เริ่มต้น เดินทางกันเลย
ไปหาคิวรถตู้ที่อนุเสาวรีย์ รถตู้อุทัยจะอยู่ตรงใต้ทางด่วน เดินทางไปทางแถวๆร้านก๋วยเตี๋ยวข้ามถนนไปนิดหน่อย
จะอยู่คิวแรกเลย หลบมุมนิดหน่อย
ได้มาล่ะตั๋วคนละ 150 บาท คนเต็มเมื่อไรรถออกเมื่อนั้น ได้เวลาออกแล้ว ประมาณ 11.00 น
ก็ถึงอุทัย 13.30 หรือใช้เวลาไปประมาณ 2.30 ชม ขับไม่เร็วมากถือว่าขับดีครับ
ต้องต่อรถไปรีสอร์ทเลยถามคนแถวนั้น
เค้าบอกว่าต้องนั่งรถสายมโนรมย์ไป
และแล้วก็ได้นั่งรถคันนี้ตามในกระทู้บอกเปะ!
มีลุงเป็นคนขับแกมีอายุหน่อย ใจดีมากกกกกนำทางเรา มีเบอร์โทรด้วยโทรหาแกได้ทุกเมื่อ
มีเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นเมื่อลุงแกไปจอดและมีคนนี้ลงไปทำธุระที่ธนาคารด้วยจากนั้นแกก็ลืมผู้โดยสารคนนั้นเฉยเลย
ไปได้ไกลแหละก็เห็นกระเป๋าคนนั้นเลยตะโกนบอกลุง ลุงลืมผู้โดยสารคนนี้ นี่กระเป๋ายังอยู่อยู่เลย
ลุงก็เลี้ยวไปรับโดยไม่เกรงใจรถคันอื่ที่ตามหลังมา
เมื่อถึงจุดหมายวัดท่าซุง ลุงก็บอกนี่เข้าไปทางนี้จะมีท่าเรืออยู่ข้ามไปรีสอร์ทได้
เราก็โอเคลุงขอบคุณมากให้เงินค่ารถลุงคนละ 20 บาท ใช้เวลาเดินทางถึง 1.30 ชม ด้วยระยะประมาณ 10 กม
ก็แหง่แหละแกขับใช้ความเร็วไม่เกิน 30 กม/ชม นั่งรถลุงปลอดภัยแน่นอนไม่ต้องห่วง
เมื่อเดินไปก็ถึงท่าเรือ
เรือมาแล้ววววววววเย้! รอไม่นานน่ะ 5 นาทีก็มาแหละ
เรือนี่ไม่ใช่แค่ทุกสามล้อได้แต่ยังทุกรถยนต์ได้ด้วย ค่าโดยสารคนละ 5 บาท ถ้ารถด้วยก็คันละ 20 บาท
ต้องนั่งมอไซด์ต่อไปยังรีสอร์ทอีก แต่ดีมากพี่เค้ามาส่งที่รีสอร์ทไม่เอาตังด้วย ใจดีจริงๆๆ
แหละแล้วก็ถึงรีสอร์ท ชื่อรีสอร์ท "
ริเวอร์ มารีน่า รีสอร์ท" จองในเว็บมา 2 คืน 1774 บาท พร้อมอาหารเช้า
มาเองนี้คงหลง ข้างทางคือมีแต่นา ป่าา แม่น้ำ ไม่มีไฟ น่ากลัวอยู่เหมือนกัน5555
มารีวิวห้องกันหน่อย ห้องนี้ห้องบนดินไม่ใช่แพน่ะ
นี่คือหน้าบ้านร่มรื่นดีน่ะ
หลังบ้านก็คือป่า
ก็มีเตียงชั้นล่าง มีแอร์ ทีวี โต๊ะ น้ำ 2 ขวด ไฟไม่ติด 2 ดวง
มีชั้นบนด้วยน่ะเค้าเรียกว่าห้องใต้หลังคา น่านอนมากเสียดายร้อนไปหน่อยมีแต่พัดลมให้
มีจักยานให้ยืมฟรี มีมอไซด์ของป้าเค้าให้เช่า 200 บาทมีอยู่คันเดียวน่ะ
ไม่รีรอเอาจักยานยืมไปปั่นในวัดท่าซุงกันเลย
