สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
หลักที่จะตัดสินว่า การกระทำอะไรเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย (ตาม ป.อ.มาตรา 68)
ผมมีทฤษฎีทางกฎหมายเสนอให้ 2 ทฤษฎีนะครับ ฝากเป็นการบ้านให้ทุกคนเอาไปคิดต่อนะครับ
1.ทฤษฎีการพอสมควรแก่เหตุ ทฤษฎีนี้มีหลักการว่า การที่คุณจะ"อ้าง"การป้องกันตัวได้อย่างถูกกฎหมายนั้น สิ่งที่คนร้ายทำกับสิ่งที่คุณกระทำกับเค้า ต้องเท่าเทียมกัน เช่น คนร้ายเจตนาจะฆ่าโดยเอาปืนขนาด .45 กระหน่ำยิงคุณ คุณใช้ปืนของคุณยิงใส่คนร้ายตาย ตามทฤษฎีนี้ คุณไม่ผิดครับเพราะถือว่า ภยันตรายที่เค้าทำกับคุณ เท่าเทียมกับสิ่งที่คุณทำเค้า(เค้าจะฆ่าเรา เราก็ฆ่าตอบ)
แต่ถ้าในกรณีใหม่ ตามโจทย์ โจรกระชากกระเป๋าแล้ววิ่งหนี จังหวะโจรวิ่งหนีเรายิงสกัดเข้าแผ่นหลังโจรนัดนึง สมมุติโจรตาย ตามทฤษฎีนี้ คุณผิด เพราะ ความรุนแรงของการที่โจรที่ขโมยเงินคุณ กับการที่คุณฆ่าเค้า มันไม่ได้สัดส่วนกัน(พูดง่ายๆ คือ ทำรุนแรงเกินไป)
2. ทฤษฎีวิถีทางที่น้อยที่สุด ทฤษฎีนี้มีหลักการว่า ถ้าเราได้ใช้วิธีทางที่น้อยที่สุดที่เราจะกระทำเพื่อป้องกันตัว ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินแล้ว แม้ว่าความรุนแรงจะไมไ่ด้สัดส่วนกัน เราก็ถือว่าป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุครับ
เช่น
นายแดง ตบหน้านายเขียวไม่หยุด ทั้งที่นายเขียวตัวเล็กนิดเดียว นายแดงตัวใหญ่แข็งแรงกว่ามาก
นายเขียว บอกให้นายแดงหยุด นายแดงก็ไม่หยุด นายเขียวไม่สามารถขัดขืน หรือหนีจากนายแดงไปได้เลย เพราะนายแดงตัวใหญ่และแข็งแรงกว่ามาก
วิธีเดียวที่นายเขียวจะหยุดนายแดงขณะนั้นได้ คือการใช้มีดด้ามนึงที่วางอยู่ใกล้ๆหยิบมีดนั้นขึ้นมา แล้วจ้วงแทงไปใส่นายแดง
นายแดงล้มลงตาย ตามทฤษฎีนี้นายเขียวป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุครับ เพราะ ข้อเท็จจริงได้ความว่า การที่นายเขียวแทงนายแดง นั้น เป็นวิถีทางที่น้อยที่สุดที่จะหยุดนายแดงในขณะนั้นได้ แม้ว่า ความรุนแรงที่นายเขียวทำ(ฆ่า) กับที่นายทำได้(ตบหน้า-ทำร้ายร่างกาย) จะไม่ได้สัดส่วนกันก็ตาม
ตามกรณีที่ถาม โจรกระชากกระเป๋าแล้ววิ่งหนี จังหวะโจรวิ่งหนีเรายิงสกัดเข้าแผ่นหลังโจรนัดนึง สมมุติโจรตาย ถ้าข้อเท็จจริงได้ความว่า การที่เราจะหยุดคนร้ายได้นั้น มีวิธีเดียวคือการยิงปืนเข้าใส่คนร้ายในขณะนั้น หากไม่ทำ คนร้ายจะหนีไปได้ ตามทฤษฎีนี้เจ้าทรัพย์ก็ไม่ผิดครับ เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ เพราะ จำเลยได้ใช้วิถีทางที่น้อยที่สุดในการปกป้องทรัพย์สินของตนเองแล้ว แม้ว่าความเสียหายในชีวิตของโจร กับทรัพย์สินของเรานั้น จะไม่ได้สัดส่วนกันก็ตาม
นี่เป็นเพียง 2 ทฤษฎีหลักๆ ที่ใช้ในการตัดสินว่า การกระทำนั้นเป็นการพอสมควรแก่เหตุหรือไม่เท่านั้นครับ
