"เมื่อคนเราตายไป สิ่งที่จะเหลือทิ้งไว้คือ 'ชื่อเสียง' กับ 'ความดี'..."
เป็นหนึ่งในประโยคที่เรามักจะได้ฟังมาตั้งแต่เด็กๆ แต่สารภาพเลยว่า...ก่อนนี้
เราไม่เคยอินกับคำพูดประโยคนี้เลย
จนกระทั่งวันนี้...ผู้ชายคนหนึ่งพิสูจน์ให้เราได้เห็นว่า
คำพูดประโยคนั้นมันคือความจริง
ผู้ชายที่ทำให้เราเชื่อ ก็คือ
'ปอ ทฤษฎี สหวงษ์' ผู้ชายที่เป็นพระเอกมากกว่าในละคร
'ปอ ทฤษฎี' เรารู้จักผู้ชายคนนี้ครั้งแรกจากละคร 'ลิขสิทธิ์หัวใจ' กรี๊ดหนักมากจาก 'บาปรักทะเลฝัน' แต่สิ่งที่ทำให้เรา 'ประทับใจมากๆ' มันเกิดขึ้นในกองถ่าย 'อเวจีสีชมพู' ซึ่งมาถ่ายทำที่โรงเรียนเรา
ความประทับใจนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ 'เขาคือดาราที่เราได้เจอตัวจริง'
แต่ความประทับใจนั้นเกิดจาก 'ตัวตนของเขาที่เราได้เจอ'
ตลอดระยะเวลาเกือบสามเดือนนับจากพี่ปอป่วยเข้าโรงพยาบาล เราทุกคนคงได้ฟัง ได้เห็นถึงคุณความดีมากมายที่พี่ปอทำ...แต่ไม่เคยคิดโอ้อวดประกาศให้ใครรับรู้
ความดี...ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า "เมื่อเราปิดทองหลังพระมากๆ เข้า วันหนึ่งทองนั้นก็จะล้นออกมาด้านหน้า"
เหตุการณ์ที่ทำให้เราประทับใจในตัวผู้ชายที่ชื่อ 'ปอ ทฤษฎี' เป็นเพียงเหตุการณ์เล็กๆ ที่ไม่สลักสำคัญเลยเมื่อเทียบกับเรื่องมากมายที่พี่ปอทำเอาไว้ แต่นั่นคือความประทับใจ...ที่แม้เวลาจะผ่านมาเกือบสิบปีแล้ว เราก็ยังไม่เคยลืม
.
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนเกาะกลุ่มกับเพื่อนแอบดูนักแสดงว่าถ่ายละครที่โรงเรียน และเมื่อถึงเวลาที่ทีมงานปล่อยให้เด็กๆ เข้าไปขอลายเซ็น ถ่ายรูปกับนักแสดงได้ ก็อาศัยความตัวเล็ก (เตี้ย) เบียดเข้าไปจนถึงตัวพระเอกของเรื่อง
ระหว่างยื่นหนังสือ 'ปกรณัมเทพกรีก' ที่ถือติดมือมาให้พี่ปอเซ็น ก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่แตกต่างจากในทีวีจนต้องร้องทัก
"พี่ปอทำไมตัวจริงขาวกว่าในทีวี หล่อกว่าในทีวี"
จำได้ว่าพี่ปอหัวเราะหนักมาก คงไม่รู้จะตอบยังไง แต่เด็กคนนั้นก็ยังถามต่อ
"ทำไมพี่ปอสูงจัง"
คราวนี้พึ่ปอตอบได้ แถมยังเป็นคำตอบที่ส่งผลบางอย่างต่อเรา
"กินนมเยอะๆ จะได้สูง"
ตัวเราในตอนนั้นเป็นนักเรียน ม.1 ซึ่งตอนอยู่ประถมเตี้ยเป็นอันดับสี่ของห้อง เข้าแถวทีไรได้อยู่หน้าตลอด และไม่ค่อยชอบดื่มนมแม้แม่จะเคี่ยวเข็ญ แต่คำพูดประโยคนั้นของพี่ปอ...ทำให้เราหันมาดื่มนมเยอะๆ เปลี่ยนจากรสหวานมาเป็นรสจืด จากส่วนสูงที่ไม่น่าเกิน 150cm. ทุกวันนี้ขึ้นถึง 163cm.
