1st Trip 2016 : OKINAWA, JAPAN
ทำไมถึงไปเที่ยว 'โอกินาว่า (Okinawa)'
คำถามนี้ผมโดยถามเยอะ หลายคนไม่เคยได้ยินชื่อจังหวัดนี้ด้วยซ้ำ หลายคนเคยอ่านเจอว่าเป็นเกาะกลางทะเล หลายคนพูดไปว่าไม่ต่างกับภูเก็ต
ผมรู้จักโอกินาว่าจากหลาย ๆ สื่อมานาน ตั้งแต่สารคดีนำเที่ยวทางทีวี จากหนังสือท่องเที่ยวที่ชอบเอารูปฉลามวาฬในอควาเรียมมาลง จากหนังญี่ปุ่นที่ผมเคยดูเรื่อง nada sou sou (เรื่องนี้ซึ้งมาก ลองไปหามาดูนะครับ) แต่ผมก็ยังรู้จักจังหวัดนี้ผ่านสื่อเท่านั้น คิดไว้ว่าต้องมีโอกาสมาเยือนที่นี่ให้ได้
แล้วก็เป็นจริงเมื่อวันนึงโปรสายการบิน HongKong Airlines ผ่านเข้าตามาพอดี ในราคาที่ไม่จองวันนี้ก็คงไม่ได้ไปแน่ ๆ เลยจัดไป นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของทริปแบคแพคโอกินาว่า
มีคนบอกว่าโอกินาว่าเปรียบเหมือนฮาวายของญี่ปุ่น แต่ผมก็ไม่เคยไปฮาวายที่อเมริกามาก่อน เลยนึกภาพไม่ออก รู้แค่ว่าเป็นเมืองตากอากาศที่คนญี่ปุ่นและเกาหลีชอบมากัน เพราะด้วยทำเลที่อยู่กึ่ง ๆ กันระหว่าง 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลี และ ใต้หวัน แถมอากาศที่นี่ก็เย็นสบายไม่ร้อนและไม่หนาวแบบจังหวัดอื่น ๆ
แม้เป็นเกาะกลางทะเล แต่ที่นี่คือส่วนหนึ่งของญี่ปุ่น มีหรือที่ความเจริญจะเข้าไม่ถึง แม้จะไม่เท่าเมืองใหญ่ ๆ อย่างโตเกียว โอซาก้า หรือฟุกุโอกะ แต่ก็เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มาเพื่อพักผ่อนมากกว่าจะมาเพื่อช้อปปิ้ง
การเดินทางในโอกินาว่า เมืองหลวงอย่างนาฮะ (Naha) มีรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (monorail) สายเดียววิ่งผ่านที่สำคัญ ๆ เริ่มจากสนามบิน ที่อาคาร domestic terminal ยาวไปสิ้นสุดที่สถานีสุดท้าย ณ ปราสาทซูริ (Shuri Castle) ส่วนใครจะออกไปเที่ยวนอกเมืองอย่าง Okinawa World, American Village, หรือไปไกลถึง Churami Aquarium ที่อยู่บางตอนเหนือของเกาะก็สามารถไปได้ด้วยรถบัสประจำทาง มีเวลาเดินรถชัดเจนทั้งขาไปและกลับ (โอกินาว่าไม่มีเส้นทางรถไฟนะครับ การเดินทางทำได้โดย เช่ารถขับ กับนั่งรถบัสไป)
ที่นี่ก็มีบัตร IC card ใช้แทนเงินสดเหมือนกับ Suica, Pasmo นะเรียกว่าบัตร Okica card ซื้อจากเครื่องขาย/ เติมเงินอัตโนมัติเหมือนกัน ใช้ขึ้นได้ทั้ง monorail และรถบัสข้ามเมืองได้ด้วย ดีอะไรเช่นนี้ขอแค่ให้มีเงินในบัตรพอละกัน
เรื่องที่พักในทริปนี้ ผมมาหลายวันก็เลยเลือกพัก business hotel ในเมืองนาฮะเพื่อความสะดวก และราคาไม่แรงเหมือนโรงแรมในเมืองใหญ่แถมทำเลดีด้วย หลาย ๆ ที่สามารถเดินไปได้ไม่ไกล ยิ่งอากาศดีดี บ้านเมืองสวย ๆ ไม่แออัด เดินไปก็เพลิน
แล้วอะไรล่ะที่โอกินาว่าไม่มี ???
