[CR] ทริปชิมลางที่เกาหลี กิน ช้อป เที่ยวเล่น แบบฉบับตามใจฉัน

สวัสดีพี่น้องชาว Pantip ทุกท่าน รวมทั้งผู้ที่ให้ความสนใจในกระทู้นี้ อาจจะเขียนได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ก็ลองอ่านๆ กันดูเนอะ ยิ้ม

ช่วงวันที่ 29 ธ.ค. 2558 ถึง 9 ม.ค.2559 ที่ผ่านมาเรากับเพื่อนได้มีแพลนที่จะไปเที่ยวกันที่ประเทศเกาหลีใต้ พักอยู่ที่เกาหลี 10 คืนเต็มๆ เดินทางกันทั้งหมด 2 คน อย่างแรกคงต้องขอเล่าถึงที่มาของทริปนี้ก่อน เราเป็นคนที่ชื่นชอบความเป็นเกาหลี ชอบ k-pop ชอบอาหาร และบรรยากาศที่นั่นมาก ส่วนเพื่อนเราอีกคนเป็นสาวนักช้อป และนักชิม อิอิ ดูจะไปกันได้เลยใช่มั้ยล๊าา ส่วนตัวเรามีความคิดอยู่แล้วว่าต้องมาเกาหลีให้ได้สักครั้งนึง แบบไม่ใช่มากับทัวร์นะ และก็ได้เล่าๆ ให้เพื่อนฟัง คุยกันไปคุยกันมาเลยยย เอ้าาา งั้นไปด้วยกันนน เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า...

ในนี้ลงรูปไม่ได้ งั้นตามไปที่บล็อคนะคะ
เดี๋ยวเราจะเอาเรื่องในนี้ไปลงไว้ด้วย ตามมากันเลยย >>> https://yywp.wordpress.com/

>>> สถานที่ที่พวกเราไปกัน <<<
- มยองดง (เมียงดง)
- สวนสนุกเอเวอร์แลนด์
- ดงแดมุน (Dongdaemun Design Plaza (DDP))
- Ewha Womans University
- เกาะนามิ
- Seoul Forest
- Coex mall
- ค่ายเพลง ย่าน Apgujeong ค่าย SM และ JYP
- ย่าน ฮงแด, Hongdae University, ร้าน Style Nanda สาขาฮงแด
- คลองชองเกชอน
- พระราชวังคยองบกกุง Gyeongbokgung
- N Seoul Tower (N 서울타워)  
- ดงฮวา ดิวตี้ฟรี (dongwha duty free)
....................  ฯลฯ   .....................

>>> การเดินทางไป-กลับเกาหลี <<<
- เราเดินทางโดยสายการบิน Jin Air B777-200 (ลำใหญ่ที่นั่งเท่าๆกับการบินไทย คาดว่าน่าจะเป็นช่วงเทศกาลจึงเอาลำใหญ่มาบิน)
ราคาตอนที่เราจองเป็นช่วงโปรพอดี เลยได้ตั๋วไปกลับในราคาประมาณ 14,700 บาท

>>> การเดินทางภายในประเทศเกาหลี <<<
- โดยส่วนมากจะใช้ subways และเดินเท้าคะ
อย่าลืมซื้อบัตร T-money ไว้สำหรับตี๊ดจ่ายค่า subways อ่ออ.. อย่างที่รู้ๆ กันคือ มันสามารถใช้ซื้อของใน Super Market, G25, 7-11 และอีกมากมายได้ด้วย
*สำหรับการเดินทางโดย subways แนะนำให้โหลดแอพ subway korea มาใช้คะ มันจำเป็นและดีมากๆ ประมาณค่าใช้จ่ายในการเดินทางแต่ละครั้งได้ด้วย

