พอดีมีหลังไมค์มาถามเรื่องการเป็นเซล เราเองก็มีประสบการณ์มาสิบกว่าปี ก็เลยลองตอบเป็นข้อ เอาไว้ให้รุ่นเซลน้อง ๆ ที่ท้อใจ กำลังคิดว่าจะเริ่มทำอาชีพนี่ดีไหม ลองอ่านดูน่ะค่ะ และมีรุ่นพี่เซลคนไหนจะเพิ่มเติมอะไร ยินดีค่ะ เราจะได้รับความรู้ไปด้วย เน้อะ ช่วย ๆ กันพัฒนาบุคลากรทางด้านนี้ (เวอร์มาก..)
ปล. เราเป็นเซลแนว IT telecom หากจะนำไปปรับใช้ได้กะแนวอื่นบ้าง
เป็นเซลต้องมีรถไหมกลัวซื้อแล้วทำไม่ได้ รถต้องขายต่อ ขับไม่คล่อง?
- ตอนเราเป็นเซลออกรถเองเราก็ขับไม่คล่อง เราก็ซื้อรถเลย ให้พี่ชายนั่งรถไปด้วย ขับก็ไม่ค่อยเป็น แต่ก็ไปสอบใบขับขี่ ไปสอบสามรอบกว่าจะได้ ลูกค้าเราแนว กทม ก็บางทีแท๊กซี่บ้าง บริษัทออกค่าน้ำมันให้เป็นรายเดือน ค่าเสื่อม เพราะฉะนั้นก็ไม่มีปัญหา ถ้าคุณยังไม่ซื้อรถก็ได้ลองไปสัมภาษณืก่อนว่าได้งานแนวไหน บอกบริษัทไปว่ามีแผนจะซื้อถ้าได้งาน
เป็นเซลโหดร้ายไหม?
- เป็นเซลมันก็โหดและไม่โหด คือถ้าเจอบริษัทที่ถูกกะจริตเรา อยู่ในข่ายที่เราสนใจมันจะไม่โหดค่ะ มันจะได้รู้ในสิ่งที่เราสนใจ คุยกะลูกค้าก็สนุกเหมือนแลกเปลี่ยนความรู้ อันนี้ต้องถามตัวเองว่าสนใจเรื่องไหน เช่นหากสนใจแนวหวือหวาก็ไปขายโฆษณาดิจิตัล หรือ หนังสือแฟชั่น แบบ AE ประมาณนี้ค่ะ หรือถ้าสนแนวเทคโนโลยี handheld ก็ไปเป็นเซลมือถือดูแล dealer คือหาอะไรให้อยู่ในกรอบที่เราสนใจ จะทำได้นาน และเซลเค้าวัดจากยอดขายมันเลยมีตัววัดที่ชัดเจนกว่าแผนกอื่น จะว่ายากมันก็มีบ้าง ฟลุคก็มี
อ้วนค่ะ ทำเซลได้ไหมค่ะ?
- เรื่องหุ่นเราว่าเป็นเรื่องรองจากบุคลิกค่ะ เพราะเราเลยคำว่าอวบแต่ไม่เคยหางานไม่ได้ค่ะ แต่งตัวให้ดูดีแนว ๆ Business fashion ได้ อย่าสั้นมาก เดี๋ยวนี้เจอบางบริษัทเน้นให้นุ่งสั้น เสื้อคอต่ำ อย่าไปทำมันค่ะ ชื่อเสียงในอนาคตสำคัญกว่า และลูกค้าจะรู้ขอบเขตว่าเรามาขายของ แต่งานบางอย่างก็อาศัยหุ่น เช่น ขายคอร์สลดความอ้วน ก็อย่าไปสมัครเพราะไม่ได้แน่ ๆ
เซล ตจว ได้เงินเยอะกว่าเซล กทม เป็นผู้หญิงกลัวอันตราย?
