ก่อนจะแกะเล่มนี้อ่าน ผมต้องกลับไปอ่านใหม่มาตั้งแต่เล่ม 1 เพื่อให้ได้อรรถรสที่ครบถ้วนทุกอณูน้ำหมึกและตัวอักษร
คิดว่าชาตินี้จะไม่มีโอกาสได้เห็นเสียแล้ว
เคยอ่านบทความของคุณวินทร์ เลียววารินทร์ ที่ว่าเมื่อก่อนคนอ่าน ลุ้นให้ พนมเทียนเขียนเพชรพระอุมาให้จบ (คุณพนมเทียนเป็นโรคหัวใจ) แล้วคุณพนมเทียนก็ทำได้จริงๆ
แต่อีกเคสคือผู้ชนะสิบทิศของคุณยาขอบ ปรากฎว่าคนเขียนถึงแก่กรรมเสียก่อน แต่ท่าก็สั่งเสียบอกพล็อตเรื่องให้น้องชายเขียนต่อ เช่นเดียวกับขุนศึกของไม้เมืองเดิม บทความเต็มๆ ของคุณวินทร์ ผมใส่ไว้ในสปอยนะครับ เผื่อใครอยากอ่าน (ผม copy มาจากเฟสบุ๊ค ไม่แน่ใจว่าตามลิ้งไปแล้วจะเห็นบทความกันหรือเปล่า)
ขออนุญาตแท็กวิทยาศาสตร์นะครับ เข้าใจว่ามีชาวหว้ากอหลายท่าน อ่านเรื่องนี้อยู่ด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในช่วงที่นวนิยาย เพชรพระอุมา ของ พนมเทียน กำลังตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสารจักรวาลรายสัปดาห์เมื่อผมยังละอ่อนอยู่นั้น ผมเคยภาวนาให้นักเขียนมีอายุยืนยาวร่างกายแข็งแรง เพราะติดนิยายงอมแงม และกลัวว่าเขาจะเขียนนวนิยายเรื่องนี้ไม่จบ!
ผมเชื่อว่าตนเองคงไม่ใช่แฟน เพชรพระอุมา คนเดียวที่ภาวนาเช่นนี้ เมื่อดูจากความยาวของผลงานแล้ว ก็น่าหวั่นใจเหมือนกันว่านักประพันธ์มีสิทธิ์เขียนนวนิยายที่ยาวที่สุดในโลกเรื่องนี้ไม่จบ สำหรับงานที่อ่านสนุกระดับนี้ ใคร ๆ ก็ย่อมหงุดหงิดอย่างยิ่งหากเรื่องไปไม่ถึงบทสุดท้าย ดังนั้นเมื่อ เพชรพระอุมา เดินทางไปถึงบรรทัดสุดท้ายโดยสวัสดิภาพ ผู้อ่านก็ถอนหายใจโล่งอกหนึ่งเฮือก แต่ก็เกิดอาการหงุดหงิดอีกเล็กน้อยที่เรื่องยังไม่ลงเอยด้วย แฮปปี้ เอนดิ้ง (นวนิยายสมัยนั้น 'แฮปปี้ เอนดิ้ง' หมายถึงพระเอกแต่งงานกับนางเอกสถานเดียว ไม่ต้องตีความ!) แสดงว่านักเขียนตั้งใจจะทำงานยาวแน่ ๆ
จริงดังคาด ไม่นานต่อมา พนมเทียนก็บรรเลง เพชรพระอุมา ภาคสอง ต่อในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ท่ามกลางความหวั่นกลัวลึก ๆ ของผมอีก และแล้วผ่านไปอีกหลายปี ภาคสองจบ แต่พระเอกก็ยังไม่แต่งงานกับนางเอกสักที ตามมาด้วยภาคสาม
กว่าจะจบทั้งสามภาคก็กินเวลานานร่วมยี่สิบหกปี แต่นักเขียนก็ทำหน้าที่เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย โดยที่นักอ่านจำนวนมากโล่งอกสุขสม (พนมเทียนเคยเขียนเล่าว่า รู้สึกเบาตัว โล่งอกโปร่งใจเหลือประมาณ คล้ายยกภูเขาออกจากอกที่สามารถทำให้นวนิยายเรื่องนี้จบลงได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากระหว่างที่เขียนนั้น ผู้อ่านหลายคนตายไปก่อนเพราะสังขารรอไม่ไหว!)
