>>>  แต่ไม่ได้ปริ้นต่อเนื่องทุกวัน

ตรงนี้สำคัญครับ
ลองคิด ๆ ดูก่อนครับ ว่า เดือนหนึ่ง จะเปิดเครื่องมา Print สักกี่ครั้ง (ไม่เกี่ยวกับว่ากี่แผ่น)

นอกจากนี้ คุณวางงบค่าหมึกไว้อย่างไร ครับ

---

1. Brother T300  
    ตลับหมึกออกแบบมาจากโรงงานเป็นแบบเติมได้ ทำให้ค่าใช้จ่ายเรื่องหมึก น้อยมาก ๆ ครับ
    รุ่นนี้ ไม่มี WiFi ครับ
    การถ่ายเอกสารของ Brother ทำได้ทั้ง ย่อขยาย และปรับความคมชัด รวมถึงการระบุจำนวนแผ่น

2. Brother J105
    ตลับหมึกรุ่นนี้เป็นแบบเดิม ๆ คือ ซื้อเปลี่ยน แต่ว่า คุณสามารถหาซื้อตลับใส(ไม่ใช่ของแท้) มาใส่แทน แล้วก็จะเติมหมึกขวดได้ ทำให้ค่าใช้จ่ายเรื่องหมึก น้อยมาก ๆ ครับ
    รุ่นนี้ มี WiFi ครับ
    การถ่ายเอกสารของ Brother ทำได้ทั้ง ย่อขยาย และปรับความคมชัด รวมถึงการระบุจำนวนแผ่น
    รุ่นนี้ เมื่อก่อน ไม่รู้ว่า ทำไม หาซื้อค่อนข้างยาก ต้องไปดูใน PowerBuy  / ปัจจุบันหาซื้อง่ายขึ้น ครับ  แต่ก็ถือว่า เก่าพอควรแล้ว เพราะตอนนี้ ออกเป็น Series T500w มาทดแทน

  
3. Brother 1610w
    อันนี้เป็นเครื่อง Laser ขาวดำ ครับ ไม่ควรเอามาเทียบกับรุ่นอื่น ๆ
    LASER คือใช้หมึกแบบผงหมึก คล้ายกับเครื่องถ่ายเอกสาร
    เท่าที่ค้นมา รุ่นนี้ มี WiFi ครับ
    http://welcome.brother.com/th-th/products-services/multi-function-centres/DCP-1610W.tab2.html


ผมค้นใบ Promotion ของ Brother มาให้
เข้าไปดูราคาเปรียบเทียบดูเองละกัน นะครับ
http://welcome.brother.com/content/dam/brother/th-th/promotions-events/promotions/Q4_P1-24-Lo.pdf

---

4. EPSON L220
    EPSON มีชื่อเสียงเดิม ๆ เรื่องความทนทานครับ (สมัยก่อน)
    รุ่นนี้ มี Tank จากโรงงานเลย ทำให้ค่าใช้จ่ายเรื่องหมึก น้อยมาก ๆ ครับ
    ไม่มี WiFi ครับ
    การถ่ายเอกสาร ต้องกดถ่ายทีละ 1 : 1
    EPSON มีข้อดี ที่เครื่องยี่ห้ออื่นไม่ค่อยมี คือ Print กระดาษได้ยาวถึง 1.1 เมตร( คิดถึงป้ายพวงหรีด ละกัน)
    นอกจากนี้ ถาดกระดาษยังเป็นแบบป้อนบน ออกล่าง ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องกระดาษม้วนงอ  ครับ
    อ้อ... ข้อเสีย คือ ไม่สามารถพิมพ์แบบไร้ขอบ ครับ

---

5. HP 3545
    http://www8.hp.com/lamerica_nsc_carib/en/products/printers/product-detail.html?oid=5296153#!tab=specs
    ราคาเครื่องถูกมาก เพราะไม่มี หัวพิมพ์ มาให้ ในเครื่องครับ
    หัวพิมพ์ ติดมากับตลับหมึก
    ตลับหมึก ราคาประมาณ 320 บาท ให้หมึกดำประมาณ 8.5 cc  (หารราคาต่อ cc เอง นะครับ)
    ส่วนตลับสี ราคาเดียวกัน ให้หมึกสี ประมาณ 4 cc ครับ
    ตลับสี จะเป็นแบบรวม คือ 3 สีใน 1 ตลับ นั่นคือ ถ้าคุณพิมพ์กุหลาบสีแดง เยอะ ๆ จนสีแดงหมด แต่สีอื่นยังเหลือเยอะ คุณก็ต้องเปลี่ยนทั้งตลับ

    ข้อดีของ HP อย่างที่บอกครับ คือ เครื่องราคาถูก
    จะเหมาะกับผู้ที่ ต้องการความสะดวกสบาย ไม่แคร์เรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับหมึก
    ชนิดที่ว่า มีเงินซื้อตลับหมึก 640 บาท(ตลับสี และ ขาวดำ) มา สำรองไว้ได้
    พอเปิดเครื่องใช้  หัวพิมพ์แห้ง หัวพิมพ์ตัน ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องล้างหัวพิมพ์ครับ (เพราะหมึกมีน้อย ล้างไม่กี่รอบหมึกก็หมดตลับแล้ว)
    แค่เปลี่ยนตลับ ก็เท่ากับเปลี่ยนหัวพิมพ์ แล้วใช้งานเร่งด่วน ได้เลย

    รายละเอียดข้อดีอื่นๆ  รอทางสมาชิกที่เป็นตัวแทนของ HP เข้ามาช่วยแนะนำ ครับ

---

---

6. อยากเสนอให้ดูของ Canon เพิ่มเติมด้วยครับ
   ตอนนี้ แทบทุกยี่ห้อ ต่างก็ยอมรับการติด Tank กันหมด แม้แต่ Canon ก็ด้วย
   มีรุ่น G1000, G2000, G3000 ที่ติด Tank ออกสู่ตลาดด้วยครับ
   G1000 ไม่มี Scan
   G2000 มี Scan เพิ่มมา
   G3000 มี WiFi เพิ่มมา
   http://www.canon.co.th/personal/products/inkjet-printers/inkjet-multi-function/pixma-g2000?languageCode=EN

---

---

    
หมายเหตุ: ผมแนะนำจากประสบการณ์ ที่ใช้เครื่องมาหลากหลายยี่ห้อ หลายรุ่น
และจากที่ตอบกระทู้มา ครับ
ผมมิได้ทำงาน ด้านการขายสินค้า Printer ทั้ังหลาย
และมิได้รับรีวิวหรือแนะนำสินค้าเหล่านี้ครับ
เช็คประวัติการตอบกระทู้ได้ครับ

---