- เราก็เป็นเซลอยู่ที่กรุงเทพ แต่ก็มีลูกค้าต่างจังหวัดบ้าง แต่เป็นจังหวัดใกล้เคียง ปกติในธุรกิจเรา การเดินทางจะเดินทางกับ engineer ซึ่งไม่ได้อันตรายอะไรค่ะ นอกจากเจอ engineer ที่ดูอันตราย 555 ล้อเล่นค่ะ บางทีมีหัวหน้าเซลอีก หลายฝ่าย ลูกค้าจะเข้าใจ ไม่เอะอะให้มาหาบ่อย ๆ และรายได้ไม่ได้น้อยกว่ากันน่ะ เอาที่เราทำงานสบายใจเวลาไปขายจะมั่นใจ จะทำงานและเงินได้ดี ปลอดภัยกะชีวิต ตจว อาจจะไม่เหมาะกะผู้หญิงเท่าไหร่หากเราไม่เคยอยู่มาก่อน ไม่ต้องไปทำหรอกค่ะ เราว่ารายได้ไม่ต่างกันหรอก ธุรกิจมันก็กระจุกที่ กทม นอกจากวิ่งโรงงานก็แนวรอยต่อ กทม
ส่วนใหญ่รับเซลแบบมีประสบการณ์ หางานจะยากมากหากไม่มีเส้น?
- แรก ๆ ไม่มีประสบการณ์มันยากทั้งนั้นแหละค่ะ แต่ก็หมั่นขยันหา ส่งไป resume เพราะคนไม่เคยทำเซลบางทีเค้าไม่อยากรับกลัวทำไม่ได้ก็ลาออก เจอเยอะค่ะ เทรนไปเสียเวลา เวลาไปสมัคร ยิ้มแย้มแจ่มใสมีลูกล่อลูกชน โชว์บุคลิก มองโลกในแง่บวก แต่ก็มีความมุ่งมั่นว่าให้บริษัทเปิดโอกาสให้เรา เราเรียนรู้เร็ว และสามารถจะทำยอดให้บริษัทได้ มีอะไรที่คิดว่าเหนือคนอื่น บอกไปค่ะ เช่น ภาษาอังกฤษพูดได้อ่านดีเขียนคล่อง เซลตัวเองประมาณว่าให้โอกาสเราเถอะ และเมื่อได้เริ่มแล้ว มันจะยากขึ้น เครียดขึ้น แรก ๆ ทุกคนเป็นแบบนี้ นอกจากบริษัทมีลูกค้าเก่าบางส่วนให้ดูแล ซึ่งอันนี้ขอให้คุยเพราะมันจะทำให้เราได้ฝึกฝีมือ และเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น ขอเค้าดูแลรายเล็ก ๆ ก็ได้ และเปิดลูกค้าใหม่ไปด้วย โทรหา โทรนัด ส่งโปรไฟล์เข้าไป ทำให้เยอะที่สุด เหมือนส่ง 100 ได้ 1 จะได้ 10 ก็ต้องส่ง 1000 แรก ควรเลือกบริษัทใหญ่หน่อยก็ดีค่ะ เค้ามีเครื่องไม้เครื่องมือให้ เช่น โทรศัท์มือถือ มี database ลูกค้า มีระบบที่เป็นระบบหลังการขาย มีคู่มือการขาย มีเทรนนิ่ง
งานเซลยากและกดดัน กลัวทำไม่ได้ ทำไงดี?
