ออกตัวเลยนะครับ เป็นครั้งแรกสำหรับการรีวิวการไปเที่ยวที่ต่างประเทศนะครับ
เเต่เนื่องจาก ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ตัวเองไปมาเก็า เพราะครั้งแรกที่ไปเเล้วชอบมาก (ติดที่ว่าร้อนไปหน่อย)
ครั้งนี้เลยจัดไปเลยครับ ไปช่วงต้น มกราคม ที่น่าจะอากาศดีที่สุด
ไป 4 วันครับ อยู่แต่มาเก๊าคับ ถูกต้องครับ อยู่แต่ในมาเก๊านี่แหละครับ ไม่ไปฮ่องกงเลย
หลายๆคนบอกว่ามาเก๊าไม่มีไร เที่ยววันเดียวก็พอ แต่ผมว่ามีอะไรให้เที่ยวมากมายเลยนะครับ ซึ่งเดี๋ยวจะรีวิวต่อไปในกระทู้นี้นะครับ
*** การรีวิวทั้งหมดนี้ มาจากความรู้สึกตัวเองล้วนๆนะคับ หากมีข้อความใดๆ ทำให้ใครไม่พอใจ ต้องขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ***
** หวังว่าข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ต่อท่านที่มีความสนใจ อยากจะลองไปเที่ยวที่นี่นะคับ**
** ถ้าจะไป แนะนำไปช่วงต้นปีนะคับ เช่นต้นมกราคม เพราะว่าอากาศดีมากจิงๆ 17-19 C ถ้าไปช่วงอื่น เช่นช่วงหน้าร้อนของเค้า ก็ร้อนไม่แพ้เมืองไทยเลยครับ **
มาเก๊า เหมาะกับคนที่ …
1. ชอบเล่นการพนัน อันนี้แน่นอนคับ จุดเด่นเค้าเลย
2. ขอบเที่ยวดูสถาปัตยกรรม ทั้งแนวจีน และ แนวยุโรป เช่นพวกโบสท์ วิหาร ป้อมปราการ
3. ชอบทานอาหารจีน รถไม่จัด และ อาหารโปตุเกสแปลกๆ
4. ทรหดอดทนนิดนึงกับการเดินทางคับ เพราะว่าที่นี่การเดินทางหลักๆคือ รถเม และ การเดินเท้า
5. ชอบเที่ยวไม่เน้น shopping ถึงแม้ที่นี่จะมีร้านขายของพอสมควรแต่ราคาและรูปแบบอาจไม่ถูกใจคนไทยอย่างเราเท่าไหร่คับ
การเดินทาง
1. จากไทยไปที่มาเก๊า ผมไปของสายการบินแอร์เอเชียคับ ราคาตกคนละ 3730 บาท ไป-กลับ
เวลาผมว่าค่อนข้างดีเลยครับ วันแรกที่ไปถึงตอนบ่ายก็เที่ยวได้ วันกลับก็ได้เที่ยวทั้งวัน
2. จากสนามบินเข้าไปที่พัก หรือ ในเมือง
ตามแผนที่นี้เลยนะครับ สนามบินเราอยู่ด้านล่าง โซนที่พักที่ฮิตจะอยู่ที่แหลมด้านบน หรือ ใครบางคนจะพักโรงแรมหรูๆ อย่าง Venetian ไรพวกนี้ ก็จะอยู่ตรง Cotai ตรวเกาะด้านล่างนะครับ
การเดินทางออกจากสนามบินมีให้เลือก 3 แบบนะครับ
1. Taxi ง่าย แพง โดยตอนที่ผมเคยนั่งออกมา ถึงบริเวณแถบที่พักยอดฮิตตรงซานหม่าโล ก็เสียไปรวมๆ เกือบ 500 กว่าบาทนะครับ ซึ่งอันนี้รวมค่าบริการพิเศษ คือ ต้องเสียเพิ่ม 5MOP เพราะเรียกจากสนามบิน (MOP ค่าเงิน มาเก๊านะครับ จะแปลงเป็นไทยก็คูณ 4.6 เข้าไปนะครับ) และยั่งต้องเสียค่ากระเป๋าเดินทางที่เราเอามาใส่รถเค้าอีก เค้าจะดูใบใหญ่ๆนะครับ คิดใบละ 3MOP (คิดยุบยิบจิงๆ)