บอกป้าที่รีสอร์ทให้โทรหาเรือมารับที่รีสอร์ท รอนานหน่อย 15 นาทีได้ เพราะต้องรับส่งคนข้ามฟากให้เสร็จก่อน
ค่าเหมาเรือมารับเที่ยวละ 25 บาท
ปั่นไปวิหารแก้วก่อนเลย เข้าไปดูก่อนกลัวปิด เปิดเป็นเวลาน่ะครับ 9.00-11.45 14.00-16.00
ถึงแล้วววว เข้าไปกันดีกว่า
สวยมากกกก ตาลายไปหมด ไหว้ขอพร ทำบุญตามศรัทธาครับ
มีแผนที่แล้วปั่นจักยานได้รอบวัดเลยครับ
ประสาททองคำอยู่ตรงด้านหลังของวัด สวยยงามม แม้จะมีการปรับปรุงสวนใหม่
ฝั่งตรงข้ามก็สวยงามเช่นกัน ชื่อในแผนที่บอกว่า ตึกสมบัติพ่อให้
ปั่นจักยานไปเรื่อยก็ส่วนใหญ่กำลังก่อสร้างปรับปรุงเป็นส่วนใหญ่
หิวววข้าวล่ะ มื้อเย็นที่นี่ล่ะกันร้านตรงข้ามกับวัด สวนพรหมท่าซุง ไม่ค่อยมีคนเข้าเท่าไร นึกว่าร้านปิด
เข้าไปถามเค้าพี่เปิดร้านมั้ยครับ พี่บอกเปิดตั้งแต่เช้าแหละไอ้หนู55555
อาหารสั่งไป 3 อย่าง อร่อยที่สุดคือต้มยำปลากตคัง มันๆ เปรี้ยว อร่อยดี อีก 2 อย่างไม่ค่อยถูกปาก ราคา 619 บาทกับมื้อเย็นวันนี้
ได้เวลากลับรีสอร์ทนอนกันดีกว่า
เสร็จสิ้นวันที่ 1
วันต่อมาตื่นเช้า 8.00 น ทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท
มีให้เลือก 2 อย่าง American Breakfast กับข้าวต้มปลา
ขอเลือกเป็น American Breakfast อาหารก็อร่อยดีน่ะ
กินเสร็จนั่งชมบรรยากาศดีๆ ริมแม่น้ำสะแกรัง สงบมากก อากาศดีมากครับ
10 โมงออกเที่ยวเมืองอุทัยโดยเช่ารถมอไซด์จากป้า
มอไซด์ค่อนข้างเก่าครับ เบรกก็ไม่ค่อยโอเค ขับเร็วไม่ได้น่ะเครื่องจะออกอากาศที่จะพังเอา5555
ที่แรกไป ก็คือ วัดโบสถ์
เป็นวัดเก่าแก่ในจังหวัดอุทัยเลย เงียบสงบ
ศิลปกรรมสวยมากก แต่ในโบสต์ใยแมลงมุมเยอะไปหน่อย
ในแม่น้ำเหมือนจะเป็นหมู่บ้านกลางน้ำ น้ำแม่น้ำแห้งไปหน่อยเน้อ
ข้ามแม่น้ำนี่ไปก็เมืองอุทัยแล้ว มีสะพานอยู่เล็กๆ
โห่สะพานเล็กจริงไปได้แค่มอไซด์หรือสามล้อเท่านั้นน่ะครับ เพราะทำเพื่อคนเดินข้าม รถยนต์ต้องอ้อมไปสะพานอยู่ไกลมาก
เรามอไซด์ครับไปได้ เบรกดีๆล่ะกันน5555
เข้าเมืองล่ะครับ
แปลกมากเมืองอุทัยส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ ทาสีม่วงเกือบทั้งเมืองเลย สวยดีครับตามสไตล์เมืองเก่า ประทับใจมาก
เที่ยวแล้วแวะกินข้าวมันไก่ชื่อดังก่อนเลย