บางที..มันอาจจะเป็นช่วงการเจริญเติบโต
บางที...มันอาจจะไม่เกี่ยวกับพี่ปอ
แต่สำหรับเรา... เราคิดว่ามีส่วน
.
หลายปีผ่านไป เราโตขึ้น เริ่มกรี๊ดดาราคนอื่นมากขึ้น ละครพี่ปอได้ดูบ้าง ไม่ได้ดูบ้าง แต่เหตุการณ์วันนั้นไม่เคยจางหายไปไหน จนกระทั่งวันที่เรารู้ข่าวว่าพี่ปอป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ต้องขอรับบริจาคเลือด
สารภาพตามตรง...ตอนแรกไม่ได้รู้สึกอะไรมากกว่า 'เป็นห่วงเบาๆ'
สารภาพตามตรง...ตอนนั้นคิดว่า 'ก็แค่ไข้เลือดออกเอง ไม่เห็นเป็นไรเลย เดี๋ยวก็หาย'
สารภาพตามตรง...ว่าตอนนั้นไม่เคยคิดถึงพิษภัยของไข้เลือดออกเลยว่ามันร้ายแรงยังไง
จนกระทั่งอาการของพี่ปอมีแต่ทรงกับทรุด สื่อรายงานวันแล้ววันเล่าเราถึงได้ตระหนัก
"อันตรายมากนะ ไข้เลือดออกเนี่ย"
.
เวลาผ่านไปพร้อม 'ข่าว' ที่ลือกันทั้งจริงทั้งเท็จ ข่าวว่าพี่ปอจากไปครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ทุกครั้งก็ยังโล่งใจเพราะนั่น 'คือข่าวลือ'
อาการเจ็บป่วยของพี่ปอที่ถึงกับต้องตัดเท้าซ้ายเพื่อรักษาชีวิต ใจเราคิดว่า "ถ้าไม่มีน้องมะลิ เราอยากให้พี่ปอได้พัก"
เรากลัวเหลือเกินว่าแม้จะสละอะไรไปเท่าไหร่ ทนทรมานแค่ไหนสุดท้ายพี่ปอก็ต้องไป
แต่เพราะมีน้องมะลิ ทำให้เราอยากให้พี่ปอสู้ต่อไป มะลิเด็กเกินกว่าจะต้องสูญเสีย 'พ่อขา' ไป
เราอยากเห็น...วันที่พี่ปออุ้มน้องมะลิ จูงมือคุณโบว์ ออกมาประกาศให้ทุกคนได้รู้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า
"นี่คือลูกสาวของผม นี่คือภรรยา นี่คือครอบครัวของผม"
มะลิตัวน้อยยังไม่เคยถูก 'พ่อขา' พาไปอวดใครต่อใครถึงความน่ารักของลูกสาว พี่ปอยังไม่เคยมีโอกาสยิ้มด้วยความภาคภูมิใจยามได้ยินใครต่อใครชมว่า "ลูกสาวน่ารักจัง"
พวกเขาสามคนพ่อแม่ลูก (น่าจะ) ยังไม่เคยมีโอกาสไปไหนก็ได้ที่อยากไปด้วยกัน ไปแบบไม่ต้องแคร์ว่าคนจะเห็นมั้ย อะไรยังไง
แต่น่าเสียดาย...ที่วันนี้ไม่มีโอกาสนั้นอีกต่อไปแล้ว
.
ข่าวลวงเรื่องการเสียชีวิตของพี่ปอมีมาเป็นระลอก จนกระทั่งข่าวครั้งสุดท้าย...ที่เราคิดว่าก็คงเหมือนกับทุกครั้ง แต่ไม่ใช่เลย...นี่คือ 'ความจริง'
ความจริง...ที่เราอยากให้เป็นเพียงแค่ 'ฝันร้าย' เป็นเพียงแค่ 'ละครฉากหนึ่ง' ที่พอสิ้นเสียงคัท พี่ปอก็จะลุกขึ้นมายิ้มให้ทุกคนอีกครั้ง
นาทีนั้นคนแรกที่เราคิดถึง คือ 'คุณโบว์'
.
