แกรนด์สแลมแรกแห่งปีของโลกเทนนิส...ออสเตรเลียนโอเพน...ผ่านไปแล้ว 2 รอบ
รอบต่อไปจะเป็นรอบที่เหล่ามือวางอันดับจะเริ่มประชันกัน
ด้วยระดับของการแข่งที่สูงขึ้นกว่า 2 รอบที่ผ่านมา....หวังว่าคงสนุกจุใจพวกเราเหล่าผู้ชมครับ
ทว่า...ในการแข่ง 2 รอบที่ผ่านมาก็มีสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย
ทั้งเรื่องช๊อค...เรื่องใจหาย...เรื่องน่าประทับใจ...เรื่องปกติเดิม ๆ ที่เกิดประจำแต่น่าทึ่ง
ลองมาดูกัน
แมตช์ชายเดี่ยวอาชีพแมตช์สุดท้ายของ เลย์ตัน ฮีวิทท์
ผมเริ่มดูเทนนิสเมื่อราว ๆ 8 ปีก่อน
ในตอนนั้น เลย์ตัน ฮีวิทท์ หาใช่นักเทนนิสระดับท็อปของวงการ...ยุคทองของเขาได้ผ่านมาหลายปีก่อนหน้านั้นแล้ว
ผมจึงไม่ได้มีความประทับใจในตัวเขา...ในสมัยที่เขาเป็นมือหนึ่งของโลกหรือสมัยที่เขายังเป็นระดับท็อปที่ไล่เบียดกับ โรเจอร์ นาดาล หรือ ร็อดดิค ในระดับสูงของวงการได้อยู่
ไม่เคยดูเขาตอนเป็นเทพ...
ทว่าในปี 2012 เลย์ตัน ฮีวิทท์ ในช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพคนนี้ก็สร้างความทรงจำดี ๆ ให้ผมจนได้
ในสังเวียน ออสเตรเลียนโอเพน เมื่อ 4 ปี ก่อนนี้แหล่ะ
คู่แข่งของเขาคือดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการ มิลอส ราโอนิช
ราโอนิชโชว์ศักยภาพของดาวรุ่งผู้มีศักยภาพที่อาจพอจะก้าวขึ้นมาชิงชัยตำแหน่งมือ 1 ของโลกในอนาคตได้ออกมาให้เห็นเต็มที่
ลูกเสิร์ฟที่ร้ายกาจ...
ลูกตีที่หนักหน่วง...
ความคล่องตัวที่อยู่เหนือมาตรฐานนักเทนนิสร่างยักษ์ทั่วไป...
ความอึด...
ร่างกายที่แข็งแรงทนทานฟื้นตัวเร็วของวัยหนุ่ม...
ชั้นเชิงและจินตนาการในการเล่นที่เหนือนักเทนนิสเยาว์วัยทั่วไป....
หัวใจของเด็กหนุ่มที่ยังไม่เห็นเพดานของตัวเอง...
ราโอนิชใช้ทุกสิ่งที่มีนี้ไล่อัดรุ่นพี่ร่วมอาชีพผู้มากประสบการณ์และเคยสัมผัสเกียรติยศมามากมายอย่างไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรี
สถิติเแทบทุกอย่างบ่งบอกว่า ราโอนิช เหนือกว่า ฮีวิทท์
ขณะเล่นกันราว ๆ เซ็ตที่ 4 ..มีกราฟฟิคขึ้นแต้มที่ทำได้ของทั้งสองคน...ราโอนิชทำแต้มรวมมากกว่าฮีวิทท์ถึงราว ๆ 20 แต้ม
หากใครดูเกมวันนั้นจะไม่รู้สึกแปลกใจเลยซักนิดครับว่าทำไมแต้มถึงห่างกันมากขนาดนี้
ในเกมเสิร์ฟของราโอนิชแทบทั้งหมด...ปิดได้อย่างโล่งสบาย...ด้วยลูกเสิร์ฟอันร้ายกาจของเขา
ส่วนในเกมเสิร์ฟของฮีวิทท์...ฮีวิทท์ต้องพยายามอย่างหนักกว่าจะปิดเกมเสิร์ฟในแต่ละเกมได้
ฮีวิทท์วิ่งไล่ลูกไม่หยุด...สภาพร่างกายของนักหวดวัย 31 ซึ่งต้องวิ่งไล่ลูกหนัก ๆ ของเด็กหนุ่มอายุ 20 ตัวใหญ่แข็งแรง...มันแสดงออกมาให้เห็นกันชัด ๆ จากภาษากายภายนอก
ทั้งเข่าอ่อนจนต้องเอาแร็กเก็ตยันพื้น...ทั้งหอบตัวโยน
ร่างกาย..ลูกเสิร์ฟ...สปีดบอล...ความอึด...แต้มรวม...ฮีวิทท์เป็นรองเด็กรุ่นหลังคนนี้ทุกประการ
เขาควรจะถูกถล่มจนพังราบและแพ้ขาดไปนานแล้ว...แต่ก็ยังกัดฟันแข็งใจรักษาเกมเสิร์ฟไล่เกาะ ราโอนิช ไว้ได้
หัวใจ....ใจที่สู้ไม่ยอมแพ้
ฮีวิทท์ใช้สิ่งที่อยู่เหนือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ทั้งมวลค้ำยันตนเองให้ยังคงอยู่ในแมตช์ได้...แม้จะโดนไล่ถล่มอย่างหนัก
หลังจากยันการไล่กระหน่ำของนักหวดรุ่นน้องไว้อย่างเต็มความสามารถ...จนเด็กเริ่มมีหวั่นไหวและเปิดโอกาสให้ฉกฉวย
ฮีวิทท์ไม่ปล่อยให้โอกาสอันน้อยนิดผ่านเลยไป...และสามารถเอาชนะคู่แข่งที่เป็นเบี้ยบนอยู่แทบจะตลอดเกมได้อย่างน่าประทับใจที่สุด
