พระพยอมท่านทายแม่นมากว่าตุ๊กตาลูกเทพจะเป็นขยะความเชื่อ

http://www.komchadluek.net/detail/20160127/221276.html
ข่าววันที่ 27 ม.ค. 59 ที่ผ่านมา ยังไม่ทันไรเลย แม่นมาก
พระพยอมชี้ตุ๊กตาลูกเทพ‘จะเป็นขยะความเชื่อ’
‘อีกไม่นาน...ตุ๊กตาลูกเทพ จะเป็นขยะศรัทธา ขยะความเชื่อ’ :
            “ปรากฏการณ์ตุ๊กตาลูกเทพ” กลายเป็นกระแสฮือฮา ทั้งการนำตุ๊กตาลูกเทพออกมาในสถานที่ต่างๆ ทำให้ร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงสายการบิน ออกมาวางแนวปฏิบัติกับกลุ่มผู้ที่บูชาลูกเทพ จนกลายเป็นประเด็นถกเถียงในแง่มุมต่าง โดยเฉพาะเกิดคำถามว่า คนไทย ขาดที่พึ่งทางใจจริงหรือ?
            ผู้สื่อข่าว เนชั่นทีวี ได้สัมภาษณ์ พระพยอม กัลยาโณ หรืออีกนามหนึ่ง พระราชธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว โดยผ่านทาง รายการเก็บตกจากเนชั่นภาคเที่ยง ในประเด็น “ตุ๊กตาลูกเทพ” ซึ่งเป็นกระแสสังคมในขณะนี้ เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา
            ถ้าเทียบหลักพุทธศาสนาแล้วมีการขัดแย้งยังไงบ้าง
            พระพยอม กัลยาโณ ให้ความเห็นว่า ขัดแย้งแบบความเชื่อถือคนไทยนี้ ถ้าเป็นชาวพุทธจะต้องถือกรรมวาที กับวิริยวาที คือ เชื่อกรรมและเชื่อความเพียรเพราะความเพียรเท่านั้นที่จะสำเร็จได้
            “ขออภัยนะถ้าใช้คำไม่เหมาะสม คนไทยนี้ อายุกับวัยมันไม่สมดุลกัน อายุอารมณ์มันไม่สมดุลกัน อายุเป็นผู้ใหญ่ แต่อารมณ์เป็นเด็กที่มาเล่นตุ๊กตาของเด็กๆ อย่างนี้เป็นคนที่วัยกับอารมณ์ไม่สมดุลกัน หันมาชอบเล่นตุ๊กตาของเด็กๆ ชาวพุทธแบบเด็กอนุบาลก็จะงมงายไสยศาสตร์ไป แต่ถ้าเป็นชาวพุทธระดับอุดมศึกษาก็จะเป็นชาวพุทธที่สนใจเรื่องหลักเกณฑ์คำสอนหลักธรรมแห่งวิทยาศาสตร์ พุทธศาสตร์ไม่ใช่ไปงมงายไสยศาสตร์เป็นที่พึ่งอย่างนี้”
            จุดเริ่มต้นเกิดจากอะไร จิตใจต้องหันไปพึ่งพาลูกเทพ
            พระพยอม กัลยาโณ กล่าวว่า เนื่องจากกระแสสังคม ปลุกกันไปปลุกกันมา คนหนึ่งไปอุ้มตุ๊กตาแล้วบอกว่า รวย ค้าขาย สำเร็จ คนเราพอได้ยินข่าวตื่นตูม เชื่อง่าย งมงาย ก็ไปเลย โดยไม่ได้คิดถึงเหตุผล ความจริงปรากฏการณ์แบบนี้เคยเกิดมาแล้ว ตุ๊กตาลูกเทพมาหลังจากจตุคามรามเทพ หากเราจะผูกกันว่า จตุคามรามเทพ เป็นพ่อ ตุ๊กตาลูกเทพ ก็เป็น ลูก แต่พ่อนะเขาปั้นกันเข้ารกเข้าพงเขาขว้างทิ้งกันกลางถนนกันเยอะแยะ อีกไม่นานลูกก็จะไปตามพ่อ แล้วก็หายไปจากโลกกับพ่อ