ใครที่เคยไปเที่ยวโตเกียว โอซาก้า อาจชอบตรงที่แสงสียามค่ำคืน มีร้านให้ละลายเยนทั้งแบรนด์เนม หรือของเล่นพวกกล้อง กระเป๋า อย่างร้านดองกิหรือโยโดบาชิ แต่........... ไม่มีสิ่งเหล่านี้ที่โอกินาว่า เท่าที่ผมเดินสำรวจร้านค้าบนถนนโคคุไซ (Kukusai) ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าขายของที่ระลึกตลอดทั้งสองฝั่งถนนที่ยาวมาก ตรงนี้อาจไม่โดนใจขาช้อป บอกไว้ก่อน
เพราะโอกินาว่าเน้นขายของที่ระลึกทางวัฒนธรรมของตัวเองมากกว่า ไม่ว่าของกินอย่างไอติม Blue Seal (บ้านเราคุ้นเคยกับยี่ห้อโฟโมส แต่ที่นี่คือไอติมไม่ใช่นม)
มันม่วงที่เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ ต้องลองให้ได้นะอร่อยจริง ๆ
มังกรโอกินาว่า สัญลักษณ์ของชาวริวกิวมาแต่ไหนแต่ไร จะพบเห็นได้ทุกที่ทั้งหน้าบ้าน บนหลังคา จนเป็นที่ระลึกที่ขาดไม่ได้ ไปร้านไหนก็เจอ หลากหลายดีไซด์น่ารักมากกว่าน่ากลัว เห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้จริง ๆ
สำหรับคอเบียร์ ถ้ามาโอกินาว่าแล้วไม่ได้ลิ้มลองเบียร์โอไรอ้อน (Orion beer) นี่คือมาไม่ถึง เพราะเป็นเบียร์ที่ผลิตในโอกินาว่าที่เดียวเท่านั้น และเขามีทัวร์โรงงานเบียร์ด้วย ถ้าสนใจก็ให้โรงแรมโทรจองรอบทัวร์ให้ แต่เราต้องเดินทางไปเองนะ อีกอย่างคือโรงงานเบียร์โอไรอ้อนไม่ได้อยู่ในเมืองนาฮะ แต่อยู่โน่น เมืองนาโงะ (Nago) ทางตอนเหนือของเกาะแน่ะ งานนี้ต้องเช่ารถขับไปเองแล้วล่ะ
ร้านสะดวกซื้อที่มีสาขามากที่สุดในโอกินาว่าต้องยกให้ Lawson ไปครองแต่เพียงผู้เดียว เพราะสาขาเยอะจริง ๆ เดิน ๆ ไปเจออีกละ ที่สำคัญทุกสาขามีห้องน้ำให้ใช้ฟรีโดยไม่จำเป็นต้องซื้อของ ใจดีแบบนี้ต้องอุดหนุนอะไรบ้างละ และในร้านจะมีเคาเตอร์สำหรับซื้ออาหารมานั่งทานภายในร้านด้วย ผมก็ไปซื้อข้าวกล่องให้เขาเวฟให้มานั่งทานกะเบียร์ในร้านนี้แหละ การซื้อเบียร์เขาจะถามว่าเราอายุเกิน 20 รึยัง ถ้าเกินละก็ให้กดปุ่มยืนยันที่หน้าจอแคชเชียร์เป็นอันซื้อขายเบียร์ได้ละ
ร้านอาหารที่นี่ส่วนใหญ่สามารถสูบหรี่ภายในร้านได้ด้วย ใครที่แพ้ควันบุหรี่ก็มองๆ เข้าไปในร้านก่อนละกัน ไม่งั้นจะนั่งทรมานเปล่า ๆ
ย่านบันเทิงยามค่ำคืนอยู่ตรงไหนในนาฮะ หาไม่ยาก ถ้าไปเจอชายสูทดำแบบซารารี่แมนจับกลุ่มกันหลาย ๆ คน ป้วนเปี้ยนอยู่หน้าตึก นั่นแหละใช่เลย พวกนี้จะเชียร์แขกให้เข้าไปใช้บริการ แต่จะไม่เซ้าซี้อะไรนะ ดูเหมือนน่ากลัวแต่ไม่น่ากลัวอย่างที่เห็น
พวก outlet หรือ DFS (Duty Free Shop ร้านค้าปลอดภาษี) รอบนี้ผมไม่ได้ไปนะ อย่างที่บอกโอกินาว่าไม่ใช่สวรรค์ของนักช้อป (ผมก็ไม่ใช่นักช้อป) แต่ก็มี outlet เหมือนกัน อยู่ออกไปนอกเมืองนาฮะ
free wifi มีให้ใช้มั้ย ???