2. อีก way นึงนะครับ นั่งรถเมล์ครับซึ่งอันนี้ถูกแน่นอนครับ แค่ 3.2 MOP หรือ 4.2 MOP แค่นั้นครับ ข้อดีคือถูกครับ ข้อเสียคือลำบากหน่อยนะครับ เพราะเราก็มีกระเป๋าเดินทางต้องติดตัว และแถมรถเมล์ที่นี่ ถ้าเรายังไม่มี MACAU PASS (คืออะไรเดี๋ยวผมบอกในหัวข้อถัดไปนะครับ) เราก็ต้องจ่ายเค้าเป็นเหรียญเท่านั้น หรือ แบงค์ก็ได้ แต่เค้าไม่ทอนนะครับ ซึ่งเราเพิ่งมาถึงที่นี่กันมีแต่แบงค์ใหญ่ที่เเลกมาแน่ๆ เหรียญก็คงไม่ต้องพูดถึงครับไม่มีแน่นอน
3. ทางเลือกสุดท้ายที่ผมว่าดีสุด นั่งรถรับส่งของคาสิโนชื่อดังทั้งหลายครับ (Shuttle Bus) เค้ามีบริการรับส่งฟรีตามจุดต่างๆที่สำคัญไปที่โรงแรมเค้า จากที่สนามบินก็มีแทบจะทุกโรงแรมเลยครับ Venetian , City of dream บลาๆ เอากระเป๋าใส่ใต้รถไห้ด้วย สบายฝุดๆ จุดที่ขึ้นนะครับ ออกมาจาก terminal ให้เลี้ยวขวาเเล้วเดินตามทางมาเรื่อยๆครับ จะเจอลานจอดรถและรถบัสของโรงแรมจอดรออยู่หลายคันครับ
การเดินทางแบบที่ผมแนะนำนะครับ
สมมติว่าพักที่โรงแรมของเค้า เลือกแบบที่3 แค่นี้ก็จบครับ
แต่ถ้าเราพักที่แหลมด้านบน ให้เราเลือกแบบที่ 3 เอาตัวเองออกมาจากสนามบินก่อนครับ ส่วนหลังจากนั้น ก็เลือก
1. taxi ครับ อย่างน้อยก็ save ตังค์ได้บางส่วนเเล้วจากการที่นั่งรถบัสมา
2. เอาเงินไปซื้อโน่นนั่นนี่ ไห้กลายเป็นเหรียญแล้วก็นั่งรถเมล์ครับ ตรงข้างนอกจะมีสายไห้เลือกมากกว่าครับ
3. ประหยัดสุดๆ โดยการนั่งรถบัสของไห้คาสาโนเหล่านี้แหละ ข้ามขึ้นไปข้างบนอีก ก็ฟรีอีกเช่นกันครับ เเต่ต้องทำการบ้านก่อนนะครับ เพราะว่าจุดรับส่ง ความถี่ของรถบัสแต่เราคาสิโนมันไม่เหมือนกันครับ ยกตัวอย่างของ venetain ก็เป็นงี้ครับ
3. การเดินทางภายในมาเก๊า
ในมาเก๊า ไม่มีรถไฟฟ้า ใต้ดิน เหมือนบ้านเรานะครับ การเดินทางหลักของเค้าคือ รถเมล์ ส่วน taxi นั้นไม่ต้องพูดถึงครับ แพงจิงจัง (ปกติถ้าจะใช้บริการ taxi ก็เเนะนำเป็นนั่งไป-กลับสถานี ตอนมาถึงกับตอนกลับพอครับ)
รถเมล์
ที่นี่มันก็มีหลายสี หลายแบบ หลายขนาด แล้วแต่บริษัทที่ไห้บริการครับ แต่ไม่ต้องสนใจครับ แบบไหนราคาก็เหมือนกันหมด เราสนใจแค่เบอร์หรือเลขสายที่เราต้องการจะไปแค่นั้นครับ ถ้าเลขนั่นมา ก็ขึ้นไปเลยครับ
ขึ้นด้านหน้า ลงด้านหลังเท่านั้นครับ ถ้าไปยืนงงๆจะเข้าที่ประตูหลัง เค้าไม่ไห้ขึ้นเลยนะครับ บางทีก็ขับออกไปเลยไม่สนใจครับ
ข้อดีของรถเมล์ที่นี่คือ มาค่อนข้างบ่อยครับ สายหลักๆ รอไม่เกิน 10 นาทีก็มาเเล้วครับ
ถามว่ารถเมล์ที่นี่แน่นเหมือนที่ไทยไหม ก็เหมือนกันแหละครับ ถ้าอยู่ในช่วง rush hour ก็แน่นอนครับ แต่เนื่องจาก Macau เล็กครับ นั่งจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งใช้เวลาไม่นอนครับ
