สวัสดีครับ ทีนี้ผมก็ได้ทำการรีวิวที่สุดของที่สุดในหมู่ Gunpla ซึ่งเล่าลือกันว่ามีดีเทลสูงสุด ตัวใหญ่สุด (ก่อนที่จะโดนชิงตำแหน่งโดย Mega Size ที่อยู่ในหมู่ Gunpla เหมือนกัน แต่ว่า Mega Size ก็จบอยู่ที่ Gundam Age-2 Normal ในขณะที่ PG ยังดำเนินต่อไปจนถึง Unicorn Gundam 02 Banshee Norn) และที่จะทำการรีวิวตอนนี้ ก็เป็น Strike Gundam ที่ปรากฏในซีรีย์ Gundam SEED ในช่วงต้นๆ ที่อยู่ในรูปแบบ PG (ที่เล่าว่าใช้เวลาต่อนานที่สุด ยากที่สุด มีดีเทสลูงสุด จนได้รับสมญานามว่า Perfect Grade ที่สื่อว่าสมบูรณ์แบบที่สุดในหมู่ Gunpla ด้วยกัน) และก็เป็นพลาโม PG ตัวแรกในชีวิตของผมอีกด้วย เอาล่ะ เรามาดูกันเลยดีกว่า (ดองไว้ตั้งแต่ปลายปี 2015 แล้ว)
เริ่มจาก Box Art ก็คือว่า Box Art ของ Perfect Grade (PG) จะมีลวดลายไม่เหมือนกัน ตามแต่ละรุ่นของ Gunpla เช่น RX-78-2 Gundam หรือ Zeta Gundam ในแบบ PG ก็เป็นแบบตัวหนังสือเปล่าๆ ในขณะที่รุ่น Strike Gundam (ดังรูป) หรือ Unicorn Gundam ก็มีรูป Gundam มาโชว์ให้เห็นบนหน้ากล่อง (เริ่มตั้งแต่รุ่น Gundam Mk-II แล้ว) ขนาดกล่อง อย่างยาวเลย
สนนราคา : 14,000 Yen (นับว่าแพงสุดในหมู่ Gunpla ด้วยกัน)
ความหนา ก็เท่ากับ MG ทั่วไป
เปิดกล่องออกมา ก็เต็มกล่องนะเนี่ย แต่ไม่ล้นกล่อง เนื่องจากว่าในกล่องก็ได้แบ่งเป็น 3 ส่วนย่อยๆ อีกที ซึ่งก็ดีมากที่แบ่งเป็นส่วนๆ แบบนี้ เลยทำให้ดูมีระเบียบมากขึ้น ไม่ล้นกล่องจนเกินไป
ใบต่อ ให้มา 2 เล่ม
เล่มนึงที่เป็นพิมพ์ 4 สี ก็เป็นชีวประวัติของ Gundam ตัวนี้ ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น จึงอ่านไม่ออก ได้แต่มองผ่านๆ ไป (ที่ท้ายเล่มนี้ก็เป็นแผนผังสำหรับติดดีคอลบน Gunpla ตัวนี้)
อีกเล่มนึงที่เป็นขาว-ดำ ขนาด A4 เป็นใบคู่มือการต่อ (สีน่าจะเป็นขาว-น้ำเงินเข้มมากกว่านะ)
มีจำนวนห่อทั้งหมด 15 ห่อด้วยกัน
จำนวนแผงส่วนแรกทั้งหมด 9 แผง (มีแผง D และแผง L เป็นแผงเบิ้ลในส่วนแรก)
จำนวนแผงส่วนกลางทั้งหมด 7 แผง (มีแผง M กับแผง N เป็นแผงเบิ้ลในส่วนที่สอง)
จำนวนแผงส่วนสุดท้ายทั้งหมด 10 แผง (มีแผง C กับแผง K และแผง T เป็นแผงเบิ้ลในส่วนสุดท้าย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แผงเบิ้ลทั้งหมด ผมวงสีแดงเอาไว้ เพื่อให้สังเกตได้ง่ายขึ้น
จำนวนแผงทั้งหมดโดยรวม ตกอยู่ที่จำนวน 26 แผง นับว่าเยอะมากนะ
ชิ้นส่วนมือ เป็นชิ้นส่วนสำเร็จรูป สามารถขยับข้อได้ทุกนิ้ว เพื่อให้ทำท่าได้หลากหลายขึ้น
