สวัสดีค่ะ ตอนนี้หนูทุกข์ใจมากค่ะ ขอเท้าความก่อนนะคะ ตอนประถมหนูเป็นแค่คนไร้ตัวตนคนหนึ่ง โดนเพื่อนแกล้ง โดนเพื่อนรังเกียจ โดนเพื่อนดูถูกต่างๆ นานา ตอนนั้นก็มีปัญหาเรื่องทางบ้านด้วย เรื่องพ่อแม่ไม่ค่อยสนใจเรา ตอนป.5 หนูตั้งใจเรียน เลยเรียนเก่งเป็นลำดับต้นๆของสายชั้น หลังจากนั้นก็มีเพื่อนเข้าหาหนูมากมายค่ะ แต่ผลประโยชน์เขาก็เฉดหัวหนูทิ้ง แต่ตอนนั้นหนูไม่แคร์อะไรเพราะตอนนั้นหนูเรียนเก่งกว่าเขา หนูอยู่คนเดียวได้ พอตอนป.6 หนูเริ่มคิดแล้วค่ะ ว่าจะเรียนต่อที่ไหนดีตอนม.ต้น พอแม่หนูบอกว่าให้ไปสอบ โรงเรียนหนึ่งในต่างจังหวัด แม่บอกว่า โรงเรียนนี้ดี สังคมดี หนูก็เลยไปสอบค่ะ หนูตั้งใจอ่านหนังสือมากเลยน่ะค่ะ ก็เลยสอบติด ภาพแรกที่หนูวาดหวังไว้คือ โรงเรียนนี้มีแต่เพื่อนดีๆ สังคมดีๆ หนูจะได้เจอเพื่อนดีๆ แล้ว หนูจะไม่ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว ตลกร้ายดีน่ะค่ะที่ความจริงกับความฝันมันต่างกัน พอขึ้นม.ต้น วันแรกที่หนูมาโรงเรียนนี้ หนูทะเลาะกับครอบครัวค่ะ หนูเข้ามาเรียนพร้อมกับคราบน้ำตา แต่ตอนนั้นโชคดีค่ะ มีเพื่อนคนหนึ่งเดินมาทักหนู คอยตามตื้อส่งข้อความให้หนู หนูเลยเป็นเพื่อนกับเขา แต่พออยู่ไปหนูกับเขานิสัยต่างกันเกินไป เขาเป็นพวกextrovert แต่หนูเป็นพวกintrovert ความต่างนี้แหละเป็นจุดขัดแย้ง และปมสำคัญในชีวิตหนู ยกตัวอย่างน่ะค่ะ พอหนูไม่ตอบข้อความเขา เขาก็จะเก็บไปน้อยใจ ว่าไม่ให้ความสำคัญกับเขา ถึงเขาไม่พูดแต่หนูก็ดูออกค่ะ ไม่ใช่ว่าหนูไม่ตอบข้อความเขา หนูก็ไม่ตอบทุกคนนั้นแหละค่ะ ถ้ามันไม่จำเป็น แต่หนูก็พยายามให้ความสำคัญกับเขาน่ะค่ะ เวลาเขามีปัญหาหนูก็พยามช่วยทุกอย่างที่พยามจะทำได้ ให้คำปรึกษาและอยู่ข้างๆเวลาเขามีปัญหา ไม่เคยทิ้งเขาไปไหน หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ ทำขนาดนี้ยังรู้สึกไม่สำคัญอีกเหรอ ทำไมต้องทิ้งหนูไปหาเพื่อนคนอื่น ทำไมต้องทำเหมือนเราเป็นตัวสำรอง ทำไมต้องทำเหมือนเราเป็นตัวประหลาด และเจ็บใจที่สุดคือ แทงข้างหลังเรา ทำกันได้ลงคอน่ะค่ะ คบกันมา3ปี แทงข้างหลังกันได้เลือดเย็น หลังจากนั้นหนูเทหมดเลยค่ะ พวกเขามาขอโทษ หนูก็ไม่ให้อภัยเขาค่ะ แต่ต้นตอที่หักหลังหนู ไม่เคยมาขอโทษหนูเลย