จำได้ว่าครั้งแรกที่มีข่าวคุณโบว์กับน้องมะลิ อาน้ำอ้อยเคยให้สัมภาษณ์ว่าคุณโบว์ไม่อยากเปิดตัว "โลกของเขามีแต่ปอกับลูก"
มาวันนี้...โลกของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งพังทลายไปกว่าครึ่งแล้ว
.
เราสงสารคุณพ่อคุณแม่พี่ปอที่ต้องสูญเสียลูกชายไป สงสารน้องมะลิที่ต้องสูญเสียพ่อไปตั้งแต่ยังเด็กมาก แต่ที่เราสงสารและห่วงความรู้สึกมากที่สุดคือคุณโบว์ เพราะนอกจากจะต้องสูญเสียสามีอันเป็นที่รักแล้ว
แม่โบว์จ๋า...จะรู้สึกอย่างไรหนอเวลามะลิตัวน้อยร้องถามอย่างไร้เดียงสาว่า "แม่โบว์จ๋า พ่อขาไปไหน? ทำไมพ่อขายังไม่กลับมา?"
แม่โบว์จ๋า...จะรู้สึกอย่างไรหนอเวลามะลิตัวน้อยเห็นรูป เห็นพ่อขาในที่ต่างๆ แล้วร้องเรียก "พ่อขาๆ"
.
คนเราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินว่า 'ใคร' ควรจะมีชีวิตอยู่ และ 'ใคร' ควรจะต้องจากไป
แต่เราก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า...พี่ปอจากไปเร็วเกินไปเหลือเกิน
พี่ปอควรจะมีโอกาสอยู่กับครอบครัว อยู่เป็นตัวอย่างของ 'คนดี' อยู่ให้ทุกคนรักให้นานกว่านี้
.
ถ้าพลังแห่ง 'ความรัก' ของทุกคนสามารถก่อให้เกิด 'ปาฏิหาริย์' ขึ้นมาได้
เรามั่นใจ...พี่ปอจะได้อยู่บนโลกนี้ไปอีกหลายสิบปี
แต่ถึงบนโลกใบนี้... 'ปาฏิหาริย์จะไม่มีอยู่จริง'
พี่ปอ...จะยังคงมีชีวิตอยู่ในหัวใจใครหลายๆ คน
.
แต่พี่ปอก็คือพี่ปอ คือคนที่ทำความดีให้กับสังคม แม้จะจากไปรออยู่บนฟ้า ก็ยังหลงเหลืออะไรมากมายไว้ให้คนบนดิน
.
พี่ปอทำให้เราทุกคนกลับมาตระหนักในภัยร้ายของไข้เลือดออก จริงอยู่ว่าเคสพี่ปอเกิดขึ้นน้อยมาก แต่เราเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ทำให้หลายๆ คนกลับมาใส่ใจในโรคนี้อีกครั้ง
.
พี่ปอทำให้เราเห็นว่า แท้จริงแล้วชีวิต วันเวลาที่เคยคิดว่ามีอีกนานแสนนานนั้น สั้นเพียงไร
เราไม่มีวันรู้เลยว่า วันนี้ ขณะนี้ คือช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเรารึเปล่า?
วันนี้...เราอาจจะยังหายใจ ยังแข็งแรง ยังสามารถทำอะไรก็ได้ที่ฝันอยากจะทำ
แล้วพรุ่งนี้ล่ะ? ใครจะรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น?
อย่าเอาแต่ผลัดวันประกันพรุ่ง อย่าเอาแต่คิดว่า 'พรุ่งนี้ยังมี'
เพราะถ้า 'พรุ่งนี้' ไม่มีอยู่จริงล่ะ?
เราควรทำทุกสิ่งให้เหมือนกับว่านี่คือวันสุดท้ายของชีวิต ทำ...ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำ
.
พี่ปอทำให้เรารู้ว่า 'คนดี' ที่แท้จริงนั้น...เขาไม่จำเป็นต้องออกมาป่าวประกาศถึงคุณงามความดีที่ตัวเองทำ เขาก็แค่ทำด้วยใจบริสุทธิ์เท่านั้น และคนดีที่แท้จริง...แม้ตัวจะจากโลกใบนี้ไปแล้ว แต่ชื่อเสียงและความดีของเขาจะอยู่ต่อไปอีกนานแสนนาน
.