พิกัดอยู่ตรงข้ามซอยตรอกยาครับ
อาหารน่าทานดีครับ แต่เหมือนไม่ค่อยถูกปาก5555
ไปร้านกาแฟต่อครับ
กาแฟก็อร่อยครับ เป็นร้านแบบมีที่นั่งไม่เยอะ มีของเก่าสะสมอยู่มากมาย
เขียนโปรการ์ดส่งให้เพื่อนที่นี่ครับ
เที่ยวต่อครับคราวนี้ขึ้นเขาสะแกรัง ไปวัดสังกัสรัตนคีรีกัน
ขับมอไซด์เก่าปรับเกียร์ให้ดีน่ะครับขับแรงไปเครื่องจะพัง เบาไปก็ขันไม่ใหว แต่ก็ถึงครับ ขึ้นมาแล้วที่จอดรถเยอะครับไม่ต้องห่วง
นมัสการพระบรมรูปสมเด็จปฐมบรมมหาชนก พระชนกาธิบดี รัชกาลที่ ๑
เข้าไปกราบไหว้พระพุททธรูปและรูปปั้นในศาลา
มณฑปพระพุทธบาท สวยงามอยู่ในเมืองก็มองเห็นครับ
หรือจะขึ้นทางบันใดก็ได้ 449 ขั้นเอง ที่นี่จะมีประเพณี ตักบาตรเทโว พระภิษษุจะเดินลงบิณฑบาตร ตามบันไดนี้ครับ ประมาณช่วงเดือนตุลาคม
วิวด้านหน้าเขาสะแกรังเป็นเมืองอุทัย บ้านเรือนเยอะแยะไปหมด เมืองอุทัยถนนหลักคือดีมากน่ะ 6 เลน แต่ถนนย่อยยังต้องปรับปรุงอีก
ด้านหลังต่างจากด้านหน้าโดยสิ้นเชิง เป็นนาข้าวอันสวยงาม
เย็นแล้ววกลับเข้าเมืองกันเถอะ
เติมน้ำมันให้ป้าเค้าก่อน แก็สโซฮอล์ 95 เต็มถังแค่ 50 บาท
พลาดไม้ได้ครับทุกวันเสาร์ต้องมาเดินกินที่นี้ ซอยตรอกยา
ถนนคนเดินซอยตรอกยา
นึกว่าเสียตามสายที่ไหน ลุงแกนี้เองบอกหมดร้านไหนมาไม่มา ชักชวนทุกร้าน ตามแกนี่คงพุงแตกพอดี
มีของกินเยอะอยู่นะครับ แต่ถนนคนเดินไม่ใหญ่มากเดินกิน 30 นาทีก็หมดแหละ เดินไป 3 รอบชิวล์ๆๆครับ
สุดท้ายมาจบมื้อเย็นด้วยข้าวต้มร้านนี้ครับ ชื่อร้านหน่อย ในซอยตรอกยาครับ ปลานึงกระเทียมอร่อยแต่น้ำจิ้มเหมือนน้ำจิ้มข้าวมันไก่ไปซ่ะหน่อย
กลับรีสอร์ทครับ มืดแล้ว น่ากลัวมาก ขับซิ่งก็ไม่ได้ด้วย ถนนก็ไม่ดีไม่ชำนาญทาง เครื่องก็จะพัง5555
ก็ถึงรีสอร์ทสักที ก่อนจะเข้าห้องมาถ่ายรูปนั่งตากยุงกัน คิดไปคิดมาแพก็น่านอนน่ะแต่ คืน 1400 บายยยย
มองไปแสงไฟที่วัดท่าซุงก็สวยเหมือนกันน่ะ รูปอาจจะไม่สวยเท่าไรจริงสวยมากก
กลับห้องนอนหมดภาระกิจวันที่ 2
[CR] "สัมผัสชีวิตใหม่" ท่องเที่ยวเมืองอุทัยธานี
3 วัน 2 คืน ก่อนที่จะใช้ชีวิตเปิดเรียน
ก่อนอื่นเราขอบอกเลยว่าก่อนที่จะเดินทางครั้งเกิดการอากระทู้รีวิวการท่องเที่ยวจังหวัดอุทัยจากหลายๆกะทู้ในพันธ์ทิพย์นี่แหละ
