สวัสดีค่ะ กระทู้นี้จะมาเล่าประสบการณ์พี่สาวโดน ตม เกาหลีให้เข้าห้องเย็นน่ะคะ
เที่ยวรอบนี้ประเทศที่กลุ่มเราเลือกไป คือ เกาหลีน่ะคะ รอบนี้ไปกัน 4 คน มีพี่สาว เพื่อนพี่สาว เขา และเพื่อนเขา ก่อนเดินทางไปเกาหลีรพวกเราได้หาข้อมมูลต่างๆไว้เยอะ ข้อมูลนั้นก็มีเรื่องการผ่าน ตม เกาหลีด้วย (ขอบอกว่าคนที่จะไปเกาหลีเเล้วหาข้อมูลเกี่ยวกับ ตม เกาหลี แล้วกลัวน่ะคะขอบอกว่าเเล้วแต่โชคจริงๆ เพราะเราเองก็จิตตกกับเรื่อง ตม เหมือนกัน กลัวไปทุกอย่าง กลัวไม่ผ่าน กลัวโดนเรียกเข้าห้อง กลัวๆๆๆๆๆๆหมด)
เข้าเรื่องเลยนะ เราบินจากมาเล วันที่ 14/1/2559 เวลา 08.10 เวลามาเล ไปถึงกาหลีประมาณประมาณ บ่าย 3 เกาหลี ตอนที่ไปถึงเกาหลีเราก็นั่งรถไฟเข้าไปจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง เพื่อไปผ่านแดน ตม นั้นเอง ตอนนั้นเรากับพี่สาวก็คุยกันเรื่องที่พักว่าพักที่ไหนบ้าง ไปเที่ยวไหนบ้าง เพื่อ ตม ถามแต่ตอนนั้นเพื่อนพี่สาวขาไม่ได้ตั้งใจฟังเลยไม่รู้เรื่องต่างๆที่เราคุยกัน ส่วนตัวเราเองก็เตรียมข้อมูลต่างๆไว้พร้อมเพื่อ ตม ถามว่า ทำงานอะไร ก็จะเอาบัตรพนักงานให้ดู พักที่ไหน เราก็ตอบได้ ไปไหนบ้างอันนี้เราก็ตอบได้ ทุกอย่าง
ยิ่งตอนที่มาเข้าแถวเพื่อจอบหนังสือเดินทาง ขอบอกว่าคนไทยโดน ตม ให้เข้าห้องเย็นเยอะมาก ยิ่งเรากลัว ตม เกาหลีอยู่เเล้วยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ ตอนนั้นพวกเรา 4 คนก็เข้าแถวในแถวเดียวกันหมด อยู่ๆก็มีออนนีคนสวยมาจับพวกเรา 4 คนแยกกันหมด (งานนนี้ยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ ภาษาอังกฤษแค่พอใช้ได้ กลัว ตม พูดไม่รู้เรื่อง กลัว ตอบไม่ได้ไปใหญ่อีก)
คนแรกคือเพื่อนพี่สาวเราเข้าไปก่อน ตม ก็ให้พี่เขาสแกนนิ้วมือ แต่ตอนนั้นนิ้วมือพี่แก ลายนิ้วมือมองไม่เห็น(พี่เขามีปัญหาเรื่องลายนิ้วมืออยู่เเล้ว คือ ลายนิ้วมือไม่ค่อยมองเห็น) ตม ก็ให้สแกนนิ้วมือ 3-4 รอบ ก็จะบอกว่า "เชิญคุณเข้าห้องเย็น" (ตอนนั้น 3 คนที่เหลือคืน ผ่าน ตม มาง่ายได้ไม่โดนถามอะไรสักคำเลย พวกเรา 3 คนก็ตกใจ ทำไมพี่เขาถึงโดนเเล้วเข้าไปเจอเกิดอะไรขึ้น จะโดนส่งกลับไม ความกลัวเริ่มกลับมาอีกครั้ง)
ในห้องเย็น ตม ที่ถามเป็นผู้หญิง
ตม : คุณเอาสมุดเดินทางของใครมา ทำไมลายนิ้วมือไม่ตรงกัน
เพื่อนพี่สาว : เขาก็ตอบไปว่าของเขาเอง อธิบายเรื่องลายนิ้วมือไป
ตม : คุณอาเงินมาทำไมตั้ง 10000 ดอลลาร์
เพื่อนพี่สาว : ฉันจะไปเอาเงินจากไหนมาตั้งเยอะ ตอนนี้ฉันมีเงินแค่ 550,000 วอน
ตม : ก็ถามคำถามเดิม คุณอาเงินมาทำไมตั้ง 10000 ดอลลาร์
เพื่อนพี่สาว : ก็ตอบเเล้วไงว่าไม่ได้เอามา
ตม : คุณมาเกาหลีกี่วัน มาทำอะไร
เพื่อนพี่สาว : 7 วัน มาเที่ยวกับเพื่อนๆ
ตม : คุณพักที่ไหน