ก่อนอื่น ขอเเนะนำพระเอกของเรานะครับ
บัตร MACAU PASS
บัตรสะสมเงินที่เราสามารถนำไปใช้จ่ายกับการขึ้นรถเมล์และสามารถนำไปใช้ตามร้านสะดวกซื้อต่างๆได้ เช่น 7-11 หรือ OK
จำเป็นนะครับ ถ้าต้องมานั่งนับเหรียญทุกครั้งก่อนขึ้นรถเมล์คงจะลำบากแย่ครับ การใ
สามารถซื้อบัตรนี้ได้ที่ 7-11 และ OK นะครับ เดินครั้งแรกต้องจ่ายตังค์ไห้เค้า 130 MOP เป็นค่ามัดจำบัตร 30 MOP และ เงินในบัตร 100 MOP
การใช้งานนนะครับ พอเราขึ้นไปบนรถเมล์ จะเจอแท่นให้เเตะเเบบนี้ครับ
พอเราแตะจนได้ยินเสียงติ๊ด จะขึ้นตัวเลข
เลขบนคือเงินที่เราใช้ไป ด้านล่างคือเงินคงเหลือในบัตรนะครับ
สะดวกสบายครับ แนะนำให้ใช้กัน
มาถึงการเเลกคืน เราไม่สามารถเอาไปแลกคืนที่ 7-11 ได้นะครับ เค้ารับไห้เราซื้อบัตรกับเติมเงินเท่านั้นครับ ถ้าเราจะเเลกเอาเงินคืน ค้องไปที่ ที่ทำการของรถเมล์เลยครับ ยุ่งยากใช้ได้ ซึ่งผมไม่ได้ไปครับ เพราะว่าหายากและเสียเวลาเที่ยว ผมก็พยายามใช้เงินในบัตรไห้หมด ส่วนมัดจำ 30 MOP ก็ยอมเสียไปครับ
คราวนี้มาถึงวิธีการขึ้นรถเมล์นะครับ
ป้ายรถเมล์เป็นงี้ครับ
เราจะเห็นเสาแบบนี้
เข้าไปหมุนดูได้เลยครับ มันจะบอกรายละเอียดของสายรถเมล์ต่างๆ ว่าจะผ่านอะไรบ้าง
โดยวิธีการดู ก็ดูว่าเราอยู่ตรงไหน และสถานีต่อไปคืออะไร และ สถานีที่เราจะไปคือสถานีอะไร และถ้าเราดูเเล้วเหมือนเราจะอยู่ผิดฝั่งถนน ก็ข้ามไปขึ้นอีกฝั่งครับ
โดยรถเมล์จะวิ่ง 2 แบบครับ
คือ 1. วิ่งวน ไม่มีสถานีต้นทาง-ปลายทาง
2. วิ่งไป-กลับ มีสถานีต้นทางปลายทาง ตามที่ผมวงกลมน้ำเงินไห้นะครับ พอถึงปลายทางเค้าจะไห้เราลง แล้วก็ต้องขึ้นใหม่ครับ
การขึ้นรถเมล์ที่นี่จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่ายครับ เพราะชื่อป้ายที่เป็นภาษาแปลกๆ และจุดของป้ายที่เราไม่คุ้นเคยครับ ไห้พยายามสังเกตุนะครับ ชื่อของป้ายจะเป็นชื่อถนน หรือ สถานที่สำคัญแถวนั้นครับ
หลักการจะเดินทางคือ ไห้ดูว่าเราจะไปเที่ยวไหน และชื่อป้ายอะไรที่อยู่แถวนั้น อาจดูจากหนังสือนำเที่ยวต่างๆครับ หรือ ใช้ APP MACAU EASY GO ใน Andriod ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เจงมากเลยครับ (บอกตามตรง ถ้าไม่เป็น app นี้ ผมก็มีหลงแน่ๆ)
เพียงแค่ พิมพ์ชื่อสถานีต้นทาง ปลายทาง หรือ ชื่อสถานที่สำคัญก็ได้ครับ จะขึ้นมาเลยว่าไห้เราขึ้นป้ายไหน ไปสายไหน และลงสายไหน แถมมี option มาไห้เลือกด้วย อีกอย่าง มัน Offline ด้วยนะครับ
