ขออนุญาตแจ้งค่ะ
ใครที่คิดปลูกบ้านช่วงนี้
ราคาเหล็กปรับขึ้นค่อนข้างสูง ราคาเริ่มปรับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
จนเดือน ม.ค. บางอาทิตยปรับขึ้น 2 ครั้งก็มี
อาทิตย์นี้ บางรายการเมื่อวานได้อีกราคา ข้ามวันนี้หนึ่งวัน
พรุ่งนี้ไม่แค่ปรับขึ้นค่ะ เรียกว่าดีดขึ้นสูงๆกันเลยทีเดียว
พูดง่ายๆ มีใบสั่งซื้อมาแล้วยังต้องกล้าขอปรับราคาขึ้นกับลูกค้าน่ะค่ะ
เหล็กบางรายการขาดตลาดไปแล้ว เช่นเหล็กตัวซี
ราคาเหล็กยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกเรื่อยๆค่ะ
คนซื้ออยากได้ของดี ราคาถูก คนขายอยากขายใจจะขาด
แต่อะไรๆมันก็ไม่เอื้อ โดยเฉพาะของไม่มีจะขายนี่ลำบากใจสุดๆ
แต่คนซื้อสู้ราคาไม่ไหวบางทีก็ยอมเอาของเกรดต่ำ ตัวเบา
ซึ่งราคาถูก คุณภาพมันก็ตามราคา....อันตราย
แต่บ้านเราอ่ะเนอะ รอได้ก็รอของดีกันหน่อยน่าจะดี
อยู่กันแบบสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าเห็นข่าวตึกถล่มแล้ว
นึกถึงบ้านตัวเองมันจะเอียงเมื่อไหร่
คือเป็นแค่มดงานตัวเล็กๆ รู้แค่หางอึ่ง ถ้าจะถามหาเหตุหาผล
อันก็ตอบไม่ค่อยจะได้ เพราะงั้นขอไม่สาธยายนะคะว่าทำไมราคาขึ้นไม่หยุด
รู้บ้างแต่ไม่เยอะอ่ะนะ บางอย่างมันลึกซึ้ง....
แจ้งบอกไว้อ่ะเนอะ
ถ้าคิดจะปลูกบ้านช่วงนี้จริง ก็แนะนำให้สอบถามราคากับทางร้านก่อนเลยค่ะ
ซื้อเหล็กสังเกตุหน่อย ตัวเต็ม(โรงใหญ่) ตัวเบา (โรงเล็ก ที่ตึกถล่ม ก็นี่แหล่ะ)
1.ขอราคาร้านค้า ให้เขาระบุน้ำหนักมาด้วย บางร้านให้ราคาไม่ให้น้ำหนักเหล็กนะคะ
1.1 เหล็กเส้น ข้ออ้อย กลม น้ำหนักมีค่าเออเร่อ นน. +- ไม่เกิน 5% (หาดูได้ นน. จากตารางเหล็กในเว็บทั่วไป)
แต่จริงๆจะอยู่ประมาณ 2-3% แค่นั้นค่ะ ดังนั้นร้านจะใช้ นน ตามตารางเลย
เช่น ข้ออ้อย SD40 16 mm.x10m. นน.ตามตาราง 15.78 กก. เออเร่อไม่เกิน 5%
= 17.58×5% เป็นค่าเออเร่อ 0.789 เป็น + = 16.569 เป็น - = 14.991 กก.