ส่วนศาลท่านจะตัดสินโดยอ้างอิงทฤษฎีไหน ผมก็คงไม่อาจทราบได้ครับ ก็คงฝากท่านๆคนรุ่นใหม่เอาไปคิดเป็นการบ้านต่อแล้วล่ะครับ
ผมมีทฤษฎีทางกฎหมายเสนอให้ 2 ทฤษฎีนะครับ ฝากเป็นการบ้านให้ทุกคนเอาไปคิดต่อนะครับ
1.ทฤษฎีการพอสมควรแก่เหตุ ทฤษฎีนี้มีหลักการว่า การที่คุณจะ"อ้าง"การป้องกันตัวได้อย่างถูกกฎหมายนั้น สิ่งที่คนร้ายทำกับสิ่งที่คุณกระทำกับเค้า ต้องเท่าเทียมกัน เช่น คนร้ายเจตนาจะฆ่าโดยเอาปืนขนาด .45 กระหน่ำยิงคุณ คุณใช้ปืนของคุณยิงใส่คนร้ายตาย ตามทฤษฎีนี้ คุณไม่ผิดครับเพราะถือว่า ภยันตรายที่เค้าทำกับคุณ เท่าเทียมกับสิ่งที่คุณทำเค้า(เค้าจะฆ่าเรา เราก็ฆ่าตอบ)
แต่ถ้าในกรณีใหม่ ตามโจทย์ โจรกระชากกระเป๋าแล้ววิ่งหนี จังหวะโจรวิ่งหนีเรายิงสกัดเข้าแผ่นหลังโจรนัดนึง สมมุติโจรตาย ตามทฤษฎีนี้ คุณผิด เพราะ ความรุนแรงของการที่โจรที่ขโมยเงินคุณ กับการที่คุณฆ่าเค้า มันไม่ได้สัดส่วนกัน(พูดง่ายๆ คือ ทำรุนแรงเกินไป)
2. ทฤษฎีวิถีทางที่น้อยที่สุด ทฤษฎีนี้มีหลักการว่า ถ้าเราได้ใช้วิธีทางที่น้อยที่สุดที่เราจะกระทำเพื่อป้องกันตัว ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินแล้ว แม้ว่าความรุนแรงจะไมไ่ด้สัดส่วนกัน เราก็ถือว่าป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุครับ
เช่น
นายแดง ตบหน้านายเขียวไม่หยุด ทั้งที่นายเขียวตัวเล็กนิดเดียว นายแดงตัวใหญ่แข็งแรงกว่ามาก
นายเขียว บอกให้นายแดงหยุด นายแดงก็ไม่หยุด นายเขียวไม่สามารถขัดขืน หรือหนีจากนายแดงไปได้เลย เพราะนายแดงตัวใหญ่และแข็งแรงกว่ามาก
วิธีเดียวที่นายเขียวจะหยุดนายแดงขณะนั้นได้ คือการใช้มีดด้ามนึงที่วางอยู่ใกล้ๆหยิบมีดนั้นขึ้นมา แล้วจ้วงแทงไปใส่นายแดง
นายแดงล้มลงตาย ตามทฤษฎีนี้นายเขียวป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุครับ เพราะ ข้อเท็จจริงได้ความว่า การที่นายเขียวแทงนายแดง นั้น เป็นวิถีทางที่น้อยที่สุดที่จะหยุดนายแดงในขณะนั้นได้ แม้ว่า ความรุนแรงที่นายเขียวทำ(ฆ่า) กับที่นายทำได้(ตบหน้า-ทำร้ายร่างกาย) จะไม่ได้สัดส่วนกันก็ตาม
ตามกรณีที่ถาม โจรกระชากกระเป๋าแล้ววิ่งหนี จังหวะโจรวิ่งหนีเรายิงสกัดเข้าแผ่นหลังโจรนัดนึง สมมุติโจรตาย ถ้าข้อเท็จจริงได้ความว่า การที่เราจะหยุดคนร้ายได้นั้น มีวิธีเดียวคือการยิงปืนเข้าใส่คนร้ายในขณะนั้น หากไม่ทำ คนร้ายจะหนีไปได้ ตามทฤษฎีนี้เจ้าทรัพย์ก็ไม่ผิดครับ เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ เพราะ จำเลยได้ใช้วิถีทางที่น้อยที่สุดในการปกป้องทรัพย์สินของตนเองแล้ว แม้ว่าความเสียหายในชีวิตของโจร กับทรัพย์สินของเรานั้น จะไม่ได้สัดส่วนกันก็ตาม
นี่เป็นเพียง 2 ทฤษฎีหลักๆ ที่ใช้ในการตัดสินว่า การกระทำนั้นเป็นการพอสมควรแก่เหตุหรือไม่เท่านั้นครับ
ส่วนศาลท่านจะตัดสินโดยอ้างอิงทฤษฎีไหน ผมก็คงไม่อาจทราบได้ครับ ก็คงฝากท่านๆคนรุ่นใหม่เอาไปคิดเป็นการบ้านต่อแล้วล่ะครับ
