[CR] รีวิวเที่ยวเวียงจันทร์ใน 1 วัน #ครอบครัวตัวเจ

กระทู้รีวิว
สวัสดีค่ะ เนื่องจากครอบครัวเราต้องผิดหวังจากการที่ตั้งใจจะไปเที่ยวเชียงรายและเชียงใหม่ ในช่วงปีใหม่ แต่เพราะคุณตาป่วยค่ะ เลยไม่ได้ไปไหน อยู่โยงเฝ้าบ้านกัน เด็กๆก็เบื่อสิคะ แม่เลยต้องหาทริปสั้นๆ แบบไปเช้า เย็นกลับให้ ซึ่งก็คิดได้เมื่อตอนวันหยุดสุดท้ายของปีใหม่แล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2559 เราจึงออกเดินทางไปเที่ยวเวียงจันทร์กันค่ะ

ออกจากบ้านที่ขอนแก่นตอน 8 โมงเช้า

ถึงหนองคายประมาณ 10 โมง

เลี้ยวซ้ายไปเส้นทางเวียงจันทร์ เพื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวค่ะ


ถึงแล้ว...ด่าน ตม. ฝั่งไทย


ก่อนอื่นเราเอารถไปฝากก่อน เราฝากแถวหลังธนาคารกรุงไทยทางด้านขวามือค่ะ พอเห็นด่านก็วนรถกลับ เห็นป้ายธนาคารกรุงไทยก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย ค่าฝากวันละ 50 บาท ไม่ข้ามคืนค่ะ

จากนั้นก็ไปขอใบผ่านแดนฝั่งไทยจาก จนท. ก็ได้มา 5 ใบค่ะ เนื่องจากบ้านเรามี Passport กันทุกคน เลยใช้ Passport ผ่านทางได้เลย  สำหรับคนที่ไม่มี Passport ให้ไปติดต่อที่ข้างตู้ ATM TMB มีคนรับทำใบผ่านแดน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

เขียนในผ่านแดนเรียบร้อย ก็ผ่าน ตม. ไทยเข้าไปเลย คนที่ข้ามแดนด้วย Passport กับคนที่ใช้ใบผ่านแดนจะเข้าคนละช่อง อย่าเข้าแถวผิดค่ะ ออกจาก ตม. ทางขวามือจะมีโต๊ะนั่งขายตั๋วรถบัสข้ามสะพานมิตรภาพเพื่อไป ตม. ฝั่งลาว ค่ารถบัสวันหยุด 20 บาท วันธรรมดา 15 บาท


เป็นรถพัดลม ถ้าคนขึ้นเต็มก็ต้องยืน ดูหน้าเด็กๆ ที่ไม่ค่อยได้ขึ้นรถบัส ดูงงๆ อมยิ้ม19

นั่งไปได้แป้บเดียวก็ถึงด่าน ตม. ลาว แล้ว ลงรถแล้วเราก็ไปซื้อการ์ดผ่านแดนกันก่อน

ซื้อที่ตู้ตรงนี้ ต้องใช้ Passport หรือใบผ่านแดนแสดงด้วยนะ  ต้องซื้อ 1 คนต่อ 1 ใบ  เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีไม่ต้องเสีย ราคาการ์ดผ่านแดน วันธรรมดา 4 บาท วันหยุด 40-45 บาท เจ้าหน้าที่จะปริ้นใบเสร็จให้ด้วย 1 คนต่อ 1 ใบ ซื้อเสร็จเจ้าหน้าที่บอกว่าให้เก็บใบเสร็จนี้ไว้ ขากลับใช้ใบเสร็จที่ปริ้นยื่นขอการ์ดขากลับได้เลย ไม่ต้องเสียเงินซื้ออีก การ์ดจะเป็นใบแข็งๆ ลืมถ่ายรูปมาค่ะ

เสร็จแล้วเราก็ไปขอใบผ่านแดนของ ตม. ลาวกัน ตรงที่เค้าต่อคิวตรวจ ตม. ค่ะ แถวยาวๆนั่นล่ะ (อยู่ฝั่งซ้ายของตู้ขายการ์ดผ่านแดนค่ะ) เราก็เดินไปขอแบบฟอร์ม ตม. กับเจ้าหน้าที่ในตู้เลย ระบุจำนวนคน เจ้าหน้าที่ให้ใบ ตม. มา ก็มากรอก 5 ใบ (ตรงนั้นมีคนรับกรอกด้วยนะ ราคา 20 บาทมั๊ง สำหรับคนที่กรอกไม่เป็น)

ช่วงนั้นเราก็ไปแลกเงินรอ มีเคาท์เตอร์ข้างๆกับตู้ขายการ์ดนะ บ้านเราแลกไป 1,500 บาทไทย คิดเป็นประมาณ 375,000 กีบค่ะ
วิธีการคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณ ง่ายๆให้ใช้วิธีตัดศูนย์สามตัวหลังของเงินกีบออก แล้วคูณด้วยสี่ จะเป็นเรทเงินบาท
เช่น ซื้อของ 4,000 กีบ ตัด 0 ออก 3 ตัว คูณ 4 เท่ากับ 16 บาท


