[CR] กาลครั้งหนึ่ง ณ ดินแดนลับในหุบเขา "วังเวียง"

ขอเกริ่นก่อนว่าการไปเที่ยววังเวียง ในกระทู้รีวิวนี้
เรามีโอกาสได้เดินทางไปตั้งแต่เมื่อประมาณ ต้นปี 2558 แล้ว
และอยากมาลองเขียนรีวิวเล่น ๆ ดู แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ทำสักที
เพราะตอนนั้นยังสมัครพันทิปไม่ได้ บวกกับเรื่อยเปื่อย นั่น นู่น นี่
ตอนนี้อาจจะช้าไป แต่ก็ถึงเวลาที่ต้องเขียนสักที เพื่อให้เป็นความทรงจำเล็ก ๆ ของตัวเอง ก็ยังดี ยิ้ม



พูดถึงวังเวียง ประเทศลาว เพื่อนบ้านของเรานี่เอง
เห็นรูปครั้งแรกในเว็บนี่แหละ แบบ เห้ย!! ที่นี่มันสวยจังเลยหว่ะ
ว่าแล้วก็เริ่มอ่าน อ่าน อ่าน จากรีวิวที่มีคนเคยไปมา เก็บเงิน ตอนนั้นเป็นช่วงเรียนจบพอดี
กะว่า เอาวะ ขอไป เติมพลังก่อนได้งานทำแล้วกัน กลับมาค่อยมานั่งหางานทำแบบจริงจังสักที
และแล้วก็ได้ข้อมูลมาพอสมควร ทั้งการเดินทาง ไปที่นั่นมีอะไรกิน(อันนี้สำคัญ) 555555
และก็ได้ที่พักจากรุ่นพี่แนะนำมา ตอนนี้เราพร้อมมากแล้วกับทริปนี้

วันแรก

เมื่อวันออกเดินทางมาถึง
เราเดินทางออกจากกรุงเทพฯ รอบ 22.45 น. โดยนั่งรถทัวร์ ของ นครชัยแอร์ ราคา 466 บาท



ไปลงที่ บขส. จ.อุดรธานี
จะถึงอุดรประมาณ 6 โมงเช้าพอดี

วันที่สอง

ถึงอุดรแล้วจ้าาาาา
แนะนำ : ที่ต้องถึงอุดรตอนเช้า เพราะเราต้องไปให้ทันรถ อุดร-หนองคาย-วังเวียง ที่ขึ้นไปวังเวียงแค่วันละ 1 รอบเท่านั้น และเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุด ถ้าไปช้าเค้าบอกว่ารถอาจจะเต็ม แฮ่ ๆ

ตารางรถขึ้นวังเวียงจ้า

ส่วนข้อมูลเพิ่มเติม ไปเวียงจันทร์ หลวงพระบาง หรือเมืองอื่น ๆ ดูเพิ่มเติมได้ในนี้เลยน้า
http://www.louangprabang.net/content.asp?id=366
แต่การขึ้นไปวังเวียงก็มีหลายรูปแบบนะ ถ้าไปกันหลายคนจะเหมารถตู้แวนขึ้นไป หรือข้ามไปเวียงจันทร์ หารถขึ้นไป หรือเที่ยวเวียงจันทร์ก่อน แล้วหารถขึ้นไปอีกวันก็ได้
รถอุดร-หนองคาย-วังเวียง ราคาก็ประมาณ 320 บาท จะเริ่มออกจากบขส.อุดร ประมาณ 8.30 น. เพื่อไปรับผู้โดยสารต่อที่หนองคาย

แนะนำ :ใครจะนั่งไปลงหนองคายแล้วขึ้นที่นั่นก็ได้นะ แต่ก็แล้วแต่ดวงว่าจะเต็มมั๊ย ฮ่า ๆ
และเหตุผลที่รถบัสขึ้นวังเวียงมีแค่รอบเดียวก็คงเป็นเพราะ ถนนหนทางแหละ มันก็ทุลักทุเล พอสมควร

รถเริ่มออกเดินทาง เข้าสู่เขตประเทศลาว ผ่านสะพานมิตรภาพไทย - ลาว พาเราไปทำ เรื่องเข้าประเทศ ที่ด่าน ตม. ระหว่างอยู่บนรถ พนักงานก็จะแจก ใบเพื่อเขียนเข้า-ออกประเทศให้เรา

แนะนำ : อย่าลืมเตรียมปากกาไปด้วยนะ คนละแท่ง มันต้องใช้จริง ๆ

ถึงด่าน ตม. ทำเรื่องเข้าประเทศเรียบร้อย ค่าเสียหาย 40 บาท
พร้อมกับแลกเงินที่ด่าน ตม. เลย แลกไปประมาณ 3000 บาทไทย ได้กลับมา 7แสนกว่า (กีบ)

กลายเป็นคนรวยในพริบตาเลยจ้า
เอาหล่ะ เดินทางขึ้นวังเวียงอย่างจริงจังสักทีนะ
6-7  ชม. แห่งการเดินทางรถบัสแวะให้เข้าห้องน้ำ 1 รอบ ค่าเข้าห้องน้ำ 5 บาทจ้า