มี free wifi ให้ใช้ในสนามบินนาฮะ และมีเคาเตอร์บริการเช่า pocket wifi ที่สนามบินด้วยนะ แต่ผมก้ไม่ได้ถามรายละเอียดมา เพราะยังคงเช่า pocket wifi จากบ้านเรามาเหมือนเดิม สะดวกดี สัญญาณมีทุกที่ครอบคลุมจริง ๆ
เรื่องที่เที่ยวนอกเมือง สำหรับคนที่เช่ารถขับคงไม่มีต้องห่วง เพราะญี่ปุ่นพวงมาลัยขวาเหมือนบ้านเรา มี GPS มีประกันให้ซื้อ
สำหรับใครที่มีเวลาจำกัด และไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ก็มี one day tour ขายในราคาไม่แพง มีหลายทริปให้เลือก วันนึงไปได้ถึง 4- 6 ที่ก็คุ้มนะ
วิธีซื้อแพคเกตทัวร์วันเดียวก็ทำได้โดยซื้อผ่านเวปไซด์ หรือจะ walk in ไปซื้อที่ออฟฟิส Sightseeing Tour Bus ก็ได้ แต่ต้องซื้อล่วงหน้า 1 วันนะ
สิ่งที่ทำให้ชิลตลอดทริปคือ ทำนองเพลงของโอกินาว่า เสียงกีต้าร์สามสายที่บรรเลงนั้นเพราะจับใจจริง ๆ ร้านค้าต่างพร้อมใจกันเปิดเพลงทำนองโอกินว่าคลอกันทั้งเมือง สบายใจ
โอกินาว่า อาจไม่ใช่ที่ที่ทุกคนจะมาแล้วชอบ เพราะด้วยความเฉพาะตัวของที่นี่ที่เน้นในเรื่องวัฒนธรรม และจุดขายคือการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เช่นไปชมหมู่บ้านเก่าแก่ ไปชมไร่สัปปะรด ไปดูเขาทำแก้วในแบบโอกินาว่า ไปดูถ้ำหินงอกหินย้อย ไปดูผารูปช้างที่มันซาโม่ ไปดูซากกำแพงปราสาท หรือไปดูปราสาทเก่าที่สร้างใหม่ อะไรแบบนี้
แต่สำหรับคนที่มีเวลามาก ๆ มากกว่า 5 วันขึ้นไป อยากใช้ชีวิตแบบ slow life แนะนำว่าให้นั่งเรือไปเที่ยวเกาะบริวารดูนะ รับรองว่าจะชอบกับวิถีชาวบ้านที่นั่นก็ได้
เล่ามาจนเกือบครบแล้ว เริ่มทริปกันดีกว่าครับ
ติดตามเราได้ที่ : Backpackers Project
https://www.facebook.com/BackpackersProject/
[CR] 1st Trip 2016 พาไปเที่ยวเมืองบนเกาะที่ญี่ปุ่น Okinawa โอกินาว่า
1st Trip 2016 : OKINAWA, JAPAN
ทำไมถึงไปเที่ยว 'โอกินาว่า (Okinawa)'
คำถามนี้ผมโดยถามเยอะ หลายคนไม่เคยได้ยินชื่อจังหวัดนี้ด้วยซ้ำ หลายคนเคยอ่านเจอว่าเป็นเกาะกลางทะเล หลายคนพูดไปว่าไม่ต่างกับภูเก็ต
ผมรู้จักโอกินาว่าจากหลาย ๆ สื่อมานาน ตั้งแต่สารคดีนำเที่ยวทางทีวี จากหนังสือท่องเที่ยวที่ชอบเอารูปฉลามวาฬในอควาเรียมมาลง จากหนังญี่ปุ่นที่ผมเคยดูเรื่อง nada sou sou (เรื่องนี้ซึ้งมาก ลองไปหามาดูนะครับ) แต่ผมก็ยังรู้จักจังหวัดนี้ผ่านสื่อเท่านั้น คิดไว้ว่าต้องมีโอกาสมาเยือนที่นี่ให้ได้