เกินน่ะไม่มีปัญหาค่ะเราได้ แต่ถ้าขาดเกินค่า ตัวเบาค่ะ ความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนัก ก็จะด้อยค่ะ
เพราะงั้นก็จะเน้นที่ยี่ห้อ มอก. ใบเซอร์ฯ
1.2 เหล็กรูปพรรณ เช่น กล่อง ท่อ ตัวซี ค่าเออเร่อ นน.ไม่เกิน 10 % ของน้ำหนักมาตฐาน
ถ้าร้านให้น้ำหนักเป๊ะๆ เท่าตารางเหล็ก บอกเลยเขาโกหก โรงงานไหนก็ไม่สามารถทำได้เป๊ะค่ะ
เช่น กล่อง 2"×1"×3.2×6m. นน.ตามตาราง 42.06 กก. เออเน่อไม่เกิน10 % = 42.06 ×10% เป็นค่าเออเร่อ 4.206
เป็น + = 46.27 เป็น -=37.854 กก. ถ้าต่ำกว่าค่าเออเร่อสงสัยเลยว่าคุณเจอตัวเบาแล้ว
ถ้าคุณอยากได้แบบแข็งแรงทนทานอย่าเลยเหอะ
1.3 เหล็กตระกูลบีม บีม เป็นเหล็กมีความยืดหยุดสูง บางประเทศที่มีแผ่นดินไหวบ่อยๆจะใช้สร้างบ้าน
น้ำหนักจะตรงตามมาตฐานเป๊ะ
- WF เหมือนอักษร I ปลายปีกบนล่างเหลี่ยมตัดตรง คล้าย Ibeam แต่บางกว่า เบากว่า รับน้ำหนักได้น้อยกว่า ถูกกว่า
- Hbeam เหมือนอักษร H คือกว้างยาว เท่ากัน
- Ibeam เหมือนอักษรตัว I ปลายปีกบนล่างโค้งมน คล้าย WF แต่หนากว่า หนักกว่ารับน้ำหนักได้ดีกว่า
2. ขอใบ มอก. (สำเนา)จากร้านค่ะ แต่ถ้าคุณกังวลเหลือเกิน มอก.จะเขื่อได้เหรอ มันใช่ที่ฉันสั่งมั้ย มันได้มาตฐานจริงเหรอ
ใบเซอร์(สำเนา)ช่วยได้ค่ะ มอก.เขามีอยู่แล้วกี่ปีๆ ถ้าโรงงานไม่จดใหม่ก็ใช้ซ้ำๆ
ใบเซอร์โรงงานเขาจะมีให้ร้านค้าเป็นล็อตผลิตเป็นล็อตๆไปค่ะ
อันนี้บางรายการย้อนหลังหลายเดือนอยู่ ก็เหล็กไม่เน่าผลิตได้ทีเยอะๆ
ตัวใบเซอร์ ปกติถ้าไม่สั่งซื้อโรงงานจะไม่ให้ร้านค้าค่ะ เขากลัวร้านค้าส่งให้ลูกค้า
เอาไป แต่ไม่ซื้อตัวเต็ม กลับไปซื้อโรงเล็ก ตัวเบา แทนแล้วเอาเอกสารไปอ้างอิง
ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะได้ใบเซอร์หลังจากได้รับของ 1-2 วันค่ะ (เหล็กแผ่นตัดไม่มีนะคะ)
3.ระวัง โดนยัดใส้ (บางร้านทำนะคะระวังๆ) เหล็กเส้น 100 เส้น มีโรงเล็กปนมั้ยดูคร่าวๆ
ไม่ต้องถึงกับงัดทุกเส้นหรอกมั้ง ถามร้านค้า เหล็กยี่ห้ออะไร ที่ตัวเหล็กมีบอก ดูนิดนึง ตรงตามบอกมั้ย
4. ความหนา พวกเหล็กกล่อง เหล็กท่อ นี่ก็ต้องดูนิดนึง 2.3 มม.(มอก. ) 2.0มม. (ไม่มี มอก. ราคาถูกกว่า) ปนมั้ย
แทบไม่ต่างกันเลยนะ ดูข้างกล่อง ข้างท่อค่ะ น่าจะมีบอก
5. ซื้อเหล็กเส้น ถ้าซื้อเยอะ บอกร้านค้าขอราคาเป็น กก. จะได้ถูกว่า ราคาเป็นเส้น เพราะ หน่วยปัดท้าย