ไม่ว่าจะเป็นกระทู้นี้ http://ppantip.com/topic/32003974
หรือ http://topicstock.ppantip.com/blueplanet/topicstock/2010/05/E9229836/E9229836.html และอีหลายกระทู้
แต่เราจะไม่เอารถส่วนตัวไปกัน ค่อยไปลุยเอาดาบหน้า
ไปหาคิวรถตู้ที่อนุเสาวรีย์ รถตู้อุทัยจะอยู่ตรงใต้ทางด่วน เดินทางไปทางแถวๆร้านก๋วยเตี๋ยวข้ามถนนไปนิดหน่อย
จะอยู่คิวแรกเลย หลบมุมนิดหน่อย
ได้มาล่ะตั๋วคนละ 150 บาท คนเต็มเมื่อไรรถออกเมื่อนั้น ได้เวลาออกแล้ว ประมาณ 11.00 น
ก็ถึงอุทัย 13.30 หรือใช้เวลาไปประมาณ 2.30 ชม ขับไม่เร็วมากถือว่าขับดีครับ
ต้องต่อรถไปรีสอร์ทเลยถามคนแถวนั้น
เค้าบอกว่าต้องนั่งรถสายมโนรมย์ไป
และแล้วก็ได้นั่งรถคันนี้ตามในกระทู้บอกเปะ!
มีลุงเป็นคนขับแกมีอายุหน่อย ใจดีมากกกกกนำทางเรา มีเบอร์โทรด้วยโทรหาแกได้ทุกเมื่อ
มีเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นเมื่อลุงแกไปจอดและมีคนนี้ลงไปทำธุระที่ธนาคารด้วยจากนั้นแกก็ลืมผู้โดยสารคนนั้นเฉยเลย
ไปได้ไกลแหละก็เห็นกระเป๋าคนนั้นเลยตะโกนบอกลุง ลุงลืมผู้โดยสารคนนี้ นี่กระเป๋ายังอยู่อยู่เลย
ลุงก็เลี้ยวไปรับโดยไม่เกรงใจรถคันอื่ที่ตามหลังมา
เมื่อถึงจุดหมายวัดท่าซุง ลุงก็บอกนี่เข้าไปทางนี้จะมีท่าเรืออยู่ข้ามไปรีสอร์ทได้
เราก็โอเคลุงขอบคุณมากให้เงินค่ารถลุงคนละ 20 บาท ใช้เวลาเดินทางถึง 1.30 ชม ด้วยระยะประมาณ 10 กม
ก็แหง่แหละแกขับใช้ความเร็วไม่เกิน 30 กม/ชม นั่งรถลุงปลอดภัยแน่นอนไม่ต้องห่วง
เมื่อเดินไปก็ถึงท่าเรือ
เรือมาแล้ววววววววเย้! รอไม่นานน่ะ 5 นาทีก็มาแหละ
เรือนี่ไม่ใช่แค่ทุกสามล้อได้แต่ยังทุกรถยนต์ได้ด้วย ค่าโดยสารคนละ 5 บาท ถ้ารถด้วยก็คันละ 20 บาท
ต้องนั่งมอไซด์ต่อไปยังรีสอร์ทอีก แต่ดีมากพี่เค้ามาส่งที่รีสอร์ทไม่เอาตังด้วย ใจดีจริงๆๆ
แหละแล้วก็ถึงรีสอร์ท ชื่อรีสอร์ท "ริเวอร์ มารีน่า รีสอร์ท" จองในเว็บมา 2 คืน 1774 บาท พร้อมอาหารเช้า
มาเองนี้คงหลง ข้างทางคือมีแต่นา ป่าา แม่น้ำ ไม่มีไฟ น่ากลัวอยู่เหมือนกัน5555
มารีวิวห้องกันหน่อย ห้องนี้ห้องบนดินไม่ใช่แพน่ะ
นี่คือหน้าบ้านร่มรื่นดีน่ะ
หลังบ้านก็คือป่า
ก็มีเตียงชั้นล่าง มีแอร์ ทีวี โต๊ะ น้ำ 2 ขวด ไฟไม่ติด 2 ดวง
