เฮลโหล๋ววววว นี่เป็นกระทู้แรกของจขกท.นะคะ นอกจากเป็นกระทู้แรกแล้ว ยังเป็นการไปอินเดียครั้งแรก เข้าร่วมงานแต่งอินเดียครั้งแรกอีกด้วย จขกท.ตั้งใจเล่าเรื่องราวไปเรื่อยๆนะคะ งานแต่งจะอยู่หลังๆหน่อยน้าาาาาาา จขกท.กลับมาได้ประมาณอาทิตย์นึงแล้ว แต่ยุ่งๆอยู่เพิ่งหาเวลามาลงได้ จะเป็นยังไงไปติดตามกันเลยค่าาาาาาา
-ขอแจ้งก่อนว่า สำหรับเรื่องงานแต่งงาน จขกท.ได้มีการขออนุญาตเจ้าบ่าวเจ้าสาวแล้วว่าจะขอเอาเรื่องมาลงพันทิป ซึ่งทั้งคู่เซย์เยส บางรูปก็เป็นรูปที่มาจากกล้อง iPhone 6 บางรูปมาจากกล้อง Fuji XA2 นะคะ ใช้สลับๆกัน มีทั้งเจ้าของกระทู้ถ่ายเองบ้าง แล้วก็มีพี่ที่ไปด้วยกันถ่ายให้บ้างค่ะ
ก่อนอื่นขออนุญาตเล่าแบล็คกราวนด์ซักนิด เจ้าบ่าวเป็นเพื่อนของจขกท. รู้จักกันเพราะจขกท.เคยทำงานธนาคารต่างชาติแห่งหนึ่งในไทย ซึ่งเจ้าบ่าวย้ายมาทำงานที่นี่ ฮีย้ายมาได้ไม่นานก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปเลย จนวันนึงก็แบบนั่งคุยเรื่องแต่งงานกัน เจ้าบ่าวบอกว่าก่อนไอย้ายมานี่ไอขอแฟนแต่งงานไว้แล้ว แพลนไว้ต้นปี 2016 จขกท.นึกสนุกก็เลยถามเจ้าบ่าวไปเล่นๆว่า “เฮ้ย…ไออยากไปงานแต่งยูอ่ะ ไปได้มั้ย?” ปรากฎว่าเจ้าบ่าวดีใจมาก บอกให้บุ๊คตั๋วเลย “ยูสัญญาละนะ” ช็อคค่ะ!! นั่นหนูพูดเล่นนนนน คือแบบอินเดียอ่ะ เราเป็นคนกินยากไง ก็แบบ…ไม่น่าพูดเล่นเลย อินเดียนะแก๊!! ชั้นจะกินจะอยู่ยังไงวะ? ห้องน้ำ? อาหาร? ตายแน่…คิดละเครียด อ่านหนังสือมาก็เยอะ เค้าบอกอินเดียถ้าไปแล้วไม่รักก็เกลียดเลย เราจะเป็นอย่างหลังมั้ยว้าาาาาาา แถมเมืองที่ไปก็ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวอีก อันนี้เจ้าบ่าวก็พูดเองนะคะว่าไม่มีอะไรให้เที่ยว เราก็แบบ…ไปอินเดียทั้งที หลังคาทัชมาฮาลก็ไม่เห็น แคชเมียร์ก็ไม่ได้เจอ จะไปทำไมเนี่ยยย?? วิตกกังวลต่างๆนานา แต่แบบตกปากรับคำเพื่อนไปแล้วเลยแบบ เออ…ก็ได้ ลองดู…ครั้งนึงในชีวิต คงไม่ได้มีโอกาสร่วมงานแต่งอินเดียกันบ่อยๆหรอก ไปก็ไป แต่แบบจะให้ไปคนเดียวมันก็กระไรอยู่ เลยชวนพี่ที่ทำงาน(เก่า)อีกคนไปด้วย จริงๆก็เคยเที่ยวคนเดียวมาแล้วทั้งต่างประเทศและในประเทศเลยไม่ค่อยกลัวอะไร แต่อินเดียนี่ขอเลยจริงๆ หนูไปคนเดียวไม่ได้ค่าาาาาาา
ก่อนไปอินเดียประมาณ 2 เดือน อิเจ้าบ่าวมีอะไรมาเซอร์ไพร์สอีกค่าาาาาาา ฮีบอกขอเป็นของขวัญแต่งงาน เดี๋ยวถึงตรงนี้ละขออุบไว้ก่อน ขอมาเฉลยทีหลังนะคะ เป็นภารกิจสุดยิ่งใหญ่ของชะนีไทยจริงๆ หึหึ!!