>>> เงินที่ใช้ <<<
- ตอนนั้นเราแลกเงินไป 3 สกุลเงิน คือ won, euro และ usd คะ
ที่ต้องแลก euro และ usd ไปด้วย เพราะว่าเงินสกุลเหล่านี้เมื่อนำไปแลกเป็นเงิน won จะได้ rate ที่ดีกว่าคะ แต่ก็ต้องแล้วแต่ช่วงของการแปรปรวนของค่าเงินด้วยนะ แต่เท่าที่ทราบมาคือ ยังคงแลกได้ rate ดีกว่าคะ
*ในส่วนของเงิน euro, usd, thb ไปแลกที่เกาหลี เราแนะนำว่าแลกที่ธนาคารของเกาหลีก็ได้เรทดีเช่นกันจ้า

--- วันแรก 30/12/58 ---
เราและเพื่อนเดินทางมาถึงประเทศเกาหลีใต้โดยสวัสดิภาพ เราขึ้นเครื่องกันตอนตี 1 ประเทศไทย และมาถึงที่เกาหลีตอน 8 โมงเช้า ด่านแรกเลย ต.ม. ที่ขึ้นชื่ออออออ 5555+ ที่ไปอ่านมาใครๆ ก็ว่าโหด!!! แต่สำหรับเราคือ ไม่นะ ไม่โหดเลย เพราะของเราพอยื่น passport ให้ เขาก็เปิดๆ ดู ไม่ได้ถามอะไร ตอนนั้นเราแนบเอกสารที่พักไปด้วย กรอกใบต่างๆที่แอร์แจกให้บนเครื่องเรียบร้อยครบถ้วน เขาก็ก้มๆ เงยๆ มองหน้า แล้วก็ให้เราสแกนนิ้วและก็ให้ผ่านไป Welcome to South Korea *-*

พอผ่าน ต.ม. เสร็จ เรากับเพื่อนก็เดินหา G25 ร้านสะดวกซื้อเพื่อนที่จะซื้อบัตร T-money แต่ตอนนั้นรู้สึกจะเจอ 7-11 แทนเลยซื้อบัตร T-money กันที่นั่น จากนั้นก็เดินหาที่ที่จะไปขึ้นรถไฟฟ้า ktx นั่งจากสนามบินอินชอน ไปลงที่ Seoul Station เพื่อเปลี่ยนสายไปที่สถานี Hyehwa Station เพราะพวกเราพักกันแถวๆ นั้น ที่พักของเราคือ Bong Backpackers คะ จองผ่าน booking.com ที่พักหาง่ายมากๆ ใกล้ที่กิน ช้อป ห้องค่อนข้างกว้างพอดีกับจำนวนคน สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องดีคะ เหมาะมากๆ สำหรับการเดินทาง 2 - 3 คน ส่วนตัวแล้วเราชอบห้องพักของที่นี่นะคะ

เมื่อมาถึงที่พักกันเรียบร้อยแล้ว เรากับเพื่อนมีแพลนกันว่าจะไปหาซื้อรองเท้าที่ มยองดง หรือ เมียงดง ที่หลายๆ คนรู้จักกันนี่ล่ะคะ คือมาถึงก็ซื้อรองเท้าเลยไม่ใช่อะไร คู่เก่าที่ใส่มาดันใส่แล้วเจ็บซะงั้น - -* เราได้ยินมาว่าาาา อปป้าที่ร้าน NB ที่นั่น หล่อแซ่บมากกกกกกก เลยตามไปดูค่าาาา ปรากฏว่า... ขุ่นพระะ เออออ จริงของเขาแฮะ 55555+ จ๊ะ... หล่อจริงๆ คะ บริการดีเยี่ยม หานู่นนั่นให้ลอง แนะนำแต่ละคู่ บลาๆ และที่สำคัญคือ พูดไทยได้ พูดได้หลายภาษาด้วย อังกฤษ ไทย จีน สำหรับใครที่คิดจะไประวังนะ อปป้าพูดไทยได้ แถมฟังออกด้วย ถ้าจะเม้าท์ออกมาข้างนอกค่อยเม้าท์เนอะ 5555+ และแล้วเราก็ได้รองเท้ามาเรียบร้อย ในราคา 89,000 วอน เป็นเงินไทยก็ประมาณ 2700 กว่าบาท ซึ่งจะถูกกว่าซื้อที่ไทย 5 - 10% จ้าา