มันไม่ใช่ว่ากระแสเกมมาและสามารถชิงเป็นเบี้ยบนเหนือคู่แข่งได้เป็นช่วง ๆ ...ทีใครที่มันช่วงใครช่วงมันแบบการแข่งทั่วไปนะครับ
ฮีวิทท์โดน ราโอนิช กดอยู่ตลอด...มีแค่เฉพาะเกมที่เบรคได้หรือคะแนนที่เฉือนในไทร์เบรคเท่านั้นที่ฮีวิทท์เหนือกว่า
แมตช์นี้คือหนึ่งในแมตช์ที่ผมประทับใจสูงสุดเฉกเช่นเดียวกับ
โรเจอร์ - ราฟา วิมเบิลดัน 2008....เวิลด์ทัวร์ไฟนอล 2010
โรเจอร์ - โนวัค เฟรนช์โอเพน 2011....วิมเบิลดัน 2014....ยูเอสโอเพน 2015
สังเกตดูจะรู้ว่า...แมตช์ประทับใจอื่น ๆ ของผมล้วนเป็นการแข่งของระดับท็อปเจอกันทั้งสิ้น...แต่การแข่งขันของ ฮีวิทท์ - ราโอนิช ไม่ได้เป็นการแข่งของมือวางอันดับที่สูงส่งอะไรเลยในเวลานั้น
นั่นเพราะถึงจะล่วงเลยวันเวลาที่อยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพมานานแล้ว...ธาตุแท้ของลูกผู้ชายที่ชื่อ เลย์ตัน ฮีวิทท์ ยังคงโยกคลอนใจผมได้อยู่ดี
ผ่านจากวันนั้นมา 4 ปี ในทัวร์นาเมนต์เดิม....ฮีวิทท์ได้เดินหน้าเข้าสู่แมตช์ชายเดี่ยวสุดท้ายในชีวิตนักเทนนิสของเขา..โดยประกาศว่าจะเล่นเทนนิสอาชีพที่ ออสเตรเลียนโอเพนนี้เป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในชีวิต
เชื่อว่าแฟนเทนนิสซึ่งเคยตามเชียร์ ฮีวิทท์ มา...คงให้ความสนใจการแข่งของเขาใน ออสเตรเลียนโอเพน ปีนี้เป็นพิเศษ
การแข่งของเขาไม่ว่าแมตช์ไหน..ก็อาจเป็นแมตช์สุดท้ายในชีวิต...นั่นก็คือมันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เห็นเขาโลดแล่นอยู่ในสังเวียนเทนนิสอาชีพ
ฮีวิทท์ผ่านรอบแรกได้...โดยโค่นนักหวดหนุ่มร่วมชาติซึ่งอ่อนวัยกว่าเขานับ 10 ปี..." สภาพยังใช้ได้อยู่เลยนี่นา "....แฟน ๆ อาจรู้สึกเสียดาย
เชื่อว่าตอนเห็นชื่อคู่แข่งในรอบที่ 2 ของ ฮีวิทท์ แล้ว....หลายท่านคงทำใจไว้แล้วว่า...แมตช์สุดท้ายของฮีวิทท์น่าจะอยู่ที่รอบ 2 นี่ล่ะ
ดาวิด เฟอแรร์ นักเทนนิสมือ 8 ของโลก
อย่างที่เรา ๆ ท่าน ๆ รู้กันดีว่า...การเป็นมือ 8 ในยุคที่เทนนิสชายมีมาตรฐานแกร่งอย่างตอนนี้มันหมายถึงอะไร
นักเทนนิสอย่าง ดาวิด เฟอแรร์ ที่ว่ากันว่า...ถ้าไปอยู่ในยุคที่เหมาะสมกว่านี้...อาจคว้าแกรนด์สแลมติดไม้ติดมือมาได้บ้างแล้ว
สำหรับ ฮีวิทท์ วัย 35....ดาวิด เฟอแรร์ ซึ่งกำลังจะ 34 ในอีกไม่กี่เดือน...ถือเป็น " คนรุ่นเดียวกัน " ได้...ถึงแม้ฮีวิทท์จะเทิร์นโปรเร็วกว่าเฟอแรร์หลายปี
ฮีวิทท์นับเป็นนักเทนนิสพรสวรรค์...เขารุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว....และเป็นมือ 1 ของโลกตั้งแต่อายุ 20....แต่พอพ้นช่วงวัย 25 ก็ไม่ใช่ช่วงรุ่งของเขา
เฟอแรร์กลับเรียกได้ว่าเป็นนักเทนนิสพรแสวง...เขาค่อย ๆ รุ่งค่อย ๆ เติบโต...ยามทะลุขึ้นเป็นท็อป 10 ได้...เขาเคยเผชิญกับกำแพงที่ขวางระหว่างมือท็อป 20 กับ มือ ท็อป 10 อยู่ช่วงนึง...หลังจากที่เขาฝ่ากำแพงนั้นได้...เขาก็อยู่ในระดับสูงมายาวนานจนถึงวันนี้
พรแสวงของเขานับว่าเอาชนะอายุและสังขารได้อย่างที่ไม่ต้องพิสูจน์ตนเองอีกแล้ว
นับเป็นคู่หวดวัยดึกที่แตกต่างอย่างยิ่ง
เมื่อเริ่มแมตช์...เฟอแรร์โชว์ศักยภาพที่เหนือกว่าฮีวิทท์ในปัจจุบันอย่างท่วมท้น...คว้าเซ็ตแรกไปอย่างง่ายดาย
ความอึด และ ความคล่องตัวของ เฟอแรร์ เหนือกว่า ฮีวิทท์ ในปัจจุบันอย่างชัดเจน
ทั้งคู่เป็นนักเทนนิสสไตล์เหนียวแน่นไม่พึ่งลูกเสิร์ฟเหมือนกัน...แต่การเล่นในแนวทางนี้ในตอนนี้นับว่าเฟอแรร์เหนือกว่าฮีวิทท์พอดู