มีชั้นบนด้วยน่ะเค้าเรียกว่าห้องใต้หลังคา น่านอนมากเสียดายร้อนไปหน่อยมีแต่พัดลมให้
มีจักยานให้ยืมฟรี มีมอไซด์ของป้าเค้าให้เช่า 200 บาทมีอยู่คันเดียวน่ะ
ไม่รีรอเอาจักยานยืมไปปั่นในวัดท่าซุงกันเลย
บอกป้าที่รีสอร์ทให้โทรหาเรือมารับที่รีสอร์ท รอนานหน่อย 15 นาทีได้ เพราะต้องรับส่งคนข้ามฟากให้เสร็จก่อน
ค่าเหมาเรือมารับเที่ยวละ 25 บาท
ปั่นไปวิหารแก้วก่อนเลย เข้าไปดูก่อนกลัวปิด เปิดเป็นเวลาน่ะครับ 9.00-11.45 14.00-16.00
ถึงแล้วววว เข้าไปกันดีกว่า
สวยมากกกก ตาลายไปหมด ไหว้ขอพร ทำบุญตามศรัทธาครับ
มีแผนที่แล้วปั่นจักยานได้รอบวัดเลยครับ
ประสาททองคำอยู่ตรงด้านหลังของวัด สวยยงามม แม้จะมีการปรับปรุงสวนใหม่
ฝั่งตรงข้ามก็สวยงามเช่นกัน ชื่อในแผนที่บอกว่า ตึกสมบัติพ่อให้
ปั่นจักยานไปเรื่อยก็ส่วนใหญ่กำลังก่อสร้างปรับปรุงเป็นส่วนใหญ่
หิวววข้าวล่ะ มื้อเย็นที่นี่ล่ะกันร้านตรงข้ามกับวัด สวนพรหมท่าซุง ไม่ค่อยมีคนเข้าเท่าไร นึกว่าร้านปิด
เข้าไปถามเค้าพี่เปิดร้านมั้ยครับ พี่บอกเปิดตั้งแต่เช้าแหละไอ้หนู55555
อาหารสั่งไป 3 อย่าง อร่อยที่สุดคือต้มยำปลากตคัง มันๆ เปรี้ยว อร่อยดี อีก 2 อย่างไม่ค่อยถูกปาก ราคา 619 บาทกับมื้อเย็นวันนี้
ได้เวลากลับรีสอร์ทนอนกันดีกว่า
เสร็จสิ้นวันที่ 1
วันต่อมาตื่นเช้า 8.00 น ทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท
มีให้เลือก 2 อย่าง American Breakfast กับข้าวต้มปลา
ขอเลือกเป็น American Breakfast อาหารก็อร่อยดีน่ะ
กินเสร็จนั่งชมบรรยากาศดีๆ ริมแม่น้ำสะแกรัง สงบมากก อากาศดีมากครับ
10 โมงออกเที่ยวเมืองอุทัยโดยเช่ารถมอไซด์จากป้า
มอไซด์ค่อนข้างเก่าครับ เบรกก็ไม่ค่อยโอเค ขับเร็วไม่ได้น่ะเครื่องจะออกอากาศที่จะพังเอา5555
ที่แรกไป ก็คือ วัดโบสถ์
เป็นวัดเก่าแก่ในจังหวัดอุทัยเลย เงียบสงบ
ศิลปกรรมสวยมากก แต่ในโบสต์ใยแมลงมุมเยอะไปหน่อย
ในแม่น้ำเหมือนจะเป็นหมู่บ้านกลางน้ำ น้ำแม่น้ำแห้งไปหน่อยเน้อ
ข้ามแม่น้ำนี่ไปก็เมืองอุทัยแล้ว มีสะพานอยู่เล็กๆ
โห่สะพานเล็กจริงไปได้แค่มอไซด์หรือสามล้อเท่านั้นน่ะครับ เพราะทำเพื่อคนเดินข้าม รถยนต์ต้องอ้อมไปสะพานอยู่ไกลมาก
เรามอไซด์ครับไปได้ เบรกดีๆล่ะกันน5555