ในพลาโมชุด PG ทุกชุด ไม่ได้ให้สติกเกอร์ส่วนตาเหมือนพวก MG หรือ RG และ HG เพราะจะใช้ไฟ LED ที่ให้มา ในขณะที่ส่วนตาก็มีดีเทลมาให้แบบล้ำลึกมาก (MG และ RG ไม่ได้ทำดีเทลส่วนตามาให้เลยนะ)
และก็ให้ชิ้นส่วนเหล็กมาด้วย จึงมีความทนทานสูงมาก
ดีคอล ให้มาเป็น Marking Seal แผ่นใหญ่ 1 แผ่น (แล้วทำไมไม่ให้ดีคอลน้ำมาล่ะ Marking Seal ติดก็ไม่ค่อยเนียนเท่าดีคอลน้ำนะ)
ดีเทล ละเอียดถี่ยิบมาก สมแล้วที่ว่าได้ระดับขึ้น Perfect Grade
มาพร้อมกับชุดไฟ LED ที่ให้มา เป็นไฟ LED สีเหลือง แต่ต้องต่อวงจรเอาเองนะ และต้องต่อให้เป็นด้วย ถ้าต่อไม่เป็น ก็อาจจะทำให้ไฟเสียไปได้เลยนะ
เริ่มที่อาวุธกันก่อน โดยเริ่มจากโล่ มีดีที่ดีเทลที่มาจัดเต็มมาก
เอาโล่มาเทียบกับ Gunple ระดับ MG แค่โล่ก็ใหญ่มากแล้ว เกือบสูงเท่าเลยนะ
ดีเทลที่ด้านหลังโล่ มาแบบจัดเต็มมาก และก็มีสวิตช์ไว้เปิด-ปิดกระจกโล่ได้ด้วย
แบบเปิดกระจกโล่มั่ง
ด้ามจับ เลื่อนขึ้น-ลงได้ และโยกขึ้น-ลงได้อีก
มาที่มีดพับ Armor Schneider มั่ง ใบมีด มาดำเมี่ยมเลย ต้องเอาไปกั้นพ่นทำสีเองเลยนะ
คั่นกลางที่ชิ้นส่วนมือก่อน ซึ่งมาเป็นแบบขยับนิ้วได้ทุกข้อทุกกระเบียดนิ้ว เวลาขยับแรกๆ อาจจะฝืดๆ ก็อาจจะเสี่ยงที่จะหักได้ ลองเอาไปบริหารข้อนิ้วสักพักก่อน เดี๋ยวก็ชินและขยับได้ลื่นไหลแล้ว
สู้ตาย!!!!
I'm Rock!!!!
Like เลย
มาที่อาวุธกันต่อ มาที่ Beam Rifle มาตรฐาน ไม่มีอะไรมาก แต่เวลาถอดชิ้นส่วนภายนอกออก จะเห็นดีเทลด้านในด้วยล่ะ
ที่เลนส์ปืน เป็นสีฟ้าใส (แบบ MG และ RG เป็นชิ้นสีใส)
ดูเท่านี้กันก่อน ส่วนตัว Gundam มาดูที่ Comment นะครับ
[CR] Review : (โมเก่าเล่าใหม่) เมื่อสงครามยุค Cosmic Era เริ่มปะทุขึ้น Strike Gundam (PG 1:60)
เริ่มจาก Box Art ก็คือว่า Box Art ของ Perfect Grade (PG) จะมีลวดลายไม่เหมือนกัน ตามแต่ละรุ่นของ Gunpla เช่น RX-78-2 Gundam หรือ Zeta Gundam ในแบบ PG ก็เป็นแบบตัวหนังสือเปล่าๆ ในขณะที่รุ่น Strike Gundam (ดังรูป) หรือ Unicorn Gundam ก็มีรูป Gundam มาโชว์ให้เห็นบนหน้ากล่อง (เริ่มตั้งแต่รุ่น Gundam Mk-II แล้ว) ขนาดกล่อง อย่างยาวเลย
สนนราคา : 14,000 Yen (นับว่าแพงสุดในหมู่ Gunpla ด้วยกัน)
ความหนา ก็เท่ากับ MG ทั่วไป
เปิดกล่องออกมา ก็เต็มกล่องนะเนี่ย แต่ไม่ล้นกล่อง เนื่องจากว่าในกล่องก็ได้แบ่งเป็น 3 ส่วนย่อยๆ อีกที ซึ่งก็ดีมากที่แบ่งเป็นส่วนๆ แบบนี้ เลยทำให้ดูมีระเบียบมากขึ้น ไม่ล้นกล่องจนเกินไป
ใบต่อ ให้มา 2 เล่ม
