สวัสดีค่ะ กระทู้เที่ยวกระทู้แรก ตอนแรกไม่กล้าเขียนลงค่ะ แต่คิดไปคิดมา ก็อยากจะแชร์ประสบการณ์เที่ยวไกลไปกันเองครั้งแรกให้ได้อ่านกันค่ะ ว่าคิดว่าน่าจะมีคนอยากรู้บ้างแหละน่า 555 กระทู้ค่อนข้างจะน้ำเยอะนะคะ เพราะอยากเล่าความเป็นมาเป็นไป มันเป็นความทรงจำที่ประทับใจ ลุ้น ระทึกมากค่ะ
ที่ๆ ไปคือ อิสตันบูล ประเทศตุรกีค่ะ พอเจอหน้าเพื่อนก็มีแต่คนถามค่ะ ว่าทำไมถึงไปตุรกี คำตอบก็คือเป็นคนชอบแนวประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม อีกอย่างคืออยากไปเห็นหิมะ ซึ่งได้เจอหรือไม่ รออ่านด้านล่างนะคะ ตอนแรกที่แพลนว่าจะไปก็กังวลมาก เพราะมีข่าวตุรกี รัสเซีย ไอเอส กลัวมาก ตามข่าวในทวิต บีบีซี พันทิปตลอดเลย อย่างในกระทู้พันทิปก็ไปเจอหลายคอมเมนท์ที่ตัดกำลังใจในการอยากไปมาก 55 แต่ก็อยากไป สุดท้ายความอยากเอาชนะความกลัว แล้วพอดีเรานับถือศาสนาอิสลาม เชื่อในพระเจ้า หากพระเจ้าจะให้ตาย อยู่ไหนก็ได้ตาย ก็เลยตัดสินใจไปค่ะ มาเริ่มเลยดีกว่า
10 มกราคม 2559 ออกเดินทาง (หากใครอยากอ่านตอนถึงอิสตันบูลเลยก็ข้ามไปได้นะค้า)
บอกก่อนว่าเป็นการเดินทางที่ฉุกละหุกมาก ไปกับน้องสาวสองคน เก็บกระเป๋าไว้แล้ว แต่ยังไม่มีตั๋วเครื่องบิน! งงล่ะสิ เพราะว่ามันเป็นตั๋วสตาฟของ Qatar Airway ค่ะ (พี่เป็นสจ๊วตของกาต้าร์ค่ะ) รอแสตนด์บาย ถ้ามีที่ว่างถึงจะได้ไป คืนวันเดินทาง 10 มกราคม ไฟลท์ตีหนึ่งกว่าๆ จำไม่ได้แล้วง่ะ ประมาณเที่ยงคืนก็ไปรอหน้าเคาท์เตอร์กาต้าร์ค่ะ เดินเข้าไป เจ้าหน้าที่ก็บอกให้สักเที่ยงคืนครึ่งค่อยมาใหม่นะ เราก็โอเค รอๆๆ พอดีเป็นคนขี้เวอร์มาก ก็คุยกับน้องว่าพอเที่ยงคืนครึ่งปุ๊บรีบวิ่งเลย เดี๋ยวไม่ทัน 55555 พอใกล้เวลาก็ เดินเข้าไปรอ มีทั้งคนไทยและฝรั่งหลายคนมายืนรอเหมือนกันค่ะ ช่องเช็คอินปกติก็ปิดแล้ว ทีนี้ลุ้นมากค่ะ คนข้างๆ ก็โดนเรียกชื่อ โหลดกระเป๋าได้ตั๋วกันหมดแล้ว ลุ้นมาก คิดว่าต้องลากกระเป๋ากลับบ้าน เงิบแน่ๆ สักพัก เจ้าหน้าที่ก็ถาม Anyone with Qatar staff ID? เท่านั้นแหละค่ะ ก็ไปยื่นที่เคาท์เตอร์ รอเจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูล ลุ้นมาก สักพักเค้าก็บอก ไปเอากระเป๋ามาได้เลยค่ะ เท่านั้นแหละรีบวิ่งไปเอากระเป๋ามาโหลด พอได้ตั๋วปุ๊บ วิ่งไม่คิดชีวิตเลยค่ะ เจอคิวสแกนสัมภาระก็ยาว ลนอีก กลัวตกเครื่อง
พอเข้าได้ปุ๊บ ไปถึงตม.ลืมเขียนใบตม.อีก 5555 ต้องมานั่งเขียนใหม่ พอผ่านตม.ปุ๊บ วิ่งหน้าตั้ง มีแต่คนมอง อายมาก แต่ ณ ตอนนั้นกลัวไม่ทันเครื่องอย่างเดียว วิ่งจนเจอคิดว่าถ้าทรุดลงไปนี่จะมีใครมาช่วยเราไหมนะ 55 แล้วก็ดันเจ้าหน้าที่ที่เคาท์เตอร์ เค้าบอกว่าไม่ต้องรีบค่ะ ทัน เท่านั้นแหละ เฮือก แล้วที่ผ่านมาคืออารายยยยย ชั้นวิ่งทะมายยยยยย
