จรดปากกาเซ็นสัญญาโกอินเตอร์กับทางค่ายของประเทศญี่ปุ่นแล้ว สำหรับนักแสดงสาว “หญิงญา-ธนิจจิญญา ธนันต์ชัยกานต์” โดยเจ้าตัวเปิดใจคุยให้ฟังว่า
“หญิงเซ็นสัญญากับญี่ปุ่น 5 ปีค่ะ หลังถ่ายละคร 2 เรื่องเสร็จก็บินไปอยู่ญี่ปุ่นเลยค่ะ มีโอกาสที่ทำงานที่ไทยอยู่บ้างแต่อาจจะไม่ใช่งานยาวอย่างละคร คงเป็นงานที่สั้นๆสามารถบินมาได้แค่วัน 2 วันค่ะ ถ้าจะรับงานในเมืองไทยก็ต้องผ่านเอเจนซี่ที่นู่นหมดเลยค่ะ หญิงว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายดีค่ะ ตัวหญิงเองชอบประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว ที่บ้านก็วัฒนธรรมญี่ปุ่นเพราะคุณแม่แต่งงานใหม่กับคุณพ่อที่เป็นชาวญี่ปุ่นมา 10 กว่าปีแล้ว”
“สำหรับงานที่นู่นที่เขาเตรียมไว้รอก็ค่อนข้างเยอะ ต้องไปฟังรายละเอียดอีกทีนึงค่ะ ตอนนี้หญิงก็เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ไทย ไปที่นู่นก็ต้องไปเรียนและเตรียมร่างกายให้พร้อม ช่วงปีแรกก็อาจจะเห็นผลงานหญิงในแม็กกาซีนมากกว่าที่ยังไม่ต้องพูดหรือสื่อสาร พอปีต่อไปถ้าพูดภาษาเขาคล่องแล้วงานก็เป็นไปตามสเต็ปที่เราสามารถทำอะไรได้บ้าง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวหญิงเองด้วยว่าจะพัฒนาภาษาได้แล้วเร็วขนาดไหน บวกกับดวงด้วยเพราะเขาก็ทุ่มให้เราเต็มที่ งานนี้หญิงฉายเดี่ยวเลย ไม่ได้ตามไปอยู่ที่ญี่ปุ่น คุณแม่อาจจะไปหาเดือนละครั้ง แวะไปเยี่ยม หญิงก็บอกคุณแม่ว่าไม่ต้องห่วง อยู่ที่นู่นก็จะพยายามเอาตัวรอดให้ได้”
“เรื่องค่าตัวก็อยู่ในระดับโอเคเลยนะครับ ถามว่าถึง 50 ล้านไหม ขออุบไว้ก่อนค่ะเพราะมันเป็นสัญญาที่พูดไม่ค่อยได้ แต่เขาก็ให้ค่าตัวที่ค่อนข้างน่าพอใจค่ะ อีกอย่างคือเขามีการแบ่งเปอร์เซ็นต์ด้วย ถ้าเราทำได้ถึงขึ้นดี ถ้ากลับมาเมืองไทยเราก็สบายเลยต้องอยู่ที่ดวงเราด้วยค่ะ”
“ก่อนที่จะไปการเตรียมตัวก็เน้นเรื่องภาษา การกินก็ต้องเปลี่ยนเพราะเขาควบคุมเราเยอะมาก มีกฎห้ามเปลี่ยนสีผิวเอง ห้ามทำนู่นนี่หลายอย่างเลยค่ะ ก็กังวลเหมือนกันเพราะกฎหมายที่นู่นแรงมาก เวลาจะขอถ่ายรูปกับนักแสดงญี่ปุ่น เขาก็จะถามว่าเราถืออะไร เสื้อใส่อะไรอยู่หรือเปล่าเพราะเขามีพรีเซ็นเตอร์ เวลาฟ้องร้องกันก็หลักร้อยล้าน”
ข่าวจาก : รักดารา
http://www.rakdara.net/home/241792