ถึง เฟอแรร์ จะได้ชื่อว่าเป็นนักเทนนิสที่ไม่มีปมเด่นด้านเกมรุก...แต่ฮีวิทท์ในปัจจุบันก็ยังเป็นรอง เฟอแรร์ในด้านการเล่นเชิงรุก
ด้านประสบการณ์..ฮีวิทท์ผ่านศึกมากกว่า 850 แมตช์...เก็บชัยชนะเกิน 600 เมตช์...ซึ่ง เฟอแรร์ ก็ไม่แพ้กัน...โดยผ่านสมรภูมิใกล้ 1000 แมตช์ อยู่รอมร่อ..เก็บชัยชนะได้กว่า 650 แมตช์....ในวันนี้ถือว่าประสบการณ์ของ ฮีวิทท์ ไม่เป็นต่อคู่แข่งอย่างที่เคยเป็นมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ด้านใจสู้ในเวลาปกติ...ดาวิด เฟอแรร์ ก็นับว่าใจสู้ไม่แพ้ ฮีวิทท์
ดู ๆ แล้ว ....ไม่ว่าด้านไหน ๆ ...ฮีวิทท์ก็ไม่มีแง่มุมไหนจะเอาไปสู้เฟอแรร์ในตอนนี้เลย...รองบ่อนกว่าเห็น ๆ
เพียงแต่วันนี้เป็นวันพิเศษของ ฮีวิทท์...ซึ่งต่างจากปกติ
ฮีวิทท์รู้ตัวดีว่าวันนี้อาจเป็นแมตช์สุดท้ายในชีวิตเขา...
เขาเล่นโดยไม่ต้องคาดหวังถึงวันพรุ่งนี้...ทัวร์นาเมนต์ต่อไป...หรือเก็บพลังให้เล่นได้ครบปี
ถ้าผ่านวันนี้ไปไม่ได้ก็ไม่มีแมตช์ต่อไปอีกแล้ว
ฮีวิทท์จึงทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างลงไปในแมตช์นี้
ในขณะที่นักเทนนิสมือวางอันดับ 8 ของโลก อย่าง ดาวิด เฟอแรร์ ยังเล่นเทนนิสแบบคาดหวังถึงวันพรุ่งนี้อยู่
เขาต้องเล่นโดยถนอมร่างกายให้มากที่สุดเพื่อสู้กับคู่แข่งมือพระกาฬในรอบลึก ๆ...เขาคาดหวังถึงทัวร์นาเมนต์หน้า...และยังต้องเล่นจนถึงเดือนพฤศจิกายน
สิ่งเดียวที่ ฮีวิทท์ เหนือกว่า เฟอแรร์ในเวลานี้คือ วันนี้เขาถวายชีวิตกว่าเฟอแรร์
หลังจาก เฟอแรร์ เป็นต่อคู่แข่งอยู่เซ็ตครึ่ง
เซ็ตแรกชนะอย่างงดงาม..เซ็ต 2 เบรคได้ก่อนและคุมสถานการณ์ได้
เลย์ตัน ฮีวิทท์ ได้แสดงให้เห็นถึงสปิริตของเขาที่ไม่ยอมถอดใจง่าย ๆ
ในเกมที่ 8 ของเซ็ต 2 เขาสร้างความลำบากให้ เฟอแรร์ อย่างแสนสาหัส ด้วยการสร้างโอกาสเบรค เฟอแรร์ ถึง 7 เบรคพอยต์ในเกมเดียว
ถึงสุดท้ายเขาจะไม่สามารถหัก เฟอแรร์ ในเกมนั้นได้...แต่นั่นเป็นการส่งสัญญาณออกมาแล้วว่า...เขายังไม่ทิ้งแมตช์นี้
เซ็ตสุดท้ายในชีวิตของฮีวิทท์...การที่สูญพลังกายและพลังใจไปมากในช่วงท้ายเซ็ต 2 ...ดูเหมือนจะส่งผลต่อตัว ฮีวิทท์ ไม่น้อย
ฮีวิทท์โดนเบรคไปอีกแล้ว...ในเซ็ต 3 นี้มีทีท่าว่าเกมจะขาดกระจุยเป็นเค้าลางให้เห็น
ทว่า ฮีวิทท์ กลับออกหมัดตอบโต้จนคู่แข่งล้มลงไปให้กรรมการนับได้อย่างน่าประทับใจ...ฮีวิทท์เบรคเกมเสิร์ฟของ เฟอแรร์ คืนมา
ฮีวิทท์เผาไหม้ช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตนักเทนนิสของเขาจนขาวโพลน ( ยืมคำการ์ตูนชกมวยคลาสสิคมาใช้ซักหน่อย )
ในที่สุดเซ็ตนั้นก็จบลงด้วยการที่ เฟอแรร์ สามารถเบรคอีกครั้งและเอาชนะ ฮีวิทท์ ไปได้
3 - 0 เซ็ต...สกอร์ที่ดูเผิน ๆ เหมือนกับแพ้ขาดลอย....แต่มันกินเวลาถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง
ดูจากรูปเกม..สกอร์มันควรจะออกมาที่ 6 - 2 6 - 2 6 - 2 มากกว่า 6 - 2 6 - 4 6 - 4
อีก 4 เกมที่เพิ่มขึ้นมานั้นเกิดจากการที่ ฮีวิทท์ใช้วิญญาณของตนถมมันขึ้นมา
สมศักดิ์ศรีครับ...เป็นแมตช์สุดท้ายที่งดงามและสมกับธาตุแท้ของลูกผู้ชายที่ชื่อ เลย์ตัน ฮีวิทท์ แล้ว
ลาก่อน ฮีวิทท์... ขอบคุณมากที่มอบความทรงจำดี ๆ ให้ผมจนถึงวันสุดท้าย
การพลิกล็อคกลับบ้านเก่าเร็วเกินคาดของนาดาล
ในช่วงปลายปีที่แล้วใน เวิลด์ทัวร์ไฟนอล นาดาลทำผลงานดีไม่น้อย...แม้จะถูกส่งไปอยู่ในกลุ่มแห่งความตายซึ่งนักเทนนิสฝีมือใกล้เคียงกันทั้งหมด