เพื่อนพี่สาว : ไม่รู้ เพี่อนเป็นคนจัดการ (พี่เขาไม่รู้จริงๆแค่รู้ว่าพักแถวไหน แต่จำชื่อที่พักไม่ได้)
ตม : แล้วคุณเขียนที่อยู่ ใครกระดาษเข้าเมืองอันนี้
เพื่อนพี่สาว : ก็ที่อยู่ที่พักไง คุณเองก็อ่านออกจะถามทำไม(พี่แกใจร้อนนิดหน่อยก็มีเลยมีปากเสียกันสักพักกับ ตม)
ตอนนนั้นเราก็อยู่รอหน้าห้องเย็น ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาเเล้วก็ร้องไห้ สักพักเพื่อนพี่สาวก็เดือนออกมากับตม ตม เขาก็เปิดประตูเเล้วให้เพื่อนพี่เดินออกมา พกเราก็วิ่งไปหาเเล้วถามคำถามต่างๆว่าโดนอะไรบ้างข้างในพี่ก็เล่าให้ฟังตามคำถามต่างๆที่เราได้เล่าเอาไว้ เราก็ถามไปว่าไม่ได้ฟังหรอตอนที่คุยกันเรื่องที่พักว่าเราพักที่ไหนกัน พี่แกก็บอกว่าไม่ได้ฟัง คือ จบข่าวค่ะงานนนี้
รอรถไฟ
เอกสารผ่านเข้าเมือง
อากาศตอนไปถึงเกาหลี
เกร็ดความรู้เตรียมตัวยังไงให้ผ่าน ตม แบบง่ายๆ
1. เตรียมข้อมูลต่างๆ เช่น พักที่ไหน มากี่วัน ไปไหนบ้าง
2. เตรียมตอบคำถามเรื่องงาน ทำงานอะไร บริษัทอะไร (ง่ายๆก็ติดบัตรพนักงานมาด้วยถ้าเขาถามก็เอาให้เขาดู) หรือถ้าใครเรียน ก็บอกไปว่าเรื่องอยู่ที่....
3. เรื่องภาษาอังกฤษ ไม่ต้องเก่งแต่ขอให้พอตอบได้ก็พอ
สุดท้าย เวลาอยู่หน้า ตม สบตาย ตมด้ามห้ามกลัว ยิ้มให้เขาหน่อยก็พอ
เดียวมาเล่าต่อเรื่องไป จิมจิบัง ประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม.........
เมื่อเพื่อนพี่สาวโดน ตม เกาหลี ให้เข้าห้องเย็น
เที่ยวรอบนี้ประเทศที่กลุ่มเราเลือกไป คือ เกาหลีน่ะคะ รอบนี้ไปกัน 4 คน มีพี่สาว เพื่อนพี่สาว เขา และเพื่อนเขา ก่อนเดินทางไปเกาหลีรพวกเราได้หาข้อมมูลต่างๆไว้เยอะ ข้อมูลนั้นก็มีเรื่องการผ่าน ตม เกาหลีด้วย (ขอบอกว่าคนที่จะไปเกาหลีเเล้วหาข้อมูลเกี่ยวกับ ตม เกาหลี แล้วกลัวน่ะคะขอบอกว่าเเล้วแต่โชคจริงๆ เพราะเราเองก็จิตตกกับเรื่อง ตม เหมือนกัน กลัวไปทุกอย่าง กลัวไม่ผ่าน กลัวโดนเรียกเข้าห้อง กลัวๆๆๆๆๆๆหมด)
เข้าเรื่องเลยนะ เราบินจากมาเล วันที่ 14/1/2559 เวลา 08.10 เวลามาเล ไปถึงกาหลีประมาณประมาณ บ่าย 3 เกาหลี ตอนที่ไปถึงเกาหลีเราก็นั่งรถไฟเข้าไปจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง เพื่อไปผ่านแดน ตม นั้นเอง ตอนนั้นเรากับพี่สาวก็คุยกันเรื่องที่พักว่าพักที่ไหนบ้าง ไปเที่ยวไหนบ้าง เพื่อ ตม ถามแต่ตอนนั้นเพื่อนพี่สาวขาไม่ได้ตั้งใจฟังเลยไม่รู้เรื่องต่างๆที่เราคุยกัน ส่วนตัวเราเองก็เตรียมข้อมูลต่างๆไว้พร้อมเพื่อ ตม ถามว่า ทำงานอะไร ก็จะเอาบัตรพนักงานให้ดู พักที่ไหน เราก็ตอบได้ ไปไหนบ้างอันนี้เราก็ตอบได้ ทุกอย่าง