พอไปถึงเกตก็รอค่ะ ลุ้นว่าจะได้นั่ง A380 มั้ย แล้วก็ได้นั่งจริงด้วยค่ะ ตื่นเต้นมาก ขึ้นเครื่องไปก็เจอทางขึ้นชั้นอื่นด้วย เก๋กู้ด
ที่นั่งที่เรากับน้องได้คือ4ตรงกลางอะค่ะ หลังผนังเลย แต่นั่งริม ยืดได้สบายเลย ชอบบบบ
ตอนแรกตกใจ อ้าว นั่งตรงนี้ก็ไม่มีจอสิ ทำไมอะ แอบเฟลเล็กๆ สักพักเห็นฝรั่งข้างๆ อ้าว เอาจอมาได้ไงอะ เลยก้มดูใต้เบาะ อ๋อ มันอยู่ข้างๆ นี่เอง 55555
ชาร์จแบตไอโฟนด้วยด้วยน้า
โต๊ะพับวางอาหาร
พอขึ้นไปสักพักก็มีของว่างมาเสิร์ฟค่ะ เป็นพายหรืออะไรไม่รู้เหมือนกับเรียกไม่ถูก ไม่อร่อยง่ะ แปลกๆ กับอีกอันเหมือนมัฟฟินหรือเค้กชิ้นเล็กๆ เรียกไม่ถูกอีก แล้วก็ไม่อร่อยอีก คงไม่ถูกปากเรา แล้วก็นอน ตอนเช้ามืด สักตีสี่ได้ แอร์ก็เดินเอาเมนูมาแจก
ให้เลือกได้แค่อาหารหลัก เราก็เลือกออมเล็ตชีส ติดใจจากการบินไทย ผลคือเราว่าของการบินไทยอร่อยกว่าเยอะ อิอิ
DOH-IST
เมื่อถึงโดฮา ก็ถึงเวลาตื่นเต้นอีก จะไปทรานสิทตรงไหนยังไง ก็เดินตามๆ เค้าไป หาป้ายทรานสิท พอถึงข้างในสนามบินก็ไปดูตารางไฟลท์ แล้วก็รีบเดินไปหาเกท
แล้วทีนี้ยังไงล่ะ ไม่มีบอร์ดดิ้งพาสไปอิสตันบูลเลยนะ เคาท์เตอร์อยู่ไหน หาไม่เจอ ก็เลยเดินไปดูที่เกต อุ้ย มีเคาท์เตอร์ด้วย ถามเจ้าหน้าที่ดีกว่า ก็ใช้ทักษะภาษาอังกฤษกากๆ ของตัวเอง เค้าก็จัดการให้ แล้วก็ได้ตั๋วมา แล้วก็เข้าเกทได้เลย ทีนี้ก็โล่งใจละ ได้ไปอิสตันบูลแน่ๆ แล้ว เย้
ขึ้นเครื่องเป็นลำเล็กกว่าที่นั่งมาเมื่อคืน แต่ก็โอเคอะ ก็ต้องนั่ง เรากับน้องได้นั่งแถวกลาง (อีกละ) อยากนั่งหน้าต่างอะ ฮือๆๆ ก็ปลอบใจตัวเองว่า กลางวันมันร้อน ริมหน้าต่างแดดแรง ได้แต่ปลอบใจตัวเอง
อาหารเช้าก็ให้เลือกระหว่างออมเล็ตชีสกับแพนเค้ก ก็คนไทยอะเนาะ ก็กินของคาวเป็นอาหารหลักอยู่แล้ว ก็ออมเล็ตชีสละกัน ทีนี้รสชาติมันดันไม่เหมือนเดิมอะ อันนี้อย่างกับไข่ผสมแป้ง เละๆ แปลกๆ แต่ก็หมด เพราะความตะกละ เอ้ย ความหิวนั่นเอง 55555 กินเสร็จก็นอนค่ะ อากาศหนาววววว เพราะข้างนอกติดลบประมาณ 50-60 หลับๆ ตื่นๆ ลุ้นว่าไปถึงแล้วยังไงต่อน้าาาา จะไปรอดม้ายยยยยย
เข้าเขตสนามบิน Ataturk พอแลนด์ปุ๊บ มองกระจกใหญ่ มีหิมะมั้ยๆๆ ผลคือ ไม่มีจ้ะ อดเบย เฟล (อีกละ) งั้นก็ไม่หนาวแน่เลย เฮ้อ อุตส่าห์มาเอาอากาศหนาว(จริงๆ ดูอากาศมาก่อนแล้วว่าช่วงไปไม่น่าจะมี แต่ในใจก็แอบหวังเล็กๆ เผื่ออากาศจะเปลี่ยน ถถ) จะลงจากเครื่อง ทีนี้มันไม่มีงวงช้าง ต้องลงไปขึ้นชัทเทิลบัส ก้าวแรกออกจาเครื่องเท่านั้นแหละ บรึ๊ยยยยยย ลมหนาวมากกกกก อึ๋ยยยยย ฟินนนนนน ชอบ ดีใจสุดๆ ถึงในสนามบิน