(ฐานราคาที่เอเย่นได้มาจากโรงงานจะเป็น ราคา/ กก. ค่ะ)
เช่น SR24 RB 6 mm. × 10 m. =1000 เส้น (1 เส้น = 2.22 กก.) สมมุติ กก.ละ 15 บาท
จะได้ 15 (ราคากก.) ×2.22 (นน. 1เส้น/10m.)= 33.3 บาท
ถ้าเอาจากราคา กก. 33.3 × 1000 = 33,300 บาท
แต่ถ้าซื้อเป็นเส้นเขาจะปัดหน่วย สมมุติ ปัดเป็น 33.50 บาท /เส้น
จะเป็น 33.50 ×1000 = 33,500 บาท ต่างกัน 200 บาท
น่าจะประมาณนี้ ผิดพลาดขออภัย ด้วยค่ะ
ถ้าอ่านจนจบก็ขอบคุณมากค่ะ
วันนี้ราคาเหล็กเส้นปรับลงนิดหน่อย ผลจากการผลิต(แบบจำเป็น)
ทำให้มีเหล็กเส้นในตลาดมากขึ้น( แบ่งๆกันไป)
เหล็กรูปยังขาดของราคาบางรายการก็ปรับ
ลูกค้ายิ้มสู้ คนขายยิ่มรับจะพยายามหาของให้ครบตามที่ต้องการ
หลายครั้งก็หยุด เงินอยู่ตรงหน้าแล้วพราะของไม่มีจะขายก็ชวดกันไป
เครียดยิ่งกว่าราคาขึ้นอีก
เจ้านายว่า น่าจะเป็นแบบนี้สัก 1-2 เดือน
Edit...เพิ่มข้อ 5
พิมพ์ในมือถือนี่ไม่ง่ายเลย....
ราคาเหล็กแพง คิดจะปลูกบ้านช่วงนี้ คิดให้ดีค่ะ (จะซื้อเหล็กดูอะไรบ้าง)
ใครที่คิดปลูกบ้านช่วงนี้
ราคาเหล็กปรับขึ้นค่อนข้างสูง ราคาเริ่มปรับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
จนเดือน ม.ค. บางอาทิตยปรับขึ้น 2 ครั้งก็มี
อาทิตย์นี้ บางรายการเมื่อวานได้อีกราคา ข้ามวันนี้หนึ่งวัน
พรุ่งนี้ไม่แค่ปรับขึ้นค่ะ เรียกว่าดีดขึ้นสูงๆกันเลยทีเดียว
พูดง่ายๆ มีใบสั่งซื้อมาแล้วยังต้องกล้าขอปรับราคาขึ้นกับลูกค้าน่ะค่ะ
เหล็กบางรายการขาดตลาดไปแล้ว เช่นเหล็กตัวซี
ราคาเหล็กยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกเรื่อยๆค่ะ
คนซื้ออยากได้ของดี ราคาถูก คนขายอยากขายใจจะขาด
แต่อะไรๆมันก็ไม่เอื้อ โดยเฉพาะของไม่มีจะขายนี่ลำบากใจสุดๆ
แต่คนซื้อสู้ราคาไม่ไหวบางทีก็ยอมเอาของเกรดต่ำ ตัวเบา
ซึ่งราคาถูก คุณภาพมันก็ตามราคา....อันตราย
แต่บ้านเราอ่ะเนอะ รอได้ก็รอของดีกันหน่อยน่าจะดี
อยู่กันแบบสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าเห็นข่าวตึกถล่มแล้ว
นึกถึงบ้านตัวเองมันจะเอียงเมื่อไหร่
คือเป็นแค่มดงานตัวเล็กๆ รู้แค่หางอึ่ง ถ้าจะถามหาเหตุหาผล
อันก็ตอบไม่ค่อยจะได้ เพราะงั้นขอไม่สาธยายนะคะว่าทำไมราคาขึ้นไม่หยุด
รู้บ้างแต่ไม่เยอะอ่ะนะ บางอย่างมันลึกซึ้ง....