            แสดงว่าหลวงพ่อมองตุ๊กตาลูกเทพเป็นแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นแล้วก็จะหายไปตามกระแส
            พระพยอม กัลยาโณ กล่าวว่า หลวงพ่อขอใช้คำนี้ แม้จะไม่เหมาะสมก็ต้องใช้ เพราะมันหาคำใช้ยาก อีกไม่นานจะมี “ขยะศรัทธา” อีกไม่นานตุ๊กตาลูกเทพก็เป็นขยะความเชื่อ เพราะตอนนี้ จตุคามรามเทพตัวพ่อเป็นขยะไปแล้ว เขาไปทิ้งกันเกลื่อนกลาดไปแล้ว อีกไม่นานหลอก ของพวกนี้เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป
            หลวงพ่อมีอะไรจะบอกคนเลี้ยงลูกเทพบ้างไหมครับ
            พระพยอม กัลยาโณ กล่าวว่า ถามหน่อยนะถ้าเขาทำขายตัวละ 1 หมื่นบาท คุณอุ้มแล้วรวยเป็นล้าน แล้วทำไมคนขายปัญญาอ่อนนักหรือ ทำไมเขาไม่ทำเองแล้วอุ้มรอบเอวเลย เขาก็รวยคนเดียวเละเลย แต่ที่เขาเชื่อมั่นแล้วว่าอุ้มเองแล้วไม่รวย เขาก็เลยทำขายคนที่เชื่อคนที่พอจะเป็นเหยื่อเป็นลูกค้า เขาก็อุ้มไปแล้วจะเสียอะไรอีกเนี่ย ตอนนี้เสียทองแต่งให้ เสียค่าหนังสือ เสียค่าน้ำแดง ค่าอะไรต่ออะไรให้ตุ๊กตาลูกเทพเนี่ยก็เป็นภาระคนไทย เศรษฐกิจก็แย่แล้วเรียกว่า เศรษกิจก็เหนื่อย ทุจริตก็หนัก ก็ยังมีภาระกับตุ๊กตาลูกเทพอีก ทำไมชอบมีภาระ พระพุทธเจ้าท่านว่า ภาราหะเว ปัจจะขันทา ขันธ์ทั้ง 5 ก็เป็นภาระหนักอยู่แล้ว ยังจะไปอุ้มตุ๊กตาลูกเทพให้เป็นภาระหนักเข้าไปอีก
            เรื่องนี้ไม่ได้จบที่คนเลี้ยงลูกเทพเท่านั้น มีกระทั่งพระบางวัดที่ยอมปลุกเสกลูกเทพให้แก่คนที่ต้องการด้วย
            พระพยอม กัลยาโณ กล่าวว่า อาตมาจะใช้คำว่า อะเมสะมา แปลว่า หากินหาเลี้ยงชีพหลายแบบหลายวิธี เราไปดูซิ ชงก็มากันแน่นวัด ราหูก็เต็มวัดแล้ว ราหูนี้ก็แม้โดนลูกศิษย์หลอกเอาไก่ดำไป ไก่ดำไม่พอ เอาไก่ขาวไปย้อมดำไปให้ราหู ราหูโดนลูกศิษย์หลอกก็ไม่รู้สึกตัวอีก
            เพราะฉะนั้น พระที่ปลุกเสกลูกเทพ ควรที่ต้องเลิกปลุกเสกหรือไม่ครับ
            พระพยอม กัลยาโณ กล่าวว่า เลิกได้ไงล่ะ ภาพสักการะได้อยู่
            คนเราถ้าเป้าหมายบวช ไม่ใช่เพื่อมรรค ผล นิพพาน เพื่ออย่างอื่น ก็จะเป็นอย่างนี้ และไม่มีวันหมดหรอก
