วันนี้ (10 มค.) เป็นวันที่หกแล้วที่มาอยู่โอกินาว่า คืนสุดท้ายจะกลับไปพักในเมืองนาฮา สำหรับผู้ที่จะวางแผนมาเที่ยวโอกินาว่า ถ้าท่านมีเวลา 6 วันเหมือนผม ผมอยากจะแนะนำว่าน่าจะใช้เวลาครึ่งหนึ่งของทริปพักแถวๆ เมืองนาฮาจะดีกว่า เพราะว่าที่เที่ยวส่วนใหญ่อยู่ใกล้ๆ แถวๆ นั้น หากต้องการจะมาพักทางเหนือ แค่ 2-3 คืนก็พอแล้ว เพราะถ้าออกจากโรงแรมเช้าหน่อยก็สามารถเก็บที่เที่ยวทางเหนือได้ภายในสองวัน อย่าใช้ทริปของผมเป็นบรรทัดฐานก็แล้วกัน เพราะออกจากโรงแรมค่อนข้างสายกว่าจะจรลีได้ก็หมดไปเกือบครึ่งวันแล้ว
เช้าวันนี้ก่อนออกจากโรงแรมแวะไปดูร้านขายของที่ระลึกในโรงแรม (มีบัตรลด 20%) ได้ตัวชีซ่ามาคู่หนึ่ง
ระหว่างทางจะไปนาฮาลูกบอกว่าต้องการให้ขับผ่านเมือง Okinawa City อยากจะไปดูสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นไฮไลท์ของภาพยนต์ที่เคยดูมา
เมืองโอกินาว่าซิตี้บริเวณที่ผ่านเข้าไปเข้าใจว่าคงเป็นแหล่งเที่ยวในเวลากลางคืน ตอนกลางวันดูเงียบเหงามาก และดูโทรมๆ ด้วยซ้ำไป แต่ก็เห็นร่องรอยของการแต่งไฟประดับประดาตามบาร์ และถนนทั่วไป ตอนกลางคืนคงจะสว่างไสวไปด้วยแสงไฟไปทั้งถนน
ตอนที่ขับออกจากเมืองโอกินาว่าซิตี้ ตาเหลือบไปเห็น Aeon Mall ข้างทางที่ค่อนข้างใหญ่มาก แวะเข้าไปดูจึงรู้ว่ามีร้าน Big Camera (ขายกล้อง เครื่องไฟฟ้า และของอื่นๆ มากมาย เป็นร้านที่เวลามาญี่ปุ่นทีไรจะต้องแวะไปทุกที) มาครั้งนี้ก็ได้เลนส์ติดมือมาอีกหนึ่งตัว ส่วนภรรยาก็ได้ของจากร้านยูนิโคลมาหลายชิ้นเหมือนกัน
ภายในศูนย์การค้า
นานๆ ทีจะมีคนใส่กิโมโนเดินให้เห็น
ไปถึงเมืองนาฮา แวะไปดูฐานทัพใต้ดินของกองทัพเรือญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นขุดอุโมงค์ใต้ดินเพื่อใช้เป็นกองบัญชาการรบ โอกินาว่าถือเป็นจุดยุทธศาตร์ที่สำคัญของญี่ปุ่น และทางสหรัฐก็พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าตีให้ได้
การรบที่นี่เป็นไปอย่างดุเดือด เท่าที่อ่านดูทหารญี่ปุ่นน่าจะสูญเสียไปร่วมสองแสนคน ตอนเดินไปดูในอุโมงค์ดูแล้วก็รู้สึกสลดใจ ไม่รู้ว่าจะรบกันไปทำไม ทั้งสองฝ่ายต่างก็สูญเสียกันทั้งคู่ ดูแล้วเศร้าใจมาก
ห้องในอุโมงค์บางห้องเล็กนิดเดียวแต่เขาบรรยายว่าทหารที่ออกไปรบแล้วกลับเข้ามาพัก ยืนหันหลังชนกันหลับนับร้อยคน บางห้องก็มีร่องรอยของการดึงสลักระเบิดมือเพื่อฆ่าตัวตายตอนได้รับแจ้งว่าญี่ปุ่นยอมแพ้แล้ว
ที่น่าทึ่งอย่างยิ่งก็คืออุโมงค์ที่เห็นนี้ขุดด้วยมือไม่มีการใช้เครื่องทุ่นแรงใดๆ เลย