เหตุผลที่ผม (และเชื่อว่ารวมทั้งนักอ่านจำนวนมาก) รู้สึกกังวลลึก ๆ ก็เพราะเคยมีประสบการณ์แบบนี้กับนวนิยายหลายเรื่องในอดีต ยกตัวอย่างเช่น ผู้ชนะสิบทิศ ของ ยาขอบ เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่สนุกมาก มีผู้อ่านทั่วประเทศติดงอมแงมจนมารอซื้ออ่านที่หน้าแท่นพิมพ์ ทว่ายาขอบเขียน ผู้ชนะสิบทิศ ไม่จบเพราะท่านตายเสียก่อน
แม้นักอ่านจะเข้าใจสถานการณ์ แต่ลึก ๆ ก็อดผิดหวังไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ยาขอบก็ไม่สิ้นความรับผิดชอบ ขณะใกล้ตาย ท่านก็ยังบอกให้คนใกล้ตัวจดเรื่องย่อที่เหลือทั้งหมดเอาไว้
นวนิยาย ขุนศึก ของ ไม้ เมืองเดิม ก็เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์รสเข้มข้นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งมีผู้ติดตามมาก ทว่าผู้เขียนก็เสียชีวิตก่อนที่จะเขียนจบ น้องชายของท่านก็รับภารกิจเขียนต่อจนถึงบรรทัดสุดท้าย ถือเป็นความรับผิดชอบที่จะต้องทำงานให้ถึงที่สุด
…………….
ในการเล่นหมากรุก สนุกเกอร์ กอล์ฟ ฯลฯ บางครั้งเมื่อถึงจุดจุดหนึ่ง ผู้เล่นฝ่ายหนึ่งก็รู้แล้วว่าตนเองจะแพ้ แต่ก็เล่นให้จบเกม เป็นมารยาทอย่างหนึ่ง
ทุกอาชีพมีภาระของความรับผิดชอบ อาจจะจัดว่าเป็นจรรยาบรรณอย่างหนึ่ง ทนายความว่าความจนคดีถึงที่สุด หมอรักษาคนไข้จนหายหรือตาย ผู้รับเหมาก่อสร้างสร้างบ้านลูกค้าจนเสร็จ ไม่ทิ้งงานกลางคัน
คำว่า 'ความรับผิดชอบ' นี่แหละที่แยกแยะมืออาชีพออกจากมืออ่อนหัด จำแนกคนที่มีวุฒิภาวะออกจากคนที่ไม่รู้จักโต
ในการใช้ชีวิตก็มีจรรยาบรรณนี้เช่นกัน : ขับรถชนคนตายแล้วไม่เผ่นหนี ทำของเสียหายแล้วชดใช้ ทำหญิงท้องแล้วรับผิดชอบ
ทำงานก็ทำให้จบทุกชิ้น ทำให้ถึงที่สุด
มีความฝันก็ไปให้สุดฝัน ไม่ปล่อยคาไว้
เมื่อเกิดมาแล้ว ก็ใช้ชีวิตให้ดีที่สุด ถึงวันตายก็ไม่รู้สึกเสียใจว่ายังไม่ได้ทำโน่นทำนี่
รับผิดชอบต่อคนอื่น รับผิดชอบต่อตัวเอง รับผิดชอบต่อความฝันของตัวเอง
เพราะถึงจะทำไม่สำเร็จ ก็ไม่เสียใจที่ยังไม่ได้เริ่มทำ
ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/winlyovarin/photos/a.1502062586736369.1073741826.1501588676783760/1674075549535071/
ผมนี่ถึงขั้นหยิกตัวเองเลยครับ
คิดว่าชาตินี้จะไม่มีโอกาสได้เห็นเสียแล้ว
เคยอ่านบทความของคุณวินทร์ เลียววารินทร์ ที่ว่าเมื่อก่อนคนอ่าน ลุ้นให้ พนมเทียนเขียนเพชรพระอุมาให้จบ (คุณพนมเทียนเป็นโรคหัวใจ) แล้วคุณพนมเทียนก็ทำได้จริงๆ
แต่อีกเคสคือผู้ชนะสิบทิศของคุณยาขอบ ปรากฎว่าคนเขียนถึงแก่กรรมเสียก่อน แต่ท่าก็สั่งเสียบอกพล็อตเรื่องให้น้องชายเขียนต่อ เช่นเดียวกับขุนศึกของไม้เมืองเดิม บทความเต็มๆ ของคุณวินทร์ ผมใส่ไว้ในสปอยนะครับ เผื่อใครอยากอ่าน (ผม copy มาจากเฟสบุ๊ค ไม่แน่ใจว่าตามลิ้งไปแล้วจะเห็นบทความกันหรือเปล่า)
ขออนุญาตแท็กวิทยาศาสตร์นะครับ เข้าใจว่ามีชาวหว้ากอหลายท่าน อ่านเรื่องนี้อยู่ด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้