ยิ่งตอนที่มาเข้าแถวเพื่อจอบหนังสือเดินทาง ขอบอกว่าคนไทยโดน ตม ให้เข้าห้องเย็นเยอะมาก ยิ่งเรากลัว ตม เกาหลีอยู่เเล้วยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ ตอนนั้นพวกเรา 4 คนก็เข้าแถวในแถวเดียวกันหมด อยู่ๆก็มีออนนีคนสวยมาจับพวกเรา 4 คนแยกกันหมด (งานนนี้ยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ ภาษาอังกฤษแค่พอใช้ได้ กลัว ตม พูดไม่รู้เรื่อง กลัว ตอบไม่ได้ไปใหญ่อีก)
คนแรกคือเพื่อนพี่สาวเราเข้าไปก่อน ตม ก็ให้พี่เขาสแกนนิ้วมือ แต่ตอนนั้นนิ้วมือพี่แก ลายนิ้วมือมองไม่เห็น(พี่เขามีปัญหาเรื่องลายนิ้วมืออยู่เเล้ว คือ ลายนิ้วมือไม่ค่อยมองเห็น) ตม ก็ให้สแกนนิ้วมือ 3-4 รอบ ก็จะบอกว่า "เชิญคุณเข้าห้องเย็น" (ตอนนั้น 3 คนที่เหลือคืน ผ่าน ตม มาง่ายได้ไม่โดนถามอะไรสักคำเลย พวกเรา 3 คนก็ตกใจ ทำไมพี่เขาถึงโดนเเล้วเข้าไปเจอเกิดอะไรขึ้น จะโดนส่งกลับไม ความกลัวเริ่มกลับมาอีกครั้ง)
ในห้องเย็น ตม ที่ถามเป็นผู้หญิง
ตม : คุณเอาสมุดเดินทางของใครมา ทำไมลายนิ้วมือไม่ตรงกัน
เพื่อนพี่สาว : เขาก็ตอบไปว่าของเขาเอง อธิบายเรื่องลายนิ้วมือไป
ตม : คุณอาเงินมาทำไมตั้ง 10000 ดอลลาร์
เพื่อนพี่สาว : ฉันจะไปเอาเงินจากไหนมาตั้งเยอะ ตอนนี้ฉันมีเงินแค่ 550,000 วอน
ตม : ก็ถามคำถามเดิม คุณอาเงินมาทำไมตั้ง 10000 ดอลลาร์
เพื่อนพี่สาว : ก็ตอบเเล้วไงว่าไม่ได้เอามา
ตม : คุณมาเกาหลีกี่วัน มาทำอะไร
เพื่อนพี่สาว : 7 วัน มาเที่ยวกับเพื่อนๆ
ตม : คุณพักที่ไหน
เพื่อนพี่สาว : ไม่รู้ เพี่อนเป็นคนจัดการ (พี่เขาไม่รู้จริงๆแค่รู้ว่าพักแถวไหน แต่จำชื่อที่พักไม่ได้)
ตม : แล้วคุณเขียนที่อยู่ ใครกระดาษเข้าเมืองอันนี้
เพื่อนพี่สาว : ก็ที่อยู่ที่พักไง คุณเองก็อ่านออกจะถามทำไม(พี่แกใจร้อนนิดหน่อยก็มีเลยมีปากเสียกันสักพักกับ ตม)
ตอนนนั้นเราก็อยู่รอหน้าห้องเย็น ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาเเล้วก็ร้องไห้ สักพักเพื่อนพี่สาวก็เดือนออกมากับตม ตม เขาก็เปิดประตูเเล้วให้เพื่อนพี่เดินออกมา พกเราก็วิ่งไปหาเเล้วถามคำถามต่างๆว่าโดนอะไรบ้างข้างในพี่ก็เล่าให้ฟังตามคำถามต่างๆที่เราได้เล่าเอาไว้ เราก็ถามไปว่าไม่ได้ฟังหรอตอนที่คุยกันเรื่องที่พักว่าเราพักที่ไหนกัน พี่แกก็บอกว่าไม่ได้ฟัง คือ จบข่าวค่ะงานนนี้
รอรถไฟ
เอกสารผ่านเข้าเมือง
อากาศตอนไปถึงเกาหลี
เกร็ดความรู้เตรียมตัวยังไงให้ผ่าน ตม แบบง่ายๆ
1. เตรียมข้อมูลต่างๆ เช่น พักที่ไหน มากี่วัน ไปไหนบ้าง
2. เตรียมตอบคำถามเรื่องงาน ทำงานอะไร บริษัทอะไร (ง่ายๆก็ติดบัตรพนักงานมาด้วยถ้าเขาถามก็เอาให้เขาดู) หรือถ้าใครเรียน ก็บอกไปว่าเรื่องอยู่ที่....
3. เรื่องภาษาอังกฤษ ไม่ต้องเก่งแต่ขอให้พอตอบได้ก็พอ
สุดท้าย เวลาอยู่หน้า ตม สบตาย ตมด้ามห้ามกลัว ยิ้มให้เขาหน่อยก็พอ
เดียวมาเล่าต่อเรื่องไป จิมจิบัง ประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม.........