาร้อง...มันต้องแลกด้วยความตาย!
ทางเดียวที่จะยับยั้งคำสาปได้ คือทำลายบทร้องพรายคลั่งให้สิ้นซาก
ไม่มีทางเลือก ยชญ์และเมญากรพยายามหาหนทางหยุดความตายที่อาจจะเกิดขึ้นอีก
แต่แล้วจู่ๆ กลับมีหญิงลึกลับขโมยบทร้องเพลงพรายคลั่งไปจากห้องดนตรี
ท่ามกลางความน่าสะพรึงที่ควรหลักหนี...ไม่มีใครล่วงรู้ว่าหายนะครั้งนี้จะจบลงที่ใด
แคสนักแสดง
มิกค์ ทองระย้า - ยชต์
พีชญา วัฒนามนตรี - เมญากร
อังคณา วรรัตนาชัย - พวงแพร
สาวิตรี สามิภักดิ์ - โฉมยงค์
รอง เค้ามูลคดี - ครูมาโนช
กัญญา รัตนเพชร์ - อิงอร
พูลภัทร อัตถปัญญาพล - ปกรณ์
3.วังนางโหง
เบื้องหน้าของสายน้ำอาจสวยงาม แต่เบื้องล่างของมันอาจพรากชีวิต!
เหมือนกับที่มันพรากเอาชีวิตพ่อ พี่ชาย และน้องชายของ ทับ ไปอย่างไม่มีวันกลับ
พ่อของเขาเสียชีวิตอย่างแปลกประหลาดบนเรือ
โดยก่อนตายได้เตือนลูกๆเอาไว้ว่า .จงอยู่ห่างน้ำ ระวังนางโหง
ทว่าในเวลาต่อมา ทวนและทัน พี่ชายและน้องชายของเขาก็เสียชีวิตในน้ำกันทั้งคู่
จากนั้นเรื่องราวประหลาดมากมายก็เกิดขึ้น...
ทับมีลูกสาวสามคน...ดาริกา เป็นหญิงม่าย มีลูกชายชื่อดานุ
ดารา เกิดมาหน้าตาขี้ริ้วและเจ้าอารมณ์ ส่วน ดาเรศ เจ็บไข้ได้ป่วยมาตั้งแต่เด็ก
จนกระทั่งคืนหนึ่ง มีหมอหญิงนามว่า พิกุล เดินเข้ามาเพื่อรักษาดาเรศ
การมาถึงของหมอหญิงคนนั้น เป็นจังหวะเดียวกับที่ดาริกาเข้าไปในบ้านของบรรพบุรุษ
บ้านเรือนไทยที่บิดาสั่งลูกหลานเอาไว้ว่า .ห้ามกลับไปเด็ดขาด!
ขณะที่ดานุนั้น เขาฝันถึงผู้หญิงคนหนึ่งมาตลอด
ผู้หญิงรูปร่างบอบบาง งดงามราวกับนางในวรรณคดืนั่งอยู่บนเรือลำน้อย
เธอลุกขึ้นร่ายระบำขอพรเทวดา เพื่อสาปแช่งให้ตระกูลชั่วช้าพบกับความตายและหายนะ!
ใครจะเชื่อว่า...เรือน้อยลำนั้นกำลังจะนำพาตัวเขากลับไปสู่วันวาน
ไปสู่อดีตกาลในท้องน้ำ...สถานที่ซึ่ง .ใครบางคน เคยฝังร่างและดวงวิญญาณไว้
ที่นั่นเต็มไปด้วยแรงแค้นอันทุกข์ทรมานในหัวใจ...ยาวนานนับกว่าร้อยปี!
แคสนักแสดง
ทิสานาฎ ศรศึก - พิกุล
ธันวา สุริยจักร - ดานุ
สรพงศ์ ชาตรี - ทับ
นุสบา ปุณณกันต์ - ดาริกา
สุวัจนี ไชยมุกสิก(ถ้าความจริงคิดว่าเป็นหยกแน่นอน) - ดารา
ธมลพรรณ์ ภานุชิตพุทธิวงศ์ - ดาเรศ
4.สิเน่หารอยคำ
วงศ์ตะวัน นักธุรกิจหนุ่มหน้าใหม่แห่งวงการโรงแรมและการท่องเที่ยว
ได้เข้ามากว้านซื้อที่ดินและบ้านเรือนเก่าๆแบบล้านนาในเชียงใหม่
เพื่อสร้างโรงแรมแบบล้านนาประยุกต์ในหมู่บ้านวัวลาย แหล่งหัตถกรรมเครื่องเงินชื่อดัง
เมื่อรู้ว่า .เรือนปั้นหยา เป็นบ้านของสล่าสาละวิน ช่างทำเครื่องเงินในอดีต
ชายหนุ่มก็ตัดสินใจซื้อมาไว้ในครอบครองทันที และเพียงวันแรกที่เข้าไปสำรวจนั้น...
