สะบายดี..ชาวพันทิปทุกท่าน..
..พระถังซัมจั๋งพบกับซุนหงอคง ม้ามังกร ตือโป๊ยก่าย และซัวเจ๋ง ตอนเดินทางไปอันเชิญพระไตรปิฎกยังชมพูทวีป..
อย่ารอให้คนร่วมทางมาพร้อมแล้วค่อยออกเดินทาง เพราะบุคคลเหล่านี้คุณจะได้พบเจอพวกเขาระหว่างทาง..
หากคุณ ไม่เริ่มต้นก้าวเดิน คุณจะได้เจอกับผู้คนเหล่านี้ได้อย่างไร? ลงมือทำเถอะ..จะประวิงเวลาไปใย!!
เป็นข้อความใน LINE กลุ่มส่งมาให้ก่อนออกเดินทางไม่กี่วัน...และเป็นวันเดียวกับที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมหลวงพี่สหายทางธรรมอีกท่านหนึ่งที่เพิ่งกลับมาจากชิคาโก หลวงพี่ว่าพรุ่งนี้จะเริ่มเดินจากพุทธมณฑลไปหัวหินใช้เวลาประมาณอาทิตย์นึง..ผมก็ดันซื่อถามหลวงพี่ไปว่า.. “ทำไมไม่เดินไปขึ้นรถไฟที่ศาลายาไปหัวหินไม่ง่ายกว่าหรือครับ..”
หลวงพี่ว่า..
“..เพราะมันเป็นเรื่องยากสิ..เราถึงทำ..”
ภายหลังจบจากงานปั่นจักรยานที่ยิ่งใหญ่ประทับใจที่สุดในชีวิต “ปั่นเพื่อพ่อ” สิ้นสุดลงไปไม่นาน..ลมหนาวก็พัดมาเยือนพร้อมกับหอบเอาความฝันในวันเก่าๆ มาด้วย หลังจากไม่ได้ขี่จักรยานทางไกลมากว่ายี่สิบปี..หาข้อมูลรีวิวในพันทิปและข้อมูลเจาะลึกในเว็ปThaiMTB.COM ยิ่งหายิ่งกระตุ้นต่อมชีพจรลงเท้า..เร่งเสาะหาอุปกรณ์เตรียมความพร้อมเพื่อความไม่ประมาท เพราะเราต้องเดินทางตามลำพัง การเตรียมตัวจึงเป็นสำคัญยิ่ง แต่เนื่องจากเพิ่งเซ็ทอุปกรณ์จักรยานเพื่อร่วมงานปั่นเพื่อพ่อมาไม่นานจึงหาอุปกรณ์เพิ่มเติมไม่มากนัก จำพวกยางในสำรอง,ผ้าเบรก,ชุดปะยาง,ที่สูบลม เป็นต้น แต่สรุปพอจบทริปได้ใช้แค่ที่สูบลมครั้งเดียวตอนนั่งรถบัสนอนกลับจากหลวงพระบาง ซึ่งถือว่าเป็นทริปที่โชคดีมากกับเส้นทางในฝันถนนลอยฟ้า.. ขึ้นรถไฟใส่รถทัวร์ ตลอดทริป ส่วนกระเป๋าจักรยานทัวร์ริ่งและอุปกรณ์บางส่วนได้รับการอนุเคราะห์มาจากคุณพี่สาวใจดี แต่ได้ปรามาสข้าพเจ้าก่อนไปว่าจะไหวเหรอ..ขนาดแค่เขาใหญ่ยังไม่เคยปั่นไปเลยแถมไปคนเดียวอีกด้วย..
ส่วนเจ้าเสือภูเขาคันเก่งเก่าเก็บ อายุกว่า ๑๙ ปี สภาพเดิมๆ มี 21 เกียร์ เพิ่งเปลี่ยนโซ่ใหม่เนื่องจากขาดช่วงซ้อมปั่นงานปั่นเพื่อพ่อ และเปลี่ยนยางนอก-ในใหม่ด้วย ซ้อมปั่นไม่นานวันละ 20-30 โล สลับกับวิ่งจ๊อกกิ้ง 5-6 โล ไม่ได้ขี่ทางไกลมานานมากแล้วกว่ายี่สิบปีแต่เป็นคนรักการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทั้งนี้เป็นการขี่จักรยานทางไกลไปต่างประเทศครั้งแรกและไปเที่ยวลาวครั้งแรกอีกด้วย
ซึ่งบันทึกการเดินทางครั้งนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัว อาจจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยแก่สหายผู้เดินทางท่านอื่น และหากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมาที่นี่ด้วย และยินดีน้อมรับคำชี้แนะทุกประการ โดยถือเป็นการฝึกหัดตั้งกระทู้ครั้งแรกอีกด้วย..
สรุปตารางการเดินทาง..