เอาละได้เวลาบุ๊คตั๋วทำวีซ่า เจ้าบ่าวแนะนำให้เลือกไปสายการบิน Jet Airways เพราะเวลาที่ไปถือว่าค่อนข้างโอเค คือบินเช้า ไปถึงอินเดียประมาณเที่ยงๆค่ะ ลืมบอกว่าก่อนไปนี่เราได้พี่ผู้ชายมาร่วมทริปด้วยอีกคน พี่เค้าจะบินไปก่อน เพราะการบินไทยบินไปถึงอินเดียประมาณเที่ยงคืน ซึ่งเพื่อนไม่แนะนำให้ชะนีน้อยเดินทางตอนกลางคืน เราก็เลยเลือกบินเช้าแล้วไปเจอกันที่นู่นแทน
โอเค…ได้เวลาเข้าเรื่องละ เกริ่นซะนาน…. จขกท.ไปอินเดีย 22 – 26 มกราคม 2016 งานแต่งจัดวันที่ 24-25 มกราคม 2016 แต่จขกท.ต้องบินไปตั้งแต่ 22 เพราะเจ้าบ่าวอยากให้ไปร่วมงาน Bachelor’s Party ของเค้าในวันศุกร์เย็น หรือง่ายๆก็คือปาร์ตี้สละโสดนั่นแหละ อิเจ้าบ่าวกำชับนักหนาว่าต้องมาร่วมให้ได้ มันสนุกมากจริงๆ ขอร้องให้หาไฟล์ทช่วงเช้าให้ได้ นึกในใจว่าถ้าหาไม่ได้แกจะให้ฉับขับเครื่องบินมาเองเลยมั้ย?!! แต่โชคช่วยค่ะ ได้ไฟล์ทมาทันเวลา
เช้าวันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2016
ชะนีไทยหอบกระเป๋าใบโต 2 ใบมาถึงแอร์พอร์ทด้วยสภาพซอมบี้ พร้อมความกังวลใจเต็มเปี่ยม กำลังจงกำลังใจนี่ทิ้งไว้บ้านละ กลัวขรี้แตกมาก น้ำดื่ม อาหาร อะไรต่างๆนานา เตรียมยามาเป็นกระเป๋า แต่กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปยังไงก็ต้องถึง เลยสูดหายใจเข้าลึกๆละไปเช็คอิน เช็คอินอะไรเรียบร้อยได้เวลาช็อป ช็อปในดิวตี้ฟรีได้แปบเดียวได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว ของจริงกำลังมาแล้ววว
เครื่องขึ้นไปได้ซักพัก ได้เวลากินนนน แอร์เอาอาหารมาเสิร์ฟ แล้วคือแอร์อินเดียสวยมากกกกกก ตาคม จมูกโด่ง เห็นแล้วอิจฉามาก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากนะคะ ซอรี่ เพราะจขกท.โฟกัสไปที่อาหารมากกว่า 555 จขกท.เห็นอาหารมาถึงกับตาโตเลยทีเดียว คือยังไงก็ต้องเอาให้อิ่มไว้ก่อน เพราะไม่รู้ข้างหน้าจะได้กินไรบ้าง ฮ่าๆๆๆ แอบป๊อด แอร์เสิร์ฟเสร็จ ถ่ายรูปพอเป็นพิธี แปบเดียวอาหารเกลี้ยงค่ะ ออมเล็ตหอมอร่อยมากเลย
