รู้มั้ยทำไม บุรีรัมย์ ถึงเก่งไม่สุดตอนเล่นรอบแบ่งกลุ่ม ACL ไม่เคยผ่านรอบแบ่งกลุ่ม สิ่งหนึ่งที่แพ้ทางทีมจาก J K ลีก ตลอด

นิสัยชอบผ่อนเกมตอนนำ ชอบลงมารับลึก ตอนนำเขาแล้ว เห็นแบบนี้มาหลายฤดูกาล ไม่กดข่มคู่แข่งทั้งเกม ทั้งๆ ที่รูปเกมทรงบอลสู้ได้มันส์ ลุ้นจังหวะชนะได้หลายรอบอย่างน่าเสียได้ รู้แหละความฟิตนะมี แต่ไม่ไล่บี้ขยี้ทั้ง 90 นาที
พวกทีมจาก J K ลีก วิ่งสู้ฟัดไม่ถอย ถึงโดนนำ แต่ความอดทน มีวินัยในการเล่นในระบบสูง มีความสม่ำเสมอในจังหวะเกมทั้งเกม
บุรีรัมย์ เริ่มเกมเจอพวกทีมญี่ปุ่น เกาหลี เวลาบุกดั่งพายุ แทบตั้งตัวไม่ทัน บางทีนำไปสองสามลูก โดนตีเสมอ หรือไม่ก็เจอยิงแซง บางทีลุ้นเข้ารอบไปแล้ว อ่าวแต่พอแข่งครบตกรอบ คือ นิสัยบุรีรัมย์ ชอบชวนทะเลาะแต่หัววัน ยิงนำแบบตีหัวเข้าบ้าน แล้วลงมารับกันลึก ทำให้ทีมจาก JK ลีก ได้ใจมีจังหวะเซตเกม Open Play
เพรสซิ่งต้องทั้งเกม 90 นาที  วิ่งสู้ฟัด 90 นาทีไม่มีหมด นี่คือเคล็ดลับที่จะผ่านเข้ารอบเมื่อเจอพวกทีมจาดเกาหลีญี่ปุ่น

ไม่อย่างนั้นก็จะไม่ก้าวข้ามรอบแบ่งกลุ่มได้สักที ติดแง่กเป็นแค่ไม้ประดับแค่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น
เข้ารอบลึกๆ ให้บ่อยๆ เด๋วก็ชิน แชมป์ มาแน่ไม่ปีใดก็ปีนึง

ถ้าบุรีรัมย์ เล่นได้เหมือนต้นเกม 20-30 นาทีแรก ทั้งเกม จะดีมาก สังเกตกันมั้ย ต้นเกมในรอบแบ่งกลุ่ม ACL มักจะกดคู่แข่งอยู่หมัด พอเกมเริ่มผ่อนเกมรับลึกจนให้เขาทุบได้
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 24
ผมมองต่างไปเลย

บุรีรัมย์ไม่ได้นำแล้วผ่อนจริงๆหรอก แต่ความฟิตมันลดลงมากกว่าคู่แข่งต่างหาก มองตามมาตรฐานที่แท้จริง ถึงบุรีรัมย์จะฟิตที่สุดในไทย ถึงจะฟิตมากพอที่จะเล่น 90 นาทีแบบบดใส่สโมสรในไทยได้ ฟิตแบบที่เล่นกับสโมสรเกาหลี ญี่ปุ่น 90 นาทีได้ แต่สิ่งนึงที่ต้องคิดเอาไว้เป็นต้นทุนด้วยคือความฟิตของบุรีรัมย์คือความฟิตที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปี แน่นอนความฟิตในระดับ Max ของนักเตะบุรีรัมย์ทุกคนดี แต่การยืนระยะให้มีความฟิตในระดับ 80% ตลอดทั้งเกมส์โดยที่ช่วงต้นเกมส์วิ่งแบบใส่เต็มที่ขนาดนั้น นักเตะบุรีรัมย์มีไม่กี่คนที่ยังคงสภาพความฟิตให้อยู่ในระดับนั้นได้ เพราะต้นเกมส์บดหนักมาก พอเข้าช่วงกลางช่วงท้าย นักเตะส่วนใหญ่ระดับความฟิตก็เหลือกันประมาณ 70% แล้ว และด้วยความฟิตที่ลดลงมันก็อาจทำให้จังหวะการเล่นไม่เต็มประสิทธิภาพเหมือนช่วงแรก อารมณ์เหมือนวิ่งมาราธอนด้วยสปีดเดียวกับวิ่ง 100 เมตร ยากที่จะวิ่งด้วยสปีดเดียวกันนั้นจนถึงเส้นชัยได้

แต่กลับกัน พวกเกาหลีญี่ปุ่น ความฟิตของนักเตะพวกเค้ามันเป็นความฟิตที่สร้างกันมากว่า 10 ปี ไม่ใช่ 2-3 ปีแบบเรา แต่ด้วยสภาพสรีระมันเลยทำให้จุด Max มันไม่ค่อยจะต่างกันเท่าไหร่ เราพอจะบดได้หากอยู่ในจุดที่ Max กันทั้งคู่ แต่อย่างที่บอกสิ่งที่เค้าสร้างกันมาเป็น 10 ปี มันมีผลมีความต่างอยู่แล้ว มันอาจจะไม่ใช่ทุกคน แต่นักเตะส่วนใหญ่ของเกาหลี ญี่ปุ่น สามารถเล่นจนจบเกมส์ด้วยความฟิตระดับไม่ต่ำกว่า 80% ได้