วันที่ ๑ ปั่นจากบ้านแถวสามพราน ไปหัวลำโพง..ขึ้นรถไฟฟรี..ไปหนองคาย (ประมาณ30กม.)
วันที่ ๒ ปั่นจากสถานีรถไฟหนองคาย ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ไปเวียงจันทน์เที่ยว
ปั่นต่อไปนอนที่บ้านโพนโรง (ระยะทางประมาณ 100 กม.)
วันที่ ๓ ปั่นจากบ้านโพนโรง ไปวังเวียง เที่ยวถ้ำจังกับในเมือง (ระยะทาง 94 กม.)
วันที่ ๔ ปั่นจากวังเวียงไปบ้านน้ำอุ่น ระยะทาง 82 กม.
วันที่ ๕ ปั่นจากบ้านน้ำอุ่น ไปภูเพียงฟ้า,ภูคูนไปบ้านกิ่วกระจำ ระยะทาง ประมาณ 80 กม.
วันที่ ๖ ปั่นจากบ้านกิ่วกระจำ ไปหลวงพระบาง แวะเที่ยวตาดแซ่ ระยะทางประมาณ 80 กม.
วันที่ ๗ ปั่นจากหลวงพระบาง ไปกลับตาดกวางสี ระยะทางประมาณ 70 กม.
วันที่ ๘ ปั่นเที่ยวในเมืองหลวงพระบาง สันติเจดีย์,ข้ามสะพานเก่า,แม่น้ำคาน กลับไปบขส.
วันที่ ๙ ปั่นจากบขส.เข้าเมืองเวียงจันทน์ปั่นเที่ยวริมโขง ปั่นข้ามสะพานมาเที่ยวหนองคาย
ริมโขงตลาดท่าเสด็จ แวะไหว้พระวัดวาอารามกลับสถานีรถไฟหนองคาย
วันที่ ๑๐ ปั่นจากสถานีรถไฟหัวลำโพงกลับบ้านแถวสามพรานโดยสวัสดิภาพ.
รวมระยะเวลาเดินทาง ๙ วัน ๙ คืน ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ๖,๐๐๐ บาท ไม่รวมซื้อของฝากกลับบ้าน (ระยะทางที่ปั่นโดยประมาณเนื่องจากช่วงแรกๆ มีปัญหาจากไมล์วัดบ้าง,ลืมกดไมล์บ้างช่วงวันท้ายๆ แต่วัดได้ตอนกลับถึงบ้านระยะทางรวม 619 กม.)
...............................
สองล้อพเนจร..ตอน ขึ้นรถไฟฟรีขี่จักรยานไป-เวียงจันทน์-วังเวียง-หลวงพระบาง
อย่ารอให้คนร่วมทางมาพร้อมแล้วค่อยออกเดินทาง เพราะบุคคลเหล่านี้คุณจะได้พบเจอพวกเขาระหว่างทาง..
หากคุณ ไม่เริ่มต้นก้าวเดิน คุณจะได้เจอกับผู้คนเหล่านี้ได้อย่างไร? ลงมือทำเถอะ..จะประวิงเวลาไปใย!!
เป็นข้อความใน LINE กลุ่มส่งมาให้ก่อนออกเดินทางไม่กี่วัน...และเป็นวันเดียวกับที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมหลวงพี่สหายทางธรรมอีกท่านหนึ่งที่เพิ่งกลับมาจากชิคาโก หลวงพี่ว่าพรุ่งนี้จะเริ่มเดินจากพุทธมณฑลไปหัวหินใช้เวลาประมาณอาทิตย์นึง..ผมก็ดันซื่อถามหลวงพี่ไปว่า.. “ทำไมไม่เดินไปขึ้นรถไฟที่ศาลายาไปหัวหินไม่ง่ายกว่าหรือครับ..”
หลวงพี่ว่า.. “..เพราะมันเป็นเรื่องยากสิ..เราถึงทำ..”
