รีวิวหนัง : Finding Calico แมวพเนจร



ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกๆในโลกที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงไม่น่าแปลกใจที่เราเริ่มเห็นภาพยนตร์จากแดนปลาดิบที่มีตัวละครหลักเป็นคนชรา แต่ครันจะให้คนแก่รับบทนำตัวหนังคงน่าเบื่อเกินไป ล่าสุดใน Sensei to mayoi neko หรือชื่อที่เข้าฉายในไทยว่า Finding Calico จึงมีการนำ แมว เทนด์ฮิตอีกอย่างในยุคนี้มาร่วมแสดง (จะเรียกว่าเป็นมาสคอตก็ว่าได้) ช่วยเสริมความน่าสนใจของเนื้อหาให้น่าดูขึ้น

หนังกำกับโดย โยชิฮิโระ ฟุคางาวะ ผู้กำกับหนุ่มเจ้าของผลงาน Towairaito Sasara Saya และ Kamisama no karute 2 นำแสดงโดย อิสเซย์ โองาตะ ดารารุ่นใหญ่ กับ เจ้าดรอป แมวน้อยสุดน่ารักวัย4ปี ร่วมด้วย โชตะ โซเมะตานิ , คิเอะ คิตาโนะ , ซายุ คุโบตะ , ปิแอร์ ทาคิ และ คาโยโกะ คิชิโมโตะ

Finding Calico เล่าถึงชีวิตอันโดดเดี่ยวของ เคียวอิจิ อดีตอาจารย์ใหญ่วัยเกษียณที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ลำพังหลังการจากไปของภรรยา ด้วยบุคลิกเข้มงวด เจ้าระเบียบ ดูไม่เป็นมิตร ทำให้เขาไม่มีสังคม มี่ แมวพเนจรสามสีเป็นสิ่งมีชีวิตไม่กี่อย่างที่แวะเวียนเข้ามาในบ้าน แต่วันหนึ่ง เคียวอิจิ ก็ไล่มันไปพร้อมปิดบ้านไม่ให้เข้า เนื่องจากแมวตัวนี้ทำให้เขานึกถึงภรรยา ต่อมาเมื่อเจ้าเหมียวได้หายตัวไปจริงๆ เขากลับรู้สึกว่าบางอย่างในชีวิตหายไป จึงออกมาหามัน ก่อนจะพบว่า มี่ เป็นที่รักของหลายคนในเมือง มันมีชื่อเรียกมากมาย ทั้ง โซระ ทามาโกะ ฮิจิโร่

บทหนังค่อนข้างราบเรียบตามสไตล์ญี่ปุ่น ดราม่าแฝงปรัชญาตะวันออก ถ่ายทอดวิถีชีวิตของชนบทในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเดิมทีบรรยากาศก็เงียบเหงาอยู่แล้ว ยิ่งมาเหงายกกำลังสองเข้าไปอีกเมื่อถูกถ่ายทอดผ่านมุมมองผู้สูงอายุที่ชีวิตประจำวันเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ส่วนหนึ่งหนังน่าจะต้องการสื่อให้คนในชุมชมหันมาใส่ใจคนแก่ให้มากขึ้น และอยากสร้างความเข้าใจระหว่างคนต่างรุ่นต่างสมัย ด้วยสัญลักษณ์ ยุคกล้องดิจิตอล กับ ยุคกล้องฟิล์มโบราณ

ขณะที่ประเด็นการจัดการสัตว์จรจัดก็น่าสนใจ แรกทีเดียว เคียวอิจิ ต่อว่าแมวสามสีเรื่องหลายใจ ทำตัวเป็นที่รักของทุกคนในเมือง(รวมถึง ภรรยา กับ เคียวอิจิ) ก่อนที่จะถูกตอกกลับด้วยคำพูดของตัวละครช่างซ่อมรถที่ว่า คนรักแมวจรจัดเป็นพวกไม่มีความรับผิดชอบ พวกเขาเล่นกับมัน ให้อาหารมัน แต่กลับไม่ยอมนำมันไปเลี้ยงดู เรื่องนี้หากเป็นในเมืองหลวงอาจเข้าใจคนที่ชอบให้อาหารสัตว์จรจัดว่า คงอยากเลี้ยง ทว่าไม่สะดวกด้วยกำลังทรัพย์หรือสถานที่ ซึ่งผิดกับในหนังที่โลเคชั่นเป็นต่างจังหวัด ตัวละครหลายตัวมีกำลัง สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ถ้าพวกเขาคิดจะทำ แน่นอนว่าเหตุผลคือพวกเขาไม่พร้อมจะมีภาระนั่นเอง(เห็นแก่ตัว) เปรียบได้กับคนที่ชอบชีวิตรักแบบชั่วคราว ไม่พร้อมจะผูกพันธ์ แมวสามสีในเรื่องจึงโดนมองเป็นพวกเจ้าชู้ไปซะ

แมว ในหนังไม่ได้ถูกวางเป็นเพียงสัตว์เลี้ยง แต่ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติของชุมชน นอกจากมันจะเป็นเครื่องเตือนความทรงจำสำหรับบางคนแล้ว พวกมันยังเป็นเครื่องบำบัดจิตเคลื่อนที่ คอยสร้างรอยยิ้มให้กลุ่มแม่บ้าน เป็นเพื่อนเล่นของเด็กๆ คอยรับฟังปัญหาของวัยรุ่น รวมถึงคลายเหงาให้ผู้สูงอายุ

อิสเซย์ โองาตะ ทำได้ดีพอสมควรกับบทมนุษย์ลุงผู้ว้าเหว่ เขาถ่ายทอดอารมณ์ผ่านทางสีหน้าท่าทางได้ดี มีปล่อยมุขตลกเป็นระยะ แต่ก็เป็นการขำแบบขมขื่นของคนดู โชตะ โซเมะตานิ กับ คิเอะ คิตาโนะ สร้างสีสันในฐานะเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ในหนัง อีกคนที่อยากพูดถึงคือ ปิแอร์ ทาคิ ออกไม่กี่ฉากกลับสร้างความจดจำได้ดี

Finding Calico ใช้แมวเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของคนแก่กับชุมชน การออกตามหาเจ้าเหมียวอย่างจริงจังของ เคียวอิจิ ตีความได้หลายแบบ เขาอาจออกตามหาเพราะรักมัน เพราะคิดถึงภรรยา เพราะรู้สึกผิด เพราะอยากช่วยคนอื่นๆ หรือบางทีก็ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งไปกว่า การตามหามันแค่เพราะจะได้ไม่ต้องทนเหงาอยู่ในบ้านคนเดียว

คะแนน 7/10

โดย นกไซเบอร์

เครดิต https://www.facebook.com/cyberbirdmovie

ตัวอย่างหนัง http://movie.bugaboo.tv/watch/226229/?link=4
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่