จากนั้นเราก็เดินๆ เล็งของที่คาดว่าจะซื้อกลับไทยกัน คือเดินอยู่ที่นั่นนานมากๆ กะว่าถ้ามาอีกรอบนี่จะต้องไม่หลงกันเลยทีเดียว 555+ แล้วก็หาอะไรกินแถวนั้นก่อนกลับที่พัก อาหารมื้อแรกของที่นั่นคือ 라면 (รา-มยอน) ที่บ้านเราเรียกว่า มาม่า นั่นเอง... อะไรรรร มาตั้งไกล แต่มากินมาม่าาา ฮ่าาาา เดี๋ยวๆ คือเส้นของที่นี่จะไม่เหมือนของที่บ้านเรานะ เส้นจะใหญ่และเหนียวนุ่มกว่าคะ พอกินเสร็จเราก็เดินทางกลับที่พักกันเพื่อเก็บแรงไว้ลุยต่อพรุ่งนี้ ฮ่าาาาาาา


--- วันที่สอง 31/12/58 ---
วันนี้พวกเราเลือกมาเที่ยวที่... สวนสนุกเอเวอร์แลนด์คะ  สำหรับอากาศในวันนี้หนาวมากๆ เลยคะ เพราะอยู่ท่ามกลางหุบเขาเท่าที่จำได้คือในตอนเช้าของวันนั้นอุณหภูมิ -4 องศา แถมมีลมอีกด้วย หนาวสุดๆเลยล่ะคะ สำหรับสวนสนุกเอเวอร์แลนด์นี้มีเครื่องเล่นที่หลากหลายมากกก จนทำให้ไม่สามารถเล่นได้ครบทุกชั้นคะ ข้างในสวนสนุกเอเวอร์แลนด์มีสวนสัตว์ด้วยนะ(อันนี้เราก็เพิ่งรู้) พวกเราเลือกที่จะอยู่ที่นี่ 1 วันเต็ม จ่ายค่าเข้าชม ค่าเครื่องเล่นแบบเหมาจ่ายรายวัน ตอนที่เราไปกันมันจะมีคูปองส่วนลดด้วยคะ สรุปค่าเข้าแบบเหมา 1 วัน ที่สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ 36,000 won เป็นเงินไทยประมาณ 1,100 บาท เราหาคูปองส่วนลดพวกนี้จากเว็บนี้คะ seoulcafe2013.blogspot.com มีข้อมูลต่างๆ มากมาย หาข้อมูลการเดินทาง การวางแผนไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ สามารถศึกษาได้จากเว็บนี้เช่นกันคะ ข้อมูลแน่นมากๆ  ^^