แจ้งบอกไว้อ่ะเนอะ
ถ้าคิดจะปลูกบ้านช่วงนี้จริง ก็แนะนำให้สอบถามราคากับทางร้านก่อนเลยค่ะ
ซื้อเหล็กสังเกตุหน่อย ตัวเต็ม(โรงใหญ่) ตัวเบา (โรงเล็ก ที่ตึกถล่ม ก็นี่แหล่ะ)
1.ขอราคาร้านค้า ให้เขาระบุน้ำหนักมาด้วย บางร้านให้ราคาไม่ให้น้ำหนักเหล็กนะคะ
1.1 เหล็กเส้น ข้ออ้อย กลม น้ำหนักมีค่าเออเร่อ นน. +- ไม่เกิน 5% (หาดูได้ นน. จากตารางเหล็กในเว็บทั่วไป)
แต่จริงๆจะอยู่ประมาณ 2-3% แค่นั้นค่ะ ดังนั้นร้านจะใช้ นน ตามตารางเลย
เช่น ข้ออ้อย SD40 16 mm.x10m. นน.ตามตาราง 15.78 กก. เออเร่อไม่เกิน 5%
= 17.58×5% เป็นค่าเออเร่อ 0.789 เป็น + = 16.569 เป็น - = 14.991 กก.
เกินน่ะไม่มีปัญหาค่ะเราได้ แต่ถ้าขาดเกินค่า ตัวเบาค่ะ ความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนัก ก็จะด้อยค่ะ
เพราะงั้นก็จะเน้นที่ยี่ห้อ มอก. ใบเซอร์ฯ
1.2 เหล็กรูปพรรณ เช่น กล่อง ท่อ ตัวซี ค่าเออเร่อ นน.ไม่เกิน 10 % ของน้ำหนักมาตฐาน
ถ้าร้านให้น้ำหนักเป๊ะๆ เท่าตารางเหล็ก บอกเลยเขาโกหก โรงงานไหนก็ไม่สามารถทำได้เป๊ะค่ะ
เช่น กล่อง 2"×1"×3.2×6m. นน.ตามตาราง 42.06 กก. เออเน่อไม่เกิน10 % = 42.06 ×10% เป็นค่าเออเร่อ 4.206
เป็น + = 46.27 เป็น -=37.854 กก. ถ้าต่ำกว่าค่าเออเร่อสงสัยเลยว่าคุณเจอตัวเบาแล้ว
ถ้าคุณอยากได้แบบแข็งแรงทนทานอย่าเลยเหอะ
1.3 เหล็กตระกูลบีม บีม เป็นเหล็กมีความยืดหยุดสูง บางประเทศที่มีแผ่นดินไหวบ่อยๆจะใช้สร้างบ้าน
น้ำหนักจะตรงตามมาตฐานเป๊ะ
- WF เหมือนอักษร I ปลายปีกบนล่างเหลี่ยมตัดตรง คล้าย Ibeam แต่บางกว่า เบากว่า รับน้ำหนักได้น้อยกว่า ถูกกว่า
- Hbeam เหมือนอักษร H คือกว้างยาว เท่ากัน
- Ibeam เหมือนอักษรตัว I ปลายปีกบนล่างโค้งมน คล้าย WF แต่หนากว่า หนักกว่ารับน้ำหนักได้ดีกว่า
2. ขอใบ มอก. (สำเนา)จากร้านค่ะ แต่ถ้าคุณกังวลเหลือเกิน มอก.จะเขื่อได้เหรอ มันใช่ที่ฉันสั่งมั้ย มันได้มาตฐานจริงเหรอ
ใบเซอร์(สำเนา)ช่วยได้ค่ะ มอก.เขามีอยู่แล้วกี่ปีๆ ถ้าโรงงานไม่จดใหม่ก็ใช้ซ้ำๆ