“หญิงญา”เซ็นสัญญาโกอินเตอร์ญี่ปุ่น 5ปี อุบค่าตัว 50ล้าน
จรดปากกาเซ็นสัญญาโกอินเตอร์กับทางค่ายของประเทศญี่ปุ่นแล้ว สำหรับนักแสดงสาว “หญิงญา-ธนิจจิญญา ธนันต์ชัยกานต์” โดยเจ้าตัวเปิดใจคุยให้ฟังว่า
“หญิงเซ็นสัญญากับญี่ปุ่น 5 ปีค่ะ หลังถ่ายละคร 2 เรื่องเสร็จก็บินไปอยู่ญี่ปุ่นเลยค่ะ มีโอกาสที่ทำงานที่ไทยอยู่บ้างแต่อาจจะไม่ใช่งานยาวอย่างละคร คงเป็นงานที่สั้นๆสามารถบินมาได้แค่วัน 2 วันค่ะ ถ้าจะรับงานในเมืองไทยก็ต้องผ่านเอเจนซี่ที่นู่นหมดเลยค่ะ หญิงว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายดีค่ะ ตัวหญิงเองชอบประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว ที่บ้านก็วัฒนธรรมญี่ปุ่นเพราะคุณแม่แต่งงานใหม่กับคุณพ่อที่เป็นชาวญี่ปุ่นมา 10 กว่าปีแล้ว”
“สำหรับงานที่นู่นที่เขาเตรียมไว้รอก็ค่อนข้างเยอะ ต้องไปฟังรายละเอียดอีกทีนึงค่ะ ตอนนี้หญิงก็เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ไทย ไปที่นู่นก็ต้องไปเรียนและเตรียมร่างกายให้พร้อม ช่วงปีแรกก็อาจจะเห็นผลงานหญิงในแม็กกาซีนมากกว่าที่ยังไม่ต้องพูดหรือสื่อสาร พอปีต่อไปถ้าพูดภาษาเขาคล่องแล้วงานก็เป็นไปตามสเต็ปที่เราสามารถทำอะไรได้บ้าง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวหญิงเองด้วยว่าจะพัฒนาภาษาได้แล้วเร็วขนาดไหน บวกกับดวงด้วยเพราะเขาก็ทุ่มให้เราเต็มที่ งานนี้หญิงฉายเดี่ยวเลย ไม่ได้ตามไปอยู่ที่ญี่ปุ่น คุณแม่อาจจะไปหาเดือนละครั้ง แวะไปเยี่ยม หญิงก็บอกคุณแม่ว่าไม่ต้องห่วง อยู่ที่นู่นก็จะพยายามเอาตัวรอดให้ได้”
“เรื่องค่าตัวก็อยู่ในระดับโอเคเลยนะครับ ถามว่าถึง 50 ล้านไหม ขออุบไว้ก่อนค่ะเพราะมันเป็นสัญญาที่พูดไม่ค่อยได้ แต่เขาก็ให้ค่าตัวที่ค่อนข้างน่าพอใจค่ะ อีกอย่างคือเขามีการแบ่งเปอร์เซ็นต์ด้วย ถ้าเราทำได้ถึงขึ้นดี ถ้ากลับมาเมืองไทยเราก็สบายเลยต้องอยู่ที่ดวงเราด้วยค่ะ”
“ก่อนที่จะไปการเตรียมตัวก็เน้นเรื่องภาษา การกินก็ต้องเปลี่ยนเพราะเขาควบคุมเราเยอะมาก มีกฎห้ามเปลี่ยนสีผิวเอง ห้ามทำนู่นนี่หลายอย่างเลยค่ะ ก็กังวลเหมือนกันเพราะกฎหมายที่นู่นแรงมาก เวลาจะขอถ่ายรูปกับนักแสดงญี่ปุ่น เขาก็จะถามว่าเราถืออะไร เสื้อใส่อะไรอยู่หรือเปล่าเพราะเขามีพรีเซ็นเตอร์ เวลาฟ้องร้องกันก็หลักร้อยล้าน”
ข่าวจาก : รักดารา
http://www.rakdara.net/home/241792