[CR] เที่ยวลัตเวีย ดินแดนแห่งความฝันและอารยธรรม ดาวดวงเล็กจากยุโรปเหนือ รัฐบอลติก (Baltic state) (รูปเยอะมาก)

กระทู้รีวิว
สวัสดีคะ วันนี้รีวิวไปเที่ยวลัตเวียช่วง 23-27 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เป็นการรีวิวครั้งแรกขาดตกบกพร่องประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ
*พยายามแก้ คะ/ค่ะ ให้ถูกต้อง
กระทู้นี้เน้นรูปคะ ยิ้ม  เป็นรีวิวกากๆ เป้นกระทู้กระทัดรัด เริ่มด้วยเราได้วีซ่าเชงเก้นเนื่องจากไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศสวีเดนค่ะ ประเทศลัตเวียก็รวมอยู่ในกลุ่มของเชงเก้นด้วย โชคดีมากเลย เราจะขอข้ามเรื่องวีซ่าแล้วกันนะคะ เพราะคงมีหลายคนรีวิวไปแล้ว ส่วนเรื่องตั๋วเครื่องบิน เราบินจาก Stockholm Arlanda Airport นะคะสายการบิน Norwegian ด้วยราคา ~2000 บาท เที่ยวบินเวลา 18.30 ถึงรีก้า 20.40 เวลาเร็วกว่าสวีเดน 1 ชม. ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชม. เรามีเพื่อนชาวลัตเวียนคะ เลยไม่ต้องจ่ายค่าโรงแรม ก็ไปพักที่หอพักนักศึกษากับเพื่อน ช่วยประหยัดไปอีกแรง อิอิ
** รูปภาพถ่ายด้วย iPhone5s รูปอาจจะไม่ค่อยละเอียดและสวยเท่าไหร่ขออภัยด้วยนะคะ แต่ก็มี Fujifilm X-A2 ของเพื่อนด้วยบางรูปนะคะ **

Day 1
เริ่มด้วยรูปของสนามบินนานาชาติรีก้า เนื่องจากบินภายในยุโรปจึงไม่ต้องผ่าน ตม. คะ  ได้มารูปเดียวเพราะรีบ เพื่อนรอ 55555555 เป็นสนามบินเล็กๆนะคะ อาจจะเป็นเพราะลัตเวียเป็นประเทศเล็กๆก็เป็นได้ จะ 21.00 แล้วยังสว่างอยู่เลย ตอนที่ไปเป็นช่วง End of summer นะคะ เลยยังทำให้สว่างอยู่

สนามบินนานาชาติรีก้า (Riga international airport, RIX)

ถึงแล้วก็ไม่รอช้า เพื่อนเราพาไปเยี่ยม  Ratslaukums square ทันที เนื่องจากเราชอบมากและอยากไปมาก พอไปถึงแล้วอยากบอกว่ามันสวยจริงๆ อลังการมาก ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้เป็นจัตุรัสที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดในกรุงริก้า เป็นย่านเขตการปกครองและเขตเศรษฐกิจมาตั้งแต่สมัยโบราณสร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยยุคกลาง เดิมเป็นตลาดเปิดโล่ง เป็นที่ตั้งของที่ว่าการเมือง (The Town Hall)   บ้านนายหัวดำ (The House of Blackheads) และ Schwabe's House แต่ถูกทำลายในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และก็ได้รับการบรูณะใหม่ในปี 1970



หมดเเล้วสำหรับวันแรก ต้องรีบกลับไปพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้จะออกแต่เช้า ไปเที่ยวทะเล Jurmala เป็นชายหาดชื่อดังของประเทศลัตเวีย อยู่ที่ Gulf of Riga

Day 2
กำลังออกจากรีก้า

ทางม้าลาย ป้ายอยู่ด้านบนนะเออ

แวะทานข้าวที่ Lido restaurant เพื่อนบอกว่าเป็น Proper Latvian traditional restaurant

อันนี้จะเป็น cold soup ชนิดต่างๆ ที่เพื่อนแนะนำ



สีชมพูเเป้นแล้นนั้นชื่อ  cold beet soup with kefir, cucumbers, dill, and eggs มันเย็นจริงๆ กินไปสักพักรู้สึกเลี่ยน แต่ก็พอกินได้ ส่วนชมพูจางๆนั้นชื่อ strawberry mousse ก็คล้ายนมปั่นสตรอเบอร์รี่, ส่วนเจ้าแพนเค้ก ก็จะเป็น potato pancake (อาหารประจำชาติก็ว่าได้) แล้วสีชมพูบางๆน่ารักๆนั้นคือ crepe with strawberry jam ส่วนเครื่องดื่มที่คล้ายๆ coca cola นั้นก็คือเจ้า Kvass นั้นเอง ทำมาจากข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์และแป้งข้าวไรย์

ทางไป Jurmala ...

