ไหนใครต้องนั่งทำงานทุกวัน จนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แล้วก็กลัวตัวจะแตกเหมือนกันบ้าง! เราขอยกมือก่อนเลยเป็นคนแรก 555 เพราะเราก็เป็นหนึ่งในมนุษย์เงินเดือน ทำงานอยู่กับที่ ไม่ค่อยได้เดินไปไหน เรียกได้ว่าแทบไม่ได้ใช้พลังงานเลยในแต่ละวัน ก็เลยกลัวมากว่าตัวจะระเบิดเอาสักวัน เราก็เลยลองไปหาวิธีง่ายๆที่เราสามารถควบคุมอาหารและช่วยให้เราไม่กินเยอะจนเกินไปมาฝากด้วยค่ะ
เป็น Application สำหรับใช้บันทึกแคลอรี่อาหารที่เรากินในแต่ละวัน และเน้น App ฟรีเป็นหลักด้วยนะคะ เราว่า App พวกนี้น่าจะช่วยให้คนทำงานประจำอย่างเราๆดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้นมากเลยนะ
Application จะช่วยให้เราสามารถควบคุมตัวเองได้ง่ายมากขึ้น แต่ยังไงก็ต้องอาศัยความมีวินัย และไม่หลอกตัวเองกันด้วยนะคะ จึงจะได้รับประโยชน์ต่อตัวเองมากที่สุด
1. แคลอรี่ ไดอารี่
โหลดได้ที่: Android -
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.dimo.util.caloriediary
Ios -
https://itunes.apple.com/th/app/kh-lxri-dixari/id892040449?l=th&mt=8
App บันทึกแคลอรี่ หรือเรียกง่ายๆก็เป็นสมุดไดอารี่ไว้บันทึกประวัติการกินและการออกกำลังกายของเรานั่นเอง ซึ่ง App นี้ก็ใช้งานง่ายมาก เพราะเป็น App จากคนไทยและเป็นภาษาไทยล้วนๆเลย รวมทั้งรูปแบบของ App ก็ดูน่ารักด้วยค่ะ
อันดับแรกเลยหลังจากที่โหลด App มาเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องกรอกรายละเอียดส่วนตัวเล็กน้อยค่ะ ได้แก่ อายุ ส่วนสูงและน้ำหนักปัจจุบันของเรานั่นเอง รวมทั้งต้องใส่เป้าหมายน้ำหนักที่เราต้องการจะลดด้วยนะคะ แล้ว App จะคำนวณให้เลยว่าเราต้องกินวันละกี่แคล ถึงจะลดได้ตามเป้า
วิธีการบันทึกรายการอาหารก็ไม่ยากค่ะ ตัว App จะมีเมนูอาหารอยู่ในระบบแล้ว เราก็แค่เสิร์ชหาเป็นภาษาไทยได้เลย เมื่อเสิร์ชเจอแล้ว App ก็จะบอกปริมาณแคลอรี่ของอาหารนั้นๆ และวิธีการออกกำลังกายเพื่อที่จะเบิร์นที่กินออกให้หมด
และถ้าหากเรามีออกกำลังกายอะไรบ้างในแต่ละวัน เราก็สามารถแอดเข้าไปได้ด้วยเช่นกันค่ะ แล้ว App จะคำนวณให้โดยอัตโนมัติเลยว่ากินไปเท่าไร แล้วเหลืออีกกี่แคลที่จะกินเข้าไปได้อีกค่ะ
App นี้ใช้งานง่ายมากก็จริง แต่อาจติดนิดนึงตรงที่ จำนวนรายชื่อเมนูอาหารและการออกกำลังกายค่อนข้างมีจำกัด ดังนั้นบางเมนูอาจจะเสิร์ชไม่เจอ เราจึงต้องทำการเพิ่มรายชื่อเข้าไปใน App เอง แต่ต้อง Upgrade เป็นแบบ Premium (เสียตัง) นั่นเองค่ะ
2. CalTracker
โหลดได้ที่ Android -
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.durianzapp.CalTrackerApp
