สวัสดีค่ะ วันนี้จะมา review การไปเที่ยวแถบคันไซนะคะ และแถบเมืองอิวามิ จังหวัด ทตโทริ ค่ะ
ก็เป็นบ้านเกิดของ Rinchan กับ Souchan นี่นะ
วันที่เดินทาง 22-28 Jan 2016
22 Jan 2016
เดินทางด้วยสายการบิน Thai Airasia X ออกจากไทย เวลาไทย 15.45 pm ถึง Kansai Airport เวลาญี่ปุ่น 22.40 pm ค่ะ



เลยต้องนอนสนามบิน 1 คืน ไม่เคยนอนสนามบินมาก่อน เลยกึ่งหลับกึ่งตื่นค่ะ (มีหลายคนนอนอยู่)

23 Jan 2016
เวลา 04.30 am ก็ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟัน หาอะไรกินค่ะ เพื่อเตรียมออกเดินทางเข้า Namba
การเดินทางนะคะ ก็ใช้ Kansai Thru Pass 2 days  นั่งรถไฟสาย Nankai from Kansai airport to Namba ค่ะ
ก็เอากระเป๋าไปเก็บก่อนนะคะ ที่ Ken’s House Namba
ไปถึงโน่นก็เช้าจริง 7 โมงกว่า Check-in ฝากกระเป๋า เรียบร้อย เดินทางสู่ จุดหมายที่แรกค่ะ
Kinki Daigaku ค่ะ location ต้นแบบโรงเรียน Samezuka ค่ะ (โรงเรียนของ Rinchan and Souchan)



การเดินทาง เรานั่งรถไฟจาก Namba station มาลง Yaenosto station ค่ะ สามารถเข้ามหาวิทยลัยได้ค่ะ คนละฝั่งกับหน้าประตูทางเข้าค่ะ



ภายในก็ดูกว้างขวางดีค่ะ สายตาเราก็ focus หา สถานที่ที่เป็นต้นแบบ scene ใน anime ทันที แต่ก็ดันจำ scene ได้ไม่หมด เสียดายมากกกก



เดินไปเดินมา ถ่ายรูปหลายรูป เจอโรงอาหาร ที่ Rinchan and Souchan มาทานอาหารกัน



พอเข้ามาภายในโรงอาหารนะคะ จะมีตู้ให้กดเมนูอาหารค่ะ ว่าจะทานแบบไหน
ตอนแรกคิดว่าจะหาเมนูที่ Rinchan and Souchan ทาน แต่ไม่มี เลยเลือก Kantsudon มาค่ะ ที่สำคัญคือ 350 Yen ถูกจังเลยยยย




มี Rinchan เป็น Presenter ค่ะ
หลังจากทางอิ่มเรียบร้อยแล้ว ก็หา location ต่อค่ะ ที่นี่เราถ่ายหลายรูปอยู่ แต่จำฉากไม่ได้ค่ะ จำได้แค่ประตูโรงเรียนเท่านั้นเอง เสียดายอ่ะ
และขอบอกว่า หนาวววววววมากกกกกกก Osaka



เมื่อเสร็จภารกิจที่ Kinki Daigaku แล้ว ก็เดินทางไป Iwatobi High school ต่อค่ะ
การเดินทาง นั่งรถไฟจาก Nagase station local subway+JR+Nankai ถึง Kishiwada station ค่ะ
เมื่อถึง Kishiwada station ก็เดินทางไป Kishiwada Municipal Welfare Research Center
Credit : http://janchebell.tumblr.com/post/81570063187/brumalbreeze-iwatobi-high-school-building-model
Location ต้นแบบของ Iwatobi High school



ถ่ายได้แต่เฉพาะอาคารภายนอกอย่างเดียว ไม่กล้าขึ้นไป กลัวเจ้าหน้าที่ไม่ให้ขึ้นค่ะ
ก็ได้ถ่ายได้พอประมาณ (โดยรอบอาคารเท่านั้น)




จากนั้นก็เดินทางไปยัง Osaka no Jou ค่ะ (Osaka Castle) ก็ยังคงหนาววอยู่
การเดินทาง นั่งรถไฟจาก Kishiwada staion ถึง Osakajokouen station ค่ะ
ก็เดินผ่าน Osaka Jo Hall แต่เอ๊ะ!!!!!! เป็นสถานที่ที่ Dir en grey เล่น First Live นี่นา
ก็เลยให้ Rinchan ถ่ายรูปซะหน่อย (เป็นติ่ง Dir en grey เช่นกันค่ะ)



จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ ค่ะ ก็จะเจอปราสาท



สวยงามจริงๆ ค่ะ ซื้อตั๋วเสร็จก็ขึ้นปราสาทกันเลย ค่าเข้าชม 600 Yen ค่ะ
จะมีให้ขึ้นข้างบนโดยลิฟต์และบันไดค่ะ เราเลือกขึ้นบันไดค่ะ ลิฟต์คนต่อแถวเยอะ

เมื่อ check-in ที่ Osaka Castle เรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางกลับ Namba ค่ะ แต่ก่อนจะกลับที่พักมีภารกิจที่จะต้องทำอย่างนึงก็คือ “ดูหนัง Free! High speed Staring Days” ค่ะ เป็น The Movie ของ Free! ที่ Namba Park Cinema อยุ่ชั้น 8 ของ Namba Park ค่ะ




(มีลายเซ็น Seiyuu ด้วย)

ค่าตั๋วหนังก็ไม่มากมายค่ะ 1800 Yen! ประมาณ 5xx.xx บาท (จิเป็นลมม) เป็นตั๋วแบบธรรมดาที่สุดค่ะ >*<" (เรท 0.30)
ซึ่งรอบที่ดูก็จะเป็น 18.00 pm ระหว่างรอนั้นก็นั่งดูตัวอย่างหนังเรื่อยๆ ที่ชั้นโรงหนัง ค่ะ

พนักงานของโรงหนังจะให้ลูกค้าเข้าไปในโรงได้ประมาณ 10-15 นาทีก่อนฉายค่ะ
และเข้าไปในโรงหนังแล้วก็เหมือนในไทยค่ะ ตัวอย่างหนังเอย โฆษณาเอย มาหมดค่ะ กินเวลาไปก็ 30 นาทีกว่าๆ ได้
พอจบตัวอย่างหนัง โฆษณาแล้วก็เข้า Movie ค่ะ ขอไม่ spoil นะคะ

พอดูจบแล้ว รู้แต่ว่า ชอบมากค่ะ ending song love แล้วอ่ะ

Aching Horn – Oldcodex

credit : Lantis Global Channel Youtube

กว่าจะดูจบก็ 2 ทุ่มค่ะ
ก็มาถึง Hostel Ken’s House ค่ะ

credit picture : booking.com

website hostel นะคะ http://www.ken-s-house.com/english/

เราพักแบบ Female dorm ค่ะ พัก 2 คืน ค่ะ ก็ประมาณ THB 2,621 (¥8,900) ก็คืนละประมาณ 1,310.5 บาทคะ (เรทที่คิด 0.30)
ที่นี่หลัง 2 ทุ่มแล้ว จะต้องใส่ passcode เพื่อเข้าไปใน hostel ค่ะ
ที่นี่ดีตรงที่ใกล้กับทางเข้า-ออกสถานีรถไฟใต้ดินและ Namba OCAT Bus terminal ค่ะ

(เดี๋ยวมาต่อนะคะ)