สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิป ห่างหายไปนาน วันนี้มีโอกาสมาตั้งกระทู้อีกครั้งกับการรีวิวเที่ยวหลังปีใหม่ที่แสนจะแฮปปี้ดี๊ด๊า เห็นว่าปีใหม่นี้คนขึ้นเหนือไปเคาท์ดาวน์กันเยอะ เราจะไม่ไปแย่งชิงร้านนู้นร้านนี้ค่ะ  และช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมานี่แหละ โอกาสดี ได้ข่าวเพื่อนที่อยู่เชียงรายจะพาแอ่วเหนือ ต้องไปให้ได้ พอจะมีลมหนาวให้รู้สึกหนาวกันบ้าง ขึ้นเหนือเลยจ้า เชียงรายเป้าหมายของพวกเรา !!!

มื้อแรกของวันบนเครื่องบิน เวลาประมาณ 8 โมงกว่าๆ มันคือผัดไท อาหารไทยของเรานี่แหละ รสชาติต้องขอเครื่องปรุงเค้าหน่อยนะ 555555 (ถ้ามี) เพราะเท่าที่ชิมดูรสชาติเอาใจชาวต่างชาติซะมากกว่า ที่เด็ดกว่าคือสจ๊วตค่ะ เค้าหล่อ! เค้าหล่อ! เค้าควรเป็นแฟนหนู (เพ้อ)

กินเสร็จแล้ว ก็หลับ พักผ่อนกันหน่อย เอาแรง ต้องลุยทั้งวัน เฮ้! Zzzz (แอบมองสจ๊วตอีกรอบเผื่อจะฝันดี แม่หนูรักเค้า!!)

ถึงเชียงรายประมาณ 9โมงครึ่ง พอเข้าที่พักได้ (บ้านเพื่อน) ก็เอาของเอากระเป๋าไปเก็บค่ะ พอเรียบร้อยแล้ว เราก็ตรงดิ่งไปเที่ยวกันเลยจ้า ไปหาร้านอาหารอะไรสักอย่างกินกันดีกว่า เนื่องจากผัดไทบนเครื่องไม่ค่อยอยู่ท้องสักเท่าไร จะขออีกกล่องก็ไม่กล้า 5555555

เพื่อนมันพามาที่นี่เลย “ไร่บุญรอด” เพราะมันบอกว่าคนกรุงเทพชอบมา เพื่อนเราบอกว่าที่นี่เค้าให้เอารถเข้าได้ แล้วก็มีรถรางบริการ แต่นานหน่อย คนขึ้นเยอะต้องรอคิวยาววว แต่เสียใจค่ะ เราสตรองงงงงกว่า!! พอดีมีรถส่วนตัว 55 ไม่ต้องเสียคนละ 50 บาท แต่รถเค้าก็เก๋ๆนะ นั่งไปเรื่อยๆน่าจะวิวดี

เข้ามาแล้วแน่นอนจ้ะ แลนมาร์คที่คนสนใจมากที่สุด คือ “รูปปั้นสิงห์” จริงๆเห็นตั้งแต่หน้าทางเข้าไกลๆแล้วล่ะ ...แต่ แต่ แต่ดูสิคะ แดดยังกับนรกไม่ต่างจากกรุงเทพใครจะหน้าทนยืนถ่ายกับมันไหวค่ะ เราจึงยังไม่ถ่ายรูปกับเจ้าสิงห์ทองในตอนนี้เนื่องจากเรากระแดะค่ะ แต่ยังเห็นคนปั่นจักรยานอยู่ในไร่บ้างนะ ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายด้วย เออ! ช็อตนี้กรูตายหว่ะ

ขับรถเข้ามาเรื่อยๆ ระหว่างทางเม้ามอยด์ดูนู้นดูนี่ เลี้ยวไปเลี้ยวมาลึกพอสมควร ก็มาสะดุดกับตึกรูปร่างประหลาดๆตั้งเด่นอยู่ (ใครไม่เห็นก็บ้าล้าววว) มองดีๆเห็นมีร้านอาหารอะไรอยู่ด้านล่าง 5555 น่าจะเป็นร้านที่เพื่อนบอกนะ หิวมากพูดเลย เข้าไปนี่ถึงกับ เฮ้ย!! บรรยากาศดีเฟ่อ มีร้านพิซซ่าท่ามกลางขุนเขา นึกว่ามีแต่ในละคร (อินอีก) ปกติเห็นแต่ร้านสเต็กไง มานี่เจอร้านพิซซ่าแปลกดี แต่ชื่อร้านดูแบบกรุบกริบ นะจ๊ะ Barn House Garden เพื่อนมันบอกเพิ่งเปิดได้ไม่นาน มาเชียงรายครั้งนี้ถือว่าคุ้มเพราะเราจะได้ลองก่อนคนอื่นๆ 555