ทำไมต้องให้ที่ไม่ผิดมาขอโทษแทนด้วย ทำไมหนูต้องเสียเพื่อนคนที่ไม่ได้ทำอะไรไปกับเขาด้วย หลังจากที่หนูมีปัญหากับเพื่อนกลุ่มนั้นหนูเลยถูกเพื่อนในห้องแบนค่ะ หนูปลงกับเรื่องทั้งหมด จนมาเจอเพื่อนคนใหม่ที่ทำโครงงานด้วยกัน หนูเลยคบกับเขาค่ะ สบายใจมากเลยค่ะ เวลาที่มีเขาอยู่เป็นเพื่อน บนความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่น่ะค่ะ พอม.3ตอนปลาย หนูไม่อยากอยู่โรงเรียนเก่าแล้ว หนูตัดสินใจจะไปสอบเตรียมอุดม เพื่อจะได้เจอสังคมใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆบ้าง แต่หนูทำมันพังค่ะ หนูทำพลาดเรื่องเอกสารเลยไม่ได้ไปสอบ ความฝันหนูสลายหายไปไหนพริบตา หนูร้องไห้แบบหมดสภาพเลยค่ะ หนูอดหลับอดนอนอ่านหนังสือ ทำโจทย์ เรียนพิเศษหนักๆเพื่ออะไร นี้หนูต้องไปเจอสังคมแย่ๆที่โรงเรียนเก่าอีกเหรอ เฟลจริงๆค่ะพูดเลย
พอหนูขึ้นม.4 โรงเรียนหนูแต่สายวิทย์ หนูก็ต้องเรียนค่ะ เรียนทั้งที่ไม่ชอบ หนูพยายามตั้งใจเรียนแล้วน่ะค่ะ แต่มันเรียนไม่รู้เรื่อง อ่านหนังสือไปก็รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ผลคะแนนมันออกมาต่ำมาก หนูติดร.หลายวิชามาก แถมยังติด0ด้วย หนูร้องไห้เลยค่ะ นี้เราโง่ขนาดนี้เลยเหรอ หนูเครียดขนาดซึมเศร้า ไม่พูดกับใคร ไม่กล้าเข้าสังคม พยามอ่านหนังสือ เรียนพิเศษหนักกว่าเดิมแต่หัวมันไม่ไป โอเคหนูเข้าใจแล้วว่าเราไม่ถนัดวิชาสายวิทย์ แต่ถนัดพวกวิชาสายศิลป์ หนูเลยตัดสินใจจะซิ่วเตรียมอุดม สายศิลป์ หนูเลยอ่านหนังสือหนักๆเพื่อให้สอบติด ตอนแรกที่บอกแม่ว่าจะซิ่ว แม่หนูบอกว่าไม่โอเค แต่หนูตื้อจนแม่ตอบตกลง หนูทั้งอ่านหนังสือสอบเตรียมอุดม อ่านหนังสือของสอบกลางภาค และปลายภาคของโรงเรียนนี้ด้วย กลายเป็นว่าหนูเครียดหนักกว่าเดิมที่อ่านหนังสือพวกสายวิทย์ไปด้วย พอสอบย่อยคะแนนหนูก็ต่ำมากค่ะ ท้อเลยค่ะ หนูเลยเทเนื้อหาพวกสายวิทย์ที่เรียนมาทั้งหมด มันไม่ไหวแล้วค่ะ มันเหนื่อยพยายามเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น จากเครียดอยู่แล้วกลายเป็นเครียดหนักกว่าเดิม จนกลายคนแปลกๆที่เงียบมากๆ จนไม่กล้าคุยอะไรกับคนอื่น หนีสังคม เพื่อนเก่าที่หนูเคยทำโครงงานหนูก็ปลีกตัวไปเอง เขาก็ไปมีสังคมใหม่ของเขา มันไม่สนิทกันเหมือนเดิมอ่ะค่ะ กลายเป็นว่าหนูกลายเป็นคนโง่ที่ไร้เพื่อน loserชัดๆ