อย่างตามรูปนี้ ผมพิมพ์ว่าผมอยู่ที่ Senedo Square จะไป Coloane Village ก็ขึ้นมาเลยครับ ว่าไห้ผมเดินไปที่ป้ายรถะมล์ Av. Infante D. Henrique เเล้วนั่งรถเมล์สาย 21A ที่มุ่งหน้าไป PRAIA DE HAC SA (คือชื่อสถานีปลายทางที่รถมุ่งหน้าไป) ผ่านอีก 15 ป้ายเเล้วลงที่ป้าย Coloane Village -1
ส่วนตอนลง ก็ไม่ต้องกลัวจะลงไปถูกนะครับ เพราะด้านหน้ารถมีตัววิ่งบอกตลอดครับว่า ป้ายต่อไปคืออะไร
แหล่งท่องเที่ยว
บนแหลมมาเก๊า
เรามาเริ่มกันบนแหลมมาเก๊าก่อนนะครับ ตรงนี้เลยจ้า
โดยย่านแรกที่เราจะไปกันคือ
ย่านซานหม่าโล (San Ma Lo)
บริเวณนี้นะครับ
ย่านซานหม่าโล เรียกว่าเป็นจุดศูนย์กลางของการปกครองมาเก๊าเลยก็ว่าได้ครับ เป็นแหล่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งทางประวัติศาสตร์ ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย และ ยังมีสายรถเมล์ผ่านหลายสายด้วยครับ โรงแรมในย่านนี้จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวครับ
Senado Square
ตึกสองข้างฝั่งสีเหลืองนวลสวยงาม พร้อมพื้นกระเบื้องอันเป็นเอกลักษณ์
ที่นี่ก็เปรียบเสมือนสยามของมาเก๊าครับ คือเป็นแหล่งศูนย์กลางที่มีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านของฝากต่างๆ มีจุดเด่นคือเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มาของสถานที่นี้ และ พื้นกระเบื้องเรียงแนวสวยงามตลอดถนนและซอกซอย
ที่นี่คุณสามารถมาเดินเล่นซื้อของฝาก แวะชิมร้านอาหาร หรือขนมพื้นเมืองต่างๆ ที่มีอยู่มากมายเอาไว้บริการนักท่องเที่ยว และตามซอกซอยต่างๆในSenado Square นี้ ยังสามารถเดินทะลุไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกมากมาย
ด้านหลังไกลๆเป็นอาคาร Leal Senado หรืออดีตอาคารสำนักงานรัฐบาลมาเก๊า
ตึกที่ทำการไปษณีย์ ที่เราสามารถเข้าไปส่งโปสการ์ดกลับมาที่ประเทศไทยได้
Ruins of St. Paul's ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล
หนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซากประตูโบสถ์มาแตร์เดอี เมื่อก่อนเกิดเพลิงไม้จนเหลือเพียงแค่ซากประตูด้านหน้าเท่านั้น นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยหากเดินทะลุประตูไปด้านหลังจะมีทางลงไปชมซากหินที่ลงเหลือจากเพลิงไหม้อีกด้วย เมื่อก่อนเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินบันไดขึ้นไปบนชั้น 2 ของซากประตูได้ แต่ล่าสุดที่ผมไป เค้าไม่อนุญาติเเล้วครับ ซึ่งผมว่าดีเหมือนกันครับ เพราะพอมีคนขึ้นไป คนข้างล่างถ่ายรูปซากประตู ก็จะติดนักท่องเที่ยวเหล่านั้นอีก กลายเป็นเดือดร้อนแก่คนข้างล่างซึ่งเป็นคนหมู่มากได้ 5555
ถ่ายจากมุมด้านหลัง เห็น รร. Grand Lisbour อยู่ไกลๆ