แล้วก็เป็นจริงเมื่อวันนึงโปรสายการบิน HongKong Airlines ผ่านเข้าตามาพอดี ในราคาที่ไม่จองวันนี้ก็คงไม่ได้ไปแน่ ๆ เลยจัดไป นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของทริปแบคแพคโอกินาว่า
มีคนบอกว่าโอกินาว่าเปรียบเหมือนฮาวายของญี่ปุ่น แต่ผมก็ไม่เคยไปฮาวายที่อเมริกามาก่อน เลยนึกภาพไม่ออก รู้แค่ว่าเป็นเมืองตากอากาศที่คนญี่ปุ่นและเกาหลีชอบมากัน เพราะด้วยทำเลที่อยู่กึ่ง ๆ กันระหว่าง 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลี และ ใต้หวัน แถมอากาศที่นี่ก็เย็นสบายไม่ร้อนและไม่หนาวแบบจังหวัดอื่น ๆ
แม้เป็นเกาะกลางทะเล แต่ที่นี่คือส่วนหนึ่งของญี่ปุ่น มีหรือที่ความเจริญจะเข้าไม่ถึง แม้จะไม่เท่าเมืองใหญ่ ๆ อย่างโตเกียว โอซาก้า หรือฟุกุโอกะ แต่ก็เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มาเพื่อพักผ่อนมากกว่าจะมาเพื่อช้อปปิ้ง
การเดินทางในโอกินาว่า เมืองหลวงอย่างนาฮะ (Naha) มีรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (monorail) สายเดียววิ่งผ่านที่สำคัญ ๆ เริ่มจากสนามบิน ที่อาคาร domestic terminal ยาวไปสิ้นสุดที่สถานีสุดท้าย ณ ปราสาทซูริ (Shuri Castle) ส่วนใครจะออกไปเที่ยวนอกเมืองอย่าง Okinawa World, American Village, หรือไปไกลถึง Churami Aquarium ที่อยู่บางตอนเหนือของเกาะก็สามารถไปได้ด้วยรถบัสประจำทาง มีเวลาเดินรถชัดเจนทั้งขาไปและกลับ (โอกินาว่าไม่มีเส้นทางรถไฟนะครับ การเดินทางทำได้โดย เช่ารถขับ กับนั่งรถบัสไป)
ที่นี่ก็มีบัตร IC card ใช้แทนเงินสดเหมือนกับ Suica, Pasmo นะเรียกว่าบัตร Okica card ซื้อจากเครื่องขาย/ เติมเงินอัตโนมัติเหมือนกัน ใช้ขึ้นได้ทั้ง monorail และรถบัสข้ามเมืองได้ด้วย ดีอะไรเช่นนี้ขอแค่ให้มีเงินในบัตรพอละกัน
เรื่องที่พักในทริปนี้ ผมมาหลายวันก็เลยเลือกพัก business hotel ในเมืองนาฮะเพื่อความสะดวก และราคาไม่แรงเหมือนโรงแรมในเมืองใหญ่แถมทำเลดีด้วย หลาย ๆ ที่สามารถเดินไปได้ไม่ไกล ยิ่งอากาศดีดี บ้านเมืองสวย ๆ ไม่แออัด เดินไปก็เพลิน
แล้วอะไรล่ะที่โอกินาว่าไม่มี ???