อีก App จากคนไทยค่ะ เป็น App ที่ใช้งานง่าย รูปแบบไม่ซับซ้อนคล้ายๆกับ App แรกนั่นเองค่ะ เบื้องต้นเลยก็ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ น้ำหนัก ส่วนสูง และกิจกรรมที่เราทำเป็นประจำ
หลังจากนั้นเราก็ทำการบันทึกเมนูอาหารที่เรากินในแต่ละวันได้เลยค่ะ โดยการเสิร์ชหาเมนูอาหาร ซึ่งใน App นี้ จะเสิร์ชหาได้จาก 3 ส่วนด้วยกัน ทั้งหมวดหมู่ ชื่ออาหาร และจากปริมาณแคลอรี่ค่ะ
แต่ถ้าเสิร์ชแล้วไม่เจอ ใน App นี้จะให้เรา Add เมนูเพิ่มได้ด้วยค่ะ(ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มด้วยนะ)
อ้อ! แต่ App นี้จะไม่มีเรื่องของการออกกำลังกายและไม่ได้บอกว่าต้องออกกำลังกายแบบไหน ถึงจะช่วยเบิร์นได้เหมือน App แรกนะคะ
3. MyFitnessPal
โหลดได้ที่: Android –
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.myfitnesspal.android
Ios -
https://itunes.apple.com/th/app/calorie-counter-diet-tracker/id341232718?mt=8
หลังจากที่แนะนำ App ของคนไทยด้วยกันไปแล้วนะคะ เราก็มี App ของต่างชาติมาแนะนำด้วยเหมือนกันค่ะ และเมื่อโหลด App มาเรียบร้อยแล้ว ต้องทำการ Log in ก่อนนะคะ โดยจะสมัครใหม่เลยด้วย Email หรือ Log in ผ่าน Facebook ก็ได้เลยค่ะ
แล้ว App ก็จะถามข้อมูลของเราเล็กน้อยค่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นเป้าหมายของเราว่าอยากจะลด / เพิ่มน้ำหนัก กิจกรรมที่ทำเป็นประจำในแต่ละวัน เพศ วันเกิด ส่วนสูง น้ำหนักปัจจุบันและน้ำหนักที่อยากจะลดได้ รวมทั้งเป้าหมายที่อยากจะลดในแต่ละสัปดาห์
เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว App ก็จะทำการคำนวณมาให้เลยว่า เราต้องกินวันละไม่เกินที่แคลอรี่ ถึงจะลดน้ำหนักได้ตรงตามเป้าที่กำหนดไว้
เราก็แค่ทำการบันทึกสิ่งที่เรากินและออกกำลังกายในแต่ละวันลงไปใน App โดยสามารถเสิร์ชหาเมนูอาหารจากใน App ได้เลยค่ะ มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษเลยนะ
แล้วยังมีกราฟแสดงแคลอรี่ สารอาหารที่ได้จากเมนูที่เรากิน รวมทั้งกราฟแสดงความเคลื่อนไหวของน้ำหนักตัวเราด้วย
จุดเด่นอีกอย่างของ App นี้คือ สามารถเชื่อมต่อกับ App ออกกำลังกายอื่นๆ อย่าง Runtastic หรือ Fitbit ได้ด้วยนะคะ
4. MyNetDiary
โหลดได้ที่: Android –
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.fourtechnologies.mynetdiary.ad&hl=th
Ios -
https://itunes.apple.com/us/app/calorie-counter-pro-by-mynetdiary/id352247139?mt=8
เป็น App สำหรับบันทึกแคลอรี่และการออกกำลังกายอีก App จากต่างชาติค่ะ ซึ่งรูปแบบการใช้งานก็ง่าย ไม่ซับซ้อน พอโหลด App มาเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องใส่ข้อมูลเบื้องต้น เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง วันเกิด และเป้าหมายน้ำหนักที่ต้องการลดค่ะ