ความเครียดเรื่องนี้มันทำให้โรคประจำตัวของหนูที่เกี่ยวกับกระดูกกำเริบ มันเริ่มชาจากที่ขา จนชากล้ามเนื้อไปทั่งตัว จนไปหมอ หมอบอกว่าหนูเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูก ที่มีก้อนกระดูกขวางการเจริญเติบโตของกระดูก ต้องผ่าตัดด่วน จะดีต่อสุขภาพของหนู แล้วก้อนกระดูกนั้นมีโอกาสเป็นมะเร็ง 2% หนูร้องไห้หนักเลยค่ะ แล้วความฝันหนูที่จะไปเตรียมอุดม เหมือนพังทลายเลยค่ะ จนหนูมาเรียนวันใหม่แล้วกับมาคิดว่าจะเลื่อนผ่าตัดเพื่อสอบเตรียมก่อนดีมั้ย หนูเลยพยามไม่เครียด เพื่อจะไม่เจ็บกระดูก แต่มันหนีไม่ได้ค่ะ มันเจอความเครียดทุกวัน มันยิ่งปวดและเจ็บมากขึ้น พอนานๆวันขึ้นหนูคุยกับแม่เรื่องนี้ มีหนูยื่นคำขาดให้หนูว่า “จะลาออกจากโรงเรียนเก่า เพื่ออ่านหนังสือสอบเข้าเตรียมอุดมอย่างเดียว เพราะหนูอ่านหนังสือของม.4ไปก็ไม่รู้เรื่อง เพราะมันไม่ถนัด ก็เลยเครียด พอเครียดก็ป่วยอีก หรือจะอยู่โรงเรียนเก่าเรียนสายวิทย์ต่อ แล้วผ่าตัดเพื่อรักษาสุขภาพให้มันดีว่าเดิม อยู่โรงเรียนเก่าต่อหนูต้องเกรดต่ำ แล้วเข้ามหาลัยกับคณะที่ต้องการไม่ได้หรือค่ะ แล้วก็ต้องอยู่แบบคนไร้เพื่อน ไร้สังคมไปจนจบม.6 หรือค่ะ หรือถ้าไปสอบเข้าเตรียม แล้วหนูจะสอบติดเตรียมหรือคะ ถ้าสอบไม่ติดทำไง หรือถ้าสอบติดแล้วสุขภาพแย่ลง หนูจะทำไง หนูคิดไม่ออกจริงๆค่ะ คิดยังไงมันก็ตันไปทุกทางแล้ว หนูควรทำไงดีค่ะ
ถ้าต้องเลือกระหว่างการที่ต้องทนอยู่กับความจริงที่เจ็บปวดกับความฝันที่ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นจริงหรือเปล่า จะเลือกอะไรดีค่ะ
พอหนูขึ้นม.4 โรงเรียนหนูแต่สายวิทย์ หนูก็ต้องเรียนค่ะ เรียนทั้งที่ไม่ชอบ หนูพยายามตั้งใจเรียนแล้วน่ะค่ะ แต่มันเรียนไม่รู้เรื่อง อ่านหนังสือไปก็รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ผลคะแนนมันออกมาต่ำมาก หนูติดร.