เข้าเมืองล่ะครับ
แปลกมากเมืองอุทัยส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ ทาสีม่วงเกือบทั้งเมืองเลย สวยดีครับตามสไตล์เมืองเก่า ประทับใจมาก
เที่ยวแล้วแวะกินข้าวมันไก่ชื่อดังก่อนเลย
พิกัดอยู่ตรงข้ามซอยตรอกยาครับ
อาหารน่าทานดีครับ แต่เหมือนไม่ค่อยถูกปาก5555
ไปร้านกาแฟต่อครับ
กาแฟก็อร่อยครับ เป็นร้านแบบมีที่นั่งไม่เยอะ มีของเก่าสะสมอยู่มากมาย
เขียนโปรการ์ดส่งให้เพื่อนที่นี่ครับ
เที่ยวต่อครับคราวนี้ขึ้นเขาสะแกรัง ไปวัดสังกัสรัตนคีรีกัน
ขับมอไซด์เก่าปรับเกียร์ให้ดีน่ะครับขับแรงไปเครื่องจะพัง เบาไปก็ขันไม่ใหว แต่ก็ถึงครับ ขึ้นมาแล้วที่จอดรถเยอะครับไม่ต้องห่วง
นมัสการพระบรมรูปสมเด็จปฐมบรมมหาชนก พระชนกาธิบดี รัชกาลที่ ๑
เข้าไปกราบไหว้พระพุททธรูปและรูปปั้นในศาลา
มณฑปพระพุทธบาท สวยงามอยู่ในเมืองก็มองเห็นครับ
หรือจะขึ้นทางบันใดก็ได้ 449 ขั้นเอง ที่นี่จะมีประเพณี ตักบาตรเทโว พระภิษษุจะเดินลงบิณฑบาตร ตามบันไดนี้ครับ ประมาณช่วงเดือนตุลาคม
วิวด้านหน้าเขาสะแกรังเป็นเมืองอุทัย บ้านเรือนเยอะแยะไปหมด เมืองอุทัยถนนหลักคือดีมากน่ะ 6 เลน แต่ถนนย่อยยังต้องปรับปรุงอีก
ด้านหลังต่างจากด้านหน้าโดยสิ้นเชิง เป็นนาข้าวอันสวยงาม
เย็นแล้ววกลับเข้าเมืองกันเถอะ
เติมน้ำมันให้ป้าเค้าก่อน แก็สโซฮอล์ 95 เต็มถังแค่ 50 บาท
พลาดไม้ได้ครับทุกวันเสาร์ต้องมาเดินกินที่นี้ ซอยตรอกยา
ถนนคนเดินซอยตรอกยา
นึกว่าเสียตามสายที่ไหน ลุงแกนี้เองบอกหมดร้านไหนมาไม่มา ชักชวนทุกร้าน ตามแกนี่คงพุงแตกพอดี
มีของกินเยอะอยู่นะครับ แต่ถนนคนเดินไม่ใหญ่มากเดินกิน 30 นาทีก็หมดแหละ เดินไป 3 รอบชิวล์ๆๆครับ
สุดท้ายมาจบมื้อเย็นด้วยข้าวต้มร้านนี้ครับ ชื่อร้านหน่อย ในซอยตรอกยาครับ ปลานึงกระเทียมอร่อยแต่น้ำจิ้มเหมือนน้ำจิ้มข้าวมันไก่ไปซ่ะหน่อย
กลับรีสอร์ทครับ มืดแล้ว น่ากลัวมาก ขับซิ่งก็ไม่ได้ด้วย ถนนก็ไม่ดีไม่ชำนาญทาง เครื่องก็จะพัง5555
ก็ถึงรีสอร์ทสักที ก่อนจะเข้าห้องมาถ่ายรูปนั่งตากยุงกัน คิดไปคิดมาแพก็น่านอนน่ะแต่ คืน 1400 บายยยย
มองไปแสงไฟที่วัดท่าซุงก็สวยเหมือนกันน่ะ รูปอาจจะไม่สวยเท่าไรจริงสวยมากก
กลับห้องนอนหมดภาระกิจวันที่ 2