เรื่องผ่อนเกมส์ถ้าคนชื่อเนวินยังคงเป็นประธานสโมสรแล้วนั่งคุมอยู่ข้างสนามแบบนี้ ไม่ต้องกลัวเลยว่าเค้าจะให้นักเตะผ่อนเกมส์ แต่ปัญหาคือในหลายๆครั้งเมื่อขึ้นระดับเอเชียมันก็ไม่ได้สามารถจะทำแบบนั้นได้ตลอด 90 นาทีอยู่แล้ว อย่างปีล่าสุด 1 ในนัดที่มีผลให้ถูกตีเสมอ ก็เพราะพยามยามบุกต่อๆทั้งที่นำอยู่นี่แหล่ะ แต่จบไม่ได้บ้าง ถูกสวนจนเสียทรงบ้าง

สิ่งที่บุรีรัมย์ควรจะคิดเมื่อเล่นในระดับเอเชียมีรายละเอียดเล็กๆอีกเยอะ ไม่ใช่ว่าไม่อยากข่มคู่ตู่สู้ให้ได้ทั้งเกมส์ แต่ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้สามารถจบ 90 นาที ในฐานะผู้เหนือกว่าคู่ต่อสู้ให้ได้จริงๆ ไม่ใช่จบในรูปแบบโชคดีที่ถูกไล่ตามไม่ทัน เอาเท่าที่นึกออกเช่น จะสามารถสร้างการทรงสภาพความฟิตของนักเตะที่เล่นในสไตล์นี้ให้สูงที่สุดจนถึง 90 นาทีได้ไหม เริ่ม 100 ก็ต้องจบที่ไม่เกิน 80 อย่าให้เกิดช่วงที่เค้าเหนือกว่าแบบเห็นส่วนต่างมาก หรือมีช่วงเวลาแบบนั้นในสนามนานเกินไป , หรือจะบริหารจัดการการยืนระยะของนักเตะจากสภาพความฟิตเท่าที่มีตอนนี้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร บางครั้งคำว่าแทคติก วิธีการเล่น ลูกล่อลูกชนมันเป็นเรื่องสำคัญมากกับฟุตบอลในระดับที่เขี้ยวกว่า มันไม่ใช่มวยระดับที่ให้มาต้อนกันได้ง่ายแบบต่างชั้น หรือรีบๆรัวหมัดใส่แล้วฝั่งตรงข้ามจะกลับมาไม่ได้ ระดับเอเชียไม่หมูแบบนั้นแน่ จะมาคิดว่าตัวเองแข็งกว่าคิดว่าตัวเองเป็นหินทุบเข้าใส่ๆแต่หารู้ไม่ว่าข้างในของที่กำลังทุบอยู่มันอาจจะเป็นเพชรก็ได้ สุดท้ายจะแตกซะเอง

เอาจริงๆเรื่องแบบนี้ไม่ต้องดูคนอื่นไกลหรอก ตัวอย่างในทีมบุรีรัมย์เองก็มี อย่าง โก ซุล กิ เค้าไม่ต้องวิ่งพล่านแบบ จักรพันธ์ หรือ สุเชาว์ แต่เค้าสามารถไปอยู่ในทุกๆที่ ที่เค้าควรจะอยู่ได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด เค้าสามารถยืนระยะความฟิตสูงสุดให้กับตัวเองเมื่อจบเกมส์ได้ นักเตะเกาหลีญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเก่งกว่า หรือด้อยกว่าโก ส่วนใหญ่ก็มีตรงส่วนนี้กันทั้งนั้น ผมเชื่อว่าบุรีรัมย์เองก็มองเห็น ไม่งั้นเค้าไม่บอกหรอกว่า โก ซุล กิ คือนักเตะต่างชาติที่ดีที่สุดในไทยลีก

จุดเริ่มต้นหลายๆครั้งมันไม่สำคัญเท่าตอนจบหรอก ต้นทุนเรายังสู้เค้าไม่ได้เพราะต้องยอมรับว่าเราเพิ่งเริ่มความเป็นมืออาชีพได้ไม่นาน แต่บุรีรัมย์สามารถย่นระยะห่างได้ขนาดนี้ผมว่าโคตรเก่งมากๆแล้วจริงๆ ในจุดนี้สิ่งที่ทำได้คือย่นระยะห่างและบริหารจัดการจังหวะการเล่นให้เหมาะสมมากกว่า ผมถึงได้มองว่าไม่ใช่บุรีรัมย์อยากผ่อน แต่มันเป็นเรื่องในเกมส์ที่นักเตะไม่สามารถบดได้แบบต้นเกมส์แบบเต็มประสิทธิภาพมากกว่า
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
หาข้อมูลก่อนก็ดีนะครับ
บุรีรัมย์เคยเข้าถึงรอบแปดทีมนะ
ปีที่ผ่านมาได้อันดับสามแต่แต้มเท่าสองอันดับแรกนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่