Ataturk ก็ไปผ่านตม. หน้าดุมาก เป็นผู้หญิง หน้าดุแบบดุจริงๆ นึกว่าไปโกรธใครมา แต่เค้าก็ทำหน้าดุกับทุกคน ก็ผ่านมาได้ไม่มีอะไร ไปรับกระเป๋า พยายามต่อไวไฟ ไม่มีไวไฟฟรีเลยจ้า มีอันนึง Tอะไรสักอย่างอะ ฟรี15นาที แต่ต้องลงทะเบียนเบอร์ตุรกี คือระ อดไปตามระเบียบ ได้กระเป๋าก็ไปแลกเงินในสนามบิน ไม่รู้ค่าคอมมิชชั่นเท่าไหร่ อ่านไม่ออก ไม่มีภาษาอังกฤษเลย จะถามก็ไม่กล้า ก็เออๆ เรทเท่านี้ละมั้ง ก็หาเมโทร เพื่อจะไปโรงแรม ซื้อบัตร Istanbul card ใบเดียว เที่ยวได้สองคน สบายจายยย แต่ไม่รู้ไปซื้อที่ไหน ลืมหาข้อมูลมา สิ่งสำคัญลืมได้ไงเนี่ย แล้วก็เจอซุ้มก่อนทางเข้าเมโทร ขายบัตร ก็ไปซื้อ สรุปคือโดนชาร์จต่าบัตร 10TL ฮือออออออ กลายเป็น 20TL ก็เออ เอาน่ะ สะดวกดี เพราะก็ไปซื้อไม่เป็น ปลอบใจตัวเองอะเกน อ้ะๆ เข้าเมโทรสาย M1A ลงไป คนก็ประมาณนึง ไม่เยอะ เออดีๆ พอไปถึงสถานีต่อไปเรื่อยๆ นั่นแหละ คนมาจากไหน เบียดเสียดมาก อย่างกับแอร์พอร์ตลิ้งค์ตอนเช้าเลย พอถึงสถานีที่ต้องลง คือสถานี Zeytinburnu เพื่อไปต่อแทรมหรือรถราง สาย T1 ก็ออกจากเมโทร แล้วก็เจอที่ติ๊ดอีก ก็คิดว่ามันคือที่ออกของเมโทรอีก ก็หมุนออกไป สักพักเจ้าหน้าที่มาถามว่าติ๊ดบัตรยัง เราก็งง สักพัก อ๋อออ มันคือทางเข้าของแทรมนี่เอง ก็เลยไปติ๊ดใหม่ แล้วก็ขอบคุณคุณเจ้าหน้าที่ไปทีนึงแก้เขิน แล้วก็ลากกระเป๋าไปรอแทรม
ภายในแทรม
เราลงกันที่สถานี Gulhane เพราะโรงแรมที่เราจะพักกันอยู่ข้างสถานีแทรมเลย มันเก๋มาก!! แล้วก็อยู่ตรงข้ามกับพระราชวัง Topkapi อีกด้วย!!(แค่กำแพงวังนะคะ แต่ไม่ไกลกับทางเข้าเลยเดินขึ้นเขาไปนิดเดียว) คืนแรกจะนอนที่ Amisos Hotel คืนที่เหลือนอนที่ The Constantine Hotel ที่คืนแรกนอนที่นั่นเพราะว่าลืมจองคืนแรก คำนวนวันผิด อายจัง แฮะๆ แล้วโรงแรมอยู่ติดกันเลย ติดกันเลยจริงๆ เพียงแต่อยู่คนละมุม สบายแฮเลยเรา
ภาพสถานี Gulhane และโรงแรมตอนกลางคืน Amisos อยู่มุมซ้าย The Constantine อยู่มุมขวา
แล้วก็เดินลากกระเป๋าไปเช็คอินโรงแรม Amisos ซึ่งจองผ่าน Booking.com ไปถึงก็ยื่นพาสปอร์ตให้ แล้วก็รับไวไฟพ็อกเก็ตที่เช่าจากเว็บ alldaywifi.com ดีมากเลย ใช้ดีมีแบตสำรองให้ เน็ตไวอยู่นะ สบายตลอดทริป ลิฟต์ที่นี่เล็กมาก แปลกด้วย พอดีเราไม่เคยเห็น มองผ่านๆ เหมือนประตูธรรมดา พอเปิดไปจะเจอประตูลิฟต์เล็กๆ แบบฝาพับไปด้านข้างอะ แล้วก็เข้าไป เล็กมากเล็กจริงๆ กลัวด้วย ไม่เคยเห็น พักอยู่ชั้น 1 อ้าว งงสิ แล้วที่เข้ามาเมื่อกี๊เค้าเรียกชั้นอะไรง่ะ ช่างเหอะ ในห้องก็ตกแต่งแนววิคตอเรียนหรอ ไม่รู้อะค่ะ บอกไม่ถูก สวยดี