แนะนำ : การเดินทางไปลาวควรเตรียมเหรียญ 5 และแบงค์ 20 ไปด้วยน้า

รถพาเราขับลัดเลาะไปตามถนนดินลูกรัง หลับไปหลายตื่น มองข้างทาง วิถีชีวิต อย่างเพลิดเพลิน
เหลือบไปมองวิวภูเขา และแล้ว!! ก็มาถึง
เราสะกิดเพื่อน เห้ยยย ถึงแล้ว นั่นไง ที่เราเห็นกันในรูป วังเวียงต้องอยู่หลังเขาลูกนั้นแน่ ๆ
ขับไปสักพัก อ้าวเลยภูเขาแล้ว ไม่ใช่หว่ะ หลอกตัวเองแบบนี้ประมาณ 4 - 5 รอบ
วิวมันคล้ายกันมากกกกก 55555555555
ในที่สุด ก็มาถึงแล้วจริง ๆ

รถบัสจอดให้เราลง พอเราลงปุ๊ป จะมีสองแถวมาถามว่าเราจะไปไหน เราจะเหมาไปหรือเดินไปก็ได้ แต่เรากะเพื่อนเลือกที่จะเดิน

แนะนำ : ก่อนจะเข้าเมืองวังเวียง แนะนำให้ซื้อตั๋วกลับไว้เลยนะ จะปลอดภัยกว่าเราไปซื้อตามบริษัทขายตั๋วในวังเวียง เพราะอะไรเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังทีหลังน้า

เรากับเพื่อนเดินมาไกลพอสมควร แฮ่ก ๆ เป็นหมาลิ้นห้อย เพราะร้อนมากกกกกกกกกกก
ดูแผนที่ที่ปริ๊นไปเอง
นี่เป็นแผนที่ที่เรา เซฟมาจาก Google ขอขอบคุณคนที่ทำแผนที่นี้ขึ้นมาด้วยนะคะ


หาที่พักที่เราได้จองไว้
ถึงแล้วที่พักของเรา เราจองที่  Champa Lao Bungalow ไว้ จองผ่าน เพจ FB ของที่นี่เลย
ราคาคืนละ 250 บาท เรานอนที่นี่ 2 คืนจ้า โอ้ยที่พักแสนถูก
เป็นห้องพักแบบบนบ้านจ้า ห้องน้ำรวมนะ ไม่มีแอร์ แต่โดยรวมโอเคมาก
วิวที่นี่บอกเลยว่า โค-ตะ-ระ ดี เลยจ้า



ชื่นชมวิว นั่งพัก โทรส่งข่าวคนที่บ้าน ถ่ายรูปที่พัก อัพ FB เรียบร้อย
ออกไปหาอะไรกินดีกว่า เพราะหิวมาก
เดินมาทางบาร์ริมน้ำ แม่น้ำซอง จะเจอมินิมาร์ท ร้านอาหาร บริษัทขายตั๋วรถ ครบบบบ

เราจะกินกันที่นี่แหละ ร้านส้มตำ เป็นร้านเพิง ๆ อยู่แถวๆสามแยกร้านทูปบิ้ง
เราสั่งส้มตำลาว กับคอหมูย่าง และข้าวเหนียว
มาแล้วอาหารของเรา

ส้มตำที่นี่ใส่กะปิด้วย อร่อยจัง
คอหมูย่างอร่อยแบบ ละลายในปากเลยแหละ สั่งเบิ้ลไปอีกจาน

อิ่ม อร่อย ครบถ้วน ค่าเสียหายประมาณ 150 บาท
เดินเล่นต่อดีกว่า เดินไปบาร์ริมน้ำ พระอาทิตย์ก็ใกล้ตกดินและ คนเริ่มออกมานั่งที่บาร์ จิบเบียร์  ตามอารมณ์

หลังจากเราเดินเล่นเสร็จ เราก็หาร้านเพื่อถามราคา one day trip เพราะพรุ่งนี้เราจะไปหาอะไรทำกัน
สุดท้ายก็ได้ Tubbing มาอย่างเดียว เพราะพรุ่งนี้ก่อนไป Tubbing เราจะไป Blue lagoon กันก่อน กลัวเวลาไม่พอ ค่าเสียหายประมาณ 55000 กีบ บวกกับมัดจำห่วงยางอีก 60000 กีบ

เริ่มหิวอีกแล้ว ซื้อบาร์บีคิวข้างทางกินดีกว่า เพราะเดินมาเจอพอดี

บาร์บีคิวไม้ละ 20 บาท แต่ก็ถือว่าคุ้มนะ ไม้ใหญ่ดี อร่อยดีด้วย
มืดแล้ว ได้เวลาหาเบียร์กินให้มันชื่นฉ่ำหัวใจ เราซื้อเบียร์จากที่พักของเรา นั่งกินในที่พักของเรา
เบยลาว ขวดละ 40 บาท จ้า สำหรับเราถือว่าไม่ถูกเลยนะ เพราะขวดเล็ก