เรื่องความรักก็เหมือนกัน พี่ปอเป็นผู้ชายที่มีรักแท้ รักแท้...ที่หาได้ยากยิ่งในสมัยนี้ คุณโบว์เป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดและโชคร้ายที่สุดไปพร้อมๆ กัน
โชคดี...เพราะได้ครอบครองรักแท้จากผู้ชายที่ดีที่สุดคนหนึ่ง
โชคร้าย...เพราะต้องสูญเสียคนรักไปก่อนเวลาที่ควร
.
นอกจากนี้แล้ว...เราว่าเรื่องของพี่ปอคงจะเป็น 'บทเรียน' ให้กับใครหลายๆ คน
ไม่รู้หรอกนะ ว่านอกจากพี่ปอแล้วยังมีคนของประชาชนคนอื่นอีกรึเปล่าที่เก็บซ่อนความรักของตัวเองเอาไว้ ถ้ามี...เราอยากให้ดูเรื่องของพี่ปอเอาไว้ ชีวิตมันไม่แน่นอน เราจะจากไปวันไหนไม่รู้ คุณไม่อยากอุ้มลูกจูงมือคนรัก ประกาศให้คนเขารู้หรือว่านี่คือคนสำคัญของคุณ ความสุขของคุณ
.
สื่อ ประชาชนก็เหมือนกัน เราคิดว่านี่แหละเหตุผลหลักที่คุณโบว์กับพี่ปอเลือกจะไม่เปิดตัว แค่เคยมีข่าวว่าพี่ปอคบแม่หม้าย สื่อยังตีกันซะ ถ้าเขาเปิดตัวนี่ไม่พ้นขุดประวัติเขาขึ้นมาวิจารณ์กัน ร้อยคนร้อยความเห็น จะมีสักกี่คนที่เข้าใจ?
นั่นคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่พวกเขาเลือกเก็บไว้
.
บางที...การเป็นคนของประชาชนก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมีสิทธิ์ไปยุ่ง กำหนดกะเกณฑ์อะไรกับชีวิตเขา ถ้าพูดรวมๆ ก็คือ "ขนาดหัวใจตัวเองเรายังบังคับไม่ได้ว่าจะให้รักใครหรือไม่รักใคร แล้วมีสิทธิ์อะไรไปบังคับให้เขารักกัน หรือให้เขาเลิกรักกัน?"
.
คนไทยอาจจะ 'รู้จัก' พี่ปอในฐานะ 'พระเอก'
แต่เราเชื่อว่าที่ทำให้ทุกคน 'รัก' พี่ปอ... คือ 'ความดี'
.
ขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ครั้งหนึ่งบนโลกใบนี้เคยมีคนดีๆ ที่ชื่อ ทฤษฎี สหวงษ์ (แม้เราจะโกรธมากที่รีบพรากเขาไปจากครอบครัว)
.
เราเป็นคนหนึ่งที่อยากเห็นชีวิตพี่ปอถูกสร้างเป็นละครให้คนรุ่นหลังได้รู้ว่า 'คนดี-พระเอกตัวจริง' เป็นอย่างไร
แต่เราว่าคงไม่ใช่เร็วๆ นี้ ไม่ใช่เวลาที่คนในครอบครัวเขายังทำใจไม่ได้
บางที...อาจจะอีกสิบยี่สิบปีถัดนี้ ที่ชื่อของผู้ชายคนนี้จะกลับมาอีกครั้ง ในฐานะของ 'คนดีที่มีตัวตนอยู่จริง'
ส่ง 'ดาว' คืนสู่ 'ฟ้า'
ส่ง 'เทวดา' กลับสู่ 'สวรรค์'
ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับครอบครัวสหวงษ์
#RIPPOR #RIPปอทฤษฎี #พระเอกตลอดกาล
Edit แก้คำผิด+เพิ่มข้อความบางส่วนและรูปภาพ
Ps.กลับมาดูอีกทีติดกระทู้แนะนำไปแล้ว บอกให้รู้เลยว่าคนไทยรักพี่ปอมากแค่ไหน หลับให้สบายนะคะ เพราะพวกเราไม่ได้รักแค่พี่ปอ แต่ยังรักครอบครัวพี่ปออีกด้วย ^^
