สวัสดีครับ ผมจัดทริปไปเที่ยวเขาสก+เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์มา เห็นว่าวิวที่นี่สวยมากๆ เลยอยากมาแบ่งปันให้ได้ชมกันครับ

โดยทริปนี้ไปมาประมาณช่วงปลายๆเดือนตุลาฯ ปีที่แล้ว เดินทางโดยสายการบิน Thai Smile และใช้บริการทัวร์ของต้นรักทัวร์ที่จองมาจากในงานท่องเที่ยวไทยครับ (นอนเขาสกบูติคแคมป์ 1 คืน และแพพันวารีย์อีก 1 คืน) ค่าเสียหายรวมๆอยู่ที่ประมาณคนละ 8,500 บาท (ค่าเครื่องบินไปกลับ 2090 + ค่าทัวร์-ค่ารถรับส่งตลอดทริป 5600 ที่เหลือเป็นค่าทิปให้ไกด์+กินเที่ยว ซื้อขนม (ค่าขนมเกือบพันได้ กินกันดุมาก -*-)) ซึ่งปกติเวลาจัดทริปผมมักใช้วิธีคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆมาก่อน แล้วเก็บรวบรวมเป็นกองกลางไว้ใช้จ่ายก่อนเดินทาง สมาชิกจะได้ไม่ต้องควักกันบ่อยๆ เหลือก็คืน ไม่พอค่อยเก็บเพิ่มตอนจะกลับ ใครสนใจก็ลองนำไปใช้ดูได้ครับ

พร้อมแล้วเริ่มออกเดินทางจากสุวรรณภูมิโดยสายการบิน Thai Smile ได้เลยครับ


อาหารบนเครื่อง พอดีช่วงนั้นเป็นเทศกาลกินเจพอดี เลยได้กินเจกันทั้งเที่ยวบินทั้งไปและกลับ

ท้องฟ้าปลอดโปร่ง




นั่งเครื่องได้ชั่วโมงกว่าก็มาถึงสนามบินสุราษฎร์ประมาณ 10 โมงครึ่ง ไกด์จากต้นรักทัวร์ก็ขับรถมารอรับอยู่ที่สนามบินเรียบร้อย โดยลำดับแรกคือพาไปทานข้าวเที่ยงที่เขาสกก่อน ที่ร้านอาหารนักมวยชื่อดัง วรพจน์ เพชรคุ่ม

มีถ้วยรางวัลและเหรียญวางโชว์ไว้มากมายในร้าน อาหารก็อร่อยใช้ได้เลยครับ โดยเฉพาะน้ำพริกข่า อร่อยมากๆ เพื่อนถึงกับ order กลับบ้านไป 2 กระปุกใหญ่ๆ
ปล.ทริปนี้ไม่มีรูปอาหารนะครับ เสิร์ฟปุ๊ปแร้งลง ถ่ายไม่ทัน


กินข้าวเสร๊จไกด์ก็ขับพาเราไปล่องเรือยางกันครับ สถานที่ก็อยู่ใกล้ๆกับร้านอาหารเลย ซึ่งเราต้องลอดเข้าไปในถ้ำก่อน





ลองเรือยางตอนเที่ยงอากาศค่อนข้างร้อนทีเดียว



แต่ทัศนียภาพสองข้างทางนี่โออยู่นะ ล่องเรือยางกลางป่าและหุบเขา



ถ้าไม่ติดว่าร้อนนี่ จะชิวมาก


หลังๆจะค่อนข้างร่มนิดหน่อนเพราะมีร่มไม้เยอะ และก็มีงูบนต้นไม้ ซึ่งไกด์บอกมีเยอะ แวะชี้ให้ดูตลอด




สุดทางละ

ไกด์ขับรถมารอรับที่ปลายทาง จากนั้นก็เตรียมขึ้นรถเอาของไปเก็บที่พัก เมฆฝนเริ่มตั้งเค้ามาละ


ถึงที่พักคืนแรก "เขาสกบูติกแคมป์"


ห้องพักที่นี่จะเป็นแบบเต้นท์หลังใหญ่ๆ มองออกไปจะเห็นเป็นวิวป่าเขา

มีแอร์ด้วย แต่กลางวันในเต้นท์จะค่อนข้างร้อนนิดนึง

อ่างล้างหน้าแอบสูงไปหน่อย ผมยืนนี่อ่างอยู่ตรงหน้าอกพอดีเลย




ตามโปรแกรมคือพาพาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาสกต่อ ซึ่งดูสภาพแล้วฝนตกแน่นอน แต่เวลาเหลือก็เลยลองไปดูก่อน

ออกมาได้แปปเดียวฝนเททันที มาถึงอุทยานก็ยังตกอยู่ตลอด ซึ่งกิจกรรมที่นี่คือการเดินป่าตามหาดอกบัวผุด และเดินศึกษาธรรมชาติดูน้ำตกต่างๆ แต่ดูจากสภาพอากาศแล้วคงไม่อำนวยเท่าไหร่ เลยถ่ายรูปเล่นในธารน้ำบริเวณทางเข้า แปปๆ ฝนก็เทกระหน่ำกว่าเดิม เลยตัดกลับที่พักดีกว่า


กลับมาถึงที่พักฝนเริ่มหยุดพอดี อากาศดีมากๆ และถือเป็นโชคจริงๆที่ฝนตกไม่นานมาก เลยได้เห็นไอหมอกฟุ้งๆยามเย็นที่รีสอร์ท






ที่นี่เหมาะแก่การนั่งดูพระอาทิตย์ตกมากๆ (ถ้าอากาศเอื้ออำนวยนะ) ได้ฟิลลิ่งแบบป่าเขาสุดๆ








พอแสงหมดก็ไปกินข้าวเย็น และแยกย้ายเข้าที่พัก ช่วงกลางคืนนี่ฝนตกปรอยๆตลอดทั้งคืนเลย นอนในเต้นท์จะได้ยินเสียงฝนแหมะๆตลอด ได้ฟิลไปกางเต้นท์นอนในป่า แต่เป็นเต้นท์ติดแอร์มีที่นอนอย่างดีนะ

จบวันแรก