หลักจากนั้น App ก็จะคำนวณจำนวนแคลอรี่ที่เหมาะสมกับน้ำหนักที่เราต้องการลดให้เลย เช่น อยากลดสัปดาห์ละกี่โล เราจะต้องกินกี่แคล
แล้วเราก็ทำการบันทึกเมนูอาหารที่กินในแต่ละวันลง App ได้เลยค่ะ โดยต้องเสิร์ชชื่อเมนูอาหารเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ แต่ App นี้จะเด็ดตรงที่เราสามารถสแกน Barcode ที่อาหารได้ด้วยแหละ
นอกจากใส่รายการอาหารแล้ว ก็สามารถใส่การออกกำลังกาย น้ำดื่ม วิตามิน ที่กินเข้าไปในแต่ละวัน เพื่อให้ App วิเคราะห์ให้ได้ด้วยค่ะ
สำหรับ App ที่ใช้บันทึกแคลอรี่และออกกำลังกายก็จะมีประมาณนี้ค่ะ มีทั้งของไทยและต่างชาติเลย และโหลดฟรีทั้งหมดด้วยค่ะ เพราะงั้นเราว่าเพื่อนๆลองโหลดมาเล่นกันดูก่อนก็ได้นะคะ ว่าชอบหรือใช้งาน App ไหนมากกว่ากัน แล้วก็พยายามใช้ให้เป็นนิสัยค่ะ
แต่เรามีแถมเพิ่มนิดนึง เป็น App ออกกำลังกายลดน้ำหนักที่ช่วยในการคำนวณระยะทางต่างๆ เหมาะกับคนที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำนะคะ
1. Endomondo
โหลดได้ที่: Android –
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.endomondo.android
Ios -
https://itunes.apple.com/th/app/running-walking-endomondo/id333210180?mt=8
App ยอดฮิต ที่เหล่าบรรดาผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นประจำต้องรู้จักอย่างแน่นอน โดยเป็น App ที่ใช้ในเรื่องของการออกกำลังกายลดน้ำหนักโดยเฉพาะค่ะ ทั้งช่วยคำนวณระยะทาง เวลา อัตราการเต้นของหัวใจ และแคลอรี่ที่ถูกใช้ไปในขณะที่ออกกำลังกาย
เมื่อโหลด App มาเรียบร้อยแล้ว ก็ต้อง Log in ก่อน เราสามารถเข้าได้ด้วย Facebook หรือสมัครด้วย Email ก็ได้เช่นกันค่ะ
เราสามารถเลือกรูปแบบของการออกกำลังกายจากภายใน App ได้เลยค่ะ จะมีให้เลือกอยู่เยอะพอสมควร คิดว่าน่าจะครอบคลุมเกือบทุกอย่างแล้วนะคะ
คุณสมบัติหลักของ App ก็จะช่วยคำนวณระยะทาง เวลา ความเร็ว และจำนวนแคลอรี่ที่ใช้ไปในแต่ละรูปแบบของการออกกำลังกายนั่นเองค่ะ แล้วยังสามารถดูประวัติ เส้นทางการออกกำลังกาย รวมทั้งเวลาเฉลี่ยของเราเองได้ด้วยเช่นกัน
แนะนำว่าใช้ App นี้เพื่อดูการเผาผลาญแคลอรี่จากการออกกำลังกาย ควบคู่กับ App บันทึกแคลอรี่และการออกกำลังกายไปด้วยเลย น่าจะช่วยให้เราสามารถควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้นนะคะ
2. Nike+ Training Club
โหลดได้ที่: Android –
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.nike.ntc&hl=th
Ios –
https://itunes.apple.com/us/app/nike+-training-club/id301521403?mt=8