นั่งๆมาได้ 3-4 ชั่วโมงก็มาถึงสนามบิน Chhatrapati Shivaji International Airport เพื่อนจขกท.มารับที่หอนาฬิกาหน้าสนามบินเลยค่ะ (ในรูปใครไม่รู้ ขอเซนเซอร์หน้าก่อน)
จากนั้นเราก็แวะเก็บของที่ Ashoke Nagar ซึ่งเป็น Service Apartment ที่เพื่อนจขกท.จองไว้ให้ค่ะ สะดวกสบายใกล้แอร์พอร์ทและโรงแรมจัดงานมาก
พอเก็บของเสร็จ ได้เวลาเติมอาหารลงกระเพาะกันแล้ว เจ้าบ่าวเจ้าสาวพาเราไปเลี้ยงอาหารที่ Urban Tadka เป็นร้านอาหารชื่อดังของอินเดีย อาหารรสจัดมากกกกก คือเผ็ดแทบทุกอย่าง จขกท.เป็นคนไม่ทานเผ็ดเท่าไหร่ เลยทานไม่ค่อยได้ แต่พี่อีก 2 คนที่เหลือบอกว่าอาหารอร่อยมาก อินเดียแท้ๆจริง
จขกท.ไม่ได้ถ่ายอาหารมา เนื่องจากที่ร้านนี้ไม่ได้เสิร์ฟเป็นจานๆค่ะ แต่จะมีบริกรเดินตักอาหารให้ที่จานเราเลย
หนังท้องตึงก็ได้เวลาออกกำลังกาย นั่นก็คือ….ช๊อปปิ้ง เนื่องจากว่างานเลี้ยงจัดสองวัน จขกท.มีส่าหรีมาแค่ชุดเดียวซึ่งเป็นชุดที่จขกท.ได้จากเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นของขวัญวันเกิด ประกอบกับพี่อีกคนนึงต้องซื้อชุดไปงานแต่งด้วย เราเลยไปช็อปปิ้งกันที่ Phoenix Marketcity โชคดีมากกกก เพราะวันที่เราไปถึงมุมไบ ห้างในอินเดียพร้อมใจกันลดราคา 50% เราเลยช็อปกันกระจาย
หลังช๊อปปิ้งสร็จ เจ้าบ่าวเจ้าสาวแวะส่งเราที่ห้องก่อนขอตัวแยกไปเตรียมงานปาร์ตี้คืนนี้ ส่วนจขกท.กับพี่อีก 2 คนขอเก็บของล้างหน้าล้างตาเตรียมตัวปาร์ตี้ ปาร์ตี้เริ่มเลทๆหน่อย จัดขึ้นที่คอนโดของเพื่อนเจ้าสาว งานนี้ไม่มีรูปให้ดูเลยค่ะ แต่งานสนุกมากกกกก ทุกคนเต้นกันจนลืมโลก จะบอกว่าคนอินเดียเต้นเป๊ะกันมากจริงๆ มันอยู่ในสายเลือด ยิ่งดึกยิ่งคึก เต้นกัน 30-40 เพลงไม่มีแรงหมด บางคนไม่มีแอลกฮอลล์แต่เต้นยับกว่าคนกิน เพื่อนของเจ้าบ่าวเจ้าสาวทยอยกันมาเรื่อยๆ จขกท.หมดแรงเพราะคืนก่อนนอนน้อย บนเครื่องก็ไม่ได้นอน แรงเลยไม่มี นั่งดูเค้าเต้นกันอย่างเดียว จนตี 2 ไม่ไหวจริงๆ ขอกลับก่อน ส่วนหนุ่มสาวชาวอินเดียเต้นกันยัน 8 โมงเช้า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
[CR] ไปเที่ยวมุมไบกันมั้ย?!! แถมงานแต่งอินเดียให้ดูด้วย!!!