ใครที่เคยไปเที่ยวโตเกียว โอซาก้า อาจชอบตรงที่แสงสียามค่ำคืน มีร้านให้ละลายเยนทั้งแบรนด์เนม หรือของเล่นพวกกล้อง กระเป๋า อย่างร้านดองกิหรือโยโดบาชิ แต่........... ไม่มีสิ่งเหล่านี้ที่โอกินาว่า เท่าที่ผมเดินสำรวจร้านค้าบนถนนโคคุไซ (Kukusai) ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าขายของที่ระลึกตลอดทั้งสองฝั่งถนนที่ยาวมาก ตรงนี้อาจไม่โดนใจขาช้อป บอกไว้ก่อน
เพราะโอกินาว่าเน้นขายของที่ระลึกทางวัฒนธรรมของตัวเองมากกว่า ไม่ว่าของกินอย่างไอติม Blue Seal (บ้านเราคุ้นเคยกับยี่ห้อโฟโมส แต่ที่นี่คือไอติมไม่ใช่นม)
มันม่วงที่เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ ต้องลองให้ได้นะอร่อยจริง ๆ
มังกรโอกินาว่า สัญลักษณ์ของชาวริวกิวมาแต่ไหนแต่ไร จะพบเห็นได้ทุกที่ทั้งหน้าบ้าน บนหลังคา จนเป็นที่ระลึกที่ขาดไม่ได้ ไปร้านไหนก็เจอ หลากหลายดีไซด์น่ารักมากกว่าน่ากลัว เห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้จริง ๆ
สำหรับคอเบียร์ ถ้ามาโอกินาว่าแล้วไม่ได้ลิ้มลองเบียร์โอไรอ้อน (Orion beer) นี่คือมาไม่ถึง เพราะเป็นเบียร์ที่ผลิตในโอกินาว่าที่เดียวเท่านั้น และเขามีทัวร์โรงงานเบียร์ด้วย ถ้าสนใจก็ให้โรงแรมโทรจองรอบทัวร์ให้ แต่เราต้องเดินทางไปเองนะ อีกอย่างคือโรงงานเบียร์โอไรอ้อนไม่ได้อยู่ในเมืองนาฮะ แต่อยู่โน่น เมืองนาโงะ (Nago) ทางตอนเหนือของเกาะแน่ะ งานนี้ต้องเช่ารถขับไปเองแล้วล่ะ
ร้านสะดวกซื้อที่มีสาขามากที่สุดในโอกินาว่าต้องยกให้ Lawson ไปครองแต่เพียงผู้เดียว เพราะสาขาเยอะจริง ๆ เดิน ๆ ไปเจออีกละ ที่สำคัญทุกสาขามีห้องน้ำให้ใช้ฟรีโดยไม่จำเป็นต้องซื้อของ ใจดีแบบนี้ต้องอุดหนุนอะไรบ้างละ และในร้านจะมีเคาเตอร์สำหรับซื้ออาหารมานั่งทานภายในร้านด้วย ผมก็ไปซื้อข้าวกล่องให้เขาเวฟให้มานั่งทานกะเบียร์ในร้านนี้แหละ การซื้อเบียร์เขาจะถามว่าเราอายุเกิน 20 รึยัง ถ้าเกินละก็ให้กดปุ่มยืนยันที่หน้าจอแคชเชียร์เป็นอันซื้อขายเบียร์ได้ละ
ร้านอาหารที่นี่ส่วนใหญ่สามารถสูบหรี่ภายในร้านได้ด้วย ใครที่แพ้ควันบุหรี่ก็มองๆ เข้าไปในร้านก่อนละกัน ไม่งั้นจะนั่งทรมานเปล่า ๆ
ย่านบันเทิงยามค่ำคืนอยู่ตรงไหนในนาฮะ หาไม่ยาก ถ้าไปเจอชายสูทดำแบบซารารี่แมนจับกลุ่มกันหลาย ๆ คน ป้วนเปี้ยนอยู่หน้าตึก นั่นแหละใช่เลย พวกนี้จะเชียร์แขกให้เข้าไปใช้บริการ แต่จะไม่เซ้าซี้อะไรนะ ดูเหมือนน่ากลัวแต่ไม่น่ากลัวอย่างที่เห็น
พวก outlet หรือ DFS (Duty Free Shop ร้านค้าปลอดภาษี) รอบนี้ผมไม่ได้ไปนะ อย่างที่บอกโอกินาว่าไม่ใช่สวรรค์ของนักช้อป (ผมก็ไม่ใช่นักช้อป) แต่ก็มี outlet เหมือนกัน อยู่ออกไปนอกเมืองนาฮะ
free wifi มีให้ใช้มั้ย ???