ช่วงแรกๆ วัดใจเซลใหม่ จะลาออกกันเยอะเพราะขายไม่ได้ ไม่เหมาะ ทำไม่ได้ กดดัน เครียด แต่เราขอให้สู้ก่อน ถ้าไม่ถึงที่สุด จริง ๆ มันจะติดอยู่ในใจว่าจริงๆ อาจจะทำได้ก็ได้ถ้าเราทำแบบนี้ หรือ แบบนี้ ไม่งั้นแล้วทั้งชีวิต มันจะกลับไป กลับมา ไม่ได้ไปสู่ที่ตำแหน่งสูง ๆ เพราะเริ่มใหม่บ่อย จุดสำคัญคือ หัวหน้าคือเมนเทอร์ เจอหัวหน้าที่สอนงาน หนีบเราไป ให้เราเห็นเวลาเข้าลูกค้าจะประเสริฐมาก เพราะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในการตอบลูกค้าสำคัญมากค่ะ หรือเพื่อนร่วมงาน ในกรณีไม่มีลูกค้าเก่าให้ดูแล หาเพื่อนร่วมงานที่อาจจะอยู่ทีมเดียวกันยินดีหนีบคุณไปเรียนรู้งานด้วย ซึ่งไม่ง่ายเพราะจะว่าไปก็แข่งกันอยู่นิด ๆ เรื่องของเรื่องห้ามไปแย่งลูกค้าเพื่อน หรือแทงข้างหลัง วงการเซลมันแคบเนอะ ยังไงก็เจอกัน ยิ่งธุรกิจที่เราอยู่นี่ก็หน้าเดิม ๆ ย้ายไปมา ถ้าบริษัทแบ่งตลาดชัดเจนก็น่าทำ มันจะตัดปัญหาเรื่องลูกค้าของใคร มานั่งทะเลาะกันเสียเวลาทำมาหากิน
เป็นเซลมีขึ้นมีลง สัจธรรมชีวิต มันมีช่วงขายได้และยอดตก ก็ต้องอดทน จะตัดใจทิ้งมันไปมันง่ายนิดเดียว แต่ก็อาจจะวนมาทำเซลอีกแหละค่ะ ก็จะเจอวนเวียนเดิม ๆ ช่วงยอดตก ทำบุญค่ะ ฮาๆๆๆ มันมองไม่เห็นแต่เราว่ามันก็ช่วยน่ะ ผ่านมันไปให้ได้ แม้จะรู้สึกเครียด ชีวิตไม่เหลืออะไร นายเรียกคุย กดดันสุด ๆ คนที่เค้าตำแหน่งสูง ๆ ก็ผ่านช่วงพวกนี้มาแล้ว ฝ่าไป ขยันให้มากขึ้น หาลูกค้าให้มากขึ้น เดี๋ยวก็มีอะไรดี ๆ มา เราเชื่อเรื่องความขยันและดวงด้วย
แต่เป็นเซลมีข้อดีคือ อิสระ ชีวิตจะไปไหนมาไหนก็บอกไปหาลูกค้าได้ กลับเร็วได้ แต่คุณต้องจัดสรรเวลาให้เหมาะสม ช่วงไหนมีงานก็ดึกรับผิดชอบให้เต็มที่ งานจะเข้ามาเป็นช่วง ๆ กะ หลินหุ้ย ตึ่งโป๊ะ! ประมาณนี้ค่อนข้างยืดหยุ่น ซึ่งเราชอบมาก และเรื่องเงิน ที่พอออกทีก็หายเหนื่อยมีโอกาสทำเงินได้มาก จากประสบการณ์สบักสบอมผ่านมาหมด แต่ใจต้องสู้ค่ะ อย่างที่บอก ถ้าเดินออกไปง่ายนิดเดียว แต่มันก็จะวนมาที่เดิมด้วยคำถามที่ว่า ทำเต็มที่แล้วหรือยัง แต่ละที่ควรอยู่นานหน่อย (หากบริษัทยินดีให้เราอยู่น่ะ) มันเพิ่มประสบการณ์ได้ รู้อะไรเยอะขึ้นก็จะขายได้มากขึ้น มองหากลุ่มลูกค้าเจอ ทำแป้บ ๆ ยังไงก็ไม่มีทางสำเร็จ มันยังไม่เห็นอะไรก็ท้อใจลาออก ถ้ารู้สึกว่าไม่เหมาะก็ลองหาอันอื่นในเวลาที่เหมาะสม แต่ก็ต้องเริ่มใหม่ ไต่เต้าไปเรื่อย เราว่าช่วงแรก ๆ เป็นช่วงคัดเลือกว่าใครคือตัวจริงน่ะ ใครคือ the face ฮาๆๆ โชคดีน่ะค่ะ อย่าไปกลัว แต่อยากให้ลองมันเป็นอาชีพที่สนุกน่ะ
สารพันปัญหาเซล
ปล. เราเป็นเซลแนว IT telecom หากจะนำไปปรับใช้ได้กะแนวอื่นบ้าง
เป็นเซลต้องมีรถไหมกลัวซื้อแล้วทำไม่ได้ รถต้องขายต่อ ขับไม่คล่อง?
