[CR] หนึ่งคืนที่อินทนนท์และหนึ่งคืนที่ป่าสนวัดจันทร์ ตามหาพญาเสือโคร่งและใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสี



หลังจากที่ปล่อยให้เพื่อนๆ ไปเที่ยวกันในช่วงปีใหม่ ก็มาถึงเวลาของเราสามคนบ้าง เราเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ไปเชียงใหม่บ่อยมาก แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าตรงที่ เราไปสัมผัสหนาวแรกที่ดอยอินทนนท์ แล้วย้อนกลับไปป่าสนวัดจันทร์ (ขับรถไกลมากกก)

เราออกจาก กรุงเทพฯ คืนวันที่ 15 ม.ค.โดยนครชัยแอร์ เผลหลับแปปเดียวตื่นมาก็ถึงเชียงใหม่แล้ว
อากาศตอนกำลังเช้าสบาย จากนั้นเราก็ใช้บริการรถแดง ไปที่สนามบินเชียงใหม่ เพื่อรับรถที่จองไว้กับ Chic Car Rent และมุ่งหน้าสู่ดอยอินทนนท์กันเลย ระหว่างทางเจอร้านน่ารักๆ ที่ชื่อว่า ต๊ะ ต่อน ยอน Coffee & Cafe เลยแวะจิบกาแฟนิดหน่อย




คืนแรกเราพักที่ ดอยชัวร์ญ่าวิวสวย อากาศเย็นสบายดีมาก คนก็เยอะมาก ลานกางเต๊นท์งี้แน่นเลย หลังจากพักล้างหน้าแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อผ้า .. ใช่ค่ะ เช้านี้เรายังไม่ได้อาบน้ำกันเลย ฮ่าๆ เรามุ่งหน้าไปขุนวางกัน









ขุนวาง รถเยอะ คนแยะ จุดไฮท์ไลท์ที่ควรเป็นอุโมงค์ดอกพญาเสือโคร่งนั้นกลับยังไม่ค่อยบานเลยไม่ได้เก็บภาพมาเท่าที่ควร  ระหว่างทางกลับเราแวะ .. รองเท้านารี กันด้วย สอบถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่าที่นี่ดอกพญาเสือโคร่งร่วงไปเยอะแล้วเนื่องจากก่อนหน้านี้ฝนตกดอกเลยร่วงไปหมดเลย

คิดว่าไปแป๊บเดียว แต่กว่าจะกลับถึงที่พักก็เกือบ 5 โมงเย็น เราจึงรีบทำธุระส่วนตัวแล้วออกมาด้านหน้าซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่นั่นก็คือ ร้านหมูกระทะ สบายดี สี่องศา ก็จัดไปกันชุดใหญ่ 600 บาท กิน 3 เกือบไม่หมด เพราะจริงๆ มันชุดสำหรับ 5 คนนะ นั่งกินร้อนๆ ท่ามกลางขุนเขา และแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ และมีแสงไฟมาแทน อากาศก็เย็นลงเรื่อยๆ เช่นกัน นั่งกันได้ประมาณ 1 ทุ่มก็ไม่ไหวกันแล้ว หนาวๆๆ เข้าที่พักกันดีกว่า




เช้านี้จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว กม. 41 และไปเดินกิ่วแม่ปานกัน อุณหภูมิเช้านี้อยู่ที่ 4 องศา หนาวมาก ใส่เสื้อกันคนละ 4 ตัวเลยทีเดียว เราเคยมาเดินกันแล้วครั้งนึงแต่ไม่เช้าขนาดนี้ กว่าจะถึงจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน ก็หอบกันนับไม่ถ้วน แต่ก็ยังสวยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือผู้คน ครั้งนี้คนเยอะมากจริงๆ แถมมีชาวต่างชาติ มาถ่ายรูปสวมชุดแต่งงานกันด้วย











หลังจากเดินเสร็จเราต้องรีบออกจากดอยอินทนนท์เพื่อเดินทางต่อไปที่ที่เป็นไฮท์ไลท์สำหรับเราในทริปนี้นั่นคือ แท่น แท๊นนน ป่าสนวัดจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ไหนๆ ก็มาทางนี้แล้ว จึงขอแวะชมความอลังการของ ผาช่อ อุทยานแห่งชาติขุนวางกันหน่อยละกัน



จากนั้นเรามุ่งหน้าไปยังถนนเส้นที่คุ้นเคย 1095 ปาย นั่นเอง ตอนนี้ถนนกำลังปรับปรุงตลอดเส้นทาง วันก่อนที่เราจะไป ที่ปายได้จัด “ปาย ไบค์วีค” ระหว่างทางจึงเห็นมอเตอร์ไซค์ขับสวนมาเป็นจำนวนมากกก ส่วนคนเดินทางไปอย่างเราไม่ค่อยมีคงเพราะเป็นวันอาทิตย์แล้ว

6 โมงเย็น ถึงโครงการหลวงวัดจันทร์ หลังจากให้คนขับรถพักเหนื่อย  เดินเล่นชมอ่างเก็บน้ำกันก่อนมาถ่ายรูปจริงพรุ่งนี้เช้าแป๊บนึง จึงออกมาทานอาหารเย็น อ่อ อาหารสามารถเติมได้นะคะ อิ่มอร่อย คุ้มค่ากับราคาคนละ 150 บาท ก่อนนอนคืนนี้มีนัดแดงเดือด ขอดูที่นี่เลยละ ผลคงไม่ต้องพูดถึง ฮ่า ฮ่า ฮ่า




6 โมงเช้า กับอุณหภูมิ 3 องศา เราตรงไปที่อ่างเก็บน้ำ และสิ่งที่ปรากฏตรงหน้านั่นคือ หมอกและหมอกและหมอก หมอกรอบตัวเลย แค่หายใจออกก็มีไอออกจากปากแล้ว อากาศเย็นมาก ที่อ่างเก็บน้ำมีแต่หมอกสวยมาก แทบมองไม่เห็นผิวน้ำเลย หมอกปลิวไปตามกระแสลม เป็นภาพที่น่าจดจำที่สุดของทริปนี้











และอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือ ต้นเมเปิ้ลกันที่เรียงกันริมบ่อน้ำและเป็นช่วงที่ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม สีแดง กับแสงยามเช้าทำให้ได้ภาพน่าประทับใจกลับมาอีกเช่นกัน





อากาศเย็นจนเอามือจับแก้วน้ำร้อนแต่ไม่รู้สึกอะไร เพราะมันชาไปหมด หลังจากอาหารเช้า ได้เวลาบอกลาป่าสนวัดจันทร์กันแล้ว แต่ก่อนจะกลับเมืองเชียงใหม่เราได้มาแวะไหว้พระที่วัดจันทร์ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ วิหารเรย์แบน



หลังจากขับยาวแบบไม่พักจนถึงสนามบินเชียงใหม่ เราสามคนก็พร้อม (รึเปล่า) ที่จะกลับไปเป็นมนุษย์เงินเดินอีกครั้ง

ขอบคุณที่ติดตามรับชมกันนะคะ
ชื่อสินค้า:   ป่าสนวัดจันทร์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่