            ถือว่าเป็นการผิดกิจของสงฆ์หรือเกณฑ์ของสงฆ์ไหม
            พระพยอม กัลยาโณ กล่าวว่า ต้องไปย้อนถามดูในรัชกาลเก่าว่า จับพระพวกนี้ทำอะไรกันบ้าง เคยจับมาเยอะแล้วพวกผีบุญมันก็มีมาเรื่อยๆ และตราบใดที่ลูกค้ายังมี นักบวชที่ทำทางไสยพาณิชย์ก็เยอะ เพราะลูกค้าคนไทยเราเนี่ย ถามว่าเราไม่อายเขาบ้างเหรอ ลาวเขาไม่มี พม่าก็ไม่มี เขมรก็ไม่มี ทำไมศรีลังกาถึงไม่มี
            เมื่อก่อนอาตมาไม่เชื่อนะ ที่เขาทำวิจัยว่าชาวพุทธไทยเข้าใจหลักศาสนา 17% อีก 83% ไม่เข้าใจแต่เดี๋ยวนี้ชักเริ่มเชื่อแล้ว เพราะความไม่เข้าใจของศาสนานี่แหละ จึงเที่ยวหากันอุตลุดกันนี้
            ไม่ได้จบที่คนเลี้ยงลูกเทพเท่านั้น ปลุกเสกเท่านั้น แต่มีภาคธุรกิจเองที่เขาออกบริการมาเพื่อรองรับคนที่เลี้ยงลูกเทพด้วย หลวงพ่อมองยังไงครับ
            พระพยอม กัลยาโณ กล่าวว่า อาตมากำลังเสียวแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ท่านบอก แล้วตอนนี้ก็เริ่มแล้วนะมันเอายาเสพติดยัดเข้าไปในตุ๊กตาแล้วขึ้นเครื่องบินขึ้นรถไปตรวจยาก ตอนนี้อาจจะเป็นแผนของพวกนี้ก็ได้ แกล้งบูมขึ้นแล้วก็จะทำให้ก็ยัดยาค้ายาเสพติดใส่ไปในตุ๊กตา ที่นี้แหละจะวุ่นวายกันใหญ่เลย ทำให้ตำรวจปวดหัวเลย
            ฝากคนไทยทุกคนว่า ควรอยู่กับพระรัตนตรัย อย่าเป็นชาวพุทธนอกใจพระรัตนตรัยกันเลยพระคุณเจ้าทั้งหลาย ท่านจงอยู่กับพระรัตนตรัย อย่าเที่ยวไปหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เล็กๆ น้อยๆ แม้กระทั่งตุ๊กตากลายเป็นพระเล่นกับเด็กไปแล้ว นี้แหละคือหลักพุทธศาสนาของเรา
            ถือว่าหลักธรรมพระพุทธศาสนาที่ยึดเหนียวจิตใจที่ดีที่สุดของเราแล้ว
            พระพยอม กัลยาโณ กล่าวว่า ใช่เลยเอาหลักเดียวพอ ให้ 4 ข้อจำได้ไหม ทำอะไรก็จะสำเร็จ เขาเรียกว่า อิทธิบาท 4 พูดเป็นภาษาง่ายๆ เต็มใจทำ แข็งใจทำ ตั้งใจทำแล้ว เข้าใจทำ 4 อย่างนี้คุณทำอะไรก็สำเร็จ ไม่ต้องมีตุ๊กตาช่วยหรอก แต่ถ้าอุ้มตุ๊กตา 5 ตัว คุณไม่เต็มใจทำมาหากิน คุณไม่แข็งใจทำมาหากิน คุณไม่ตั้งใจทำมาหากิน คุณไม่เข้าใจทำมาหากิน คุณจะเอาตุ๊กตามาช่วยในความสำเร็จ อย่างงี้คำสอนของพระพุทธเจ้าก็ใช้ไม่ได้สิ กลับมาหาหลักพุทธศาสนาเถอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่