- ตอนเราเป็นเซลออกรถเองเราก็ขับไม่คล่อง เราก็ซื้อรถเลย ให้พี่ชายนั่งรถไปด้วย ขับก็ไม่ค่อยเป็น แต่ก็ไปสอบใบขับขี่ ไปสอบสามรอบกว่าจะได้ ลูกค้าเราแนว กทม ก็บางทีแท๊กซี่บ้าง บริษัทออกค่าน้ำมันให้เป็นรายเดือน ค่าเสื่อม เพราะฉะนั้นก็ไม่มีปัญหา ถ้าคุณยังไม่ซื้อรถก็ได้ลองไปสัมภาษณืก่อนว่าได้งานแนวไหน บอกบริษัทไปว่ามีแผนจะซื้อถ้าได้งาน
เป็นเซลโหดร้ายไหม?
- เป็นเซลมันก็โหดและไม่โหด คือถ้าเจอบริษัทที่ถูกกะจริตเรา อยู่ในข่ายที่เราสนใจมันจะไม่โหดค่ะ มันจะได้รู้ในสิ่งที่เราสนใจ คุยกะลูกค้าก็สนุกเหมือนแลกเปลี่ยนความรู้ อันนี้ต้องถามตัวเองว่าสนใจเรื่องไหน เช่นหากสนใจแนวหวือหวาก็ไปขายโฆษณาดิจิตัล หรือ หนังสือแฟชั่น แบบ AE ประมาณนี้ค่ะ หรือถ้าสนแนวเทคโนโลยี handheld ก็ไปเป็นเซลมือถือดูแล dealer คือหาอะไรให้อยู่ในกรอบที่เราสนใจ จะทำได้นาน และเซลเค้าวัดจากยอดขายมันเลยมีตัววัดที่ชัดเจนกว่าแผนกอื่น จะว่ายากมันก็มีบ้าง ฟลุคก็มี
อ้วนค่ะ ทำเซลได้ไหมค่ะ?
- เรื่องหุ่นเราว่าเป็นเรื่องรองจากบุคลิกค่ะ เพราะเราเลยคำว่าอวบแต่ไม่เคยหางานไม่ได้ค่ะ แต่งตัวให้ดูดีแนว ๆ Business fashion ได้ อย่าสั้นมาก เดี๋ยวนี้เจอบางบริษัทเน้นให้นุ่งสั้น เสื้อคอต่ำ อย่าไปทำมันค่ะ ชื่อเสียงในอนาคตสำคัญกว่า และลูกค้าจะรู้ขอบเขตว่าเรามาขายของ แต่งานบางอย่างก็อาศัยหุ่น เช่น ขายคอร์สลดความอ้วน ก็อย่าไปสมัครเพราะไม่ได้แน่ ๆ
เซล ตจว ได้เงินเยอะกว่าเซล กทม เป็นผู้หญิงกลัวอันตราย?