เขาก็เจอ .วิญญาณสาวชาวล้านนา ต่อมายังพบ .สลุง หรือขันเงินมากมายในนั้นอีก
น่าประหลาด เมื่อพบว่ารูปรอยสลักในสลุงที่ได้เห็นเป็นเรื่องเล่าของใครบางคนในอดีต
ทันทีที่ได้จับมัน วงศ์ตะวันก็ได้เห็นภาพนิมิตของเรื่องราว...
เรื่องราวที่ดุจดั่งตัวเองมีตัวตนอยู่ในภาพนั้น คล้ายภาพฝันทว่ามันก็เหมือนจริงเหลือเกิน
ด้วยความสงสัย ชายหนุ่มจึงเชิญ นีรา ผู้เชี่ยวชาญเรื่องลายสลุงมาตรวจสอบ
ทว่าเธอกลับเป็นคนหนึ่งในภาพเหล่านั้นและยังเห็นนิมิตเช่นเดียวกับเขา!
ทั้งคู่เริ่มคิดตรงกันว่าภาพสลักในสลุงนั้นเป็นเหมือนเรื่องเล่าและคำสาป
เพื่อหาคำตอบและหนทางแก้ไข พวกเขาจึงต้องเอาสลุงออกมาดูให้หมด
แต่วงศ์ตะวันและนีราจะหลีกหนีคำสาปพวกนั้นได้อย่างไร...
เมื่อภาพสุดท้ายกลับเป็น .ความตายของเขาและเธอ!
แคสนักแสดง
ภัทรเดช สงวนความดี - เจ้าน้อยวันสว่าง,วงศ์ตะวัน
อุษามณี ไวทยานนท์ - ตาลวิน ,นีรา
พัชญา เพียรเสมอ - เจ้าสร้อยฟ้า,แพรวดาว
5.ป้อมปางบรรพ์
เข็มหอม ถูกหลอกหลอนด้วยความฝันอันแปลกประหลาดมาตั้งแต่เด็ก
เธอหาคำตอบไม่ได้ กระทั่งวันที่ต้องติดตาม อินทนิล พี่สาวคนสวยไปทำงานต่างจังหวัด
ที่หมู่บ้านเล็กๆอันเคยเป็นอาณาเขตของอาณาจักรโบราณ มีป้อมปราการ ที่ถูกลืมเลือน
และมีเรื่องราวเกี่ยวกับรักสามเศร้าของหนึ่งชายสองหญิงในอดีตเมื่อหลายร้อยปีก่อน
ความรักที่จบลงด้วยเลือดและน้ำตา คำสัญญาซึ่งถูกเลือนไปกับเวลาที่ผ่านเลย
ทั้งคู่ได้พบกับ แดนธรรม ที่นั่น...เขาคือชายหนุ่มที่เข้ามาเปลี่ยนทุกอย่างระหว่างสองพี่น้อง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่รู้ว่านั่นเป็นโชคชะตาหรือว่าความบังเอิญ?
ทว่าเข็มหอมกลับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง...บางอย่างที่เป็นเหมือนพันธนาการในอดีต
หรือว่าความฝันนั้น คือความจริงที่เธอต้องรับรู้
คำสัญญาที่ติดค้างไว้ในวันวาน...อาจกำลังต้องการให้ชดใช้!
เมื่อ .ใครบางคน รอคอยด้วยความมั่นในสัญญาแห่งรัก
.ใครอีกคน ผูกจิตอาฆาตด้วยแรงพยาบาทจากรักที่ถูกหักหลัง
และ .ใครคนหนึ่ง ต้องชดใช้เพื่อปลดปล่อยหัวใจรักที่ยึดมั่นมิคลอนคลาย
.สัญญารักที่ผูกไว้ด้วยเลือด ความแค้น และความตาย จำต้องจบลงตรงจุดเริ่มต้น!
แคสนักแสดง
วงศกร ปรมัตถาวร - แดนธรรม
เมลดา สุศรี - เข็มหอม,เมืองฟ้า
ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ - อินทนิล (ขิม) - น้ำหวาน
ทัศนียา การสมนุช คำแก้ว (รับเชิญ)
ศุกลวัฒน์ คณารส - แสน (รับเชิญ)