มานี่ๆๆ เราจะพาไปดูบรรยากาศภายในร้าน โต๊ะ เก้าอี้ ดูดี๊ ดูดี เหมือนวางไว้ไม่ให้ใครใช้ แต่จริงๆใช้ได้นะ สวยงาม อิอิ แค่เห็นร้านก็ฟินล่ะ บวกบรรยากาศอีก แดดร้อนนะ แต่ลมเย็น สบายตัวมาก ^^ อยากตกอยู่ในสภาวะทิ้งตัว ~~~~~~~~~~

โต๊ะอาหารถูกจัดไว้เป็นเซต แต่ละแบบก็จัดออกมาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนชอบกินมากที่สุด มีทั้งเก้าอี้แบบยาว แบบสั้นนั่งแบบครอบครัวกลุ่มเพื่อน

อีกมุม ก็จะเห็นบรรยากาศภายในที่สวยไปอีกแบบ ผนังเป็นแบบอิฐ โทนวินเทจ การจัดร้านก็มีมุมตู้น้ำที่เราสามารถเลือกน้ำแบบอื่นได้ด้วยนะ โต๊ะก็เป็นไม้เข้ากับบรรยากาศสุดๆ ถ้ามากับแฟนคงฟิน 555 เสียใจ T _ T แต่ไม่เป็นไร มากับแก๊งค์ก็สนุกเหมือนกัน

บรรยากาศรอบๆร้านค่ะระหว่างรออาหารที่สั่งไป

ปั่น ปั่นจักรยาน 5555 เห็นเพลงนี้กำลังฮิตมาก เอาซะหน่อย BIKE FOR ME ค่ะ ดิชั้นจะปั่นจนกว่าจะผอมเท่ากวาง เดอะเฟสเลยค่ะ ผอมแล้วจะขอท้าสู้กับเจ้าแม่ Master Class สักยก (รู้ผลเลยใช่ป่ะละ) ส่วนอื่นๆของทางไร่ขอไม่รีวิวนะคะ มันเหมือนคนอื่นๆค่ะ ดูไม่สตรอง!!!

ได้ที่นั่ง วิวดี มองเห็นรอบไร่ เอาล่ะ เริ่มสั่งค่ะ! อ้อ ลืมบอก พวกเฮามากัน 4 คน แต่ละคนบอกได้คำเดียว “เราไม่ได้มาเล่นๆนะคะ เรามากินพิซซ่าค่ะ 555” Strong มาก เมนเทอร์สอนมาดี ^^

เมนูอย่างที่เห็น อ่านง่าย มีรูปให้ดู แต่ละเมนูบอกเลย ไม่เคยเห็นจ่ะ งงไปพักใหญ่สิ่งนี้คืออัลไล พิซซ่าแต่ละหน้า เหมาะกับบรรยากาศไร่มากๆ รับรองไม่เคยเห็นตามห้างในเมืองแบบที่เราเคยกินกันแน่ๆ หันไปเห็นเมนู signature ของร้าน มีเม็ดพริกประกอบ 4 เม็ด ท่าจะเผ็ด เห็นว่าใครมาที่นี้ต้องกินค่ะ พวกเราก็เช่นกัน ไปๆมาๆก็เลือกกันได้อยู่อย่างเดียว

พนักงานก็ดีนะ เห็นเราทำหน้างงๆ ไม่ได้แกล้ง งง อะไรนะ ที่จริงคือ “โง่” 55555  เดินมาแนะนำอย่างดี คอยบอกลูกค้าตลอด ไอ้นี่ส่วนผสมคืออันนี้ๆ แต่เอาความจริงม่ะ จำไม่ค่อยได้หรอก เค้าก็พยายามทำให้เราเข้าใจ ต้องชมเชยนิดนึง เค้าบริการดีจริงๆ สั่งกันไป 5-6 อย่าง ที่เราใส่กรอบแดงๆอ่าค่ะ เราสั่งแบบนั้นมาค่ะ ได้เมนูพิซซ่ามา 2 ถาดชิวๆ 5555 เมนูน้ำอย่างแรกที่มาก่อนเลยคือ