แต่ค่อนข้างเก่านิดนึง ฝาผนังผุตรงมุมห้องน้ำ แต่โดยรวมก็โอเค ห้องไม่แคบมาก มีระเบียงซึ่งออกไปไม่ได้ 5555 เปิดประตูระเบียงไว้ ลมพัดสบาย จนหนาวอะ พื้นเย็นไปหมดเลย แอร์ไม่มี มันมีเหมือนช่องแอร์แต่เปิดไปกลายเป็นฮีตเตอร์ เลยไม่เปิด ชอบหนาวๆ อิอิ
หลังจากเก็บสัมภาระ พักผ่อน ช่วงเย็นสักห้าโมง เราก็จะไปที่ Spice Bazaar หรือ Egyptian Bazaar นั่นเอง เพราะอยากไปดูโคมไฟ อิอิ เดินลงมาจากโรงแรมไม่กี่เก้าก็ถึงแทรมแล้วอะ เก๋กู้ดมากๆ นั่งแทรมจากสถานี Gulhane ไปลงสถานี Eminonu ไม่ไกลเลย 2 สถานี จริงๆ เดินไปก็ได้ ชิลมาก พอถึงก็ข้ามฝั่งไปตลาด อยู่ข้างมัสยิดอะไรสักอย่างอะ จำไม่ได้ แฮะๆ เข้าไปก็อุ่นทันทีเลย ข้างในไฟจะเหลืองๆ พ่อค้าเต็มไปหมด ประเทศนี้ผู้ชายเยอะมากๆ กวนและตลกดี เรียกเข้าร้านใหญ่ คนที่นี่จะชอบนึกว่าเรามาจากมาเลเซีย ไม่ก็อินโดนีเซีย ได้ยินแต่เสียง ซาลามัตดาตัง มาเลเซี๊ย? อินโดนนีเซี๊ย? พอบอกไทยแลนด์ก็อู้วกันใหญ่ มีร้านนึงพอเค้ารู้ว่าไทยแลนด์เค้าก็บอก มิสเตอร์ทักษิณ ฟอร์เมอร์เพรสิเดนท์ เวรี่ริชแมน เรากับน้องก็ขำ รู้จักทักษิณด้วย สงสัยแกดังมาก
ตลาดที่นี่ชื่อก็บอกอยู่ตลาดเครื่องเทศ ก็จะมีเครื่องเทศ เป็นส่วนมาก แล้วก็มี Turkish Delight ชาต่างๆ แก้วชา ผ้าพันคอ ฮิญาบ ชาม แก้ว ที่รองแก้วชา ของที่ระลึก พวกพวงกุญแจ โปสการ์ด ที่ติดตู้เย็น
ซึ่งร้านแรกๆ แถวทางเข้าก็จะขายอยู่ที่ 2TL พอเข้าไปในๆ ก็จะถูกลงมา อย่างพวงกุญแจเนี่ยมีร้านประจำที่ไปกี่รอบก็ซื้อร้านนี้ พวงกุญแจอยู่ที่อันละ 1TL ซึ่งเราก็ไม่รู้ถูกป่าวนะ แต่เห็นถูกสุดในนั้นละแหละ ต่อก็ไม่ได้ด้วย 55 แต่ซื้อเยอะลุงแกก็ลดให้บ้าง
มาที่เป้าหมายเราคือโคมไฟ เจอร้านโคมไฟประปราย แต่ไม่เยอะมาก ส่วนมากจะจัดไว้สวยเชียว ร้านกระจก ไรงี้ เราก็หยุดดูแต่ไม่กล้าเข้า คิดว่าน่าจะแพง เป็นคนขี้เกรงใจด้วย กลัวเข้าไปแล้วเกรงใจจนต้องซื้อ แงๆ เดินไปจนถึงทางแจกกลางตลาด ซึ่งร้านพวงกุญแจของลุงอยู่หัวมุมทางแยกพอดี ถ้าร้านลุงอยู่ทางขวาให้เลี้ยวแยกขวาไป ก็จะไปถึงร้านโคมไฟ ที่คิดว่าถูกที่สุดแล้วแหละ (เพราะร้านตรงทางเข้าในซอยเดียวกันอันเท่ากันขาย 40TL) อันตั้งโต๊ะ 30TL อันห้อยอันเล็ก 20TL ลืมถ่ายรูปมาเสียดาย มัวแต่ช็อป ไปวันแรกก็ได้มาละ 1 อัน สมใจอยาก แต่ยังไม่สะใจ วันหลังต้องไปสอยมาอีก แล้วเราก็เดินออกจากตลาด ลงใต้ดินข้ามไปฝั่งทะเล ใต้ดินก็ขายของพวกของเล่น เสื้อผ้า รองเท้า เหมือนประตูน้ำอะ แต่ราคาทั่วไป พอขึ้นไปข้างบนฝนก็ดันตกซะนี่ ตกแหมะๆ ก็ตัดสินใจกลับที่พัก เพราะกลัวกล้องพัง พอดียืมกล้องเพื่อนมาต้องถนอมหน่อย ก็เลยไปขึ้นแทรมกลับไปพักผ่อน วันต่อมาจะไปนั่งเรือล่องช่องแคบบอสฟอรัส เย้!