ความคิดเห็นที่ 52
หมายความว่าถ้าเราจะยิงโจรได้ก็ต้องให้โจรยกปืนมาจอที่ตัวเราก่อนหรือครับ เราถึงมีสิทธิยิงได้
ผมว่าชาวบ้านธรรมดาไม่มีใครสามารถทำได้หรอกครับ
ใครจะไปตอบโต้ทันเหมือนในหนังชักปืนทีหลังยิงโดนก่อน
ทำไมกฎหมายเป็นแบบนี้ครับ ผมไม่ได้เรียนกฏหมายถ้าเข้าใจอะไรผิดขออภัยล่วงหน้าครับ
แต่เรื่องเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าคุณโจรไม่เริ่มก่อน
ถ้าคุณโจรไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นก่อนก็ไม่มีเรื่องครับ
คนหาเรืองสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น กฎหมายกลับปกป้องอย่างเต็มที่
ไม่สนใจว่าใครสร้างความเดือดร้อนให้สังคม
ผมว่าชาวบ้านธรรมดาไม่มีใครสามารถทำได้หรอกครับ
ใครจะไปตอบโต้ทันเหมือนในหนังชักปืนทีหลังยิงโดนก่อน
ทำไมกฎหมายเป็นแบบนี้ครับ ผมไม่ได้เรียนกฏหมายถ้าเข้าใจอะไรผิดขออภัยล่วงหน้าครับ
แต่เรื่องเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าคุณโจรไม่เริ่มก่อน
ถ้าคุณโจรไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นก่อนก็ไม่มีเรื่องครับ
คนหาเรืองสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น กฎหมายกลับปกป้องอย่างเต็มที่
ไม่สนใจว่าใครสร้างความเดือดร้อนให้สังคม
ความคิดเห็นที่ 50
สรุป แล้ว กฏหมาย ศาล ตำรวจ ฯลฯ มีไว้เพื่อความเท่าเทียมและระเบียบในสังคม เห็นด้วย แต่พลเมืองดีต้องเป็นฝ่ายสูญเสียมากกว่าหรือเปล่า ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ แต่ต้องไม่ละเมิดคนอื่น
กรณีเจ้าของกระทู้ยกมา เงิน 2 ล้านอาจเป็นเงินเก็บทั้งชีวิต ถ้าไม่ทำอะไรเลย โจรจะได้เงินไปง่ายๆ ตำรวจก็ไม่สามารถมาช่วยได้ทัน เผอิญ เรามีปืน เราต้องการหยุดยั้งโจรที่ละเมิดเรา ถ้าไม่ทำ ไม่มีอะไรการันตีได้ว่า เราจะได้เงินคืน รัฐ ตำรวจ ศาล ก็ช่วยไม่ได้ ต่อให้จับโจรได้ แต่เงินใช้ไปหมดแล้ว ใครจะเอาคืนมาให้ ไม่หยุดยั้งก็เสียเงิน ทำอะไรไปมีความผิดฐานกระทำเกินกว่าเหตุ แล้วถ้าไม่ทำอะไรเลย กลับบ้านไปทนทุกข์ไม่มีเงิน แต่โจรได้เงินไปใช้โดยไม่ต้องทำงานทำการ
ก่อนโจรจะลงมือเค้ามีทางเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ ถ้าของกลางอยู่ที่โจร เจ้าของเงินมีใบพกพาอาวุธมีใบอนุญาติ เจ้าทรัพย์ยิงโจรตาย จริงๆแล้วก็ทำเพื่อปกป้องทรัพย์สิน และโจรเลือกที่จะชิงทรัพย์เองก็ควรได้รับผลจากการกระทำของตัวเอง(หรือเปล่า)
หลายๆคนคงเคยเห็นคลิบที่ มอไซด์กระชากกระเป๋าผู้หญิงจนล้มคว่ำล้มหงายหรือถีบรถจนล้ม โดยไม่สนใจว่าเจ้าทรัพย์จะเป็นยังไง ถึงแม้จะเป็นการชิงทรัพย์โดยไม่ใช้อาวุธ แต่ไม่ได้คำนึงถึงผลจากการกระทำเลยว่าเจ้าทรัพย์จะบาดเจ็บอย่างไร หรืออาจเสียชีวิต
กรณีนี้พอดูคลิบแล้วของขึ้นมากๆ คิดเล่นๆว่าถ้าอยู่ในเหตุการณ์ และคุณขับรถ หรือมีปืน คุณจะทำยังไงกับไอ้โจรพวกนี้...............
กรณีเจ้าของกระทู้ยกมา เงิน 2 ล้านอาจเป็นเงินเก็บทั้งชีวิต ถ้าไม่ทำอะไรเลย โจรจะได้เงินไปง่ายๆ ตำรวจก็ไม่สามารถมาช่วยได้ทัน เผอิญ เรามีปืน เราต้องการหยุดยั้งโจรที่ละเมิดเรา ถ้าไม่ทำ ไม่มีอะไรการันตีได้ว่า เราจะได้เงินคืน รัฐ ตำรวจ ศาล ก็ช่วยไม่ได้ ต่อให้จับโจรได้ แต่เงินใช้ไปหมดแล้ว ใครจะเอาคืนมาให้ ไม่หยุดยั้งก็เสียเงิน ทำอะไรไปมีความผิดฐานกระทำเกินกว่าเหตุ แล้วถ้าไม่ทำอะไรเลย กลับบ้านไปทนทุกข์ไม่มีเงิน แต่โจรได้เงินไปใช้โดยไม่ต้องทำงานทำการ
ก่อนโจรจะลงมือเค้ามีทางเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ ถ้าของกลางอยู่ที่โจร เจ้าของเงินมีใบพกพาอาวุธมีใบอนุญาติ เจ้าทรัพย์ยิงโจรตาย จริงๆแล้วก็ทำเพื่อปกป้องทรัพย์สิน และโจรเลือกที่จะชิงทรัพย์เองก็ควรได้รับผลจากการกระทำของตัวเอง(หรือเปล่า)
หลายๆคนคงเคยเห็นคลิบที่ มอไซด์กระชากกระเป๋าผู้หญิงจนล้มคว่ำล้มหงายหรือถีบรถจนล้ม โดยไม่สนใจว่าเจ้าทรัพย์จะเป็นยังไง ถึงแม้จะเป็นการชิงทรัพย์โดยไม่ใช้อาวุธ แต่ไม่ได้คำนึงถึงผลจากการกระทำเลยว่าเจ้าทรัพย์จะบาดเจ็บอย่างไร หรืออาจเสียชีวิต
กรณีนี้พอดูคลิบแล้วของขึ้นมากๆ คิดเล่นๆว่าถ้าอยู่ในเหตุการณ์ และคุณขับรถ หรือมีปืน คุณจะทำยังไงกับไอ้โจรพวกนี้...............
แสดงความคิดเห็น
โจรกระชากกระเป๋าแล้ววิ่งหนี จังหวะโจรวิ่งหนีเรายิงสกัดเข้าแผ่นหลังโจรนัดนึง โจรตาย .. เราผิดฆ่าคนตายโดยเจตนาไหม
เราชักปืนยิงสกัดเข้าแผ่นหลังนัดนึง(เลือกแผ่นหลังเพราะเป้าใหญ่)
โจรล้มลงขาดใจตาย เราผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไหม ถ้าผิด กระบวนการยุติธรรมต้องการให้สุจริตชนทำอย่างไร
ปล่อยโจรไปให้ตำรวจตามสืบตัวทีหลัง ถ้าได้เงินคืนก็โชคดีไป ถ้าตามเงินไม่ได้ก็ซวยไป
อย่างนั้นหรือ?
ขอแท็คห้องอาวุธ ห้องนี้จนท.น่าจะเยอะ