น้ำเมล่อนปั่น กลิ่นหอม รสชาตินุ่ม แต่ไม่เข้มข้นมาก เพื่อนนางนึงบอกว่าเหมาะกับสาวเรียบร้อย เหมือนเมนเทอร์คริสมากๆ เออๆเป็นคริสไปจ่ะ ไม่ค่อยชนะแคมเปญ 555

ต่อมาแก้วที่ 2 บนขวา เป็นมัลเบอร์รี่ปั่น รสชาติเปรี้ยวอมหวาน รสชาติดี แก้เลี่ยนได้ดี เปรียบเหมือนเมนเทอร์บี ฮี่ๆ ^^ หน้าตาดูมีอะไรนะคะ ไม่บ้านค่ะ พาลูกทีมเป็นเดอะเฟซด้วยค่ะ! ติช่าค่ะ! วู้ววววววววว (ยังอินอยู่)

แก้วที่ 3 ตามมาติดๆ แก้วแรกด้านล่าง  เป็นน้ำเสาวรสน้ำผึ้ง เปรี้ยวมากๆๆๆๆมากจริงๆ คนชอบทานเปรี้ยวน่าจะถูกใจ แต่สำหรับบางคนที่ไม่ชอบเปรี้ยวอย่าดื่มนะคะ หน้าจะหยีจนตีนกาขึ้นเลยค่ะ จมูกกะลูกกะตามารวมกันในจุดเดียวกันเลย หน้านี่แบบยับยู่ยี่ ดูแล้วแก้วนี้เหมาะกับเมนเทอร์ลูกเกดค่ะ 5555555555 ขุ่นแม่สตรอง สตรอง สตรอง!!!!!! (พอ)

และแก้วที่ 4 ขวาล่าง เครื่องดื่มอันสุดท้ายที่มาคือชาอู่หลง Pepermint หอมอ่อนๆ หอมเย็น แต่ส่วนตัวชอบกลิ่น peppermint แรงกว่านี้เพราะดื่มแล้วจะรู้สึกโล่ง เหมาะกับป้าม้า อรนภาค่ะ

ทั้ง 3 แก้วนี้ บอกเลย ตัวเอกทั้งนั้น 55

นอกจากน้ำปั่นประเภทต่างๆที่พวกเราสั่งมาแล้ว น้ำอื่นๆก็มีนะจ๊ะ น้ำหวานที่เมนเทอร์บีคัดออกก็มีค่ะ (หลอก) เลือกได้ตามใจชอบเลย

....................

..........

......

สวยงามน่าทานค่ะ ณ จุดๆ นี้

มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง จานแรก มันคือ“พาสต้าเบคอน เห็ด กระเทียม และน้ำมันมะกอก” (ชื่อยาวนะคะ) กลิ่นเห็ดกับกระเทียมหอมเด่นออกมา รสชาติกลางๆไม่มีรสไหนโดดออกมา เหมือนจะเน้นรสชาติของวัตถุดิบ ไม่มันมาก เบคอนกรอบมาก ดีงามพระรามอะไรไม่รู้ ^^

จานต่อมา “Cold Cut Trio” เป็น Starter หรือพวกออเดิร์ฟ ก่อนทานอาหารจานหลัก มีเนื้อหมูอยู่สามอย่าง คือ parmar ham หน้าตาเหมือนหมูสไลด์กินกับชาบู รสชาติเค็ม เนื้อยุ่ย เคี้ยวง่าย motadela ham เหมือนหมูสีแดงมีมันแทรก รสชาติเค็มมากๆๆๆๆๆ แต่มีรสเผ็ดนิดๆ เนื้อแข็งกว่าอันแรก (คหสต. นะ คือเกิดมาพึ่งเคยกินเนื้อแบบนี้แล้วรสชาติแบบนี้ จุดพีคสุดๆ จะอยู่ที่กลิ่น โอ้ววว แม่เจ้า!!!  เคี้ยวทีกลิ่นจะออกมาที หึหึ)  อันสุดท้าย salamy เหมือนแฮมรมควันผสมพริกไทยดำ อารมณ์คล้ายๆ แฮม 7-11 นะ แต่จะดูดีกว่า ทานคู่กับ black olive ที่มีรสเปรี้ยวเข้ากันดี คิดว่าอร่อยสุดในสามอัน