อิสตันบูล เราไปได้ ใครๆ ก็ไปได้ เที่ยวง่ายๆ เบๆ กับประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม!
10 มกราคม 2559 ออกเดินทาง (หากใครอยากอ่านตอนถึงอิสตันบูลเลยก็ข้ามไปได้นะค้า)
บอกก่อนว่าเป็นการเดินทางที่ฉุกละหุกมาก ไปกับน้องสาวสองคน เก็บกระเป๋าไว้แล้ว แต่ยังไม่มีตั๋วเครื่องบิน! งงล่ะสิ เพราะว่ามันเป็นตั๋วสตาฟของ Qatar Airway ค่ะ (พี่เป็นสจ๊วตของกาต้าร์ค่ะ) รอแสตนด์บาย ถ้ามีที่ว่างถึงจะได้ไป คืนวันเดินทาง 10 มกราคม ไฟลท์ตีหนึ่งกว่าๆ จำไม่ได้แล้วง่ะ ประมาณเที่ยงคืนก็ไปรอหน้าเคาท์เตอร์กาต้าร์ค่ะ เดินเข้าไป เจ้าหน้าที่ก็บอกให้สักเที่ยงคืนครึ่งค่อยมาใหม่นะ เราก็โอเค รอๆๆ พอดีเป็นคนขี้เวอร์มาก ก็คุยกับน้องว่าพอเที่ยงคืนครึ่งปุ๊บรีบวิ่งเลย เดี๋ยวไม่ทัน 55555 พอใกล้เวลาก็ เดินเข้าไปรอ มีทั้งคนไทยและฝรั่งหลายคนมายืนรอเหมือนกันค่ะ ช่องเช็คอินปกติก็ปิดแล้ว ทีนี้ลุ้นมากค่ะ คนข้างๆ ก็โดนเรียกชื่อ โหลดกระเป๋าได้ตั๋วกันหมดแล้ว ลุ้นมาก คิดว่าต้องลากกระเป๋ากลับบ้าน เงิบแน่ๆ สักพัก เจ้าหน้าที่ก็ถาม Anyone with Qatar staff ID? เท่านั้นแหละค่ะ ก็ไปยื่นที่เคาท์เตอร์ รอเจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูล ลุ้นมาก สักพักเค้าก็บอก ไปเอากระเป๋ามาได้เลยค่ะ เท่านั้นแหละรีบวิ่งไปเอากระเป๋ามาโหลด พอได้ตั๋วปุ๊บ วิ่งไม่คิดชีวิตเลยค่ะ เจอคิวสแกนสัมภาระก็ยาว ลนอีก กลัวตกเครื่อง
พอเข้าได้ปุ๊บ ไปถึงตม.ลืมเขียนใบตม.อีก 5555 ต้องมานั่งเขียนใหม่ พอผ่านตม.ปุ๊บ วิ่งหน้าตั้ง มีแต่คนมอง อายมาก แต่ ณ ตอนนั้นกลัวไม่ทันเครื่องอย่างเดียว วิ่งจนเจอคิดว่าถ้าทรุดลงไปนี่จะมีใครมาช่วยเราไหมนะ 55 แล้วก็ดันเจ้าหน้าที่ที่เคาท์เตอร์ เค้าบอกว่าไม่ต้องรีบค่ะ ทัน เท่านั้นแหละ เฮือก แล้วที่ผ่านมาคืออารายยยยย ชั้นวิ่งทะมายยยยยย
พอไปถึงเกตก็รอค่ะ ลุ้นว่าจะได้นั่ง A380 มั้ย แล้วก็ได้นั่งจริงด้วยค่ะ ตื่นเต้นมาก ขึ้นเครื่องไปก็เจอทางขึ้นชั้นอื่นด้วย เก๋กู้ด
ที่นั่งที่เรากับน้องได้คือ4ตรงกลางอะค่ะ หลังผนังเลย แต่นั่งริม ยืดได้สบายเลย ชอบบบบ
ตอนแรกตกใจ อ้าว นั่งตรงนี้ก็ไม่มีจอสิ ทำไมอะ แอบเฟลเล็กๆ สักพักเห็นฝรั่งข้างๆ อ้าว เอาจอมาได้ไงอะ เลยก้มดูใต้เบาะ อ๋อ มันอยู่ข้างๆ นี่เอง 55555
ชาร์จแบตไอโฟนด้วยด้วยน้า
โต๊ะพับวางอาหาร