ออกจากอุโมงค์ก็ขับรถไปเช็คอินที่พักคืนสุดท้าย อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเมอร์เคียวที่พักคืนแรกสักเท่าใดนัก หลังจากเอาข้าวของไปเก็บในห้องเรียบร้อยภารกิจต่อไปก็คือการนำรถเช่าไปคืน ถามที่โรงแรมว่ามีปั้มน้ำมันใกล้ๆ นี้ไหม เพราะถ้าเติมน้ำมันให้เต็มตอนคืนก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลา ปรากฏว่าไปถึงปั้มเติมน้ำมันเต็มคิดเป็นเงินไทยประมาณ 700 บาท โอ้วพระเจ้ายอร์ช มันยอดมากรถไฮบริดนี่ วิ่งห้าวันไปโน่นไปนี่เกือบทั่วเกาะหมดค่าน้ำมันไม่ถึงพันบาท
คืนรถแล้วก็ซื้อตั๋วโมโนเรลแบบหนึ่งวัน จุดแรกที่ไปคือถนนโคคุไซ (Kokusai Street) เป็นถนนสั้นๆ ยาวเพียงแค่ 1 ไมล์ (1.6 กม.) เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่างๆ นานามากมาย
เดินเหนื่อยแวะถ่ายรูปนิด
แวะชิมไอศครีมเกลือ (ใส่เกลือเป็น Topping ไอศครีม)
แวะร้าน Don Kijotae ซื้อขนมของฝาก แล้วยังนั่งโมโนเรลไป Aeon Mall ช้อปครั้งสุดท้ายก่อนกลับไปจัดกระเป๋าที่โรงแรมเพื่อบินกลับเมืองไทยในวันรุ่งขึ้น เป็นอันจบการท่องเที่ยวในโอกินาว่าแบบหกวันเต็ม เป็นครั้งแรกที่เที่ยวโดยแทบจะไม่ได้วางโปรแกรมอะไร แค่จองโรงแรมและรถเช่า ส่วนที่เหลือก็ปล่อยไปสไตล์ Go with the flow ครับ
ภาพสุดท้าย บางมุมของเมืองนาฮา
“ญี่ปุ่นที่แปลกตา เที่ยวโอกินาว่าหกวัน” (ตอนสุดท้าย)
อ่านตอนที่ 2 ได้ที่ http://ppantip.com/topic/34725544
อ่านตอนที่ 3 ได้ที่ http://ppantip.com/topic/34729728
อ่านตอนที่ 4 ได้ที่ http://ppantip.com/topic/34736930
อ่านตอนที่ 5 ได้ที่ http://ppantip.com/topic/34740934
วันนี้ (10 มค.) เป็นวันที่หกแล้วที่มาอยู่โอกินาว่า คืนสุดท้ายจะกลับไปพักในเมืองนาฮา สำหรับผู้ที่จะวางแผนมาเที่ยวโอกินาว่า ถ้าท่านมีเวลา 6 วันเหมือนผม ผมอยากจะแนะนำว่าน่าจะใช้เวลาครึ่งหนึ่งของทริปพักแถวๆ เมืองนาฮาจะดีกว่า เพราะว่าที่เที่ยวส่วนใหญ่อยู่ใกล้ๆ แถวๆ นั้น หากต้องการจะมาพักทางเหนือ แค่ 2-3 คืนก็พอแล้ว เพราะถ้าออกจากโรงแรมเช้าหน่อยก็สามารถเก็บที่เที่ยวทางเหนือได้ภายในสองวัน อย่าใช้ทริปของผมเป็นบรรทัดฐานก็แล้วกัน เพราะออกจากโรงแรมค่อนข้างสายกว่าจะจรลีได้ก็หมดไปเกือบครึ่งวันแล้ว
เช้าวันนี้ก่อนออกจากโรงแรมแวะไปดูร้านขายของที่ระลึกในโรงแรม (มีบัตรลด 20%) ได้ตัวชีซ่ามาคู่หนึ่ง
ระหว่างทางจะไปนาฮาลูกบอกว่าต้องการให้ขับผ่านเมือง Okinawa City อยากจะไปดูสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นไฮไลท์ของภาพยนต์ที่เคยดูมา
เมืองโอกินาว่าซิตี้บริเวณที่ผ่านเข้าไปเข้าใจว่าคงเป็นแหล่งเที่ยวในเวลากลางคืน ตอนกลางวันดูเงียบเหงามาก และดูโทรมๆ ด้วยซ้ำไป แต่ก็เห็นร่องรอยของการแต่งไฟประดับประดาตามบาร์ และถนนทั่วไป ตอนกลางคืนคงจะสว่างไสวไปด้วยแสงไฟไปทั้งถนน
ตอนที่ขับออกจากเมืองโอกินาว่าซิตี้ ตาเหลือบไปเห็น Aeon Mall ข้างทางที่ค่อนข้างใหญ่มาก แวะเข้าไปดูจึงรู้ว่ามีร้าน Big Camera (ขายกล้อง เครื่องไฟฟ้า และของอื่นๆ มากมาย เป็นร้านที่เวลามาญี่ปุ่นทีไรจะต้องแวะไปทุกที) มาครั้งนี้ก็ได้เลนส์ติดมือมาอีกหนึ่งตัว ส่วนภรรยาก็ได้ของจากร้านยูนิโคลมาหลายชิ้นเหมือนกัน