** จะ Update ต่อใน Comment
[CR] รีวิว มาเก๊า 4 วัน 3 คืน มกราคม 2559
เเต่เนื่องจาก ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ตัวเองไปมาเก็า เพราะครั้งแรกที่ไปเเล้วชอบมาก (ติดที่ว่าร้อนไปหน่อย)
ครั้งนี้เลยจัดไปเลยครับ ไปช่วงต้น มกราคม ที่น่าจะอากาศดีที่สุด
ไป 4 วันครับ อยู่แต่มาเก๊าคับ ถูกต้องครับ อยู่แต่ในมาเก๊านี่แหละครับ ไม่ไปฮ่องกงเลย
หลายๆคนบอกว่ามาเก๊าไม่มีไร เที่ยววันเดียวก็พอ แต่ผมว่ามีอะไรให้เที่ยวมากมายเลยนะครับ ซึ่งเดี๋ยวจะรีวิวต่อไปในกระทู้นี้นะครับ
*** การรีวิวทั้งหมดนี้ มาจากความรู้สึกตัวเองล้วนๆนะคับ หากมีข้อความใดๆ ทำให้ใครไม่พอใจ ต้องขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ***
** หวังว่าข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ต่อท่านที่มีความสนใจ อยากจะลองไปเที่ยวที่นี่นะคับ**
** ถ้าจะไป แนะนำไปช่วงต้นปีนะคับ เช่นต้นมกราคม เพราะว่าอากาศดีมากจิงๆ 17-19 C ถ้าไปช่วงอื่น เช่นช่วงหน้าร้อนของเค้า ก็ร้อนไม่แพ้เมืองไทยเลยครับ **
มาเก๊า เหมาะกับคนที่ …
1. ชอบเล่นการพนัน อันนี้แน่นอนคับ จุดเด่นเค้าเลย
2. ขอบเที่ยวดูสถาปัตยกรรม ทั้งแนวจีน และ แนวยุโรป เช่นพวกโบสท์ วิหาร ป้อมปราการ
3. ชอบทานอาหารจีน รถไม่จัด และ อาหารโปตุเกสแปลกๆ
4. ทรหดอดทนนิดนึงกับการเดินทางคับ เพราะว่าที่นี่การเดินทางหลักๆคือ รถเม และ การเดินเท้า
5. ชอบเที่ยวไม่เน้น shopping ถึงแม้ที่นี่จะมีร้านขายของพอสมควรแต่ราคาและรูปแบบอาจไม่ถูกใจคนไทยอย่างเราเท่าไหร่คับ
การเดินทาง
1. จากไทยไปที่มาเก๊า ผมไปของสายการบินแอร์เอเชียคับ ราคาตกคนละ 3730 บาท ไป-กลับ
เวลาผมว่าค่อนข้างดีเลยครับ วันแรกที่ไปถึงตอนบ่ายก็เที่ยวได้ วันกลับก็ได้เที่ยวทั้งวัน
2. จากสนามบินเข้าไปที่พัก หรือ ในเมือง
ตามแผนที่นี้เลยนะครับ สนามบินเราอยู่ด้านล่าง โซนที่พักที่ฮิตจะอยู่ที่แหลมด้านบน หรือ ใครบางคนจะพักโรงแรมหรูๆ อย่าง Venetian ไรพวกนี้ ก็จะอยู่ตรง Cotai ตรวเกาะด้านล่างนะครับ
การเดินทางออกจากสนามบินมีให้เลือก 3 แบบนะครับ
1. Taxi ง่าย แพง โดยตอนที่ผมเคยนั่งออกมา ถึงบริเวณแถบที่พักยอดฮิตตรงซานหม่าโล ก็เสียไปรวมๆ เกือบ 500 กว่าบาทนะครับ ซึ่งอันนี้รวมค่าบริการพิเศษ คือ ต้องเสียเพิ่ม 5MOP เพราะเรียกจากสนามบิน (MOP ค่าเงิน มาเก๊านะครับ จะแปลงเป็นไทยก็คูณ 4.6 เข้าไปนะครับ) และยั่งต้องเสียค่ากระเป๋าเดินทางที่เราเอามาใส่รถเค้าอีก เค้าจะดูใบใหญ่ๆนะครับ คิดใบละ 3MOP (คิดยุบยิบจิงๆ)