'ปอ ทฤษฎี สหวงษ์' คนที่ทำให้เข้าใจประโยคที่ว่า "เมื่อเราตายไป สิ่งที่เหลือไว้คือ 'ชื่อเสียง' กับ 'ความดี'"
เป็นหนึ่งในประโยคที่เรามักจะได้ฟังมาตั้งแต่เด็กๆ แต่สารภาพเลยว่า...ก่อนนี้ เราไม่เคยอินกับคำพูดประโยคนี้เลย
จนกระทั่งวันนี้...ผู้ชายคนหนึ่งพิสูจน์ให้เราได้เห็นว่า คำพูดประโยคนั้นมันคือความจริง
ผู้ชายที่ทำให้เราเชื่อ ก็คือ 'ปอ ทฤษฎี สหวงษ์' ผู้ชายที่เป็นพระเอกมากกว่าในละคร
'ปอ ทฤษฎี' เรารู้จักผู้ชายคนนี้ครั้งแรกจากละคร 'ลิขสิทธิ์หัวใจ' กรี๊ดหนักมากจาก 'บาปรักทะเลฝัน' แต่สิ่งที่ทำให้เรา 'ประทับใจมากๆ' มันเกิดขึ้นในกองถ่าย 'อเวจีสีชมพู' ซึ่งมาถ่ายทำที่โรงเรียนเรา
ความประทับใจนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ 'เขาคือดาราที่เราได้เจอตัวจริง'
แต่ความประทับใจนั้นเกิดจาก 'ตัวตนของเขาที่เราได้เจอ'
ตลอดระยะเวลาเกือบสามเดือนนับจากพี่ปอป่วยเข้าโรงพยาบาล เราทุกคนคงได้ฟัง ได้เห็นถึงคุณความดีมากมายที่พี่ปอทำ...แต่ไม่เคยคิดโอ้อวดประกาศให้ใครรับรู้
ความดี...ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า "เมื่อเราปิดทองหลังพระมากๆ เข้า วันหนึ่งทองนั้นก็จะล้นออกมาด้านหน้า"
เหตุการณ์ที่ทำให้เราประทับใจในตัวผู้ชายที่ชื่อ 'ปอ ทฤษฎี' เป็นเพียงเหตุการณ์เล็กๆ ที่ไม่สลักสำคัญเลยเมื่อเทียบกับเรื่องมากมายที่พี่ปอทำเอาไว้ แต่นั่นคือความประทับใจ...ที่แม้เวลาจะผ่านมาเกือบสิบปีแล้ว เราก็ยังไม่เคยลืม
.
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนเกาะกลุ่มกับเพื่อนแอบดูนักแสดงว่าถ่ายละครที่โรงเรียน และเมื่อถึงเวลาที่ทีมงานปล่อยให้เด็กๆ เข้าไปขอลายเซ็น ถ่ายรูปกับนักแสดงได้ ก็อาศัยความตัวเล็ก (เตี้ย) เบียดเข้าไปจนถึงตัวพระเอกของเรื่อง
ระหว่างยื่นหนังสือ 'ปกรณัมเทพกรีก' ที่ถือติดมือมาให้พี่ปอเซ็น ก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่แตกต่างจากในทีวีจนต้องร้องทัก
"พี่ปอทำไมตัวจริงขาวกว่าในทีวี หล่อกว่าในทีวี"
จำได้ว่าพี่ปอหัวเราะหนักมาก คงไม่รู้จะตอบยังไง แต่เด็กคนนั้นก็ยังถามต่อ
"ทำไมพี่ปอสูงจัง"
คราวนี้พึ่ปอตอบได้ แถมยังเป็นคำตอบที่ส่งผลบางอย่างต่อเรา
"กินนมเยอะๆ จะได้สูง"
ตัวเราในตอนนั้นเป็นนักเรียน ม.1 ซึ่งตอนอยู่ประถมเตี้ยเป็นอันดับสี่ของห้อง เข้าแถวทีไรได้อยู่หน้าตลอด และไม่ค่อยชอบดื่มนมแม้แม่จะเคี่ยวเข็ญ แต่คำพูดประโยคนั้นของพี่ปอ...ทำให้เราหันมาดื่มนมเยอะๆ เปลี่ยนจากรสหวานมาเป็นรสจืด จากส่วนสูงที่ไม่น่าเกิน 150cm. ทุกวันนี้ขึ้นถึง 163cm.