ใบเซอร์โรงงานเขาจะมีให้ร้านค้าเป็นล็อตผลิตเป็นล็อตๆไปค่ะ
อันนี้บางรายการย้อนหลังหลายเดือนอยู่ ก็เหล็กไม่เน่าผลิตได้ทีเยอะๆ
ตัวใบเซอร์ ปกติถ้าไม่สั่งซื้อโรงงานจะไม่ให้ร้านค้าค่ะ เขากลัวร้านค้าส่งให้ลูกค้า
เอาไป แต่ไม่ซื้อตัวเต็ม กลับไปซื้อโรงเล็ก ตัวเบา แทนแล้วเอาเอกสารไปอ้างอิง
ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะได้ใบเซอร์หลังจากได้รับของ 1-2 วันค่ะ (เหล็กแผ่นตัดไม่มีนะคะ)
3.ระวัง โดนยัดใส้ (บางร้านทำนะคะระวังๆ) เหล็กเส้น 100 เส้น มีโรงเล็กปนมั้ยดูคร่าวๆ
ไม่ต้องถึงกับงัดทุกเส้นหรอกมั้ง ถามร้านค้า เหล็กยี่ห้ออะไร ที่ตัวเหล็กมีบอก ดูนิดนึง ตรงตามบอกมั้ย
4. ความหนา พวกเหล็กกล่อง เหล็กท่อ นี่ก็ต้องดูนิดนึง 2.3 มม.(มอก. ) 2.0มม. (ไม่มี มอก. ราคาถูกกว่า) ปนมั้ย
แทบไม่ต่างกันเลยนะ ดูข้างกล่อง ข้างท่อค่ะ น่าจะมีบอก
5. ซื้อเหล็กเส้น ถ้าซื้อเยอะ บอกร้านค้าขอราคาเป็น กก. จะได้ถูกว่า ราคาเป็นเส้น เพราะ หน่วยปัดท้าย
(ฐานราคาที่เอเย่นได้มาจากโรงงานจะเป็น ราคา/ กก. ค่ะ)
เช่น SR24 RB 6 mm. × 10 m. =1000 เส้น (1 เส้น = 2.22 กก.) สมมุติ กก.ละ 15 บาท
จะได้ 15 (ราคากก.) ×2.22 (นน. 1เส้น/10m.)= 33.3 บาท
ถ้าเอาจากราคา กก. 33.3 × 1000 = 33,300 บาท
แต่ถ้าซื้อเป็นเส้นเขาจะปัดหน่วย สมมุติ ปัดเป็น 33.50 บาท /เส้น
จะเป็น 33.50 ×1000 = 33,500 บาท ต่างกัน 200 บาท
น่าจะประมาณนี้ ผิดพลาดขออภัย ด้วยค่ะ
ถ้าอ่านจนจบก็ขอบคุณมากค่ะ
วันนี้ราคาเหล็กเส้นปรับลงนิดหน่อย ผลจากการผลิต(แบบจำเป็น)
ทำให้มีเหล็กเส้นในตลาดมากขึ้น( แบ่งๆกันไป)
เหล็กรูปยังขาดของราคาบางรายการก็ปรับ
ลูกค้ายิ้มสู้ คนขายยิ่มรับจะพยายามหาของให้ครบตามที่ต้องการ
หลายครั้งก็หยุด เงินอยู่ตรงหน้าแล้วพราะของไม่มีจะขายก็ชวดกันไป
เครียดยิ่งกว่าราคาขึ้นอีก
เจ้านายว่า น่าจะเป็นแบบนี้สัก 1-2 เดือน
Edit...เพิ่มข้อ 5
พิมพ์ในมือถือนี่ไม่ง่ายเลย....