App นี้เคลมไว้ว่า พอเราโหลดมาปุ๊ปก็จะเหมือนมีเทรนเนอร์มาฝึกให้แบบทุกที่ ทุกเวลากันเลยทีเดียวค่ะ เป็นอีก App นึงจาก Nike+ ที่รูปแบบ App สวยงาม หน้าตาน่าใช้งาน และระบบใช้งานง่าย
จากนั้นก็ต้อง Log in โดยใช้ Facebook หรือ Email ก็ได้นะคะ และต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวเล็กน้อย
เมื่อเข้ามาใน App ก็จะถามเราก่อนค่ะ ว่าต้องการออกกำลังกายสไตล์ไหน พึ่งจะเริ่มออกกำลังหรือออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งรูปแบบการออกกำลังก็จะถูกออกแบบให้เข้ากับแต่ละบุคคลจากเป้าหมายที่ต้องการนั่นเองค่ะ
หลังจากนั้นก็เริ่มออกกำลังกายกันได้เลย มีให้เลือกหลากหลายมากเลยทีเดียวค่ะ แล้วไม่ต้องกังวลว่าจะทำท่าตามไม่ถูก เพราะทาง App มีเป็นคลิปวีดีโอสำหรับแต่ละท่าทางมาสาธิตให้ดูกันแบบชัดเจนเลยทีเดียว
ลองดูคลิปสอนการใช้งาน App เพิ่มเติมได้เลยค่ะ
เท่านี้เราก็สามารถเคลื่อนไหวร่างกายเล็กๆน้อยๆ ได้ตลอดเวลาตามที่ต้องการได้แล้วค่ะ แค่ลองหาเวลาว่างสักพักนึง มายืดเส้นยืดสายกันบ้าง เท่านี้เราก็จะเป็นมนุษย์เงินเดือนที่สุขภาพดีและไม่อ้วนกันแล้ว!
แต่สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ใช่มนุษย์เงินเดือนก็สามารถโหลดเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันกันได้ เพราะการดูแลตัวเองก็สำคัญมากไม่แพ้การทำงานเลยค่ะ อย่างน้อยๆถ้าเราร่างกายแข็งแรง จะได้มีเวลาทำงานและพักผ่อนพร้อมทั้งได้อยู่กับคนที่รักไปนานๆเนอะ
App บันทึกเเคลอรี่และออกกำลังกาย ตอบโจทย์หนุ่มสาวออฟฟิศไม่อยากอ้วน!
เป็น Application สำหรับใช้บันทึกแคลอรี่อาหารที่เรากินในแต่ละวัน และเน้น App ฟรีเป็นหลักด้วยนะคะ เราว่า App พวกนี้น่าจะช่วยให้คนทำงานประจำอย่างเราๆดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้นมากเลยนะ
Application จะช่วยให้เราสามารถควบคุมตัวเองได้ง่ายมากขึ้น แต่ยังไงก็ต้องอาศัยความมีวินัย และไม่หลอกตัวเองกันด้วยนะคะ จึงจะได้รับประโยชน์ต่อตัวเองมากที่สุด
1. แคลอรี่ ไดอารี่
โหลดได้ที่: Android - https://play.google.com/store/apps/details?id=com.dimo.util.caloriediary
Ios - https://itunes.apple.com/th/app/kh-lxri-dixari/id892040449?l=th&mt=8
App บันทึกแคลอรี่ หรือเรียกง่ายๆก็เป็นสมุดไดอารี่ไว้บันทึกประวัติการกินและการออกกำลังกายของเรานั่นเอง ซึ่ง App นี้ก็ใช้งานง่ายมาก เพราะเป็น App จากคนไทยและเป็นภาษาไทยล้วนๆเลย รวมทั้งรูปแบบของ App ก็ดูน่ารักด้วยค่ะ