ร้านอาหารเค้าไม่ให้เราหยุดกินนะคะ มาได้อีก! เมนูต่อไป “Italian Sausage Rocket” ผักร็อกเก็ตขมนิดๆ นิดเดียวจริงๆแต่สักพักจะรู้สึกหวานขึ้น แต่ความกรอบนี่มาเต็ม สี่เหลี่ยมๆที่เห็นในจานคือไส้กรอกอิตาเลียนร็อคเก็ตที่เอามาหั่นเป็นลูกเต๋า รสชาติแปลกใหม่ อร่อย สีแดงๆหั่นรสชาติเหมือนหัวไชเท้าแต่ที่จริงมันคือเรดซีส น้ำราดไม่ใช่มายองเนสนะน่าจะคล้ายๆน้ำสลัดญี่ปุ่น รสชาติดี  แค่รูปก็อยากกลับไปกินอีกรอบ แห่ะๆ   มะเขือเทศหวานอร่อยมากๆ ขอบอกว่ามะเขือเทศนี่คือเด็ดจริง รู้เลยว่าสด สด และก็สด มว๊ากกก

รอกันอีกสักพักตัวเอกของงานก็มา “Pizza Signature”  แป้งบางเหมือน Domino Pizza ขอบกรอบ ถาดนี้ 8 ชิ้นนะ ใหญ่ทีเดียว พริกในพิซซ่าเผ็ดมากๆๆๆๆๆ ลูกเด็กเล็กแดงอย่าหลงไปทานเชียวค่ะ สภาพจะอดไป Final walk ทันที (ใครอ่านถึงตรงนี้ไม่เข้าใจแนะนำให้ชม The Face Thailand Season 2 ทั้ง 13 Ep. ค่ะ ฮาาา) เนื้อบนพิซซ่าใช้อกไก่ทำจึงมีมันน้อย ไม่เลี่ยน เด็กเสิร์ฟเดินเข้ามาแนะนำว่าทางร้านเขาใช้เสาวรสผสมกับเชอรี่ของทางไร่ทาบนแป้งพิซซ่าแทนซอสมะเขือเทศ อืมมม ก็เริ่ดดีนะคะคุณน้อง แต่เราว่าทานคู่กับซอสมะเขือเทศอร่อยขึ้น  แต่มานึกอีกทีเออออ ใส่พริกก็ดีนะ เพราะที่เคยกินมา ส่วนใหญ่จะกินได้ไม่กี่ชิ้นก็รู้สึกเลี่ยนล่ะ แต่นี่มีพริกช่วยให้ดีขึ้นอยู่นะเอออ

จานต่อมาบอกเลยว่าสั่งเพราะรูปร่างหน้าตาของมัน “Colzone โคลโซเน่” หน้าตาเหมือนกะหรี่ปั๊บขนาดยักษ์ พนักงานมาเสิร์ฟซักพักไม่ถึง 1 นาที ตรงกลางจะยุบตัวลงเลยค่ะ ต้องรีบทาน ดูภายนอกเหมือนจะแข็งแต่พอใช้มีดตัดลงไปแล้วนุ่มกว่าที่คิด ชีสข้างในเยอะมาก นอกจากนั้นยังมีเห็ดชีทาเกะ แฮม เหมือนมีผักโขมอบชีสอยู่ด้านใน ต้องรีบทานเพราะเดี๋ยวแป้งจะเหนียว เมนูนี้ก็อยากแนะนำเหมือนกันนะ เพราะมันอร่อยจริงๆ เด็กๆก็ทานได้ ผู้ใหญ่ก็ทานดี เหมาะกับทุกวัย อารมณ์เหมือนนั่งกินที่ต่างประเทศเลยอ่า (จริงๆแอบชอบอันนี้มากกว่า Signature หน่อยๆด้วยนะ 555)

คอนเซนเทรตที่ชีสค่ะ! น่ากินมากกกกกกกกกกกกก อร่อยด้วย