ในทัวร์นาเมนต์ " ตีโชว์ " เดือนธันวาคม นาดาลก็เอาชนะ โรเจอร์ ได้
ถึงทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องที่ โดฮา เขาจะแพ้โนวัคในรอบชิง...แต่ด้วยทุกสิ่งดี ๆ ที่ผ่าน ๆ มาในช่วง 2 เดือนเศษ...ทำให้แฟน ๆ น่าจะคาดหวังถึงสิ่งที่ดีกว่าปีที่แล้วจากตัวเขา
แต่ก็เกิดเรื่องช็อคแฟน ๆ ...เพราะนาดาลพ่ายแพ้ให้แก่ เฟอร์นานโด เวอร์ดาสโก้ ในรอบแรก
บอกตรง ๆ ว่าแมตช์นั้นผมโคตรหลอนเลยครับพี่น้อง
ไอ้เรื่องที่ต้องสู้กันจน 5 เซ็ตนั้น ผมมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา....บางครั้งนักเทนนิสระดับท็อปก็อาจยังไม่เข้าที่ได้ในรอบแรก...ซึ่งเราก็เห็นมาเยอะแล้วว่า...นักเทนนิสซึ่งเกือบแพ้ในรอบแรกสามารถคว้าแชมป์ได้
ไอ้ที่ผมว่าโคตรหลอนมันอยู่ในเซ็ต 5...ตอนที่ นาดาล เบรคเกมเสิร์ฟ เวอร์ดาสโก้ ได้ก่อนและรักษาเกมเสิร์ฟจนนำ 2 - 0 ได้
ตอนนั้น ราฟา ยังดูสดชื่น กระปี้กระเป่าราวกับว่า " แข่งจบแล้ว...เล่นรอบ 2 ต่อทันทีก็ยังไหว "...ส่วน เวอร์ดาสโก้ เข่าอ่อนจนต้องใช้ไม้ยัน...หอบราวกับจะขาดใจตายตรงนั้น
แต่สภาพยักแย่ยักยันแบบนั้น..มันกล้า ๆ 6 เกมรวดว่ะ...บ้าดีชะมัด
คนที่ช้ำ..นอกจากตัว นาดาล แล้ว...KIA Motor สปอนเซอร์ใหญ่ของรายการและเป็นผู้จ้าง ราฟา เป็นพรีเซนเตอร์ก็น่าจะสะอึกไม่น้อย
อุตส่าห์ถ่ายโฆษณาใหม่เอี่ยมซะเท่ห์เลย..พรีเซนเตอร์คู่บุญดันตกรอบแต่ไก่โห่
ดันไม่ปล่อยไม้เด็ดที่ซ่อนอยู่ในมือขวา
โรเจอร์ โนวัค แอนดี้ สามเทพโชว์ฟอร์มแจ่ม
โรเจอร์ และ แอนดี้ ผ่านคู่แข่งทั้ง 2 รอบไปอย่างค่อนข้างขาดลอย
ส่วนโนวัค...แม้จะชนะด้วยสกอร์ไม่ขาดลอย...แต่ฟอร์มการเล่นที่เห็นก็ให้ความรู้สึกราวกับว่า " โล่ที่แทงไม่ทะลุ...ปราการเหล็กกล้าที่ไม่มีวันแตก "
แอนดี้ดูให้ความรู้สึกน่ากลัวกว่าเมื่อปลายปีที่แล้วมาก
ส่วน โรเจอร์ แม้ชนะ 2 รอบ อย่างค่อนข้างขาดลอย....แต่การที่เขาจะเล่นดีต่อไปจนตลอดรอดฝั่งได้มั๊ยยังคงเป็นคำถามครับ
นั่นเพราะฟอร์มในทัวร์นาเมนต์ " ตีโชว์ " เมื่อเดือนก่อนไม่ดีเอาซะเลย
ถึงจะบอกว่าผลงานในทัวร์นาเมนต์แบบนั้นเอามาวัดไม่ได้...แต่ โรเจอร์ ก็แพ้เยอะเกินไปจริง ๆ เมื่อเดือนก่อน
ในทัวร์นาเมนต์ที่ บริสเบน โรเจอร์ก็ป้องกันแชมป์ไม่ได้...แถมฟอร์มดูขึ้น ๆ ลงๆ ไม่แน่นอนด้วย
เราสามารถหวังกับผลงานของ โนวัค กับ แอนดี้ ในฐานะตัวเต็งลุ้นแชมป์
แล้วโรเจอร์ล่ะ
* ต่อความเห็นที่ 1
Australian Open ผ่านไปสี่วัน....กับเรื่องราวมากมาย
รอบต่อไปจะเป็นรอบที่เหล่ามือวางอันดับจะเริ่มประชันกัน
ด้วยระดับของการแข่งที่สูงขึ้นกว่า 2 รอบที่ผ่านมา....หวังว่าคงสนุกจุใจพวกเราเหล่าผู้ชมครับ
ทว่า...ในการแข่ง 2 รอบที่ผ่านมาก็มีสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย
ทั้งเรื่องช๊อค...เรื่องใจหาย...เรื่องน่าประทับใจ...เรื่องปกติเดิม ๆ ที่เกิดประจำแต่น่าทึ่ง
ลองมาดูกัน
แมตช์ชายเดี่ยวอาชีพแมตช์สุดท้ายของ เลย์ตัน ฮีวิทท์
ผมเริ่มดูเทนนิสเมื่อราว ๆ 8 ปีก่อน
ในตอนนั้น เลย์ตัน ฮีวิทท์ หาใช่นักเทนนิสระดับท็อปของวงการ...ยุคทองของเขาได้ผ่านมาหลายปีก่อนหน้านั้นแล้ว
ผมจึงไม่ได้มีความประทับใจในตัวเขา...ในสมัยที่เขาเป็นมือหนึ่งของโลกหรือสมัยที่เขายังเป็นระดับท็อปที่ไล่เบียดกับ โรเจอร์ นาดาล หรือ ร็อดดิค ในระดับสูงของวงการได้อยู่
ไม่เคยดูเขาตอนเป็นเทพ...