- เราก็เป็นเซลอยู่ที่กรุงเทพ แต่ก็มีลูกค้าต่างจังหวัดบ้าง แต่เป็นจังหวัดใกล้เคียง ปกติในธุรกิจเรา การเดินทางจะเดินทางกับ engineer ซึ่งไม่ได้อันตรายอะไรค่ะ นอกจากเจอ engineer ที่ดูอันตราย 555 ล้อเล่นค่ะ บางทีมีหัวหน้าเซลอีก หลายฝ่าย ลูกค้าจะเข้าใจ ไม่เอะอะให้มาหาบ่อย ๆ และรายได้ไม่ได้น้อยกว่ากันน่ะ เอาที่เราทำงานสบายใจเวลาไปขายจะมั่นใจ จะทำงานและเงินได้ดี ปลอดภัยกะชีวิต ตจว อาจจะไม่เหมาะกะผู้หญิงเท่าไหร่หากเราไม่เคยอยู่มาก่อน ไม่ต้องไปทำหรอกค่ะ เราว่ารายได้ไม่ต่างกันหรอก ธุรกิจมันก็กระจุกที่ กทม นอกจากวิ่งโรงงานก็แนวรอยต่อ กทม
ส่วนใหญ่รับเซลแบบมีประสบการณ์ หางานจะยากมากหากไม่มีเส้น?
- แรก ๆ ไม่มีประสบการณ์มันยากทั้งนั้นแหละค่ะ แต่ก็หมั่นขยันหา ส่งไป resume เพราะคนไม่เคยทำเซลบางทีเค้าไม่อยากรับกลัวทำไม่ได้ก็ลาออก เจอเยอะค่ะ เทรนไปเสียเวลา เวลาไปสมัคร ยิ้มแย้มแจ่มใสมีลูกล่อลูกชน โชว์บุคลิก มองโลกในแง่บวก แต่ก็มีความมุ่งมั่นว่าให้บริษัทเปิดโอกาสให้เรา เราเรียนรู้เร็ว และสามารถจะทำยอดให้บริษัทได้ มีอะไรที่คิดว่าเหนือคนอื่น บอกไปค่ะ เช่น ภาษาอังกฤษพูดได้อ่านดีเขียนคล่อง เซลตัวเองประมาณว่าให้โอกาสเราเถอะ และเมื่อได้เริ่มแล้ว มันจะยากขึ้น เครียดขึ้น แรก ๆ ทุกคนเป็นแบบนี้ นอกจากบริษัทมีลูกค้าเก่าบางส่วนให้ดูแล ซึ่งอันนี้ขอให้คุยเพราะมันจะทำให้เราได้ฝึกฝีมือ และเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น ขอเค้าดูแลรายเล็ก ๆ ก็ได้ และเปิดลูกค้าใหม่ไปด้วย โทรหา โทรนัด ส่งโปรไฟล์เข้าไป ทำให้เยอะที่สุด เหมือนส่ง 100 ได้ 1 จะได้ 10 ก็ต้องส่ง 1000 แรก ควรเลือกบริษัทใหญ่หน่อยก็ดีค่ะ เค้ามีเครื่องไม้เครื่องมือให้ เช่น โทรศัท์มือถือ มี database ลูกค้า มีระบบที่เป็นระบบหลังการขาย มีคู่มือการขาย มีเทรนนิ่ง
งานเซลยากและกดดัน กลัวทำไม่ได้ ทำไงดี?