บางที..มันอาจจะเป็นช่วงการเจริญเติบโต
บางที...มันอาจจะไม่เกี่ยวกับพี่ปอ
แต่สำหรับเรา... เราคิดว่ามีส่วน
.
หลายปีผ่านไป เราโตขึ้น เริ่มกรี๊ดดาราคนอื่นมากขึ้น ละครพี่ปอได้ดูบ้าง ไม่ได้ดูบ้าง แต่เหตุการณ์วันนั้นไม่เคยจางหายไปไหน จนกระทั่งวันที่เรารู้ข่าวว่าพี่ปอป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ต้องขอรับบริจาคเลือด
สารภาพตามตรง...ตอนแรกไม่ได้รู้สึกอะไรมากกว่า 'เป็นห่วงเบาๆ'
สารภาพตามตรง...ตอนนั้นคิดว่า 'ก็แค่ไข้เลือดออกเอง ไม่เห็นเป็นไรเลย เดี๋ยวก็หาย'
สารภาพตามตรง...ว่าตอนนั้นไม่เคยคิดถึงพิษภัยของไข้เลือดออกเลยว่ามันร้ายแรงยังไง
จนกระทั่งอาการของพี่ปอมีแต่ทรงกับทรุด สื่อรายงานวันแล้ววันเล่าเราถึงได้ตระหนัก
"อันตรายมากนะ ไข้เลือดออกเนี่ย"
.
เวลาผ่านไปพร้อม 'ข่าว' ที่ลือกันทั้งจริงทั้งเท็จ ข่าวว่าพี่ปอจากไปครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ทุกครั้งก็ยังโล่งใจเพราะนั่น 'คือข่าวลือ'
อาการเจ็บป่วยของพี่ปอที่ถึงกับต้องตัดเท้าซ้ายเพื่อรักษาชีวิต ใจเราคิดว่า "ถ้าไม่มีน้องมะลิ เราอยากให้พี่ปอได้พัก"
เรากลัวเหลือเกินว่าแม้จะสละอะไรไปเท่าไหร่ ทนทรมานแค่ไหนสุดท้ายพี่ปอก็ต้องไป
แต่เพราะมีน้องมะลิ ทำให้เราอยากให้พี่ปอสู้ต่อไป มะลิเด็กเกินกว่าจะต้องสูญเสีย 'พ่อขา' ไป
เราอยากเห็น...วันที่พี่ปออุ้มน้องมะลิ จูงมือคุณโบว์ ออกมาประกาศให้ทุกคนได้รู้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า
"นี่คือลูกสาวของผม นี่คือภรรยา นี่คือครอบครัวของผม"
มะลิตัวน้อยยังไม่เคยถูก 'พ่อขา' พาไปอวดใครต่อใครถึงความน่ารักของลูกสาว พี่ปอยังไม่เคยมีโอกาสยิ้มด้วยความภาคภูมิใจยามได้ยินใครต่อใครชมว่า "ลูกสาวน่ารักจัง"
พวกเขาสามคนพ่อแม่ลูก (น่าจะ) ยังไม่เคยมีโอกาสไปไหนก็ได้ที่อยากไปด้วยกัน ไปแบบไม่ต้องแคร์ว่าคนจะเห็นมั้ย อะไรยังไง
แต่น่าเสียดาย...ที่วันนี้ไม่มีโอกาสนั้นอีกต่อไปแล้ว
.
ข่าวลวงเรื่องการเสียชีวิตของพี่ปอมีมาเป็นระลอก จนกระทั่งข่าวครั้งสุดท้าย...ที่เราคิดว่าก็คงเหมือนกับทุกครั้ง แต่ไม่ใช่เลย...นี่คือ 'ความจริง'
ความจริง...ที่เราอยากให้เป็นเพียงแค่ 'ฝันร้าย' เป็นเพียงแค่ 'ละครฉากหนึ่ง' ที่พอสิ้นเสียงคัท พี่ปอก็จะลุกขึ้นมายิ้มให้ทุกคนอีกครั้ง
นาทีนั้นคนแรกที่เราคิดถึง คือ 'คุณโบว์'
.