หลายวิชามาก แถมยังติด0ด้วย หนูร้องไห้เลยค่ะ นี้เราโง่ขนาดนี้เลยเหรอ หนูเครียดขนาดซึมเศร้า ไม่พูดกับใคร ไม่กล้าเข้าสังคม พยามอ่านหนังสือ เรียนพิเศษหนักกว่าเดิมแต่หัวมันไม่ไป โอเคหนูเข้าใจแล้วว่าเราไม่ถนัดวิชาสายวิทย์ แต่ถนัดพวกวิชาสายศิลป์ หนูเลยตัดสินใจจะซิ่วเตรียมอุดม สายศิลป์ หนูเลยอ่านหนังสือหนักๆเพื่อให้สอบติด ตอนแรกที่บอกแม่ว่าจะซิ่ว แม่หนูบอกว่าไม่โอเค แต่หนูตื้อจนแม่ตอบตกลง หนูทั้งอ่านหนังสือสอบเตรียมอุดม อ่านหนังสือของสอบกลางภาค และปลายภาคของโรงเรียนนี้ด้วย กลายเป็นว่าหนูเครียดหนักกว่าเดิมที่อ่านหนังสือพวกสายวิทย์ไปด้วย พอสอบย่อยคะแนนหนูก็ต่ำมากค่ะ ท้อเลยค่ะ หนูเลยเทเนื้อหาพวกสายวิทย์ที่เรียนมาทั้งหมด มันไม่ไหวแล้วค่ะ มันเหนื่อยพยายามเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น จากเครียดอยู่แล้วกลายเป็นเครียดหนักกว่าเดิม จนกลายคนแปลกๆที่เงียบมากๆ จนไม่กล้าคุยอะไรกับคนอื่น หนีสังคม เพื่อนเก่าที่หนูเคยทำโครงงานหนูก็ปลีกตัวไปเอง เขาก็ไปมีสังคมใหม่ของเขา มันไม่สนิทกันเหมือนเดิมอ่ะค่ะ กลายเป็นว่าหนูกลายเป็นคนโง่ที่ไร้เพื่อน loserชัดๆ
ความเครียดเรื่องนี้มันทำให้โรคประจำตัวของหนูที่เกี่ยวกับกระดูกกำเริบ มันเริ่มชาจากที่ขา จนชากล้ามเนื้อไปทั่งตัว จนไปหมอ หมอบอกว่าหนูเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูก ที่มีก้อนกระดูกขวางการเจริญเติบโตของกระดูก ต้องผ่าตัดด่วน จะดีต่อสุขภาพของหนู แล้วก้อนกระดูกนั้นมีโอกาสเป็นมะเร็ง 2% หนูร้องไห้หนักเลยค่ะ แล้วความฝันหนูที่จะไปเตรียมอุดม เหมือนพังทลายเลยค่ะ จนหนูมาเรียนวันใหม่แล้วกับมาคิดว่าจะเลื่อนผ่าตัดเพื่อสอบเตรียมก่อนดีมั้ย หนูเลยพยามไม่เครียด เพื่อจะไม่เจ็บกระดูก แต่มันหนีไม่ได้ค่ะ มันเจอความเครียดทุกวัน มันยิ่งปวดและเจ็บมากขึ้น พอนานๆวันขึ้นหนูคุยกับแม่เรื่องนี้ มีหนูยื่นคำขาดให้หนูว่า “จะลาออกจากโรงเรียนเก่า เพื่ออ่านหนังสือสอบเข้าเตรียมอุดมอย่างเดียว เพราะหนูอ่านหนังสือของม.4ไปก็ไม่รู้เรื่อง เพราะมันไม่ถนัด ก็เลยเครียด พอเครียดก็ป่วยอีก หรือจะอยู่โรงเรียนเก่าเรียนสายวิทย์ต่อ แล้วผ่าตัดเพื่อรักษาสุขภาพให้มันดีว่าเดิม อยู่โรงเรียนเก่าต่อหนูต้องเกรดต่ำ แล้วเข้ามหาลัยกับคณะที่ต้องการไม่ได้หรือค่ะ แล้วก็ต้องอยู่แบบคนไร้เพื่อน ไร้สังคมไปจนจบม.6 หรือค่ะ หรือถ้าไปสอบเข้าเตรียม แล้วหนูจะสอบติดเตรียมหรือคะ ถ้าสอบไม่ติดทำไง หรือถ้าสอบติดแล้วสุขภาพแย่ลง หนูจะทำไง หนูคิดไม่ออกจริงๆค่ะ คิดยังไงมันก็ตันไปทุกทางแล้ว หนูควรทำไงดีค่ะ