ทว่าในปี 2012 เลย์ตัน ฮีวิทท์ ในช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพคนนี้ก็สร้างความทรงจำดี ๆ ให้ผมจนได้
ในสังเวียน ออสเตรเลียนโอเพน เมื่อ 4 ปี ก่อนนี้แหล่ะ
คู่แข่งของเขาคือดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการ มิลอส ราโอนิช
ราโอนิชโชว์ศักยภาพของดาวรุ่งผู้มีศักยภาพที่อาจพอจะก้าวขึ้นมาชิงชัยตำแหน่งมือ 1 ของโลกในอนาคตได้ออกมาให้เห็นเต็มที่
ลูกเสิร์ฟที่ร้ายกาจ...
ลูกตีที่หนักหน่วง...
ความคล่องตัวที่อยู่เหนือมาตรฐานนักเทนนิสร่างยักษ์ทั่วไป...
ความอึด...
ร่างกายที่แข็งแรงทนทานฟื้นตัวเร็วของวัยหนุ่ม...
ชั้นเชิงและจินตนาการในการเล่นที่เหนือนักเทนนิสเยาว์วัยทั่วไป....
หัวใจของเด็กหนุ่มที่ยังไม่เห็นเพดานของตัวเอง...
ราโอนิชใช้ทุกสิ่งที่มีนี้ไล่อัดรุ่นพี่ร่วมอาชีพผู้มากประสบการณ์และเคยสัมผัสเกียรติยศมามากมายอย่างไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรี
สถิติเแทบทุกอย่างบ่งบอกว่า ราโอนิช เหนือกว่า ฮีวิทท์
ขณะเล่นกันราว ๆ เซ็ตที่ 4 ..มีกราฟฟิคขึ้นแต้มที่ทำได้ของทั้งสองคน...ราโอนิชทำแต้มรวมมากกว่าฮีวิทท์ถึงราว ๆ 20 แต้ม
หากใครดูเกมวันนั้นจะไม่รู้สึกแปลกใจเลยซักนิดครับว่าทำไมแต้มถึงห่างกันมากขนาดนี้
ในเกมเสิร์ฟของราโอนิชแทบทั้งหมด...ปิดได้อย่างโล่งสบาย...ด้วยลูกเสิร์ฟอันร้ายกาจของเขา
ส่วนในเกมเสิร์ฟของฮีวิทท์...ฮีวิทท์ต้องพยายามอย่างหนักกว่าจะปิดเกมเสิร์ฟในแต่ละเกมได้
ฮีวิทท์วิ่งไล่ลูกไม่หยุด...สภาพร่างกายของนักหวดวัย 31 ซึ่งต้องวิ่งไล่ลูกหนัก ๆ ของเด็กหนุ่มอายุ 20 ตัวใหญ่แข็งแรง...มันแสดงออกมาให้เห็นกันชัด ๆ จากภาษากายภายนอก
ทั้งเข่าอ่อนจนต้องเอาแร็กเก็ตยันพื้น...ทั้งหอบตัวโยน
ร่างกาย..ลูกเสิร์ฟ...สปีดบอล...ความอึด...แต้มรวม...ฮีวิทท์เป็นรองเด็กรุ่นหลังคนนี้ทุกประการ
เขาควรจะถูกถล่มจนพังราบและแพ้ขาดไปนานแล้ว...แต่ก็ยังกัดฟันแข็งใจรักษาเกมเสิร์ฟไล่เกาะ ราโอนิช ไว้ได้
หัวใจ....ใจที่สู้ไม่ยอมแพ้
ฮีวิทท์ใช้สิ่งที่อยู่เหนือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ทั้งมวลค้ำยันตนเองให้ยังคงอยู่ในแมตช์ได้...แม้จะโดนไล่ถล่มอย่างหนัก
หลังจากยันการไล่กระหน่ำของนักหวดรุ่นน้องไว้อย่างเต็มความสามารถ...จนเด็กเริ่มมีหวั่นไหวและเปิดโอกาสให้ฉกฉวย
ฮีวิทท์ไม่ปล่อยให้โอกาสอันน้อยนิดผ่านเลยไป...และสามารถเอาชนะคู่แข่งที่เป็นเบี้ยบนอยู่แทบจะตลอดเกมได้อย่างน่าประทับใจที่สุด
มันไม่ใช่ว่ากระแสเกมมาและสามารถชิงเป็นเบี้ยบนเหนือคู่แข่งได้เป็นช่วง ๆ ...ทีใครที่มันช่วงใครช่วงมันแบบการแข่งทั่วไปนะครับ
ฮีวิทท์โดน ราโอนิช กดอยู่ตลอด...มีแค่เฉพาะเกมที่เบรคได้หรือคะแนนที่เฉือนในไทร์เบรคเท่านั้นที่ฮีวิทท์เหนือกว่า
แมตช์นี้คือหนึ่งในแมตช์ที่ผมประทับใจสูงสุดเฉกเช่นเดียวกับ
โรเจอร์ - ราฟา วิมเบิลดัน 2008....เวิลด์ทัวร์ไฟนอล 2010