เฮลโหล๋ววววว นี่เป็นกระทู้แรกของจขกท.นะคะ นอกจากเป็นกระทู้แรกแล้ว ยังเป็นการไปอินเดียครั้งแรก เข้าร่วมงานแต่งอินเดียครั้งแรกอีกด้วย จขกท.ตั้งใจเล่าเรื่องราวไปเรื่อยๆนะคะ งานแต่งจะอยู่หลังๆหน่อยน้าาาาาาา จขกท.กลับมาได้ประมาณอาทิตย์นึงแล้ว แต่ยุ่งๆอยู่เพิ่งหาเวลามาลงได้ จะเป็นยังไงไปติดตามกันเลยค่าาาาาาา
-ขอแจ้งก่อนว่า สำหรับเรื่องงานแต่งงาน จขกท.ได้มีการขออนุญาตเจ้าบ่าวเจ้าสาวแล้วว่าจะขอเอาเรื่องมาลงพันทิป ซึ่งทั้งคู่เซย์เยส บางรูปก็เป็นรูปที่มาจากกล้อง iPhone 6 บางรูปมาจากกล้อง Fuji XA2 นะคะ ใช้สลับๆกัน มีทั้งเจ้าของกระทู้ถ่ายเองบ้าง แล้วก็มีพี่ที่ไปด้วยกันถ่ายให้บ้างค่ะ
ก่อนอื่นขออนุญาตเล่าแบล็คกราวนด์ซักนิด เจ้าบ่าวเป็นเพื่อนของจขกท. รู้จักกันเพราะจขกท.เคยทำงานธนาคารต่างชาติแห่งหนึ่งในไทย ซึ่งเจ้าบ่าวย้ายมาทำงานที่นี่ ฮีย้ายมาได้ไม่นานก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปเลย จนวันนึงก็แบบนั่งคุยเรื่องแต่งงานกัน เจ้าบ่าวบอกว่าก่อนไอย้ายมานี่ไอขอแฟนแต่งงานไว้แล้ว แพลนไว้ต้นปี 2016 จขกท.นึกสนุกก็เลยถามเจ้าบ่าวไปเล่นๆว่า “เฮ้ย…ไออยากไปงานแต่งยูอ่ะ ไปได้มั้ย?” ปรากฎว่าเจ้าบ่าวดีใจมาก บอกให้บุ๊คตั๋วเลย “ยูสัญญาละนะ” ช็อคค่ะ!! นั่นหนูพูดเล่นนนนน คือแบบอินเดียอ่ะ เราเป็นคนกินยากไง ก็แบบ…ไม่น่าพูดเล่นเลย อินเดียนะแก๊!! ชั้นจะกินจะอยู่ยังไงวะ? ห้องน้ำ? อาหาร? ตายแน่…คิดละเครียด อ่านหนังสือมาก็เยอะ เค้าบอกอินเดียถ้าไปแล้วไม่รักก็เกลียดเลย เราจะเป็นอย่างหลังมั้ยว้าาาาาาา แถมเมืองที่ไปก็ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวอีก อันนี้เจ้าบ่าวก็พูดเองนะคะว่าไม่มีอะไรให้เที่ยว เราก็แบบ…ไปอินเดียทั้งที หลังคาทัชมาฮาลก็ไม่เห็น แคชเมียร์ก็ไม่ได้เจอ จะไปทำไมเนี่ยยย?? วิตกกังวลต่างๆนานา แต่แบบตกปากรับคำเพื่อนไปแล้วเลยแบบ เออ…ก็ได้ ลองดู…ครั้งนึงในชีวิต คงไม่ได้มีโอกาสร่วมงานแต่งอินเดียกันบ่อยๆหรอก ไปก็ไป แต่แบบจะให้ไปคนเดียวมันก็กระไรอยู่ เลยชวนพี่ที่ทำงาน(เก่า)อีกคนไปด้วย จริงๆก็เคยเที่ยวคนเดียวมาแล้วทั้งต่างประเทศและในประเทศเลยไม่ค่อยกลัวอะไร แต่อินเดียนี่ขอเลยจริงๆ หนูไปคนเดียวไม่ได้ค่าาาาาาา
ก่อนไปอินเดียประมาณ 2 เดือน อิเจ้าบ่าวมีอะไรมาเซอร์ไพร์สอีกค่าาาาาาา ฮีบอกขอเป็นของขวัญแต่งงาน เดี๋ยวถึงตรงนี้ละขออุบไว้ก่อน ขอมาเฉลยทีหลังนะคะ เป็นภารกิจสุดยิ่งใหญ่ของชะนีไทยจริงๆ หึหึ!!