ช่วงแรกๆ วัดใจเซลใหม่ จะลาออกกันเยอะเพราะขายไม่ได้ ไม่เหมาะ ทำไม่ได้ กดดัน เครียด แต่เราขอให้สู้ก่อน ถ้าไม่ถึงที่สุด จริง ๆ มันจะติดอยู่ในใจว่าจริงๆ อาจจะทำได้ก็ได้ถ้าเราทำแบบนี้ หรือ แบบนี้ ไม่งั้นแล้วทั้งชีวิต มันจะกลับไป กลับมา ไม่ได้ไปสู่ที่ตำแหน่งสูง ๆ เพราะเริ่มใหม่บ่อย จุดสำคัญคือ หัวหน้าคือเมนเทอร์ เจอหัวหน้าที่สอนงาน หนีบเราไป ให้เราเห็นเวลาเข้าลูกค้าจะประเสริฐมาก เพราะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในการตอบลูกค้าสำคัญมากค่ะ หรือเพื่อนร่วมงาน ในกรณีไม่มีลูกค้าเก่าให้ดูแล หาเพื่อนร่วมงานที่อาจจะอยู่ทีมเดียวกันยินดีหนีบคุณไปเรียนรู้งานด้วย ซึ่งไม่ง่ายเพราะจะว่าไปก็แข่งกันอยู่นิด ๆ เรื่องของเรื่องห้ามไปแย่งลูกค้าเพื่อน หรือแทงข้างหลัง วงการเซลมันแคบเนอะ ยังไงก็เจอกัน ยิ่งธุรกิจที่เราอยู่นี่ก็หน้าเดิม ๆ ย้ายไปมา ถ้าบริษัทแบ่งตลาดชัดเจนก็น่าทำ มันจะตัดปัญหาเรื่องลูกค้าของใคร มานั่งทะเลาะกันเสียเวลาทำมาหากิน
เป็นเซลมีขึ้นมีลง สัจธรรมชีวิต มันมีช่วงขายได้และยอดตก ก็ต้องอดทน จะตัดใจทิ้งมันไปมันง่ายนิดเดียว แต่ก็อาจจะวนมาทำเซลอีกแหละค่ะ ก็จะเจอวนเวียนเดิม ๆ ช่วงยอดตก ทำบุญค่ะ ฮาๆๆๆ มันมองไม่เห็นแต่เราว่ามันก็ช่วยน่ะ ผ่านมันไปให้ได้ แม้จะรู้สึกเครียด ชีวิตไม่เหลืออะไร นายเรียกคุย กดดันสุด ๆ คนที่เค้าตำแหน่งสูง ๆ ก็ผ่านช่วงพวกนี้มาแล้ว ฝ่าไป ขยันให้มากขึ้น หาลูกค้าให้มากขึ้น เดี๋ยวก็มีอะไรดี ๆ มา เราเชื่อเรื่องความขยันและดวงด้วย
แต่เป็นเซลมีข้อดีคือ อิสระ ชีวิตจะไปไหนมาไหนก็บอกไปหาลูกค้าได้ กลับเร็วได้ แต่คุณต้องจัดสรรเวลาให้เหมาะสม ช่วงไหนมีงานก็ดึกรับผิดชอบให้เต็มที่ งานจะเข้ามาเป็นช่วง ๆ กะ หลินหุ้ย ตึ่งโป๊ะ! ประมาณนี้ค่อนข้างยืดหยุ่น ซึ่งเราชอบมาก และเรื่องเงิน ที่พอออกทีก็หายเหนื่อยมีโอกาสทำเงินได้มาก จากประสบการณ์สบักสบอมผ่านมาหมด แต่ใจต้องสู้ค่ะ อย่างที่บอก ถ้าเดินออกไปง่ายนิดเดียว แต่มันก็จะวนมาที่เดิมด้วยคำถามที่ว่า ทำเต็มที่แล้วหรือยัง แต่ละที่ควรอยู่นานหน่อย (หากบริษัทยินดีให้เราอยู่น่ะ) มันเพิ่มประสบการณ์ได้ รู้อะไรเยอะขึ้นก็จะขายได้มากขึ้น มองหากลุ่มลูกค้าเจอ ทำแป้บ ๆ ยังไงก็ไม่มีทางสำเร็จ มันยังไม่เห็นอะไรก็ท้อใจลาออก ถ้ารู้สึกว่าไม่เหมาะก็ลองหาอันอื่นในเวลาที่เหมาะสม แต่ก็ต้องเริ่มใหม่ ไต่เต้าไปเรื่อย เราว่าช่วงแรก ๆ เป็นช่วงคัดเลือกว่าใครคือตัวจริงน่ะ ใครคือ the face ฮาๆๆ โชคดีน่ะค่ะ อย่าไปกลัว แต่อยากให้ลองมันเป็นอาชีพที่สนุกน่ะ