ภายหลังจบจากงานปั่นจักรยานที่ยิ่งใหญ่ประทับใจที่สุดในชีวิต “ปั่นเพื่อพ่อ” สิ้นสุดลงไปไม่นาน..ลมหนาวก็พัดมาเยือนพร้อมกับหอบเอาความฝันในวันเก่าๆ มาด้วย หลังจากไม่ได้ขี่จักรยานทางไกลมากว่ายี่สิบปี..หาข้อมูลรีวิวในพันทิปและข้อมูลเจาะลึกในเว็ปThaiMTB.COM ยิ่งหายิ่งกระตุ้นต่อมชีพจรลงเท้า..เร่งเสาะหาอุปกรณ์เตรียมความพร้อมเพื่อความไม่ประมาท เพราะเราต้องเดินทางตามลำพัง การเตรียมตัวจึงเป็นสำคัญยิ่ง แต่เนื่องจากเพิ่งเซ็ทอุปกรณ์จักรยานเพื่อร่วมงานปั่นเพื่อพ่อมาไม่นานจึงหาอุปกรณ์เพิ่มเติมไม่มากนัก จำพวกยางในสำรอง,ผ้าเบรก,ชุดปะยาง,ที่สูบลม เป็นต้น แต่สรุปพอจบทริปได้ใช้แค่ที่สูบลมครั้งเดียวตอนนั่งรถบัสนอนกลับจากหลวงพระบาง ซึ่งถือว่าเป็นทริปที่โชคดีมากกับเส้นทางในฝันถนนลอยฟ้า.. ขึ้นรถไฟใส่รถทัวร์ ตลอดทริป ส่วนกระเป๋าจักรยานทัวร์ริ่งและอุปกรณ์บางส่วนได้รับการอนุเคราะห์มาจากคุณพี่สาวใจดี แต่ได้ปรามาสข้าพเจ้าก่อนไปว่าจะไหวเหรอ..ขนาดแค่เขาใหญ่ยังไม่เคยปั่นไปเลยแถมไปคนเดียวอีกด้วย..
ส่วนเจ้าเสือภูเขาคันเก่งเก่าเก็บ อายุกว่า ๑๙ ปี สภาพเดิมๆ มี 21 เกียร์ เพิ่งเปลี่ยนโซ่ใหม่เนื่องจากขาดช่วงซ้อมปั่นงานปั่นเพื่อพ่อ และเปลี่ยนยางนอก-ในใหม่ด้วย ซ้อมปั่นไม่นานวันละ 20-30 โล สลับกับวิ่งจ๊อกกิ้ง 5-6 โล ไม่ได้ขี่ทางไกลมานานมากแล้วกว่ายี่สิบปีแต่เป็นคนรักการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทั้งนี้เป็นการขี่จักรยานทางไกลไปต่างประเทศครั้งแรกและไปเที่ยวลาวครั้งแรกอีกด้วย
ซึ่งบันทึกการเดินทางครั้งนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัว อาจจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยแก่สหายผู้เดินทางท่านอื่น และหากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมาที่นี่ด้วย และยินดีน้อมรับคำชี้แนะทุกประการ โดยถือเป็นการฝึกหัดตั้งกระทู้ครั้งแรกอีกด้วย..
สรุปตารางการเดินทาง..
วันที่ ๑ ปั่นจากบ้านแถวสามพราน ไปหัวลำโพง..ขึ้นรถไฟฟรี..ไปหนองคาย (ประมาณ30กม.)
วันที่ ๒ ปั่นจากสถานีรถไฟหนองคาย ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ไปเวียงจันทน์เที่ยว
ปั่นต่อไปนอนที่บ้านโพนโรง (ระยะทางประมาณ 100 กม.)
วันที่ ๓ ปั่นจากบ้านโพนโรง ไปวังเวียง เที่ยวถ้ำจังกับในเมือง (ระยะทาง 94 กม.)
วันที่ ๔ ปั่นจากวังเวียงไปบ้านน้ำอุ่น ระยะทาง 82 กม.
วันที่ ๕ ปั่นจากบ้านน้ำอุ่น ไปภูเพียงฟ้า,ภูคูนไปบ้านกิ่วกระจำ ระยะทาง ประมาณ 80 กม.
วันที่ ๖ ปั่นจากบ้านกิ่วกระจำ ไปหลวงพระบาง แวะเที่ยวตาดแซ่ ระยะทางประมาณ 80 กม.
วันที่ ๗ ปั่นจากหลวงพระบาง ไปกลับตาดกวางสี ระยะทางประมาณ 70 กม.
วันที่ ๘ ปั่นเที่ยวในเมืองหลวงพระบาง สันติเจดีย์,ข้ามสะพานเก่า,แม่น้ำคาน กลับไปบขส.
วันที่ ๙ ปั่นจากบขส.เข้าเมืองเวียงจันทน์ปั่นเที่ยวริมโขง ปั่นข้ามสะพานมาเที่ยวหนองคาย
ริมโขงตลาดท่าเสด็จ แวะไหว้พระวัดวาอารามกลับสถานีรถไฟหนองคาย
วันที่ ๑๐ ปั่นจากสถานีรถไฟหัวลำโพงกลับบ้านแถวสามพรานโดยสวัสดิภาพ.
รวมระยะเวลาเดินทาง ๙ วัน ๙ คืน ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ๖,๐๐๐ บาท ไม่รวมซื้อของฝากกลับบ้าน (ระยะทางที่ปั่นโดยประมาณเนื่องจากช่วงแรกๆ มีปัญหาจากไมล์วัดบ้าง,ลืมกดไมล์บ้างช่วงวันท้ายๆ แต่วัดได้ตอนกลับถึงบ้านระยะทางรวม 619 กม.)
...............................