เอาละได้เวลาบุ๊คตั๋วทำวีซ่า เจ้าบ่าวแนะนำให้เลือกไปสายการบิน Jet Airways เพราะเวลาที่ไปถือว่าค่อนข้างโอเค คือบินเช้า ไปถึงอินเดียประมาณเที่ยงๆค่ะ ลืมบอกว่าก่อนไปนี่เราได้พี่ผู้ชายมาร่วมทริปด้วยอีกคน พี่เค้าจะบินไปก่อน เพราะการบินไทยบินไปถึงอินเดียประมาณเที่ยงคืน ซึ่งเพื่อนไม่แนะนำให้ชะนีน้อยเดินทางตอนกลางคืน เราก็เลยเลือกบินเช้าแล้วไปเจอกันที่นู่นแทน
โอเค…ได้เวลาเข้าเรื่องละ เกริ่นซะนาน…. จขกท.ไปอินเดีย 22 – 26 มกราคม 2016 งานแต่งจัดวันที่ 24-25 มกราคม 2016 แต่จขกท.ต้องบินไปตั้งแต่ 22 เพราะเจ้าบ่าวอยากให้ไปร่วมงาน Bachelor’s Party ของเค้าในวันศุกร์เย็น หรือง่ายๆก็คือปาร์ตี้สละโสดนั่นแหละ อิเจ้าบ่าวกำชับนักหนาว่าต้องมาร่วมให้ได้ มันสนุกมากจริงๆ ขอร้องให้หาไฟล์ทช่วงเช้าให้ได้ นึกในใจว่าถ้าหาไม่ได้แกจะให้ฉับขับเครื่องบินมาเองเลยมั้ย?!! แต่โชคช่วยค่ะ ได้ไฟล์ทมาทันเวลา
เช้าวันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2016
ชะนีไทยหอบกระเป๋าใบโต 2 ใบมาถึงแอร์พอร์ทด้วยสภาพซอมบี้ พร้อมความกังวลใจเต็มเปี่ยม กำลังจงกำลังใจนี่ทิ้งไว้บ้านละ กลัวขรี้แตกมาก น้ำดื่ม อาหาร อะไรต่างๆนานา เตรียมยามาเป็นกระเป๋า แต่กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปยังไงก็ต้องถึง เลยสูดหายใจเข้าลึกๆละไปเช็คอิน เช็คอินอะไรเรียบร้อยได้เวลาช็อป ช็อปในดิวตี้ฟรีได้แปบเดียวได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว ของจริงกำลังมาแล้ววว
เครื่องขึ้นไปได้ซักพัก ได้เวลากินนนน แอร์เอาอาหารมาเสิร์ฟ แล้วคือแอร์อินเดียสวยมากกกกกก ตาคม จมูกโด่ง เห็นแล้วอิจฉามาก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากนะคะ ซอรี่ เพราะจขกท.โฟกัสไปที่อาหารมากกว่า 555 จขกท.เห็นอาหารมาถึงกับตาโตเลยทีเดียว คือยังไงก็ต้องเอาให้อิ่มไว้ก่อน เพราะไม่รู้ข้างหน้าจะได้กินไรบ้าง ฮ่าๆๆๆ แอบป๊อด แอร์เสิร์ฟเสร็จ ถ่ายรูปพอเป็นพิธี แปบเดียวอาหารเกลี้ยงค่ะ ออมเล็ตหอมอร่อยมากเลย