ขับรถมาได้ไม่ถึง 1 ชม. ดี และแล้วเราก็มาถึง Jurmala
เราตัดต่อวิดีโอไม่เป็นเลยมีขาตัวเองมาด้วย ขอโทษนะคะทุกคน งื้อๆๆ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
วันนี้ไม่มีอะไรมาก เรียกได้ว่ามาพักผ่อนจริงๆ หลับกลางอากาศระหว่างนอนอาบแดด ถือว่าเป็นวันชิลล์ๆวันนึง เพราะไม่ต้องคิดอะไรปวดหัว เหมือนหลุดออกมาอยู่อีกโลกนึงเลย สำหรับการเดินทาง มีรถไฟจากรีก้ามาเยอมาลา ระยะเวลา 30 นาที แต่เราไม่รู้ว่าต้องไปซื้อตั๋วที่ไหน หรือขึ้นที่ไหน เพราะเพื่อนพาขับรถมา ( =..= เป็นกระทู้ที่ไร้ประโยชน์สิ้นดี)

แถมรูปปิดท้ายนิดหน่อย คือมีแต่รูปเรา มีรูปวิวไม่เยอะ (เสียใจจัง =.=)

ชายหาด Jurmala
หลังจากเล่นน้ำ อาบแดดกันอยู่เป็นเวลานมนาน ถึงเวลา 15.00 ได้เวลากลับรีก้า ด้วยความที่ว่าง นางก็พาไปเดิน Old town อีกครั้ง เพราะเมื่อวานได้ไปแค่แปปเดียว จริงๆวันนี้ก็ได้ไปแค่แปปเดียว เพราะเหนื่อย และง่วง สงสัยป่วยแดด 55555555

มาถึงริก้าแล้ว นั่ง tram สาย 5 ไป Riga old town น่าสนใจมากเลย ครั้งแรกที่ได้ลองนั่งแทรม ก็เหมือนรถไฟบ้านเรานั่นเอง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เริ่มที่สัญลักษณ์ที่แสดงว่าต้นคริสต์มาสต้นแรกถือกำเนิดที่กรุงริก้า ประเทศลัตเวีย ตั้งแต่ ค.ศ.1510 หรือเมื่อประมาณ 500 ปีที่แล้ว (โอ้ว ขุ่นพระ) สัญลักษณ์นี้ตั้งอยู่หน้า House of Blackhead ที่ Ratslaukums square นั่นเอง

เดินมาทางซ้ายมือมาหน่อย จะเจอสวนดอกไม้อยู่ square by St.Peter’s Church แล้วในบริเวณนั้นก็จะเห็น รูปปั้นสัตว์สี่สหาย  The Musicians of Bremen เชื่อว่าถ้าได้ถูจมูกลาจะทำให้คำอธิษฐานเป็นจริง (เราไปขอมาแล้ว ส่วนจะจริงหรือเปล่านั้น ก็ต้องรอดู 555555555) แหม ถูกันซะลอกคราบเลยนะครัช


นี้คือรูปปั้นสัตว์สี่สหาย ที่ว่ากันว่าถูจมูกลาแล้วจะทำให้คำอธิษฐานเป็นจริง

ทางเดินใน Riga old town ส่วนใหญ่จะปูด้วยหินแบบนี้ เดินลำบากหน่อยแต่ก็ได้บรรยายยุโรปแบบย้อนยุค ชอบมาก เดินไป เดินมาก็มาโผล่ที่อนุเสาวรีย์เสรีภาพ หรือ Freedom monument นั้นเอง

เราเองก็เพื่งรู้ว่าลัตเวียเพิ่งได้อิสระภาพเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่จากที่มีเพื่อนเป็นชาวลัตเวียนก็ทำให้รู้ว่าคนลัตเวียนเองก็ภูมิใจในชาติของตนไม่น้อย ถึงแม้จะเสียเอกราชให้หลายประเทศก็ตาม (เยี่ยมมาก) นางจะ strong กับคำว่า proud to be Latvian มาก

Day 3
พวกเราเป็นพวกชอบเดินอยู่แล้ว ระหว่างรอไปรับเพื่อนก็ไม่รู้จะทำอะไร เที่ยงๆก็ไป walking กัน จะได้ซึมซับบรรยายทุกอณูของริก้าและฆ่าเวลาไปในตัว

ออกจากหอมา เดินมาทางทิศตะวันตกจะเจอ Vanšu bridge หรือ Cable bridge อารมณ์สะพานพระราม 8 บ้านเรา แต่ความหนาแน่นของประชากรน้อยกว่าแค่นั้น อากาศดีมาก วิวสวยมาก

หันมาทางซ้ายก็จะเจอแม่น้ำ Daugava อารมประมาณแม่น้ำเจ้าพระยาบ้านเรา  หลังจากนั้นก็ไปรับเพื่อนที่มาจากสวีเดน
รับเพื่อนมาในเมืองเก่าริก้า รู้สึกว่าชีวิตวนเวียนแต่ใน Riga old town แต่พรุ่งนี้จะได้ไปเที่ยว countryside ของลัตเวียแล้วนะ จะได้ไปเจอยุโรปแบบในนิทานแล้ว คงเป็นอะไรที่สงบสุขมากแน่ๆ
อันนี้จะเป็นรูปบางส่วนที่ได้มาจากกล้อง Fujifilm นะคะ


St.Peter's church


Kronvalda park เปรียบเสมือนปอดของชาวลัตเวีย


ของจริงเขียวชอุ่ม สวยงามมากจริงๆ

ต่อไปนี้จะเป็นรูปวิวบางส่วนใน Riga old town


เป็นคลับที่พวกเราไปนั่งกัน ส่วนใหญ่ผู้คนจะนั่งในชั้นใต้ดินกัน


Powder tower



เราจะมาต่อ Day 4 พรุ่งนี้นะคะ ชีวิตใน countryside ของคนลัตเวียน
ชื่อสินค้า:   ประเทศลัตเวีย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่