ร้านเจมาร์ท วางจำหน่ายสมาร์ทวอทช์ Huawei Watch อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีให้เลือก 2 สี คือ ตัวเรือนสีเงิน มาพร้อมสายหนัง ราคา 13,990 บาท และ ตัวเรือนสีดำ มาพร้อมสายสแตนเลสสตีลสีเดียวกัน ราคา 17,990 บาท ตัวเรือนของ Huawei Watch ผลิตจากสแตนเลสสตีล 316L ซึ่งเป็นโลหะผสมทนทานต่อการกัดกร่อนเป็นพิเศษ มากับจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.4 นิ้ว หน้าปัดวงกลมใช้กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android Wear หน่วยประมวลผล 1.2 GHz หน่วยความจำ RAM 512 MB พื้นที่ภายใน 4 GB ความจุแบตเตอรี่ 300 mAh รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.1
คุณสมบัติ Huawei Watch
หน้าปัด
หน้าปัด 1.4 นิ้วจอแสดงผลแบบ full circle AMOLED
ขอบ bezel ขนาด 0.6 มิลลิเมตร
ความละเอียดหน้าจอ 400 x 400, 286 ppi
เลนส์ sapphire crystal กันรอยขีดข่วน
ขนาด
เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 1.4 นิ้ว
หนา 11.3 มิลลิเมตร
น้ำหนัก
สายหนัง 61 กรัม
สายสแตนเลสสตีล 96 กรัม
สายสแตนเลสสตีลแบบ link strap 131 กรัม
ระบบปฏิบัติการ
สนับสนุนการทำงานร่วมกับ Android เวอร์ชั่น 4.3 ขึ้นไป
สนับสนุนการทำงานร่วมกับ iOS* เวอร์ชั่น 8.2 ขึ้นไป
รองรับ OTA updates
การเชื่อมต่อ
Bluetooth 4.1 BLE
ระยะการเชื่อมต่อ Bluetooth 10 เมตร
Wi-Fi
หน่วยความจำ
RAM 512 MB
Flash 4 GB
แบตเตอรี่
300 mAh
1.5 วัน (32 ชั่วโมง เมื่อใช้งาน หรือ 8 ชั่วโมง ในโหมดสลีป)
ระยะเวลาในการชาร์ต 75 นาที
กันน้ำ
IP67 (ตัวเลขหลักแรกหมายถึงป้องกันฝุ่นได้ในระดับสูงสุด, ตัวเลขหลักที่สองหมายถึงกันน้ำได้ที่ระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที)
เซนเซอร์
เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบ Gyroscope และ Accelerometer
เซ็นเซอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจ (Heart rate sensor PPG)
เซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับความกดอากาศ (Barometer)
ซอฟต์แวร์
แจ้งเตือนเมื่อมีข้อความส่งถึง (สายเรียกเข้า, ข้อความ, อีเมล์,SNA, Google Hangout)
Voice interactions
Google Now
แผนที่
กีฬา และ สุขภาพ (Sports and health)
Music playback
โปรแกรมอื่นๆเช่น Google Play Store
หน้าจอแสดงผล
หน้าจอแสดงผลกว่า 40 แบบ
คลาสสิก ดิจิทัลสปอร์ต
สาย
สายสแตนเลสสตีล Mesh, สายสแตนเลสสตีล Link หรือ สายหนัง
สามารถใช้กับสายธรรมดาขนาด 18 มิลลิเมตร
สี
เคสแบบ สแตนเลสสตีล
เคสแบบ สแตนเลสสตีลสีดำ
เคสแบบ สแตนเลสสตีลสีโรสโกลด์
*ลักษณะเด่นอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
ที่มา :
http://www.touchphoneview.com/news/?p=26821
แรงเฟร่อ Huawei Watch เคาะราคาในไทย 13,990 - 17,990 บาท
ร้านเจมาร์ท วางจำหน่ายสมาร์ทวอทช์ Huawei Watch อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีให้เลือก 2 สี คือ ตัวเรือนสีเงิน มาพร้อมสายหนัง ราคา 13,990 บาท และ ตัวเรือนสีดำ มาพร้อมสายสแตนเลสสตีลสีเดียวกัน ราคา 17,990 บาท ตัวเรือนของ Huawei Watch ผลิตจากสแตนเลสสตีล 316L ซึ่งเป็นโลหะผสมทนทานต่อการกัดกร่อนเป็นพิเศษ มากับจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.4 นิ้ว หน้าปัดวงกลมใช้กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android Wear หน่วยประมวลผล 1.2 GHz หน่วยความจำ RAM 512 MB พื้นที่ภายใน 4 GB ความจุแบตเตอรี่ 300 mAh รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.1
คุณสมบัติ Huawei Watch
หน้าปัด
หน้าปัด 1.4 นิ้วจอแสดงผลแบบ full circle AMOLED
ขอบ bezel ขนาด 0.6 มิลลิเมตร
ความละเอียดหน้าจอ 400 x 400, 286 ppi
เลนส์ sapphire crystal กันรอยขีดข่วน
ขนาด
เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 1.4 นิ้ว
หนา 11.3 มิลลิเมตร
น้ำหนัก
สายหนัง 61 กรัม
สายสแตนเลสสตีล 96 กรัม
สายสแตนเลสสตีลแบบ link strap 131 กรัม
ระบบปฏิบัติการ
สนับสนุนการทำงานร่วมกับ Android เวอร์ชั่น 4.3 ขึ้นไป
สนับสนุนการทำงานร่วมกับ iOS* เวอร์ชั่น 8.2 ขึ้นไป
รองรับ OTA updates
การเชื่อมต่อ
Bluetooth 4.1 BLE
ระยะการเชื่อมต่อ Bluetooth 10 เมตร
Wi-Fi
หน่วยความจำ
RAM 512 MB
Flash 4 GB
แบตเตอรี่
300 mAh
1.5 วัน (32 ชั่วโมง เมื่อใช้งาน หรือ 8 ชั่วโมง ในโหมดสลีป)
ระยะเวลาในการชาร์ต 75 นาที
กันน้ำ
IP67 (ตัวเลขหลักแรกหมายถึงป้องกันฝุ่นได้ในระดับสูงสุด, ตัวเลขหลักที่สองหมายถึงกันน้ำได้ที่ระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที)
เซนเซอร์
เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบ Gyroscope และ Accelerometer
เซ็นเซอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจ (Heart rate sensor PPG)
เซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับความกดอากาศ (Barometer)
ซอฟต์แวร์
แจ้งเตือนเมื่อมีข้อความส่งถึง (สายเรียกเข้า, ข้อความ, อีเมล์,SNA, Google Hangout)
Voice interactions
Google Now
แผนที่
กีฬา และ สุขภาพ (Sports and health)
Music playback
โปรแกรมอื่นๆเช่น Google Play Store
หน้าจอแสดงผล
หน้าจอแสดงผลกว่า 40 แบบ
คลาสสิก ดิจิทัลสปอร์ต
สาย
สายสแตนเลสสตีล Mesh, สายสแตนเลสสตีล Link หรือ สายหนัง
สามารถใช้กับสายธรรมดาขนาด 18 มิลลิเมตร
สี
เคสแบบ สแตนเลสสตีล
เคสแบบ สแตนเลสสตีลสีดำ
เคสแบบ สแตนเลสสตีลสีโรสโกลด์
*ลักษณะเด่นอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
ที่มา : http://www.touchphoneview.com/news/?p=26821