และในส่วนแรกที่เอเวอร์แลนด์นั้น เราเลือกที่จะไปในโซนของสวนสัตว์ก่อน โดยจะเดินเข้าไป หรือ จะนั่งกระเช้าเข้าไปก็ได้คะ ในสวนสัตว์ก็จะมีสัตว์เมืองหนาว เช่น เพนกวิน, แมวน้ำ และอีกมากมายเลยคะ ในสวนสัตว์ที่นี่มีความพิเศษคือเราสามารถนั่งรถ+เรือ (คือเป็นทั้งรถและเรือในส่วนเดียวกันคะ) นั่งไปชมพวก เสือ สิงโต หมี ยีราฟ เก้ง กวางนานาพันธุ์ ได้อย่างใกล้ชิดคะ โดยจะมีไกด์บรรยายให้ฟัง บลาๆ (ไม่มีซับอิ้งนะคะ ไกด์เค้าจะพูดเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมด) ส่วนตัวเราชอบหมีคะ เพราะมันดูน่ารักดีมันมีชื่อด้วยนะคะ คนขับก็จะเรียกชื่อแล้วก็โยนอาหารให้ บางตัวมันจะยกขามาเกาะข้างๆ รถด้วยคะ แต่ไม่ต้องตกใจกันนะ รถมีกรงเหล็กครอบอยู่รอบคันคะ  จากนั้นเราก็ไปปั้น snowman กัน ลานหิมะขนาดใหญ่มี 2 ฝั่ง ซ้ายขวาเลือกเอาว่าจะเล่นฝั่งไหนไม่อั้นน ฮ่าๆๆ ในตอนนั้นสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นแบบหนาวจนสามารถ freez ได้ เราเดินมารอเพื่อนด้านล่างมี จนท. เป็นผู้ชายคนนึงเดินมาส่งตรงทางลง แต่ตอนเดินลงมานั้น!!!! มันลื่นคะ สไลด์เลยคะ ไม่เจ็บเท่าไหร่คะแต่เย็นมากกกกกกกกกกกก จนท.เลยจับมือเราพยุงขึ้นแล้วถามว่า you, ok?  เขาก็ตกใจอ่ะ พี่เล่นสไลด์ลงเลยแบบไม่ทันตั้งตัว 5555+  เราเลยบอกเขาว่าโอเคๆ แล้วก็เดินลงมาต่อ คือรองเท้าเรามันลื่นมากจริงๆ เราก็ไม่รู้ว่าคนที่นั่นเขาเดินยังไงไม่ให้ลื่นนะ นึกย้อนกลับไปก็ขำตัวเองเหมือนกันนะ  

พอช่วงเย็นเราก็หาอะไรกิน แถวๆ ร้านอาหารในเอเวอร์แลนด์ พอกินเสร็จก็เตรียมลุยยยย ไปเล่นเครื่องเล่นกันต่อค่าาา ฮ่าๆๆ ทั้งวันยังไม่พอต้องเอาให้คุ้ม คราวนี้เพื่อนเราเป็นคนเลือกเครื่องเล่นซึ่งเครื่องเล่นชนิดนี้ต่อแถวเพื่อรอเล่นนานมากๆ เพราะคนที่นี่ชอบความท้าทายกันมาก และเครื่องเล่นชนิดนี้ก็คือ.. T-Express รถไฟเหาะรางไม้ เป็นรถไฟเหาะที่รางทำจากไม้แห่งแรกในเอเชีย และเป็นรถไฟเหาะที่เร็วสุดระยะทางต่อเวลา 104 km/hr และยังใช้เวลาวิ่งนานสุดในเอเชียอีกด้วย ใช้เวลาประมาณ 3 นาทีได้คะ คือจะบอกว่า.... มันน่ากลัวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กอ ไก่ล้านตัววว จริงๆ คือถ้ามีโรคประจำตัว กลัวความสูง อย่าเสี่ยงเลยคะ ถ้าอยากรู้ว่ามันจะน่ากลัวสักแค่ไหนลองค้นหาคำว่า T-Express Everland Seoul ดูก็ได้คะ ตอนที่เราเล่นคือตอนกลางคืน เสียวไส้มากๆ คะ บวกกับอากาศหนาวๆ ลงมาปุ๊บมือยังสั่นไม่หายเลยย  อ่ออ.. ก่อนเล่นเขาจะมีที่ให้ฝากกระเป๋า กล้อง โทรศัพท์นะคะ เพราะถ้านำขึ้นไปด้วยมันเสี่ยงมากที่สิ่งของพวกนี้จะหล่นหายคะ สติหลุดกันหมดดด  5555+   พอเล่นเสร็จเราก็ไปตรงจุดที่มีการแสดงกันต่อคะ เนื่องจากวันที่ไปเป็นวันสิ้นปีพอดีเลยมีกิจกรรมเคาท์ดาวน์กัน มีขบวน การแสดงแสงสีที่สวยงามมากมายคะ เรายืนดูกันจนจบแล้วก็เดินทางกลับที่พักกันคะ  วันที่สาม..  