อันดับแรกเลยหลังจากที่โหลด App มาเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องกรอกรายละเอียดส่วนตัวเล็กน้อยค่ะ ได้แก่ อายุ ส่วนสูงและน้ำหนักปัจจุบันของเรานั่นเอง รวมทั้งต้องใส่เป้าหมายน้ำหนักที่เราต้องการจะลดด้วยนะคะ แล้ว App จะคำนวณให้เลยว่าเราต้องกินวันละกี่แคล ถึงจะลดได้ตามเป้า
วิธีการบันทึกรายการอาหารก็ไม่ยากค่ะ ตัว App จะมีเมนูอาหารอยู่ในระบบแล้ว เราก็แค่เสิร์ชหาเป็นภาษาไทยได้เลย เมื่อเสิร์ชเจอแล้ว App ก็จะบอกปริมาณแคลอรี่ของอาหารนั้นๆ และวิธีการออกกำลังกายเพื่อที่จะเบิร์นที่กินออกให้หมด
และถ้าหากเรามีออกกำลังกายอะไรบ้างในแต่ละวัน เราก็สามารถแอดเข้าไปได้ด้วยเช่นกันค่ะ แล้ว App จะคำนวณให้โดยอัตโนมัติเลยว่ากินไปเท่าไร แล้วเหลืออีกกี่แคลที่จะกินเข้าไปได้อีกค่ะ
App นี้ใช้งานง่ายมากก็จริง แต่อาจติดนิดนึงตรงที่ จำนวนรายชื่อเมนูอาหารและการออกกำลังกายค่อนข้างมีจำกัด ดังนั้นบางเมนูอาจจะเสิร์ชไม่เจอ เราจึงต้องทำการเพิ่มรายชื่อเข้าไปใน App เอง แต่ต้อง Upgrade เป็นแบบ Premium (เสียตัง) นั่นเองค่ะ
2. CalTracker
โหลดได้ที่ Android - https://play.google.com/store/apps/details?id=com.durianzapp.CalTrackerApp
อีก App จากคนไทยค่ะ เป็น App ที่ใช้งานง่าย รูปแบบไม่ซับซ้อนคล้ายๆกับ App แรกนั่นเองค่ะ เบื้องต้นเลยก็ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ น้ำหนัก ส่วนสูง และกิจกรรมที่เราทำเป็นประจำ
หลังจากนั้นเราก็ทำการบันทึกเมนูอาหารที่เรากินในแต่ละวันได้เลยค่ะ โดยการเสิร์ชหาเมนูอาหาร ซึ่งใน App นี้ จะเสิร์ชหาได้จาก 3 ส่วนด้วยกัน ทั้งหมวดหมู่ ชื่ออาหาร และจากปริมาณแคลอรี่ค่ะ
แต่ถ้าเสิร์ชแล้วไม่เจอ ใน App นี้จะให้เรา Add เมนูเพิ่มได้ด้วยค่ะ(ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มด้วยนะ)
อ้อ! แต่ App นี้จะไม่มีเรื่องของการออกกำลังกายและไม่ได้บอกว่าต้องออกกำลังกายแบบไหน ถึงจะช่วยเบิร์นได้เหมือน App แรกนะคะ
3. MyFitnessPal
โหลดได้ที่: Android – https://play.google.com/store/apps/details?id=com.myfitnesspal.android
Ios - https://itunes.apple.com/th/app/calorie-counter-diet-tracker/id341232718?mt=8
หลังจากที่แนะนำ App ของคนไทยด้วยกันไปแล้วนะคะ เราก็มี App ของต่างชาติมาแนะนำด้วยเหมือนกันค่ะ และเมื่อโหลด App มาเรียบร้อยแล้ว ต้องทำการ Log in ก่อนนะคะ โดยจะสมัครใหม่เลยด้วย Email หรือ Log in ผ่าน Facebook ก็ได้เลยค่ะ
แล้ว App ก็จะถามข้อมูลของเราเล็กน้อยค่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นเป้าหมายของเราว่าอยากจะลด / เพิ่มน้ำหนัก กิจกรรมที่ทำเป็นประจำในแต่ละวัน เพศ วันเกิด ส่วนสูง น้ำหนักปัจจุบันและน้ำหนักที่อยากจะลดได้ รวมทั้งเป้าหมายที่อยากจะลดในแต่ละสัปดาห์
เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว App ก็จะทำการคำนวณมาให้เลยว่า เราต้องกินวันละไม่เกินที่แคลอรี่ ถึงจะลดน้ำหนักได้ตรงตามเป้าที่กำหนดไว้
เราก็แค่ทำการบันทึกสิ่งที่เรากินและออกกำลังกายในแต่ละวันลงไปใน App โดยสามารถเสิร์ชหาเมนูอาหารจากใน App ได้เลยค่ะ มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษเลยนะ
แล้วยังมีกราฟแสดงแคลอรี่ สารอาหารที่ได้จากเมนูที่เรากิน รวมทั้งกราฟแสดงความเคลื่อนไหวของน้ำหนักตัวเราด้วย
จุดเด่นอีกอย่างของ App นี้คือ สามารถเชื่อมต่อกับ App ออกกำลังกายอื่นๆ อย่าง Runtastic หรือ Fitbit ได้ด้วยนะคะ
4. MyNetDiary
โหลดได้ที่: Android – https://play.google.com/store/apps/details?id=com.fourtechnologies.mynetdiary.ad&hl=th
Ios - https://itunes.apple.com/us/app/calorie-counter-pro-by-mynetdiary/id352247139?mt=8
เป็น App สำหรับบันทึกแคลอรี่และการออกกำลังกายอีก App จากต่างชาติค่ะ ซึ่งรูปแบบการใช้งานก็ง่าย ไม่ซับซ้อน พอโหลด App มาเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องใส่ข้อมูลเบื้องต้น เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง วันเกิด และเป้าหมายน้ำหนักที่ต้องการลดค่ะ
หลักจากนั้น App ก็จะคำนวณจำนวนแคลอรี่ที่เหมาะสมกับน้ำหนักที่เราต้องการลดให้เลย เช่น อยากลดสัปดาห์ละกี่โล เราจะต้องกินกี่แคล
แล้วเราก็ทำการบันทึกเมนูอาหารที่กินในแต่ละวันลง App ได้เลยค่ะ โดยต้องเสิร์ชชื่อเมนูอาหารเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ แต่ App นี้จะเด็ดตรงที่เราสามารถสแกน Barcode ที่อาหารได้ด้วยแหละ
นอกจากใส่รายการอาหารแล้ว ก็สามารถใส่การออกกำลังกาย น้ำดื่ม วิตามิน ที่กินเข้าไปในแต่ละวัน เพื่อให้ App วิเคราะห์ให้ได้ด้วยค่ะ
สำหรับ App ที่ใช้บันทึกแคลอรี่และออกกำลังกายก็จะมีประมาณนี้ค่ะ มีทั้งของไทยและต่างชาติเลย และโหลดฟรีทั้งหมดด้วยค่ะ เพราะงั้นเราว่าเพื่อนๆลองโหลดมาเล่นกันดูก่อนก็ได้นะคะ ว่าชอบหรือใช้งาน App ไหนมากกว่ากัน แล้วก็พยายามใช้ให้เป็นนิสัยค่ะ
แต่เรามีแถมเพิ่มนิดนึง เป็น App ออกกำลังกายลดน้ำหนักที่ช่วยในการคำนวณระยะทางต่างๆ เหมาะกับคนที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำนะคะ
1. Endomondo
โหลดได้ที่: Android – https://play.google.com/store/apps/details?id=com.endomondo.android
Ios - https://itunes.apple.com/th/app/running-walking-endomondo/id333210180?mt=8