มี free wifi ให้ใช้ในสนามบินนาฮะ และมีเคาเตอร์บริการเช่า pocket wifi ที่สนามบินด้วยนะ แต่ผมก้ไม่ได้ถามรายละเอียดมา เพราะยังคงเช่า pocket wifi จากบ้านเรามาเหมือนเดิม สะดวกดี สัญญาณมีทุกที่ครอบคลุมจริง ๆ
เรื่องที่เที่ยวนอกเมือง สำหรับคนที่เช่ารถขับคงไม่มีต้องห่วง เพราะญี่ปุ่นพวงมาลัยขวาเหมือนบ้านเรา มี GPS มีประกันให้ซื้อ
สำหรับใครที่มีเวลาจำกัด และไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ก็มี one day tour ขายในราคาไม่แพง มีหลายทริปให้เลือก วันนึงไปได้ถึง 4- 6 ที่ก็คุ้มนะ
วิธีซื้อแพคเกตทัวร์วันเดียวก็ทำได้โดยซื้อผ่านเวปไซด์ หรือจะ walk in ไปซื้อที่ออฟฟิส Sightseeing Tour Bus ก็ได้ แต่ต้องซื้อล่วงหน้า 1 วันนะ
สิ่งที่ทำให้ชิลตลอดทริปคือ ทำนองเพลงของโอกินาว่า เสียงกีต้าร์สามสายที่บรรเลงนั้นเพราะจับใจจริง ๆ ร้านค้าต่างพร้อมใจกันเปิดเพลงทำนองโอกินว่าคลอกันทั้งเมือง สบายใจ
โอกินาว่า อาจไม่ใช่ที่ที่ทุกคนจะมาแล้วชอบ เพราะด้วยความเฉพาะตัวของที่นี่ที่เน้นในเรื่องวัฒนธรรม และจุดขายคือการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เช่นไปชมหมู่บ้านเก่าแก่ ไปชมไร่สัปปะรด ไปดูเขาทำแก้วในแบบโอกินาว่า ไปดูถ้ำหินงอกหินย้อย ไปดูผารูปช้างที่มันซาโม่ ไปดูซากกำแพงปราสาท หรือไปดูปราสาทเก่าที่สร้างใหม่ อะไรแบบนี้
แต่สำหรับคนที่มีเวลามาก ๆ มากกว่า 5 วันขึ้นไป อยากใช้ชีวิตแบบ slow life แนะนำว่าให้นั่งเรือไปเที่ยวเกาะบริวารดูนะ รับรองว่าจะชอบกับวิถีชาวบ้านที่นั่นก็ได้
เล่ามาจนเกือบครบแล้ว เริ่มทริปกันดีกว่าครับ
ติดตามเราได้ที่ : Backpackers Project
https://www.facebook.com/BackpackersProject/
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น