คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
ผมว่าคนตั้งกะทู้ไม่ได้หมายความว่า อะเคดามี่ จำเป็นต้องมีหรือไม่มี
แต่หมายถึง ทั่วโลกมีอะเคดามี่ที่สอนเด็กๆ ฝึกฝน สอนทักษะฟุตบอลเหมือนๆกัน
แต่นักเตะที่ขึ้นชื่อว่า นักเตะต่างด้าวอย่างเช่น เมสซี่ เลี้ยงบอลหลบคู่ตู่สู้เป็นว่าเล่น
ซึ่งก้ผ่านอะเคดามี่มาตั้งแต่เยาวชน นักเตะที่ทำแบบนี้ได้ ส่วนใหญ่มาจากบราซิล หรืออเมริกาใต้
เป็นตัวตัดสินในเกมส์ และมักทำสิ่งพิเศษกว่าชาวบ้านมากกว่า
เด็กจากที่อื่นทำไม่ได้แบบเดียวกัน
ทั้งๆที่เคยผ่านอะเคดามี่เหมือนกันประมาณนั้น
แต่หมายถึง ทั่วโลกมีอะเคดามี่ที่สอนเด็กๆ ฝึกฝน สอนทักษะฟุตบอลเหมือนๆกัน
แต่นักเตะที่ขึ้นชื่อว่า นักเตะต่างด้าวอย่างเช่น เมสซี่ เลี้ยงบอลหลบคู่ตู่สู้เป็นว่าเล่น
ซึ่งก้ผ่านอะเคดามี่มาตั้งแต่เยาวชน นักเตะที่ทำแบบนี้ได้ ส่วนใหญ่มาจากบราซิล หรืออเมริกาใต้
เป็นตัวตัดสินในเกมส์ และมักทำสิ่งพิเศษกว่าชาวบ้านมากกว่า
เด็กจากที่อื่นทำไม่ได้แบบเดียวกัน
ทั้งๆที่เคยผ่านอะเคดามี่เหมือนกันประมาณนั้น
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
บราซิล ก็ไม่ได้มีอคาเดมีเป็นบ้าเป็นหลัง เด็กส่วนใหญ่เติบโตมาจากบอลข้างถนนในสลัม แต่กลับมีเด็กรุ่นใหม่ฝีเท้าดีมาตลอด
เหมือนที่ได้สมญานามจริงๆ บราซิลสินค้าหลักส่งออก คือ กาแฟ และ นักเตะ
อารมณ์คล้ายเมืองไทยเรา เกิดมาแทบจะต่อยมวยไทยกันเป็น คงประมาณนั้น
ฟุตบอลข้างถนน คงน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตซึมซับเด็กบราซิลและแถบอเมริกาใต้จนแยกกันไม่ออก เด็กแถบประเทศนี้พอเอาเข้าระบบอคาดามี่ ความสามารถเลยพัฒนาต่อยอดได้เร็วกว่าพวกที่เรียนตามหลักสูตร ต้องยอมรับว่าเด็กที่เติบโตจากฟุตบอลข้างถนนมาตั้งแต่เด็กพลิกแพลงดัดแปลงทักษะเอาตัวรอดเก่ง
ฟุตบอลเล่นเป็นทีม แต่ถ้าเมื่อใดระบบทีมแทคติกสูสีกัน สุดท้ายมันก็ต้องวัดคุณภาพความสามารถนักเตะอยู่ดี
สังเกตุง่ายๆ นักเตะเวิร์ลคลาสส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้เลี้ยงหลบลุยเก่งส่วนใหญ่จะมาจากเด็กอเมริกาใต้ เทียบกับนักเตะยุโรป น้อยมากที่จะมีทักษะแบบนี้ นานๆ เกิดที อย่าง ซีดาน พวกยุโรป รวมญี่ปุ่น เกาหลี ทักษะเฉพาะตัวความพริ้วไหว ไม่ว่ายุคไหนหายากกว่า เด็กแถบฟุตบอลข้างถนนจริงๆ มันอาจจะเป็นทรัพยากรเฉพาะประเทศก็เป็นได้