เล่มนึงที่เป็นพิมพ์ 4 สี ก็เป็นชีวประวัติของ Gundam ตัวนี้ ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น จึงอ่านไม่ออก ได้แต่มองผ่านๆ ไป (ที่ท้ายเล่มนี้ก็เป็นแผนผังสำหรับติดดีคอลบน Gunpla ตัวนี้)
อีกเล่มนึงที่เป็นขาว-ดำ ขนาด A4 เป็นใบคู่มือการต่อ (สีน่าจะเป็นขาว-น้ำเงินเข้มมากกว่านะ)
มีจำนวนห่อทั้งหมด 15 ห่อด้วยกัน
จำนวนแผงส่วนแรกทั้งหมด 9 แผง (มีแผง D และแผง L เป็นแผงเบิ้ลในส่วนแรก)
จำนวนแผงส่วนกลางทั้งหมด 7 แผง (มีแผง M กับแผง N เป็นแผงเบิ้ลในส่วนที่สอง)
จำนวนแผงส่วนสุดท้ายทั้งหมด 10 แผง (มีแผง C กับแผง K และแผง T เป็นแผงเบิ้ลในส่วนสุดท้าย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จำนวนแผงทั้งหมดโดยรวม ตกอยู่ที่จำนวน 26 แผง นับว่าเยอะมากนะ
ชิ้นส่วนมือ เป็นชิ้นส่วนสำเร็จรูป สามารถขยับข้อได้ทุกนิ้ว เพื่อให้ทำท่าได้หลากหลายขึ้น
ในพลาโมชุด PG ทุกชุด ไม่ได้ให้สติกเกอร์ส่วนตาเหมือนพวก MG หรือ RG และ HG เพราะจะใช้ไฟ LED ที่ให้มา ในขณะที่ส่วนตาก็มีดีเทลมาให้แบบล้ำลึกมาก (MG และ RG ไม่ได้ทำดีเทลส่วนตามาให้เลยนะ)
และก็ให้ชิ้นส่วนเหล็กมาด้วย จึงมีความทนทานสูงมาก
ดีคอล ให้มาเป็น Marking Seal แผ่นใหญ่ 1 แผ่น (แล้วทำไมไม่ให้ดีคอลน้ำมาล่ะ Marking Seal ติดก็ไม่ค่อยเนียนเท่าดีคอลน้ำนะ)
ดีเทล ละเอียดถี่ยิบมาก สมแล้วที่ว่าได้ระดับขึ้น Perfect Grade
มาพร้อมกับชุดไฟ LED ที่ให้มา เป็นไฟ LED สีเหลือง แต่ต้องต่อวงจรเอาเองนะ และต้องต่อให้เป็นด้วย ถ้าต่อไม่เป็น ก็อาจจะทำให้ไฟเสียไปได้เลยนะ
เริ่มที่อาวุธกันก่อน โดยเริ่มจากโล่ มีดีที่ดีเทลที่มาจัดเต็มมาก
เอาโล่มาเทียบกับ Gunple ระดับ MG แค่โล่ก็ใหญ่มากแล้ว เกือบสูงเท่าเลยนะ
ดีเทลที่ด้านหลังโล่ มาแบบจัดเต็มมาก และก็มีสวิตช์ไว้เปิด-ปิดกระจกโล่ได้ด้วย
แบบเปิดกระจกโล่มั่ง
ด้ามจับ เลื่อนขึ้น-ลงได้ และโยกขึ้น-ลงได้อีก
มาที่มีดพับ Armor Schneider มั่ง ใบมีด มาดำเมี่ยมเลย ต้องเอาไปกั้นพ่นทำสีเองเลยนะ
คั่นกลางที่ชิ้นส่วนมือก่อน ซึ่งมาเป็นแบบขยับนิ้วได้ทุกข้อทุกกระเบียดนิ้ว เวลาขยับแรกๆ อาจจะฝืดๆ ก็อาจจะเสี่ยงที่จะหักได้ ลองเอาไปบริหารข้อนิ้วสักพักก่อน เดี๋ยวก็ชินและขยับได้ลื่นไหลแล้ว
สู้ตาย!!!!
I'm Rock!!!!
Like เลย
มาที่อาวุธกันต่อ มาที่ Beam Rifle มาตรฐาน ไม่มีอะไรมาก แต่เวลาถอดชิ้นส่วนภายนอกออก จะเห็นดีเทลด้านในด้วยล่ะ
ที่เลนส์ปืน เป็นสีฟ้าใส (แบบ MG และ RG เป็นชิ้นสีใส)
ดูเท่านี้กันก่อน ส่วนตัว Gundam มาดูที่ Comment นะครับ