โรเจอร์ - โนวัค เฟรนช์โอเพน 2011....วิมเบิลดัน 2014....ยูเอสโอเพน 2015
สังเกตดูจะรู้ว่า...แมตช์ประทับใจอื่น ๆ ของผมล้วนเป็นการแข่งของระดับท็อปเจอกันทั้งสิ้น...แต่การแข่งขันของ ฮีวิทท์ - ราโอนิช ไม่ได้เป็นการแข่งของมือวางอันดับที่สูงส่งอะไรเลยในเวลานั้น
นั่นเพราะถึงจะล่วงเลยวันเวลาที่อยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพมานานแล้ว...ธาตุแท้ของลูกผู้ชายที่ชื่อ เลย์ตัน ฮีวิทท์ ยังคงโยกคลอนใจผมได้อยู่ดี
ผ่านจากวันนั้นมา 4 ปี ในทัวร์นาเมนต์เดิม....ฮีวิทท์ได้เดินหน้าเข้าสู่แมตช์ชายเดี่ยวสุดท้ายในชีวิตนักเทนนิสของเขา..โดยประกาศว่าจะเล่นเทนนิสอาชีพที่ ออสเตรเลียนโอเพนนี้เป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในชีวิต
เชื่อว่าแฟนเทนนิสซึ่งเคยตามเชียร์ ฮีวิทท์ มา...คงให้ความสนใจการแข่งของเขาใน ออสเตรเลียนโอเพน ปีนี้เป็นพิเศษ
การแข่งของเขาไม่ว่าแมตช์ไหน..ก็อาจเป็นแมตช์สุดท้ายในชีวิต...นั่นก็คือมันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เห็นเขาโลดแล่นอยู่ในสังเวียนเทนนิสอาชีพ
ฮีวิทท์ผ่านรอบแรกได้...โดยโค่นนักหวดหนุ่มร่วมชาติซึ่งอ่อนวัยกว่าเขานับ 10 ปี..." สภาพยังใช้ได้อยู่เลยนี่นา "....แฟน ๆ อาจรู้สึกเสียดาย
เชื่อว่าตอนเห็นชื่อคู่แข่งในรอบที่ 2 ของ ฮีวิทท์ แล้ว....หลายท่านคงทำใจไว้แล้วว่า...แมตช์สุดท้ายของฮีวิทท์น่าจะอยู่ที่รอบ 2 นี่ล่ะ
ดาวิด เฟอแรร์ นักเทนนิสมือ 8 ของโลก
อย่างที่เรา ๆ ท่าน ๆ รู้กันดีว่า...การเป็นมือ 8 ในยุคที่เทนนิสชายมีมาตรฐานแกร่งอย่างตอนนี้มันหมายถึงอะไร
นักเทนนิสอย่าง ดาวิด เฟอแรร์ ที่ว่ากันว่า...ถ้าไปอยู่ในยุคที่เหมาะสมกว่านี้...อาจคว้าแกรนด์สแลมติดไม้ติดมือมาได้บ้างแล้ว
สำหรับ ฮีวิทท์ วัย 35....ดาวิด เฟอแรร์ ซึ่งกำลังจะ 34 ในอีกไม่กี่เดือน...ถือเป็น " คนรุ่นเดียวกัน " ได้...ถึงแม้ฮีวิทท์จะเทิร์นโปรเร็วกว่าเฟอแรร์หลายปี
ฮีวิทท์นับเป็นนักเทนนิสพรสวรรค์...เขารุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว....และเป็นมือ 1 ของโลกตั้งแต่อายุ 20....แต่พอพ้นช่วงวัย 25 ก็ไม่ใช่ช่วงรุ่งของเขา
เฟอแรร์กลับเรียกได้ว่าเป็นนักเทนนิสพรแสวง...เขาค่อย ๆ รุ่งค่อย ๆ เติบโต...ยามทะลุขึ้นเป็นท็อป 10 ได้...เขาเคยเผชิญกับกำแพงที่ขวางระหว่างมือท็อป 20 กับ มือ ท็อป 10 อยู่ช่วงนึง...หลังจากที่เขาฝ่ากำแพงนั้นได้...เขาก็อยู่ในระดับสูงมายาวนานจนถึงวันนี้
พรแสวงของเขานับว่าเอาชนะอายุและสังขารได้อย่างที่ไม่ต้องพิสูจน์ตนเองอีกแล้ว
นับเป็นคู่หวดวัยดึกที่แตกต่างอย่างยิ่ง
เมื่อเริ่มแมตช์...เฟอแรร์โชว์ศักยภาพที่เหนือกว่าฮีวิทท์ในปัจจุบันอย่างท่วมท้น...คว้าเซ็ตแรกไปอย่างง่ายดาย
ความอึด และ ความคล่องตัวของ เฟอแรร์ เหนือกว่า ฮีวิทท์ ในปัจจุบันอย่างชัดเจน
ทั้งคู่เป็นนักเทนนิสสไตล์เหนียวแน่นไม่พึ่งลูกเสิร์ฟเหมือนกัน...แต่การเล่นในแนวทางนี้ในตอนนี้นับว่าเฟอแรร์เหนือกว่าฮีวิทท์พอดู
