ขอซ้ำอีกกระทู้

เรียกตัว...ไม่ยุติธรรม เรียกมาเจอนัดอิรัก เกมกดดัน จะให้ปรับตัวเล่นเลยได้ไง

ไม่เรียกตัว...ซิโกกาก เรียกแต่เด็กเส้น ไม่กล้าเรียกคนอื่นเพิ่มบ้าง

เรียกมา ไม่ให้ลง...หูย เอามาดอง เรียกมาทำไม

เรียกมา ให้ลงครึ่งหลัง...ทำไมไม่ให้ลงตัวจริง แบบนี้จะมีโอกาสพิสูจน์ตัวได้ไง

เรียกมา ให้ลงเต็มเกมตั้งแต่ครึ่งแรก...ทำไมจู่ๆให้ลงตัวจริงเลย ทำไมไม่ให้นั่งดูเกมก่อน เกมมันกดดันนะ

เรียกมา ให้ลงเต็มเกมตั้งแต่ครึ่งแรกพอครึ่งหลังเอาออก...ทำไมไม่ให้ลงเล่นจนจบเกม ลำเอียง

เรียกมา ให้ลงเต็มเกมตั้งแต่ครึ่งแรก ให้เล่นจนจบเกม...ทำไมให้ลงจนจบเกมเลย เดี๋ยวนักเตะกรอบ ตารางแน่น

เรียกมา ให้ลงเล่นกลางรุกคู่ชนาธิป...ไม่ได้สิ ต้องให้จักรพันธ์ลงกลางด้านหลังตัวรุก นี่มันทับตำแหน่ง ให้บุกมากไปเจออิรักยิงนะ ซิโกใช้งานไม่เป็น

เรียกมา ให้ลงเล่นกลางอยู่ช่วยหลังชนาธิป...ไม่ได้สิ ต้องให้จักรพันธ์เล่นกลางรุกคู่กับชนาธิปสิ จะกลัวอะไรกับอิรัก

เรียกมา ให้ลงเล่นกลางรุกแทนชนาธิป...ไม่ได้สิ เพิ่งกลับมาติดทีมชาติเอง ทำไมให้ลงตำแหน่งสำคัญในนัดแบบนี้



สรุป หายใจก็ผิดครับ สำหรับคนที่จะจ้องจับผิด ดังนั้น คนทำงานไม่ต้องสนใจ ทำงานสู้ต่อไป ไม่ว่าจะ ซิโก สตาฟ นักเตะทุกคน และยินดีกับจักรพันธ์ ถ้าได้กลับมาติดทีมจริง คราวนี้แสดงให้เห็นว่า เขาจะเป็นกำลังหลักทีมชาติในแดนกลางได้อีกคน



ปล. ผมชอบเด็กนี่นะ และก็เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมซิโกไม่ได้เรียกมาติดสักที แฟนบอลไทยที่ติดตามกันมานานๆก็น่าจะรู้กันอยู่ว่ามันมีเรื่องการเมืองของสโมสรและสมาคม ซิโกจะทำอะไรก็ต้องเกรงใจคนโน้นคนนี้ จะเรียกตัวจาก บุรีรัมย์มาเยอะก็ไม่ได้ ต้องบาลานซ์ ก็เป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมตั้งธีรทรเป็นกัปตัน นอกจากฝีเท้าของธีรทรเองที่พัฒนาแบบไม่หยุดยั้ง มีประสบการณ์ฟัดกับพวกยุ่นและเกาหลีใน ACL มาแล้ว ส่วนหนึ่งก็เพื่อลดกระแสเรื่องการเมืองและความขัดแย้งระหว่างสโมสรและสมาคมด้วย

แต่ตอนนี้ ซิโกสามารถเริ่มจะ "ว่าไปตามเกม" ได้มากขึ้นแล้ว แรงกดดันจากสมาคมกำลังจะหายไป เพราะอีกขั้วกำลังจะขึ้นมาแทน ซึ่งซิโกเป็นพวกคนทำงานประเภทที่ "ทำงานไปตามหน้าที่และความรับผิดชอบ พยายามเลี่ยงจะยุ่งเรื่องการเมืองของผู้ใหญ่" จะอยุ่กับหัวไหนก็ได้ ดังนั้นคราวนี้จะเรียกตัวอะไรก็ง่ายขึ้น ก็เป็นจังหวะที่ดีสำหรับการเรียกจักรพันธ์

ทีนี้ ก็ว่าไปตามแท็คติคแล้วว่า จะเซตระบบหรือมิติการเล่นเพิ่มเติมกันยังไง รอดูกันต่อไป ซิโกว่าไปแล้วก็เฮ็ดโค้ชมือใหม่ ทีมชาติไทยเราก็ยังมือใหม่ในระดับเอเชีย ไทยลีกเราก็ยังใหม่ แฟนบอลไทยเราก็ยังใหม่ในเรื่องของวัฒนธรรมการให้กำลังใจนักฟุตบอล และยังใหม่มากกับเรื่องความคาดหวัง เพราะทีมไทยไม่ว่าจะทีมชาติและสโมสรในไทยลีก "เราไม่เคยเดินมาถึงจุดนี้มาก่อนเลย" ไม่ใช่จุดที่ว่ากลับไปรอบ 12 ทีมสุดท้ายคัดบอลโลกนะครับ แต่หมายถึงทั้งองคาพยพเลย ไม่ว่าจะเป็น "สไตล์และเอกลักษณ์การเล่นฟุตบอล ซึ่งไทยเราไม่เคยมีรูปแบบการเล่นที่แน่ชัดมาก่อนเลยตั้งแต่ก่อตั้งประเทศมา จนถึงยุคนี้ ทีมชาติไทยและฟุตบอลไทย ที่มีนักบอลทรัพยากรนักเตะแบบนี้ทั่วประเทศ เพิ่งจะเริ่มต้นจริงจังในการเล่นฟุตบอลแบบภาคพื้นดินและใช้ความคล่องตัวให้เป็นประโยชน์ ใช้ความฟิตบดไล่บี้ และการเล่นเกมรุกแบบริมเส้นตัดคัดแบ็ค" รวมถึงยุคสมัยที่ "สโมสรในไทยลีก กำลังจะเข้าสุ่ความเป้นมืออาชีพ นักบอลสามารถหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวจากฟุตบอลได้ ทุ่มเทสมาธิมาสู่ฟุตบอลได้ ใครๆก็ทุ่มเทเล่นเพราะอยากติดทีมชาติ อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพสังกัดสโมสร"

ทั้งหมดที่ว่ามา เพิ่งเริ่มต้น เรายังใหม่มาก (รวมถึงระบบจัดการของสมาคม ที่กำลังจะเห็นแสงสว่างแล้ว) ดังนั้น เลิกเกรียนงี่เง่าแล้วเชียร์กันต่อไป ถ้าจะเกรียนก็ควรจะเกรียนอย่างสร้างสรรค์ดีกว่า