นั่งๆมาได้ 3-4 ชั่วโมงก็มาถึงสนามบิน Chhatrapati Shivaji International Airport เพื่อนจขกท.มารับที่หอนาฬิกาหน้าสนามบินเลยค่ะ (ในรูปใครไม่รู้ ขอเซนเซอร์หน้าก่อน)
จากนั้นเราก็แวะเก็บของที่ Ashoke Nagar ซึ่งเป็น Service Apartment ที่เพื่อนจขกท.จองไว้ให้ค่ะ สะดวกสบายใกล้แอร์พอร์ทและโรงแรมจัดงานมาก
พอเก็บของเสร็จ ได้เวลาเติมอาหารลงกระเพาะกันแล้ว เจ้าบ่าวเจ้าสาวพาเราไปเลี้ยงอาหารที่ Urban Tadka เป็นร้านอาหารชื่อดังของอินเดีย อาหารรสจัดมากกกกก คือเผ็ดแทบทุกอย่าง จขกท.เป็นคนไม่ทานเผ็ดเท่าไหร่ เลยทานไม่ค่อยได้ แต่พี่อีก 2 คนที่เหลือบอกว่าอาหารอร่อยมาก อินเดียแท้ๆจริง
จขกท.ไม่ได้ถ่ายอาหารมา เนื่องจากที่ร้านนี้ไม่ได้เสิร์ฟเป็นจานๆค่ะ แต่จะมีบริกรเดินตักอาหารให้ที่จานเราเลย
หนังท้องตึงก็ได้เวลาออกกำลังกาย นั่นก็คือ….ช๊อปปิ้ง เนื่องจากว่างานเลี้ยงจัดสองวัน จขกท.มีส่าหรีมาแค่ชุดเดียวซึ่งเป็นชุดที่จขกท.ได้จากเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นของขวัญวันเกิด ประกอบกับพี่อีกคนนึงต้องซื้อชุดไปงานแต่งด้วย เราเลยไปช็อปปิ้งกันที่ Phoenix Marketcity โชคดีมากกกก เพราะวันที่เราไปถึงมุมไบ ห้างในอินเดียพร้อมใจกันลดราคา 50% เราเลยช็อปกันกระจาย
หลังช๊อปปิ้งสร็จ เจ้าบ่าวเจ้าสาวแวะส่งเราที่ห้องก่อนขอตัวแยกไปเตรียมงานปาร์ตี้คืนนี้ ส่วนจขกท.กับพี่อีก 2 คนขอเก็บของล้างหน้าล้างตาเตรียมตัวปาร์ตี้ ปาร์ตี้เริ่มเลทๆหน่อย จัดขึ้นที่คอนโดของเพื่อนเจ้าสาว งานนี้ไม่มีรูปให้ดูเลยค่ะ แต่งานสนุกมากกกกก ทุกคนเต้นกันจนลืมโลก จะบอกว่าคนอินเดียเต้นเป๊ะกันมากจริงๆ มันอยู่ในสายเลือด ยิ่งดึกยิ่งคึก เต้นกัน 30-40 เพลงไม่มีแรงหมด บางคนไม่มีแอลกฮอลล์แต่เต้นยับกว่าคนกิน เพื่อนของเจ้าบ่าวเจ้าสาวทยอยกันมาเรื่อยๆ จขกท.หมดแรงเพราะคืนก่อนนอนน้อย บนเครื่องก็ไม่ได้นอน แรงเลยไม่มี นั่งดูเค้าเต้นกันอย่างเดียว จนตี 2 ไม่ไหวจริงๆ ขอกลับก่อน ส่วนหนุ่มสาวชาวอินเดียเต้นกันยัน 8 โมงเช้า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