ถึง เฟอแรร์ จะได้ชื่อว่าเป็นนักเทนนิสที่ไม่มีปมเด่นด้านเกมรุก...แต่ฮีวิทท์ในปัจจุบันก็ยังเป็นรอง เฟอแรร์ในด้านการเล่นเชิงรุก
ด้านประสบการณ์..ฮีวิทท์ผ่านศึกมากกว่า 850 แมตช์...เก็บชัยชนะเกิน 600 เมตช์...ซึ่ง เฟอแรร์ ก็ไม่แพ้กัน...โดยผ่านสมรภูมิใกล้ 1000 แมตช์ อยู่รอมร่อ..เก็บชัยชนะได้กว่า 650 แมตช์....ในวันนี้ถือว่าประสบการณ์ของ ฮีวิทท์ ไม่เป็นต่อคู่แข่งอย่างที่เคยเป็นมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ด้านใจสู้ในเวลาปกติ...ดาวิด เฟอแรร์ ก็นับว่าใจสู้ไม่แพ้ ฮีวิทท์
ดู ๆ แล้ว ....ไม่ว่าด้านไหน ๆ ...ฮีวิทท์ก็ไม่มีแง่มุมไหนจะเอาไปสู้เฟอแรร์ในตอนนี้เลย...รองบ่อนกว่าเห็น ๆ
เพียงแต่วันนี้เป็นวันพิเศษของ ฮีวิทท์...ซึ่งต่างจากปกติ
ฮีวิทท์รู้ตัวดีว่าวันนี้อาจเป็นแมตช์สุดท้ายในชีวิตเขา...
เขาเล่นโดยไม่ต้องคาดหวังถึงวันพรุ่งนี้...ทัวร์นาเมนต์ต่อไป...หรือเก็บพลังให้เล่นได้ครบปี
ถ้าผ่านวันนี้ไปไม่ได้ก็ไม่มีแมตช์ต่อไปอีกแล้ว
ฮีวิทท์จึงทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างลงไปในแมตช์นี้
ในขณะที่นักเทนนิสมือวางอันดับ 8 ของโลก อย่าง ดาวิด เฟอแรร์ ยังเล่นเทนนิสแบบคาดหวังถึงวันพรุ่งนี้อยู่
เขาต้องเล่นโดยถนอมร่างกายให้มากที่สุดเพื่อสู้กับคู่แข่งมือพระกาฬในรอบลึก ๆ...เขาคาดหวังถึงทัวร์นาเมนต์หน้า...และยังต้องเล่นจนถึงเดือนพฤศจิกายน
สิ่งเดียวที่ ฮีวิทท์ เหนือกว่า เฟอแรร์ในเวลานี้คือ วันนี้เขาถวายชีวิตกว่าเฟอแรร์
หลังจาก เฟอแรร์ เป็นต่อคู่แข่งอยู่เซ็ตครึ่ง
เซ็ตแรกชนะอย่างงดงาม..เซ็ต 2 เบรคได้ก่อนและคุมสถานการณ์ได้
เลย์ตัน ฮีวิทท์ ได้แสดงให้เห็นถึงสปิริตของเขาที่ไม่ยอมถอดใจง่าย ๆ
ในเกมที่ 8 ของเซ็ต 2 เขาสร้างความลำบากให้ เฟอแรร์ อย่างแสนสาหัส ด้วยการสร้างโอกาสเบรค เฟอแรร์ ถึง 7 เบรคพอยต์ในเกมเดียว
ถึงสุดท้ายเขาจะไม่สามารถหัก เฟอแรร์ ในเกมนั้นได้...แต่นั่นเป็นการส่งสัญญาณออกมาแล้วว่า...เขายังไม่ทิ้งแมตช์นี้
เซ็ตสุดท้ายในชีวิตของฮีวิทท์...การที่สูญพลังกายและพลังใจไปมากในช่วงท้ายเซ็ต 2 ...ดูเหมือนจะส่งผลต่อตัว ฮีวิทท์ ไม่น้อย
ฮีวิทท์โดนเบรคไปอีกแล้ว...ในเซ็ต 3 นี้มีทีท่าว่าเกมจะขาดกระจุยเป็นเค้าลางให้เห็น
ทว่า ฮีวิทท์ กลับออกหมัดตอบโต้จนคู่แข่งล้มลงไปให้กรรมการนับได้อย่างน่าประทับใจ...ฮีวิทท์เบรคเกมเสิร์ฟของ เฟอแรร์ คืนมา
ฮีวิทท์เผาไหม้ช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตนักเทนนิสของเขาจนขาวโพลน ( ยืมคำการ์ตูนชกมวยคลาสสิคมาใช้ซักหน่อย )
ในที่สุดเซ็ตนั้นก็จบลงด้วยการที่ เฟอแรร์ สามารถเบรคอีกครั้งและเอาชนะ ฮีวิทท์ ไปได้
3 - 0 เซ็ต...สกอร์ที่ดูเผิน ๆ เหมือนกับแพ้ขาดลอย....แต่มันกินเวลาถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง
ดูจากรูปเกม..สกอร์มันควรจะออกมาที่ 6 - 2 6 - 2 6 - 2 มากกว่า 6 - 2 6 - 4 6 - 4