จำได้ว่าครั้งแรกที่มีข่าวคุณโบว์กับน้องมะลิ อาน้ำอ้อยเคยให้สัมภาษณ์ว่าคุณโบว์ไม่อยากเปิดตัว "โลกของเขามีแต่ปอกับลูก"
มาวันนี้...โลกของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งพังทลายไปกว่าครึ่งแล้ว
.
เราสงสารคุณพ่อคุณแม่พี่ปอที่ต้องสูญเสียลูกชายไป สงสารน้องมะลิที่ต้องสูญเสียพ่อไปตั้งแต่ยังเด็กมาก แต่ที่เราสงสารและห่วงความรู้สึกมากที่สุดคือคุณโบว์ เพราะนอกจากจะต้องสูญเสียสามีอันเป็นที่รักแล้ว
แม่โบว์จ๋า...จะรู้สึกอย่างไรหนอเวลามะลิตัวน้อยร้องถามอย่างไร้เดียงสาว่า "แม่โบว์จ๋า พ่อขาไปไหน? ทำไมพ่อขายังไม่กลับมา?"
แม่โบว์จ๋า...จะรู้สึกอย่างไรหนอเวลามะลิตัวน้อยเห็นรูป เห็นพ่อขาในที่ต่างๆ แล้วร้องเรียก "พ่อขาๆ"
.
คนเราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินว่า 'ใคร' ควรจะมีชีวิตอยู่ และ 'ใคร' ควรจะต้องจากไป
แต่เราก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า...พี่ปอจากไปเร็วเกินไปเหลือเกิน
พี่ปอควรจะมีโอกาสอยู่กับครอบครัว อยู่เป็นตัวอย่างของ 'คนดี' อยู่ให้ทุกคนรักให้นานกว่านี้
.
ถ้าพลังแห่ง 'ความรัก' ของทุกคนสามารถก่อให้เกิด 'ปาฏิหาริย์' ขึ้นมาได้
เรามั่นใจ...พี่ปอจะได้อยู่บนโลกนี้ไปอีกหลายสิบปี
แต่ถึงบนโลกใบนี้... 'ปาฏิหาริย์จะไม่มีอยู่จริง'
พี่ปอ...จะยังคงมีชีวิตอยู่ในหัวใจใครหลายๆ คน
.
แต่พี่ปอก็คือพี่ปอ คือคนที่ทำความดีให้กับสังคม แม้จะจากไปรออยู่บนฟ้า ก็ยังหลงเหลืออะไรมากมายไว้ให้คนบนดิน
.
พี่ปอทำให้เราทุกคนกลับมาตระหนักในภัยร้ายของไข้เลือดออก จริงอยู่ว่าเคสพี่ปอเกิดขึ้นน้อยมาก แต่เราเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ทำให้หลายๆ คนกลับมาใส่ใจในโรคนี้อีกครั้ง
.
พี่ปอทำให้เราเห็นว่า แท้จริงแล้วชีวิต วันเวลาที่เคยคิดว่ามีอีกนานแสนนานนั้น สั้นเพียงไร
เราไม่มีวันรู้เลยว่า วันนี้ ขณะนี้ คือช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเรารึเปล่า?
วันนี้...เราอาจจะยังหายใจ ยังแข็งแรง ยังสามารถทำอะไรก็ได้ที่ฝันอยากจะทำ
แล้วพรุ่งนี้ล่ะ? ใครจะรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น?
อย่าเอาแต่ผลัดวันประกันพรุ่ง อย่าเอาแต่คิดว่า 'พรุ่งนี้ยังมี'
เพราะถ้า 'พรุ่งนี้' ไม่มีอยู่จริงล่ะ?
เราควรทำทุกสิ่งให้เหมือนกับว่านี่คือวันสุดท้ายของชีวิต ทำ...ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำ
.
พี่ปอทำให้เรารู้ว่า 'คนดี' ที่แท้จริงนั้น...เขาไม่จำเป็นต้องออกมาป่าวประกาศถึงคุณงามความดีที่ตัวเองทำ เขาก็แค่ทำด้วยใจบริสุทธิ์เท่านั้น และคนดีที่แท้จริง...แม้ตัวจะจากโลกใบนี้ไปแล้ว แต่ชื่อเสียงและความดีของเขาจะอยู่ต่อไปอีกนานแสนนาน
.
