ไม่เคยดูและไม่เคยอ่าน ไม่ว่าจะสารวัตรเถื่อน แม่ลาวเลือด หักลิ้นช้าง บ่วงบาศและประกาศิตอสูร

        พอดีเพิ่งรู้ว่าได้ผู้แสดงนำ 'หักลิ้นช้าง' แล้ว  (เราไม่ค่อยได้เล่น pantip เลยหลังเขาตกข่าวประจำ)  เห็นว่ามี 'แม็กกี้' ด้วย ใช่บทลำเพาหรือเปล่า  แล้วลำเพาเดียวกับ 'แม่ลาวเลือด' หรือไม่?

       ถ้าใช่ก็ซื้อลิขสิทธ์รีเมก 'แม่ลาวเลือด' ดันแม็กกี้นำเดี่ยวหลังข่าวไปเลย  เป็น Prequel ต่อจาก 'หักลิ้นช้าง' เราเข้าใจถูกไหมเอ่ย (ก็ไม่เคยอ่าน)



      ไหนๆ สารวัตรเถื่อน จะลงจอขอนำบทความเกี่ยวกับผู้ประพันธ์มาให้อ่านเล็กๆ น้อยๆ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทยอยนำผลงานเก่าของวสิษฐ.....มาให้อ่านอีกครั้ง
27 มิถุนายน 2011 เวลา 20:06 น.

สํานักพิมพ์มติชน ทยอยนำผลงานเก่าของ พล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร กลับมาอีกครั้ง เพื่อแนะนำให้นักอ่านรุ่นหลังได้รู้จักนายตำรวจนักเขียนมือทองแนว อาชญนิยายท่านนี้

"แม่ลาวเลือด" เป็นผลงานเรื่องที่สองของพระเอก "ธนุส นิราลัย" ที่กลับมาพร้อมกองกำลังนอกระบบ "บราโว่" หลังเสร็จสิ้นภารกิจปราบปรามเหล่าอาชญากรใน "สารวัตรเถื่อน" อันเป็นตอนแรกที่พล.ต.อ.วสิษฐ มอบบทบาทให้กับธนุส

"สารวัตรเถื่อน" อุบัติขึ้นบนถนนอาชญนิยายในช่วงระหว่างปี 2524-2525 ขณะพล.ต.อ.วสิษฐรับราชการประจำกรมตำรวจ (สำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบัน)

พล.ต.อ.วสิษฐให้สัมภาษณ์นิตยสาร "ศิลปวัฒนธรรม" ฉบับเดือน ม.ค.2549 ว่า "สารวัตรเถื่อน" นั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายบางเรื่องของ เอียน เฟลมมิ่ง นักเขียนดังชาวอังกฤษ ผู้สร้างพระเอก เจมส์ บอนด์

"สารวัตรเถื่อน" พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์มติชนในปี 2528 ทำให้ผู้อ่านได้รู้จัก "ธนุส นิราลัย" พระเอกผิวคล้ำร่างสูง และ "บราโว่" มาตั้งแต่นั้น

พล.ต.อ.วสิษฐบอกว่า "สารวัตรเถื่อน" ได้รับการต้อนรับจากผู้อ่านในยุคสมัยนั้นเกินคาด จึงจำต้องมอบภารกิจให้ "ธนุส นิราลัย" และองค์กรลับ "บราโว่" กลับมาลุยปราบปรามเหล่าร้ายอีกครั้ง

"แม่ลาวเลือด" พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์มติชนในปี 2530 ห่างจากภารกิจแรกของธนุสใน "สารวัตรเถื่อน" 2 ปี ในเล่มนี้ พระเอกธนุสได้รับมอบหมายภารกิจปราบปรามขบวนการยาเสพติดในภาคเหนือ โดยพล.ต.อ.วสิษฐเลือกใช้ "แม่ลาว" แม่น้ำสายสำคัญของ จ.เชียงราย เป็นแกนหลักของเรื่อง

ภารกิจนี้ยังนำพาให้ "ธนุส" ได้พบ "ลำเพา สายสัททุล" นายร้อยตำรวจเอกหญิงแห่งสันติบาลเป็นครั้งแรก ก่อนจะร่วมชะตากรรมกับเขาในเล่มต่อๆ มา

เกือบสามสิบปี ที่ "ธนุส นิราลัย" ถือกำเนิดขึ้นในโลกอาชญนิยาย เป็นพระเอกในอุดมคติที่อยู่ในหัวใจของผู้อ่านหลายต่อหลายรุ่น แต่กระนั้นก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบ

ในคำนำฉบับพิมพ์ล่าสุดครั้งที่ 5 พล.ต.อ.วสิษฐมีบางสิ่งบางอย่างคุยกับผู้อ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้

"ผู้อ่านหลายคนเคยปรารภเป็นเชิงตำหนิกับผมว่า พฤติการณ์ของธนุสดูจะอ่อนศีลธรรม ไม่สร้างสรรค์ และไม่เหมาะกับผู้อ่านรุ่นเยาว์

ผมไม่มีคำแก้ตัวสำหรับคำปรารภนี้ แต่ผมเชื่อว่า ถ้าผู้รักษากฎหมายงอมืองอเท้า ทอดธุระ และปล่อยให้อาชญากรรมฉวยโอกาสใช้ความอ่อนแอของกระบวนการยุติธรรม หรือร่วมกับอาชญากรข่มเหงรังแกสุจริตชน

วันหนึ่งข้างหน้า อาจมีผู้ที่ทนไม่ได้ ร่วมกันก่อตั้ง "บราโว่" ขึ้น แล้วสวมวิญญาณ "ธนุส นิราลัย" ก็เป็นได้"

จากแม่ลาวเลือด "ธนุส นิราลัย" ยังมีภารกิจต่อเนื่องใน "หักลิ้นช้าง", "บ่วงบาศ" และ "ประกาศิตอสูร"

ทุกเล่ม จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน




              วกมาที่พระเอก  เซอร์ไพรส์สุดๆ เลยที่ 'หลุยส์ เฮสดาร์ซัน' ม้ามืดคว้าบทนี้ไปครอง  เหลือเชื่อว่า ช่อง 7 จะให้โอกาสขนาดนี้

              ก็พอจะรู้ว่าช่องส่งซิกว่าเตรียมดันดูจากได้ถ่ายปฏิทินหน้าที่ทุกคนนำเดี่ยวหลังข่าวกันแล้ว   แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นโปรเจกต์นี้   แต่คิดอีกทีช่องคงเล็งเห็นศักยภาพถึงได้วางใจ

              บอกไปอาจหมั่นไส้ที่เข้าข้างเด็กโปรด  แต่ดูสถานการณ์ตอนนี้แล้วพระเอกหน้าใหม่ที่บู๊จัดเต็มได้ก็มี หลุยส์ นี่แหละที่ยังสดหน้าไม่ช้ำ  แล้วช่องก็ไม่ได้พิศวาสอะไรหนักหนาไม่ได้ดันติดจรวดสักหน่อย  กว่าจะมาถึงวันนี้รอตั้งเกือบ 3 ปี (นักสู้มหากาฬ)   แฟนคลับไม่มากแต่เล่นบู๊หนักๆ ได้ตามโจทย์  ไว้ดู 'เหยี่ยวรัตติกาล' จะทึ่ง  

              ที่สำคัญ เป็นโอกาสดีที่จะชิมลางปั้นพระเอกใหม่ๆ บ้างไม่ใช่หรือ?  

             เดี๋ยวนี้เราจับทางช่อง 7 ได้แล้วว่าบู๊ฟอร์มดีการันตีเรตติ้งเป็นโอกาสทองแนะนำพระนางหน้าใหม่   จากนั้นก็วนเวียนหาประสบการณ์พระนางละครเย็นสลับบทรองหลังข่าว  ฉะนั้น  ไม่ต้องกลัวว่าหลุยส์เสียงต่ำๆ แบบโดม จะนำเดี่ยวหลังข่าวถาวร   เราเองยังอยากให้เล่นละครเย็นสักเรื่องเลย

             แล้วถ้า 'หักลิ้นช้าง' หลุยส์ เล่นไม่ไหวก็ต้องหาคนอื่นมาเล่นแทนอยู่แล้ว ไม่อยากให้ถึงขั้นแอนตี้หรือตั้งแง่    ส่วนหน้าตาไม่เข้ากับบทบาทอันนั้นเราก็จนปัญญา   ต้องถามเหตุผลกับทางช่องเอง      

             อย่างหลุยส์จะไปช่องคู่แข่งก็ได้ กะตังค์ ก็อยู่นั่น  แต่น้องก็เลือกที่จะรักช่อง 7

           ส่วนอนาคตไม่รู้ต้องดูกันยาวๆ