โค้ชเช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของ "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ เจ้าของเหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2012และ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของแชมป์โลกคนล่าสุด หลังทำผลงานติดแรงกิ้งโลกติดอยู่ 1 ใน 6 ที่ดีที่สุด จากการแข่งขันเทควันโดเก็บคะแนนสะสมจัดอันดับโลก หรือ "เวิลด์กรังด์ปรีซ์" รอบไฟนอล สนามสุดท้าย ที่เม็กซิโก จนทำให้ทั้งสองคนได้สิทธิ์อัตโนมัติเดินทางไปร่วมโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2016 รอบสุดท้าย ที่นครรีโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล เรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากตามกฏระเบียบของสหพันธ์เทควันโดโลก (ดับเบิ้ลยูทีเอฟ) จะให้สิทธิ์นักกีฬาเพียงแค่ชาติละหนึ้งคนเท่านั้นไปอลิมปิกเกมส์ ส่งผลให้ ชนาธิป กับ พาณิภัค จะต้องมาประลองฝีเท้ากันเองอีกครั้งหนึ่ง เพื่อส่งคนที่พร้อมและดีที่สุดเท่าไปโอลิมปิก รอบสุดท้าย
โค้ชเช กล่าวต่อว่า ในฐานะเฮดโค้ชของนักกีฬาทั้งสองคนที่อยู่ร่วมกันมานานหลายปี มีความอึดอัดและหนักใจอย่างยิ่งในการพิจารณาเลือกคนใดคนหนึ่งไปโอลิมปิก เพราะทั้งสองคนเปรียบเสมือนเป็นลูกศิษย์รักที่ตัวเองได้ปลุกปั้นมาช้านาน ได้เก็บตัวกินนอนอยู่ร่วมกันย่อมมีความผูกพันธ์เป็นธรรมดา แน่นอนว่าการที่ตัวเองจะตัดคนใดคนหนึ่งออกไปและเลือกคนหนึ่งเข้ามาเพื่อเดินทางไปสู่ความสำเร็จมันย่อมเป็นเรื่องลำบากใจอย่างยิ่ง ประเภทรักพี่แต่เสียดายน้อง แต่ด้วยวิถีของกีฬาต่อสู้ ย่อมมีคำว่า แพ้และชนะเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นจึงขอให้ทั้ง ชนาธิป กับ พาณิภัค เผื่อใจไว้บ้าง เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับผลงานการพัฒนาตัวเองในช่วง 2-3 เดือนต่อจากนี้ไปว่าแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง อีกทั้ง "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดฯ ได้ตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาหนึ่งชุด เพื่อพิจารณาในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ผสมผสานกับข้อมูลบางอย่างที่ตัวเองมีอยู่ ไม่ได้ให้ตัวเองเป็นคนฟันธงเพียงคนเดียวว่าใครได้ไปหรือไม่ได้ไป
"คุณพิมลรู้ดีว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ซึ่งอาจไปมีผลกระทบกระเทือนจิตใจนักกีฬาคนที่ไม่ได้ไปโอลิมปิก แต่ก็ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างเราตัดสินตามเนื้อผ้า เน้นความโปร่งใสยุติธรรมมากที่สุด โดยมีคณะกรรมการกลางเข้ามาตรวจสอบและมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ด้วย เพื่อลดความกดดันจากตัวเองในฐานะที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ดังนั้นทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับชนาธิปและพาณิภัคว่าจะโชว์ศักยภาพของตัวเองออกมาได้ดีมากน้อยแค่ไหน จุดดีและจุดด้อยต่างๆ ของทั้งคู่ที่มีอยู่ในเวลานี้ ทำอย่างไรจะให้มันสมดุลกันมากที่สุด จากนั้นสมาคมฯ ภายใต้การนำของ ผศ.พิมล จะเป็นผู้ประกาศรายชื่อ นักเทควันโดเพียงหนึ้งเดียวเท่านั้นไปล่าเหรียญทองโอลิมปิก ส่วนผมก็ขอเอาใจช่วยทั้งชนาธิปหรือพาณิภัค ใครได้สิทธิ์นี้ไปก็ตามขอให้ทุ่มเทตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่และดีที่สุด" โค้ชเช กล่าว
http://www.dailynews.co.th/sports/374944 
โค้ชเชรับหนักใจเลือกชนาธิปหรือพาณิภัคไปโอลิมปิก
โค้ชเช กล่าวต่อว่า ในฐานะเฮดโค้ชของนักกีฬาทั้งสองคนที่อยู่ร่วมกันมานานหลายปี มีความอึดอัดและหนักใจอย่างยิ่งในการพิจารณาเลือกคนใดคนหนึ่งไปโอลิมปิก เพราะทั้งสองคนเปรียบเสมือนเป็นลูกศิษย์รักที่ตัวเองได้ปลุกปั้นมาช้านาน ได้เก็บตัวกินนอนอยู่ร่วมกันย่อมมีความผูกพันธ์เป็นธรรมดา แน่นอนว่าการที่ตัวเองจะตัดคนใดคนหนึ่งออกไปและเลือกคนหนึ่งเข้ามาเพื่อเดินทางไปสู่ความสำเร็จมันย่อมเป็นเรื่องลำบากใจอย่างยิ่ง ประเภทรักพี่แต่เสียดายน้อง แต่ด้วยวิถีของกีฬาต่อสู้ ย่อมมีคำว่า แพ้และชนะเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นจึงขอให้ทั้ง ชนาธิป กับ พาณิภัค เผื่อใจไว้บ้าง เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับผลงานการพัฒนาตัวเองในช่วง 2-3 เดือนต่อจากนี้ไปว่าแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง อีกทั้ง "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดฯ ได้ตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาหนึ่งชุด เพื่อพิจารณาในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ผสมผสานกับข้อมูลบางอย่างที่ตัวเองมีอยู่ ไม่ได้ให้ตัวเองเป็นคนฟันธงเพียงคนเดียวว่าใครได้ไปหรือไม่ได้ไป
"คุณพิมลรู้ดีว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ซึ่งอาจไปมีผลกระทบกระเทือนจิตใจนักกีฬาคนที่ไม่ได้ไปโอลิมปิก แต่ก็ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างเราตัดสินตามเนื้อผ้า เน้นความโปร่งใสยุติธรรมมากที่สุด โดยมีคณะกรรมการกลางเข้ามาตรวจสอบและมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ด้วย เพื่อลดความกดดันจากตัวเองในฐานะที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ดังนั้นทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับชนาธิปและพาณิภัคว่าจะโชว์ศักยภาพของตัวเองออกมาได้ดีมากน้อยแค่ไหน จุดดีและจุดด้อยต่างๆ ของทั้งคู่ที่มีอยู่ในเวลานี้ ทำอย่างไรจะให้มันสมดุลกันมากที่สุด จากนั้นสมาคมฯ ภายใต้การนำของ ผศ.พิมล จะเป็นผู้ประกาศรายชื่อ นักเทควันโดเพียงหนึ้งเดียวเท่านั้นไปล่าเหรียญทองโอลิมปิก ส่วนผมก็ขอเอาใจช่วยทั้งชนาธิปหรือพาณิภัค ใครได้สิทธิ์นี้ไปก็ตามขอให้ทุ่มเทตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่และดีที่สุด" โค้ชเช กล่าว
http://www.dailynews.co.th/sports/374944