2. อีก way นึงนะครับ นั่งรถเมล์ครับซึ่งอันนี้ถูกแน่นอนครับ แค่ 3.2 MOP หรือ 4.2 MOP แค่นั้นครับ ข้อดีคือถูกครับ ข้อเสียคือลำบากหน่อยนะครับ เพราะเราก็มีกระเป๋าเดินทางต้องติดตัว และแถมรถเมล์ที่นี่ ถ้าเรายังไม่มี MACAU PASS (คืออะไรเดี๋ยวผมบอกในหัวข้อถัดไปนะครับ) เราก็ต้องจ่ายเค้าเป็นเหรียญเท่านั้น หรือ แบงค์ก็ได้ แต่เค้าไม่ทอนนะครับ ซึ่งเราเพิ่งมาถึงที่นี่กันมีแต่แบงค์ใหญ่ที่เเลกมาแน่ๆ เหรียญก็คงไม่ต้องพูดถึงครับไม่มีแน่นอน
3. ทางเลือกสุดท้ายที่ผมว่าดีสุด นั่งรถรับส่งของคาสิโนชื่อดังทั้งหลายครับ (Shuttle Bus) เค้ามีบริการรับส่งฟรีตามจุดต่างๆที่สำคัญไปที่โรงแรมเค้า จากที่สนามบินก็มีแทบจะทุกโรงแรมเลยครับ Venetian , City of dream บลาๆ เอากระเป๋าใส่ใต้รถไห้ด้วย สบายฝุดๆ จุดที่ขึ้นนะครับ ออกมาจาก terminal ให้เลี้ยวขวาเเล้วเดินตามทางมาเรื่อยๆครับ จะเจอลานจอดรถและรถบัสของโรงแรมจอดรออยู่หลายคันครับ
การเดินทางแบบที่ผมแนะนำนะครับ
สมมติว่าพักที่โรงแรมของเค้า เลือกแบบที่3 แค่นี้ก็จบครับ
แต่ถ้าเราพักที่แหลมด้านบน ให้เราเลือกแบบที่ 3 เอาตัวเองออกมาจากสนามบินก่อนครับ ส่วนหลังจากนั้น ก็เลือก
1. taxi ครับ อย่างน้อยก็ save ตังค์ได้บางส่วนเเล้วจากการที่นั่งรถบัสมา
2. เอาเงินไปซื้อโน่นนั่นนี่ ไห้กลายเป็นเหรียญแล้วก็นั่งรถเมล์ครับ ตรงข้างนอกจะมีสายไห้เลือกมากกว่าครับ
3. ประหยัดสุดๆ โดยการนั่งรถบัสของไห้คาสาโนเหล่านี้แหละ ข้ามขึ้นไปข้างบนอีก ก็ฟรีอีกเช่นกันครับ เเต่ต้องทำการบ้านก่อนนะครับ เพราะว่าจุดรับส่ง ความถี่ของรถบัสแต่เราคาสิโนมันไม่เหมือนกันครับ ยกตัวอย่างของ venetain ก็เป็นงี้ครับ
3. การเดินทางภายในมาเก๊า
ในมาเก๊า ไม่มีรถไฟฟ้า ใต้ดิน เหมือนบ้านเรานะครับ การเดินทางหลักของเค้าคือ รถเมล์ ส่วน taxi นั้นไม่ต้องพูดถึงครับ แพงจิงจัง (ปกติถ้าจะใช้บริการ taxi ก็เเนะนำเป็นนั่งไป-กลับสถานี ตอนมาถึงกับตอนกลับพอครับ)
รถเมล์
ที่นี่มันก็มีหลายสี หลายแบบ หลายขนาด แล้วแต่บริษัทที่ไห้บริการครับ แต่ไม่ต้องสนใจครับ แบบไหนราคาก็เหมือนกันหมด เราสนใจแค่เบอร์หรือเลขสายที่เราต้องการจะไปแค่นั้นครับ ถ้าเลขนั่นมา ก็ขึ้นไปเลยครับ
ขึ้นด้านหน้า ลงด้านหลังเท่านั้นครับ ถ้าไปยืนงงๆจะเข้าที่ประตูหลัง เค้าไม่ไห้ขึ้นเลยนะครับ บางทีก็ขับออกไปเลยไม่สนใจครับ
ข้อดีของรถเมล์ที่นี่คือ มาค่อนข้างบ่อยครับ สายหลักๆ รอไม่เกิน 10 นาทีก็มาเเล้วครับ
ถามว่ารถเมล์ที่นี่แน่นเหมือนที่ไทยไหม ก็เหมือนกันแหละครับ ถ้าอยู่ในช่วง rush hour ก็แน่นอนครับ แต่เนื่องจาก Macau เล็กครับ นั่งจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งใช้เวลาไม่นอนครับ