พอขึ้นไปสักพักก็มีของว่างมาเสิร์ฟค่ะ เป็นพายหรืออะไรไม่รู้เหมือนกับเรียกไม่ถูก ไม่อร่อยง่ะ แปลกๆ กับอีกอันเหมือนมัฟฟินหรือเค้กชิ้นเล็กๆ เรียกไม่ถูกอีก แล้วก็ไม่อร่อยอีก คงไม่ถูกปากเรา แล้วก็นอน ตอนเช้ามืด สักตีสี่ได้ แอร์ก็เดินเอาเมนูมาแจก
ให้เลือกได้แค่อาหารหลัก เราก็เลือกออมเล็ตชีส ติดใจจากการบินไทย ผลคือเราว่าของการบินไทยอร่อยกว่าเยอะ อิอิ
DOH-IST
เมื่อถึงโดฮา ก็ถึงเวลาตื่นเต้นอีก จะไปทรานสิทตรงไหนยังไง ก็เดินตามๆ เค้าไป หาป้ายทรานสิท พอถึงข้างในสนามบินก็ไปดูตารางไฟลท์ แล้วก็รีบเดินไปหาเกท
แล้วทีนี้ยังไงล่ะ ไม่มีบอร์ดดิ้งพาสไปอิสตันบูลเลยนะ เคาท์เตอร์อยู่ไหน หาไม่เจอ ก็เลยเดินไปดูที่เกต อุ้ย มีเคาท์เตอร์ด้วย ถามเจ้าหน้าที่ดีกว่า ก็ใช้ทักษะภาษาอังกฤษกากๆ ของตัวเอง เค้าก็จัดการให้ แล้วก็ได้ตั๋วมา แล้วก็เข้าเกทได้เลย ทีนี้ก็โล่งใจละ ได้ไปอิสตันบูลแน่ๆ แล้ว เย้
ขึ้นเครื่องเป็นลำเล็กกว่าที่นั่งมาเมื่อคืน แต่ก็โอเคอะ ก็ต้องนั่ง เรากับน้องได้นั่งแถวกลาง (อีกละ) อยากนั่งหน้าต่างอะ ฮือๆๆ ก็ปลอบใจตัวเองว่า กลางวันมันร้อน ริมหน้าต่างแดดแรง ได้แต่ปลอบใจตัวเอง
อาหารเช้าก็ให้เลือกระหว่างออมเล็ตชีสกับแพนเค้ก ก็คนไทยอะเนาะ ก็กินของคาวเป็นอาหารหลักอยู่แล้ว ก็ออมเล็ตชีสละกัน ทีนี้รสชาติมันดันไม่เหมือนเดิมอะ อันนี้อย่างกับไข่ผสมแป้ง เละๆ แปลกๆ แต่ก็หมด เพราะความตะกละ เอ้ย ความหิวนั่นเอง 55555 กินเสร็จก็นอนค่ะ อากาศหนาววววว เพราะข้างนอกติดลบประมาณ 50-60 หลับๆ ตื่นๆ ลุ้นว่าไปถึงแล้วยังไงต่อน้าาาา จะไปรอดม้ายยยยยย
เข้าเขตสนามบิน Ataturk พอแลนด์ปุ๊บ มองกระจกใหญ่ มีหิมะมั้ยๆๆ ผลคือ ไม่มีจ้ะ อดเบย เฟล (อีกละ) งั้นก็ไม่หนาวแน่เลย เฮ้อ อุตส่าห์มาเอาอากาศหนาว(จริงๆ ดูอากาศมาก่อนแล้วว่าช่วงไปไม่น่าจะมี แต่ในใจก็แอบหวังเล็กๆ เผื่ออากาศจะเปลี่ยน ถถ) จะลงจากเครื่อง ทีนี้มันไม่มีงวงช้าง ต้องลงไปขึ้นชัทเทิลบัส ก้าวแรกออกจาเครื่องเท่านั้นแหละ บรึ๊ยยยยยย ลมหนาวมากกกกก อึ๋ยยยยย ฟินนนนนน ชอบ ดีใจสุดๆ ถึงในสนามบิน Ataturk ก็ไปผ่านตม. หน้าดุมาก เป็นผู้หญิง หน้าดุแบบดุจริงๆ นึกว่าไปโกรธใครมา แต่เค้าก็ทำหน้าดุกับทุกคน ก็ผ่านมาได้ไม่มีอะไร ไปรับกระเป๋า พยายามต่อไวไฟ ไม่มีไวไฟฟรีเลยจ้า มีอันนึง Tอะไรสักอย่างอะ ฟรี15นาที แต่ต้องลงทะเบียนเบอร์ตุรกี คือระ อดไปตามระเบียบ ได้กระเป๋าก็ไปแลกเงินในสนามบิน ไม่รู้ค่าคอมมิชชั่นเท่าไหร่ อ่านไม่ออก ไม่มีภาษาอังกฤษเลย จะถามก็ไม่กล้า ก็เออๆ เรทเท่านี้ละมั้ง ก็หาเมโทร เพื่อจะไปโรงแรม ซื้อบัตร Istanbul card ใบเดียว เที่ยวได้สองคน สบายจายยย แต่ไม่รู้ไปซื้อที่ไหน ลืมหาข้อมูลมา สิ่งสำคัญลืมได้ไงเนี่ย แล้วก็เจอซุ้มก่อนทางเข้าเมโทร ขายบัตร ก็ไปซื้อ สรุปคือโดนชาร์จต่าบัตร 10TL ฮือออออออ กลายเป็น 20TL ก็เออ เอาน่ะ สะดวกดี เพราะก็ไปซื้อไม่เป็น ปลอบใจตัวเองอะเกน อ้ะๆ เข้าเมโทรสาย M1A ลงไป คนก็ประมาณนึง ไม่เยอะ เออดีๆ พอไปถึงสถานีต่อไปเรื่อยๆ นั่นแหละ คนมาจากไหน เบียดเสียดมาก อย่างกับแอร์พอร์ตลิ้งค์ตอนเช้าเลย พอถึงสถานีที่ต้องลง คือสถานี Zeytinburnu เพื่อไปต่อแทรมหรือรถราง สาย T1 ก็ออกจากเมโทร แล้วก็เจอที่ติ๊ดอีก ก็คิดว่ามันคือที่ออกของเมโทรอีก ก็หมุนออกไป สักพักเจ้าหน้าที่มาถามว่าติ๊ดบัตรยัง เราก็งง สักพัก อ๋อออ มันคือทางเข้าของแทรมนี่เอง ก็เลยไปติ๊ดใหม่ แล้วก็ขอบคุณคุณเจ้าหน้าที่ไปทีนึงแก้เขิน แล้วก็ลากกระเป๋าไปรอแทรม
ภายในแทรม
เราลงกันที่สถานี Gulhane เพราะโรงแรมที่เราจะพักกันอยู่ข้างสถานีแทรมเลย มันเก๋มาก!! แล้วก็อยู่ตรงข้ามกับพระราชวัง Topkapi อีกด้วย!!(แค่กำแพงวังนะคะ แต่ไม่ไกลกับทางเข้าเลยเดินขึ้นเขาไปนิดเดียว) คืนแรกจะนอนที่ Amisos Hotel คืนที่เหลือนอนที่ The Constantine Hotel ที่คืนแรกนอนที่นั่นเพราะว่าลืมจองคืนแรก คำนวนวันผิด อายจัง แฮะๆ แล้วโรงแรมอยู่ติดกันเลย ติดกันเลยจริงๆ เพียงแต่อยู่คนละมุม สบายแฮเลยเรา
ภาพสถานี Gulhane และโรงแรมตอนกลางคืน Amisos อยู่มุมซ้าย The Constantine อยู่มุมขวา
แล้วก็เดินลากกระเป๋าไปเช็คอินโรงแรม Amisos ซึ่งจองผ่าน Booking.com ไปถึงก็ยื่นพาสปอร์ตให้ แล้วก็รับไวไฟพ็อกเก็ตที่เช่าจากเว็บ alldaywifi.com ดีมากเลย ใช้ดีมีแบตสำรองให้ เน็ตไวอยู่นะ สบายตลอดทริป ลิฟต์ที่นี่เล็กมาก แปลกด้วย พอดีเราไม่เคยเห็น มองผ่านๆ เหมือนประตูธรรมดา พอเปิดไปจะเจอประตูลิฟต์เล็กๆ แบบฝาพับไปด้านข้างอะ แล้วก็เข้าไป เล็กมากเล็กจริงๆ กลัวด้วย ไม่เคยเห็น พักอยู่ชั้น 1 อ้าว งงสิ แล้วที่เข้ามาเมื่อกี๊เค้าเรียกชั้นอะไรง่ะ ช่างเหอะ ในห้องก็ตกแต่งแนววิคตอเรียนหรอ ไม่รู้อะค่ะ บอกไม่ถูก สวยดี
แต่ค่อนข้างเก่านิดนึง ฝาผนังผุตรงมุมห้องน้ำ แต่โดยรวมก็โอเค ห้องไม่แคบมาก มีระเบียงซึ่งออกไปไม่ได้ 5555 เปิดประตูระเบียงไว้ ลมพัดสบาย จนหนาวอะ พื้นเย็นไปหมดเลย แอร์ไม่มี มันมีเหมือนช่องแอร์แต่เปิดไปกลายเป็นฮีตเตอร์ เลยไม่เปิด ชอบหนาวๆ อิอิ