วันนี้เี่รารวยมาก มีเงินเที่ยวตั้ง 3 แสน รวยๆๆๆ หัวเราะ

ช่วงที่เรารอตรวจ ตม. ของลาว กีมีคนลาวมาถามให้เช่ารถ อันที่จริงตอนฝากรถที่ฝั่งไทยก็มีคนมาถามให้เหมารถตู้ ถามราคาก็บอกเหมาทั้งวัน 1,200 บาท เราบอกมีรถแล้ว พอถึง ตม. ลาว ก็มาประกบเลยราคาเหมาทั้งวัน 1,000 บาท เที่ยวตามโปรแกรมของเราเลย เราก็บอกยัง ขอออกจาก ตม. ก่อน

ออกจาก ตม. ไม่มีถามอะไร ไม่ต้องปั๊มนิ้ว พอออกมาจะเจอที่กั้นเหมือนเข้า BTS ก็เอาการ์ดเสียบ พอที่กั้นเปิดก็รีบเดินออกมา การ์ดไม่ได้คืนนะคะ ส่วนเด็กอายุไม่เกิน 12 ที่ไม่มีการ์ดก็เดินเข้าพร้อมผู้ใหญ่เลย (ไม่ได้ถ่ายมาให้ดูค่ะ เพราะรีบมากๆเลย)

ตอนนี้คนขับรถก็มาประกบอีกรอบ เราเลยต่อเหลือ 800 เพราะตอนนี้ก็เกือบเที่ยงแล้ว ได้เที่ยวครึ่งวันเอง คนขับรถก็ตกลง เราถามรถใหม่มั๊ย มีแอร์มั๊ย เค้าบอกมีแอร์ แต่ไม่ใหม่มาก เรารีบก็เลยโอเคตามนั้น


เป็นรถ Hyundai (ที่ลาวรถยี่ห้อนี้เยอะมาก) แอร์เย็นแต่เก่า และกลิ่นไม่ดีเท่าไหร่ แต่ตกลงแล้วก็เลยตามเลย


สภาพภายในรถ ที่เด็กๆกลับชอบ ซะงั้น

ขึ้นรถออกมาจากด่านเข้าเมืองเวียงจันทร์แล้ว เราบอกว่าหาข้าวกินดีกว่า เด็กๆคงหิวแล้ว ให้คนขับพาไปร้านเฝอแซ่บ ไปสาขาแรกร้านปิด เราก็บอกงั้นไปร้านไหนก็ได้ ที่น่ากิน พาไปเลย คนขับบอกขอพาไปร้านสมุนไพรแป้บ ใช้เวลาไม่นานเพราะเค้าจะได้ค่าพาแขกไปด้วย เราก็เริ่มไปพอใจนะ เราเหมาแล้วก็ต้องไปตามเรา ไม่ได้อยากซื้อสมุนไพร คนขับก็ขอร้องว่าขอค่าพาเข้าหน่อย แป้บเดียว เราก็เออๆ

ไปถึงก็เป็นบ้านตึกหลังใหญ่ๆ มีรั้วรอบขอบชิด จอดรถแล้วเข้าไปห้องโถง มียาและสมุนไพรโชว์อยู่ พนักงานพาเข้าไปห้องเล็กๆมีเก้าอี้นั่ง แล้วพูดไทยเกี่ยวกับสมุนไพรแก้อาการต่างๆ แล้วเอาโบชัวร์และตัวอย่างให้ลองทา กลิ่นเหมือนยาหม่องเลย เราก็บอกเดี๋ยวขอไปอ่านโบชัวร์ดูก่อนนะ จะแวะมา แล้วก็ออกมาเลย

คนขับรถพามาร้านอาหารเล็กๆ ที่นึง จำชื่อร้านไม่ได้ เราสั่งเฝอ ผัดซีอิ้ว ข้าวกระเราหมู ข้าไข่เจียว เบียร์ลาว




ราคาค่าเสียหาย 175,000 กีบ เป๊บซี่กระป๋องละ 80 บาท ข้าวจานละ ประมาณ 80 บาท เฝอ 80 บาท เีบียร์ขวดละ 60 บาท เราว่าแพงเหมือนกันนะ ถ้าครั้งหน้าคงหาร้านไปเอง เอาเผื่อๆไว้หน่อยเผื่อร้านปิดแบบนี้ค่ะ

หลังจากอิ่มกับอาหารเที่ยงแล้ว ที่แรกที่ไปคือ พระธาตุหลวง

คนขับรถทิ้งเราไว้ตรงนี้ และบอกจะไปรอที่ประตูอีกฝั่ง เด็กๆกินไอติมไม้เสียบแบบไอติมโบราณ ไม้ละ 20 บาท เราชิมดูก็อร่อยดีนะ





พระธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี (ພຣະທາດຫລວງ) นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งเวียงจันทน์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ สร้างขึ้นคราวเดียวกับการสร้างเมืองนครเวียงจันทน์ หลังจากก่อสร้างพระธาตุพนมแล้ว ผู้สร้างคือ บุรีจันอ้วยล้วย หรือ พระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ เจ้าเหนือหัวผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรก พร้อมกับพระอรหันต์ 5 องค์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเหน่า 27 พระองค์ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย โดยก่อเป็นอุโมงค์หินคร่อมไว้ อุโมงค์นั้นกว้างด้านละ 5 วา ผนังหนา 2 วา และสูงได้ 4 วา 3 ศอก เมื่อได้ทำการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้ว พระเจ้าจันทบุรี จึงได้มีพระราชดำรัสให้เสนาอำมาตย์สร้างวิหารขึ้นในเมืองจันทบุรีหรือนครเวียงจันทน์ 5 หลัง เพื่อให้เป็นที่อยู่จำพรรษาของ พระอรหันต์ทั้ง 5 องค์นั้นด้วย พระธาตุหลวงสร้างเมื่อ พ.ศ. 238

การเข้าชมภายในวัดต้องซื้อบัตร 5,000 กีบ หรือประมาณ 20 บาท สามารถจ่ายเป็นเงินกีบหรือเงินบาทก็ได้

เข้าไปภายในวัดเด็กๆ สามคนสนุกกับการอ่านป้ายภาษาลาวมาก อย่างป้ายนี้

ขอบใจที่ท่านถอดเกิบ เอ๊ย..ถอดรองเท้า อมยิ้ม01

อ้อ...สถานที่เที่ยวที่เป็นวัด จะปิดทำการช่วงเที่ยงค่ะ ถ้าเราเข้าไปก่อนเที่ยงก็อยู่ได้ จะออกตอนไหนก็ได้ แต่ถ้าไปถึงตอนเที่ยงจะเข้าไม่ได้ ต้องรอบ่ายโมงนะ ต้องกะเวลาดีๆ บ้านเรามาถึงบ่ายแล้ว ไม่ต้องกะเวลาอะไรเลย

ออกจากพระธาตุหลวง เราไปประตูชัย

ประตูชัย (ภาษาลาวเรียก ປະຕູໄຊ Patuxay) แห่งนคร เวียงจันทน์ ส.ป.ป ลาว เป็นการสร้างเลียนแบบ L’Arc De Triomphe ของฝรั่งเศส สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้กับประชาชนที่ต่อสู้และเสียชีวิต ในสงครามก่อนการปฏิวัติพรรคคอมมิวนิสต์ สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2512



สามพี่น้องที่ประตูชัย

ที่นี่มีบริการถ่ายภาพให้นักท่องเที่ยวด้วย รูปละ 80 บาท เราถ่ายรูปครอบครัว 1 รูป และเด็กๆ 1 รูป


เด็กๆ อยากขึ้นไปข้างบนประตูชัย




ปกติตู้ไปรษณีย์ต้องสีแดงสินะ อมยิ้ม17

เด็กๆอยากขึ้นไปข้างบนประตูชัย ซื้อตั๋ว 3,000 กีบ ขึ้นไปด้านบน ทางขึ้นกับทางลงอยู่คนละฝั่ง บันไดแคบมาก และเดินขึ้นเหนื่อยมากกกก ระหว่างทางขึ้นก็มีของขาย เป็นของที่ระลึกต่างๆ


บันไดโค้งสุดท้ายก่อนถึงชั้นบนสุด เดินได้ทีละคน สวนกันไม่ได้


ขึ้นไปถึงบนสุด นึกว่าจะอลังการ แคบแค่นี้ มีหน้าต่างเหล็กดัดให้ดูวิว 4 ด้าน






รูปสุดท้ายนี้ สองหนุ่มหัวเราะกันใหญ่ บอกมันเหมือน....อ่ะแม่ ทะลึ่งจริงๆ

ไปต่อที่วัดสีสะเกด  
วัดสีสะเกด หรือ วัดสะตะสะหัดสาราม ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ ติดกับหอคำ พระราชวังหลวงของกษัตริย์ลาวสมัยก่อนสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2094 โดยพระเจ้าโพธิสารราช พระบิดาของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ในศตวรรษที่ 16 ถือว่าเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่ง ในนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งอยู่ในระหว่างศึกสงครามหลายยุคหลายสมัย และเป็นวัดเดียว ที่ไม่เคยถูกทำลายเหมือนวัดอื่นๆ ในเวียงจันทน์


ประตูทางเข้าวัด



เจอป้ายนี้ สองพี่น้องถึงกับเปิดหาคำแปลกันเลย ค่าเข้าวัด 5,000 กีบ หรือ 20 บาท

ภายในวัด





ตู้ขายน้ำ มีน้ำจากไทยหลายอันเลย


เดินออกมา เด็กๆ สนุกจนตัวลอย อมยิ้ม01

ออกจากวัดสีสะเกด ข้ามถนนมาอีกฝั่งจะเป็น หอพระแก้ว

แต่ปิดปรับปรุง เราจึงเดินเล่นรอบๆ


เด็กช่างสงสัย มีอะไรอยู่ในตู้น๊า!!!
ชื่อสินค้า:   เวียงจันทร์, สปป ลาว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่