ก่อนอื่น ขอเเนะนำพระเอกของเรานะครับ
บัตร MACAU PASS
บัตรสะสมเงินที่เราสามารถนำไปใช้จ่ายกับการขึ้นรถเมล์และสามารถนำไปใช้ตามร้านสะดวกซื้อต่างๆได้ เช่น 7-11 หรือ OK
จำเป็นนะครับ ถ้าต้องมานั่งนับเหรียญทุกครั้งก่อนขึ้นรถเมล์คงจะลำบากแย่ครับ การใ
สามารถซื้อบัตรนี้ได้ที่ 7-11 และ OK นะครับ เดินครั้งแรกต้องจ่ายตังค์ไห้เค้า 130 MOP เป็นค่ามัดจำบัตร 30 MOP และ เงินในบัตร 100 MOP
การใช้งานนนะครับ พอเราขึ้นไปบนรถเมล์ จะเจอแท่นให้เเตะเเบบนี้ครับ
พอเราแตะจนได้ยินเสียงติ๊ด จะขึ้นตัวเลข
เลขบนคือเงินที่เราใช้ไป ด้านล่างคือเงินคงเหลือในบัตรนะครับ
สะดวกสบายครับ แนะนำให้ใช้กัน
มาถึงการเเลกคืน เราไม่สามารถเอาไปแลกคืนที่ 7-11 ได้นะครับ เค้ารับไห้เราซื้อบัตรกับเติมเงินเท่านั้นครับ ถ้าเราจะเเลกเอาเงินคืน ค้องไปที่ ที่ทำการของรถเมล์เลยครับ ยุ่งยากใช้ได้ ซึ่งผมไม่ได้ไปครับ เพราะว่าหายากและเสียเวลาเที่ยว ผมก็พยายามใช้เงินในบัตรไห้หมด ส่วนมัดจำ 30 MOP ก็ยอมเสียไปครับ
คราวนี้มาถึงวิธีการขึ้นรถเมล์นะครับ
ป้ายรถเมล์เป็นงี้ครับ
เราจะเห็นเสาแบบนี้
เข้าไปหมุนดูได้เลยครับ มันจะบอกรายละเอียดของสายรถเมล์ต่างๆ ว่าจะผ่านอะไรบ้าง
โดยวิธีการดู ก็ดูว่าเราอยู่ตรงไหน และสถานีต่อไปคืออะไร และ สถานีที่เราจะไปคือสถานีอะไร และถ้าเราดูเเล้วเหมือนเราจะอยู่ผิดฝั่งถนน ก็ข้ามไปขึ้นอีกฝั่งครับ
โดยรถเมล์จะวิ่ง 2 แบบครับ
คือ 1. วิ่งวน ไม่มีสถานีต้นทาง-ปลายทาง
2. วิ่งไป-กลับ มีสถานีต้นทางปลายทาง ตามที่ผมวงกลมน้ำเงินไห้นะครับ พอถึงปลายทางเค้าจะไห้เราลง แล้วก็ต้องขึ้นใหม่ครับ
การขึ้นรถเมล์ที่นี่จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่ายครับ เพราะชื่อป้ายที่เป็นภาษาแปลกๆ และจุดของป้ายที่เราไม่คุ้นเคยครับ ไห้พยายามสังเกตุนะครับ ชื่อของป้ายจะเป็นชื่อถนน หรือ สถานที่สำคัญแถวนั้นครับ
หลักการจะเดินทางคือ ไห้ดูว่าเราจะไปเที่ยวไหน และชื่อป้ายอะไรที่อยู่แถวนั้น อาจดูจากหนังสือนำเที่ยวต่างๆครับ หรือ ใช้ APP MACAU EASY GO ใน Andriod ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เจงมากเลยครับ (บอกตามตรง ถ้าไม่เป็น app นี้ ผมก็มีหลงแน่ๆ)
เพียงแค่ พิมพ์ชื่อสถานีต้นทาง ปลายทาง หรือ ชื่อสถานที่สำคัญก็ได้ครับ จะขึ้นมาเลยว่าไห้เราขึ้นป้ายไหน ไปสายไหน และลงสายไหน แถมมี option มาไห้เลือกด้วย อีกอย่าง มัน Offline ด้วยนะครับ