--- วันที่สาม 01/01/59 ---
วันนี้พวกเราออกจากที่พักสายหน่อย เพราะตั้งใจว่าจะไปแถวๆ ย่านของ Ewha Womans University  โซนนี้จะมีร้านขายเสื้อผ้าอยู่เยอะมาก ทั้งยังเป็นเขตของมหาลัย พวกเราได้ไปเดินดูภายในมหาลัยตามที่พวกเราได้เห็นรูปกันมา คือเป็นมหาลัยที่สวยมากๆ แห่งหนึ่ง เราชอบที่นี่นะ เพราะดูสวยแบบเรียบๆ ดี ได้เดินถ่ายรูปกันมาเยอะพอสมควร เดินดูรอบๆ ไปจนถึงโซนที่พักนักศึกษา(ตรงนี้ต้องเดินกันเงียบๆ หน่อยเพราะกลัวว่าคนที่พักอยู่จะรำคาญเอานะคะ) แต่ช่วงที่เราไปรู้สึกว่าเขาจะปิดเทอมกันจึงไม่ค่อยมีคนเท่าไร พอเดินถ่ายรูปกันเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ออกมาเดินในโซนที่ขายของหน้ามหาลัย อย่างที่บอกไปข้างต้นคือมีเสื้อผ้าขายเยอะมากกกกกกกกกกกก ร้านอาหารต่างๆ มากมาย ร้านสะดวกซื้อครบครันเหมาะกับที่เป็นโซนมหาลัยคะ  

พอเดินๆ ในย่านของ Ewha Womans University จนพอใจกันแล้ว พวกเราเลยคิดว่าจะไปร้าน Style Nanda สาขาฮงแด(สาขาใหญ่) รออะไรล่ะ ไปกันเลยยยยยย  ^^  ต้องขอบอกก่อนว่าร้านนี้เป็นร้านขายเสื้อผ้า และที่สำคัญเครื่องสำอางแบรนด์ 3CE คะสาวๆ ง่อววววววว..  สาวๆ แต่ละคนที่ชื่นชอบแบรนด์นี้ต้องร้องวู้ววววกันแน่ๆ เลย  แต่คือ.... เราไม่ได้มาซื้อไปใช้เองอะนะ พาเพื่อนสาวชาวช้อปมาช้อปเครื่องสำอางคะ  ฮ่าๆๆ การเดินทางก็ค่อนข้างซับซ้อนพอสมควรเลยละคะ รายละเอียดการเดินทางคือ นั่งรถไฟใต้ดิน ลงสถานี Hongik Univ line 2 (สีเขียว) ทางออกที่9 เดินตรงไปทางซอย skin food watsons เดินตรงไปเจอทางแยก ด้านหน้าเป็น Shop ARITAUM ให้เลี้ยวซ้าย และเดินตรงไป จะเจอซอยเซเว่นอยู่ขวามือ แล้วก็เดินตรงไปในซอยเซเว่น แล้วก็จะเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้าย จะเจอร้าน Style Nanda คะ (บอกละเอียดกันนิดนึงคิดว่าต้องมีคนอยากไปชัวร์ๆ อิอิ) พอซื้อของกันเสร็จก็เดินดูของแถวๆ นี้กันสักพัก ย่านนี้ก็คนเยอะไม่แพ้มยองดงเลยคะ วัยรุ่นหนุ่มสาวเต็มไปหมดดด เลือกมองตามสบายใจเลยคะ ฮ่าๆ  สำหรับวันนี้ก็จบเพียงเท่านี้คะ กลับไปกินอาหารสุดโปรดตรงทางกลับไปที่พักกันซุนแด และ ต๊อกโบกิคะ  ร้านนี้อร่อยมาก ขอบอกกกกกก  ลงสถานี hyewa ทางออกที่ 4 เดินออกมาเจอเลย จะเป็นลุงวัยกลางคน ยืนขายในรถต๊อกนะคะ  (เดี๋ยวมาต่อนะคะ สำหรับรูปรอสักหน่อยน๊าา กำลังจะเอามาลงให้จ้า)
ชื่อสินค้า:   กิน ช้อป เที่ยวเล่น ที่เกาหลีใต้
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่