ภายในศูนย์การค้า
นานๆ ทีจะมีคนใส่กิโมโนเดินให้เห็น
ไปถึงเมืองนาฮา แวะไปดูฐานทัพใต้ดินของกองทัพเรือญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นขุดอุโมงค์ใต้ดินเพื่อใช้เป็นกองบัญชาการรบ โอกินาว่าถือเป็นจุดยุทธศาตร์ที่สำคัญของญี่ปุ่น และทางสหรัฐก็พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าตีให้ได้
การรบที่นี่เป็นไปอย่างดุเดือด เท่าที่อ่านดูทหารญี่ปุ่นน่าจะสูญเสียไปร่วมสองแสนคน ตอนเดินไปดูในอุโมงค์ดูแล้วก็รู้สึกสลดใจ ไม่รู้ว่าจะรบกันไปทำไม ทั้งสองฝ่ายต่างก็สูญเสียกันทั้งคู่ ดูแล้วเศร้าใจมาก
ห้องในอุโมงค์บางห้องเล็กนิดเดียวแต่เขาบรรยายว่าทหารที่ออกไปรบแล้วกลับเข้ามาพัก ยืนหันหลังชนกันหลับนับร้อยคน บางห้องก็มีร่องรอยของการดึงสลักระเบิดมือเพื่อฆ่าตัวตายตอนได้รับแจ้งว่าญี่ปุ่นยอมแพ้แล้ว
ที่น่าทึ่งอย่างยิ่งก็คืออุโมงค์ที่เห็นนี้ขุดด้วยมือไม่มีการใช้เครื่องทุ่นแรงใดๆ เลย
ออกจากอุโมงค์ก็ขับรถไปเช็คอินที่พักคืนสุดท้าย อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเมอร์เคียวที่พักคืนแรกสักเท่าใดนัก หลังจากเอาข้าวของไปเก็บในห้องเรียบร้อยภารกิจต่อไปก็คือการนำรถเช่าไปคืน ถามที่โรงแรมว่ามีปั้มน้ำมันใกล้ๆ นี้ไหม เพราะถ้าเติมน้ำมันให้เต็มตอนคืนก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลา ปรากฏว่าไปถึงปั้มเติมน้ำมันเต็มคิดเป็นเงินไทยประมาณ 700 บาท โอ้วพระเจ้ายอร์ช มันยอดมากรถไฮบริดนี่ วิ่งห้าวันไปโน่นไปนี่เกือบทั่วเกาะหมดค่าน้ำมันไม่ถึงพันบาท
คืนรถแล้วก็ซื้อตั๋วโมโนเรลแบบหนึ่งวัน จุดแรกที่ไปคือถนนโคคุไซ (Kokusai Street) เป็นถนนสั้นๆ ยาวเพียงแค่ 1 ไมล์ (1.6 กม.) เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่างๆ นานามากมาย
เดินเหนื่อยแวะถ่ายรูปนิด
แวะชิมไอศครีมเกลือ (ใส่เกลือเป็น Topping ไอศครีม)
แวะร้าน Don Kijotae ซื้อขนมของฝาก แล้วยังนั่งโมโนเรลไป Aeon Mall ช้อปครั้งสุดท้ายก่อนกลับไปจัดกระเป๋าที่โรงแรมเพื่อบินกลับเมืองไทยในวันรุ่งขึ้น เป็นอันจบการท่องเที่ยวในโอกินาว่าแบบหกวันเต็ม เป็นครั้งแรกที่เที่ยวโดยแทบจะไม่ได้วางโปรแกรมอะไร แค่จองโรงแรมและรถเช่า ส่วนที่เหลือก็ปล่อยไปสไตล์ Go with the flow ครับ
ภาพสุดท้าย บางมุมของเมืองนาฮา
ใครยังไม่ได้อ่านตอนไหน ย้อนกลับไปอ่านได้ตามลิ้งข้างล่างนี้
อ่านตอนที่ 1 ได้ที่ http://ppantip.com/topic/34720732
อ่านตอนที่ 2 ได้ที่ http://ppantip.com/topic/34725544
อ่านตอนที่ 3 ได้ที่ http://ppantip.com/topic/34729728
อ่านตอนที่ 4 ได้ที่ http://ppantip.com/topic/34736930
อ่านตอนที่ 5 ได้ที่ http://ppantip.com/topic/34740934