อย่างตามรูปนี้ ผมพิมพ์ว่าผมอยู่ที่ Senedo Square จะไป Coloane Village ก็ขึ้นมาเลยครับ ว่าไห้ผมเดินไปที่ป้ายรถะมล์ Av. Infante D. Henrique เเล้วนั่งรถเมล์สาย 21A ที่มุ่งหน้าไป PRAIA DE HAC SA (คือชื่อสถานีปลายทางที่รถมุ่งหน้าไป) ผ่านอีก 15 ป้ายเเล้วลงที่ป้าย Coloane Village -1
ส่วนตอนลง ก็ไม่ต้องกลัวจะลงไปถูกนะครับ เพราะด้านหน้ารถมีตัววิ่งบอกตลอดครับว่า ป้ายต่อไปคืออะไร
แหล่งท่องเที่ยว
บนแหลมมาเก๊า
เรามาเริ่มกันบนแหลมมาเก๊าก่อนนะครับ ตรงนี้เลยจ้า
โดยย่านแรกที่เราจะไปกันคือ ย่านซานหม่าโล (San Ma Lo)
บริเวณนี้นะครับ
ย่านซานหม่าโล เรียกว่าเป็นจุดศูนย์กลางของการปกครองมาเก๊าเลยก็ว่าได้ครับ เป็นแหล่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งทางประวัติศาสตร์ ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย และ ยังมีสายรถเมล์ผ่านหลายสายด้วยครับ โรงแรมในย่านนี้จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวครับ
Senado Square
ตึกสองข้างฝั่งสีเหลืองนวลสวยงาม พร้อมพื้นกระเบื้องอันเป็นเอกลักษณ์
ที่นี่ก็เปรียบเสมือนสยามของมาเก๊าครับ คือเป็นแหล่งศูนย์กลางที่มีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านของฝากต่างๆ มีจุดเด่นคือเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มาของสถานที่นี้ และ พื้นกระเบื้องเรียงแนวสวยงามตลอดถนนและซอกซอย
ที่นี่คุณสามารถมาเดินเล่นซื้อของฝาก แวะชิมร้านอาหาร หรือขนมพื้นเมืองต่างๆ ที่มีอยู่มากมายเอาไว้บริการนักท่องเที่ยว และตามซอกซอยต่างๆในSenado Square นี้ ยังสามารถเดินทะลุไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกมากมาย
ด้านหลังไกลๆเป็นอาคาร Leal Senado หรืออดีตอาคารสำนักงานรัฐบาลมาเก๊า
ตึกที่ทำการไปษณีย์ ที่เราสามารถเข้าไปส่งโปสการ์ดกลับมาที่ประเทศไทยได้
Ruins of St. Paul's ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล
หนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซากประตูโบสถ์มาแตร์เดอี เมื่อก่อนเกิดเพลิงไม้จนเหลือเพียงแค่ซากประตูด้านหน้าเท่านั้น นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยหากเดินทะลุประตูไปด้านหลังจะมีทางลงไปชมซากหินที่ลงเหลือจากเพลิงไหม้อีกด้วย เมื่อก่อนเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินบันไดขึ้นไปบนชั้น 2 ของซากประตูได้ แต่ล่าสุดที่ผมไป เค้าไม่อนุญาติเเล้วครับ ซึ่งผมว่าดีเหมือนกันครับ เพราะพอมีคนขึ้นไป คนข้างล่างถ่ายรูปซากประตู ก็จะติดนักท่องเที่ยวเหล่านั้นอีก กลายเป็นเดือดร้อนแก่คนข้างล่างซึ่งเป็นคนหมู่มากได้ 5555
ถ่ายจากมุมด้านหลัง เห็น รร. Grand Lisbour อยู่ไกลๆ
** จะ Update ต่อใน Comment