อีก 4 เกมที่เพิ่มขึ้นมานั้นเกิดจากการที่ ฮีวิทท์ใช้วิญญาณของตนถมมันขึ้นมา
สมศักดิ์ศรีครับ...เป็นแมตช์สุดท้ายที่งดงามและสมกับธาตุแท้ของลูกผู้ชายที่ชื่อ เลย์ตัน ฮีวิทท์ แล้ว
ลาก่อน ฮีวิทท์... ขอบคุณมากที่มอบความทรงจำดี ๆ ให้ผมจนถึงวันสุดท้าย
การพลิกล็อคกลับบ้านเก่าเร็วเกินคาดของนาดาล
ในช่วงปลายปีที่แล้วใน เวิลด์ทัวร์ไฟนอล นาดาลทำผลงานดีไม่น้อย...แม้จะถูกส่งไปอยู่ในกลุ่มแห่งความตายซึ่งนักเทนนิสฝีมือใกล้เคียงกันทั้งหมด
ในทัวร์นาเมนต์ " ตีโชว์ " เดือนธันวาคม นาดาลก็เอาชนะ โรเจอร์ ได้
ถึงทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องที่ โดฮา เขาจะแพ้โนวัคในรอบชิง...แต่ด้วยทุกสิ่งดี ๆ ที่ผ่าน ๆ มาในช่วง 2 เดือนเศษ...ทำให้แฟน ๆ น่าจะคาดหวังถึงสิ่งที่ดีกว่าปีที่แล้วจากตัวเขา
แต่ก็เกิดเรื่องช็อคแฟน ๆ ...เพราะนาดาลพ่ายแพ้ให้แก่ เฟอร์นานโด เวอร์ดาสโก้ ในรอบแรก
บอกตรง ๆ ว่าแมตช์นั้นผมโคตรหลอนเลยครับพี่น้อง
ไอ้เรื่องที่ต้องสู้กันจน 5 เซ็ตนั้น ผมมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา....บางครั้งนักเทนนิสระดับท็อปก็อาจยังไม่เข้าที่ได้ในรอบแรก...ซึ่งเราก็เห็นมาเยอะแล้วว่า...นักเทนนิสซึ่งเกือบแพ้ในรอบแรกสามารถคว้าแชมป์ได้
ไอ้ที่ผมว่าโคตรหลอนมันอยู่ในเซ็ต 5...ตอนที่ นาดาล เบรคเกมเสิร์ฟ เวอร์ดาสโก้ ได้ก่อนและรักษาเกมเสิร์ฟจนนำ 2 - 0 ได้
ตอนนั้น ราฟา ยังดูสดชื่น กระปี้กระเป่าราวกับว่า " แข่งจบแล้ว...เล่นรอบ 2 ต่อทันทีก็ยังไหว "...ส่วน เวอร์ดาสโก้ เข่าอ่อนจนต้องใช้ไม้ยัน...หอบราวกับจะขาดใจตายตรงนั้น
แต่สภาพยักแย่ยักยันแบบนั้น..มันกล้า ๆ 6 เกมรวดว่ะ...บ้าดีชะมัด
คนที่ช้ำ..นอกจากตัว นาดาล แล้ว...KIA Motor สปอนเซอร์ใหญ่ของรายการและเป็นผู้จ้าง ราฟา เป็นพรีเซนเตอร์ก็น่าจะสะอึกไม่น้อย
อุตส่าห์ถ่ายโฆษณาใหม่เอี่ยมซะเท่ห์เลย..พรีเซนเตอร์คู่บุญดันตกรอบแต่ไก่โห่
ดันไม่ปล่อยไม้เด็ดที่ซ่อนอยู่ในมือขวา
โรเจอร์ โนวัค แอนดี้ สามเทพโชว์ฟอร์มแจ่ม
โรเจอร์ และ แอนดี้ ผ่านคู่แข่งทั้ง 2 รอบไปอย่างค่อนข้างขาดลอย
ส่วนโนวัค...แม้จะชนะด้วยสกอร์ไม่ขาดลอย...แต่ฟอร์มการเล่นที่เห็นก็ให้ความรู้สึกราวกับว่า " โล่ที่แทงไม่ทะลุ...ปราการเหล็กกล้าที่ไม่มีวันแตก "
แอนดี้ดูให้ความรู้สึกน่ากลัวกว่าเมื่อปลายปีที่แล้วมาก
ส่วน โรเจอร์ แม้ชนะ 2 รอบ อย่างค่อนข้างขาดลอย....แต่การที่เขาจะเล่นดีต่อไปจนตลอดรอดฝั่งได้มั๊ยยังคงเป็นคำถามครับ
นั่นเพราะฟอร์มในทัวร์นาเมนต์ " ตีโชว์ " เมื่อเดือนก่อนไม่ดีเอาซะเลย
ถึงจะบอกว่าผลงานในทัวร์นาเมนต์แบบนั้นเอามาวัดไม่ได้...แต่ โรเจอร์ ก็แพ้เยอะเกินไปจริง ๆ เมื่อเดือนก่อน
ในทัวร์นาเมนต์ที่ บริสเบน โรเจอร์ก็ป้องกันแชมป์ไม่ได้...แถมฟอร์มดูขึ้น ๆ ลงๆ ไม่แน่นอนด้วย
เราสามารถหวังกับผลงานของ โนวัค กับ แอนดี้ ในฐานะตัวเต็งลุ้นแชมป์
แล้วโรเจอร์ล่ะ
* ต่อความเห็นที่ 1