App ยอดฮิต ที่เหล่าบรรดาผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นประจำต้องรู้จักอย่างแน่นอน โดยเป็น App ที่ใช้ในเรื่องของการออกกำลังกายลดน้ำหนักโดยเฉพาะค่ะ ทั้งช่วยคำนวณระยะทาง เวลา อัตราการเต้นของหัวใจ และแคลอรี่ที่ถูกใช้ไปในขณะที่ออกกำลังกาย
เมื่อโหลด App มาเรียบร้อยแล้ว ก็ต้อง Log in ก่อน เราสามารถเข้าได้ด้วย Facebook หรือสมัครด้วย Email ก็ได้เช่นกันค่ะ
เราสามารถเลือกรูปแบบของการออกกำลังกายจากภายใน App ได้เลยค่ะ จะมีให้เลือกอยู่เยอะพอสมควร คิดว่าน่าจะครอบคลุมเกือบทุกอย่างแล้วนะคะ
คุณสมบัติหลักของ App ก็จะช่วยคำนวณระยะทาง เวลา ความเร็ว และจำนวนแคลอรี่ที่ใช้ไปในแต่ละรูปแบบของการออกกำลังกายนั่นเองค่ะ แล้วยังสามารถดูประวัติ เส้นทางการออกกำลังกาย รวมทั้งเวลาเฉลี่ยของเราเองได้ด้วยเช่นกัน
แนะนำว่าใช้ App นี้เพื่อดูการเผาผลาญแคลอรี่จากการออกกำลังกาย ควบคู่กับ App บันทึกแคลอรี่และการออกกำลังกายไปด้วยเลย น่าจะช่วยให้เราสามารถควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้นนะคะ
2. Nike+ Training Club
โหลดได้ที่: Android – https://play.google.com/store/apps/details?id=com.nike.ntc&hl=th
Ios – https://itunes.apple.com/us/app/nike+-training-club/id301521403?mt=8
App นี้เคลมไว้ว่า พอเราโหลดมาปุ๊ปก็จะเหมือนมีเทรนเนอร์มาฝึกให้แบบทุกที่ ทุกเวลากันเลยทีเดียวค่ะ เป็นอีก App นึงจาก Nike+ ที่รูปแบบ App สวยงาม หน้าตาน่าใช้งาน และระบบใช้งานง่าย
จากนั้นก็ต้อง Log in โดยใช้ Facebook หรือ Email ก็ได้นะคะ และต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวเล็กน้อย
เมื่อเข้ามาใน App ก็จะถามเราก่อนค่ะ ว่าต้องการออกกำลังกายสไตล์ไหน พึ่งจะเริ่มออกกำลังหรือออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งรูปแบบการออกกำลังก็จะถูกออกแบบให้เข้ากับแต่ละบุคคลจากเป้าหมายที่ต้องการนั่นเองค่ะ
หลังจากนั้นก็เริ่มออกกำลังกายกันได้เลย มีให้เลือกหลากหลายมากเลยทีเดียวค่ะ แล้วไม่ต้องกังวลว่าจะทำท่าตามไม่ถูก เพราะทาง App มีเป็นคลิปวีดีโอสำหรับแต่ละท่าทางมาสาธิตให้ดูกันแบบชัดเจนเลยทีเดียว
ลองดูคลิปสอนการใช้งาน App เพิ่มเติมได้เลยค่ะ
เท่านี้เราก็สามารถเคลื่อนไหวร่างกายเล็กๆน้อยๆ ได้ตลอดเวลาตามที่ต้องการได้แล้วค่ะ แค่ลองหาเวลาว่างสักพักนึง มายืดเส้นยืดสายกันบ้าง เท่านี้เราก็จะเป็นมนุษย์เงินเดือนที่สุขภาพดีและไม่อ้วนกันแล้ว!
แต่สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ใช่มนุษย์เงินเดือนก็สามารถโหลดเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันกันได้ เพราะการดูแลตัวเองก็สำคัญมากไม่แพ้การทำงานเลยค่ะ อย่างน้อยๆถ้าเราร่างกายแข็งแรง จะได้มีเวลาทำงานและพักผ่อนพร้อมทั้งได้อยู่กับคนที่รักไปนานๆเนอะ