หลังจากเก็บสัมภาระ พักผ่อน ช่วงเย็นสักห้าโมง เราก็จะไปที่ Spice Bazaar หรือ Egyptian Bazaar นั่นเอง เพราะอยากไปดูโคมไฟ อิอิ เดินลงมาจากโรงแรมไม่กี่เก้าก็ถึงแทรมแล้วอะ เก๋กู้ดมากๆ นั่งแทรมจากสถานี Gulhane ไปลงสถานี Eminonu ไม่ไกลเลย 2 สถานี จริงๆ เดินไปก็ได้ ชิลมาก พอถึงก็ข้ามฝั่งไปตลาด อยู่ข้างมัสยิดอะไรสักอย่างอะ จำไม่ได้ แฮะๆ เข้าไปก็อุ่นทันทีเลย ข้างในไฟจะเหลืองๆ พ่อค้าเต็มไปหมด ประเทศนี้ผู้ชายเยอะมากๆ กวนและตลกดี เรียกเข้าร้านใหญ่ คนที่นี่จะชอบนึกว่าเรามาจากมาเลเซีย ไม่ก็อินโดนีเซีย ได้ยินแต่เสียง ซาลามัตดาตัง มาเลเซี๊ย? อินโดนนีเซี๊ย? พอบอกไทยแลนด์ก็อู้วกันใหญ่ มีร้านนึงพอเค้ารู้ว่าไทยแลนด์เค้าก็บอก มิสเตอร์ทักษิณ ฟอร์เมอร์เพรสิเดนท์ เวรี่ริชแมน เรากับน้องก็ขำ รู้จักทักษิณด้วย สงสัยแกดังมาก
ตลาดที่นี่ชื่อก็บอกอยู่ตลาดเครื่องเทศ ก็จะมีเครื่องเทศ เป็นส่วนมาก แล้วก็มี Turkish Delight ชาต่างๆ แก้วชา ผ้าพันคอ ฮิญาบ ชาม แก้ว ที่รองแก้วชา ของที่ระลึก พวกพวงกุญแจ โปสการ์ด ที่ติดตู้เย็น
ซึ่งร้านแรกๆ แถวทางเข้าก็จะขายอยู่ที่ 2TL พอเข้าไปในๆ ก็จะถูกลงมา อย่างพวงกุญแจเนี่ยมีร้านประจำที่ไปกี่รอบก็ซื้อร้านนี้ พวงกุญแจอยู่ที่อันละ 1TL ซึ่งเราก็ไม่รู้ถูกป่าวนะ แต่เห็นถูกสุดในนั้นละแหละ ต่อก็ไม่ได้ด้วย 55 แต่ซื้อเยอะลุงแกก็ลดให้บ้าง
มาที่เป้าหมายเราคือโคมไฟ เจอร้านโคมไฟประปราย แต่ไม่เยอะมาก ส่วนมากจะจัดไว้สวยเชียว ร้านกระจก ไรงี้ เราก็หยุดดูแต่ไม่กล้าเข้า คิดว่าน่าจะแพง เป็นคนขี้เกรงใจด้วย กลัวเข้าไปแล้วเกรงใจจนต้องซื้อ แงๆ เดินไปจนถึงทางแจกกลางตลาด ซึ่งร้านพวงกุญแจของลุงอยู่หัวมุมทางแยกพอดี ถ้าร้านลุงอยู่ทางขวาให้เลี้ยวแยกขวาไป ก็จะไปถึงร้านโคมไฟ ที่คิดว่าถูกที่สุดแล้วแหละ (เพราะร้านตรงทางเข้าในซอยเดียวกันอันเท่ากันขาย 40TL) อันตั้งโต๊ะ 30TL อันห้อยอันเล็ก 20TL ลืมถ่ายรูปมาเสียดาย มัวแต่ช็อป ไปวันแรกก็ได้มาละ 1 อัน สมใจอยาก แต่ยังไม่สะใจ วันหลังต้องไปสอยมาอีก แล้วเราก็เดินออกจากตลาด ลงใต้ดินข้ามไปฝั่งทะเล ใต้ดินก็ขายของพวกของเล่น เสื้อผ้า รองเท้า เหมือนประตูน้ำอะ แต่ราคาทั่วไป พอขึ้นไปข้างบนฝนก็ดันตกซะนี่ ตกแหมะๆ ก็ตัดสินใจกลับที่พัก เพราะกลัวกล้องพัง พอดียืมกล้องเพื่อนมาต้องถนอมหน่อย ก็เลยไปขึ้นแทรมกลับไปพักผ่อน วันต่อมาจะไปนั่งเรือล่องช่องแคบบอสฟอรัส เย้!