เรื่องความรักก็เหมือนกัน พี่ปอเป็นผู้ชายที่มีรักแท้ รักแท้...ที่หาได้ยากยิ่งในสมัยนี้ คุณโบว์เป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดและโชคร้ายที่สุดไปพร้อมๆ กัน
โชคดี...เพราะได้ครอบครองรักแท้จากผู้ชายที่ดีที่สุดคนหนึ่ง
โชคร้าย...เพราะต้องสูญเสียคนรักไปก่อนเวลาที่ควร
.
นอกจากนี้แล้ว...เราว่าเรื่องของพี่ปอคงจะเป็น 'บทเรียน' ให้กับใครหลายๆ คน
ไม่รู้หรอกนะ ว่านอกจากพี่ปอแล้วยังมีคนของประชาชนคนอื่นอีกรึเปล่าที่เก็บซ่อนความรักของตัวเองเอาไว้ ถ้ามี...เราอยากให้ดูเรื่องของพี่ปอเอาไว้ ชีวิตมันไม่แน่นอน เราจะจากไปวันไหนไม่รู้ คุณไม่อยากอุ้มลูกจูงมือคนรัก ประกาศให้คนเขารู้หรือว่านี่คือคนสำคัญของคุณ ความสุขของคุณ
.
สื่อ ประชาชนก็เหมือนกัน เราคิดว่านี่แหละเหตุผลหลักที่คุณโบว์กับพี่ปอเลือกจะไม่เปิดตัว แค่เคยมีข่าวว่าพี่ปอคบแม่หม้าย สื่อยังตีกันซะ ถ้าเขาเปิดตัวนี่ไม่พ้นขุดประวัติเขาขึ้นมาวิจารณ์กัน ร้อยคนร้อยความเห็น จะมีสักกี่คนที่เข้าใจ?
นั่นคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่พวกเขาเลือกเก็บไว้
.
บางที...การเป็นคนของประชาชนก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมีสิทธิ์ไปยุ่ง กำหนดกะเกณฑ์อะไรกับชีวิตเขา ถ้าพูดรวมๆ ก็คือ "ขนาดหัวใจตัวเองเรายังบังคับไม่ได้ว่าจะให้รักใครหรือไม่รักใคร แล้วมีสิทธิ์อะไรไปบังคับให้เขารักกัน หรือให้เขาเลิกรักกัน?"
.
คนไทยอาจจะ 'รู้จัก' พี่ปอในฐานะ 'พระเอก'
แต่เราเชื่อว่าที่ทำให้ทุกคน 'รัก' พี่ปอ... คือ 'ความดี'
.
ขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ครั้งหนึ่งบนโลกใบนี้เคยมีคนดีๆ ที่ชื่อ ทฤษฎี สหวงษ์ (แม้เราจะโกรธมากที่รีบพรากเขาไปจากครอบครัว)
.
เราเป็นคนหนึ่งที่อยากเห็นชีวิตพี่ปอถูกสร้างเป็นละครให้คนรุ่นหลังได้รู้ว่า 'คนดี-พระเอกตัวจริง' เป็นอย่างไร
แต่เราว่าคงไม่ใช่เร็วๆ นี้ ไม่ใช่เวลาที่คนในครอบครัวเขายังทำใจไม่ได้
บางที...อาจจะอีกสิบยี่สิบปีถัดนี้ ที่ชื่อของผู้ชายคนนี้จะกลับมาอีกครั้ง ในฐานะของ 'คนดีที่มีตัวตนอยู่จริง'
ส่ง 'ดาว' คืนสู่ 'ฟ้า'
ส่ง 'เทวดา' กลับสู่ 'สวรรค์'
ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับครอบครัวสหวงษ์
#RIPPOR #RIPปอทฤษฎี #พระเอกตลอดกาล
Edit แก้คำผิด+เพิ่มข้อความบางส่วนและรูปภาพ
Ps.กลับมาดูอีกทีติดกระทู้แนะนำไปแล้ว บอกให้รู้เลยว่าคนไทยรักพี่ปอมากแค่ไหน หลับให้สบายนะคะ เพราะพวกเราไม่ได้รักแค่พี่ปอ แต่ยังรักครอบครัวพี่ปออีกด้วย ^^