นั่งจิบเบียร์ เพลิดเพลินไปเรื่อย ตอนนี้เป็นเวลา 5 ทุ่ม
เริ่มง่วงและ เข้านอนดีกว่า เพราะพรุ่งนี้เช้า เราต้องลุยยกันแต่เช้าจ้า

วันที่สาม
07.00 น. ตื่นเช้ามานอนรับกลิ่นธรรมชาติ เมื่อคืนอากาศดีมาก หนาวมาก แอร์กับพัดลมนี่ลืมไปได้เลยค่ะ

มาลุยกันต่อ เช้านี้เราออกหาอะไรกิน มาที่นี่ก็ต้องลองมากิน เฝอ เมนูแนะนำของที่นี่ เราเดินมาเรื่อย ๆ เจอร้าน เฝอ
ระหว่างสั่งเฝอ ก็เดินมาร้านโรตี ขนมปัง แซนวิส ร้านแบบนี้มีทั่วไปในวังเวียงเลยจ้า
สั่งแฮมชีสมากินสักอันดีกว่า ค่าเสียหาย 60 บาทจ้า
เฝอ ก็เหมือนก๋วยเตี๋ยวบ้านเรานี่แหละ แต่ร้านที่เรากินวันนี้มันไม่มีกะปิกับซอสพริกแบบที่เราได้อ่านมาในรีวิวอ่าสิ ไม่เป็นไร มื้อต่อไป เราจะต้องกินแบบที่เราตั้งใจให้ได้
อิ่มแล้ว เฝอชามนี้ราคา 50 บาท

ตอนนี้ก็ได้เวลาอันเป็นมงคลแล้ว เราจะไปหาเช่าจักรยานเพื่อปั่นไป Blue Lagoon ระยะทางจากในวังเวียงก็ประมาณ 7 กิโลเมตร อื้มม ฟังไม่ผิดหรอก 7 กิโล กับทางที่เค้าบอกว่าไส้อาจจะหลุดออกมาได้
ได่จักรยานเรียบร้อย กล้องพร้อม ขา เอ่ออ ไม่ค่อยพร้อม แต่ก็ลุยเลย
เราปั่นตามแผนที่ ที่เราเตรียมมาเอง

แวะมาแอบถ่ายภาพวิวที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ทางผ่านที่จะไป Blue Lagoon


ปั่นชมนกชมไม้ไปเรื่อย ๆ กับทาง ที่มาทั้ง พ่อ แม่ ลูก รัง และฝุ่นแดง ๆ
ระหว่างทางเจอภูเขาลูกหนึ่ง วิวสวยดี ใครไปใครมาก็มาแวะถ่าย จอดละชักภาพเลยดีกว่า


เรียบร้อย ไปกันต่อเลยเนอะ
รถสีน้ำเงินนั้นเรียกBuggy เราอยากขับบ้าง แต่ประเด็นคือ มันแพง 5555555

เจอภูเขา เจอผู้คน เจอนักเรียนกำลังเดินไปโรงเรียน เจอวัว เจออะไรเยอะแยะไปหมด

เด็ก ๆ น่ารักดีนะ


แอบถ่าย น้องวัวกับชาวบ้านด้วย


ขับไปได้สักพักก่อนทางเลี้ยวไป Blue Lagoon จะเจอร้านขายผ้าซิ่นลาว

และร้านขายของชำ แวะซื้อน้ำกิน เดินดูผ้าสักแปปนึงดีกว่า
หายเหนื่อยแล้วก็ปั่นต่อจ้า ป้ายบอกเลี้ยวขวาไปบลูลากูน ตามทางไปเลยจ้า
ถึงแล้ววววว บลูลากูนของเรา
มีฝรั่งกับเกาหลี เต็มเลย โอ้ปป้าหล่อจังค่ะ 5555555



แนะนำ : ที่นี่มีบริการให้เช่าชูชีพนะ ใครที่อยากเล่นน้ำไม่ต้องกังวลไปนะ
ส่วน One Day Trip ก็มีหลายรูปแบบ กิจกรรมที่นี่มีมากมายเลย ทั้ง Tubing ห่วงยางลอดถ้ำ พายเรือคายัก โหนรอกลอยฟ้า ขึ้นบอลลูน ขับBuggy ไต่หน้าผา ปืนเขา เยอะมากกก ถ้ามีเวลาคงจะอยู่ที่นี่ซัก 1 อาทิตย์

น้ำใสจนเป็นสีฟ้าเขียว ๆ เลย เห็นคนเอาเท้าจุ่มน้ำกันบอกเย็นมากกก เลยลองเอาเท้าจุ่มน้ำดู จริงงง เย็นมากกกกก

คนเล่นน้ำกันสนุกสนาน




แต่เราไม่ได้เล่น เพราะไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยน กะว่ารอไปเปียกตอนล่องห่วงยาง Tubbing ทีเดียวเลย
นั่งดูอะไรไปสักพัก ก็ใกล้เที่ยงและ
กลับกันดีกว่า ขากลับเรา เอาจักรยานแอดวานซ์ ขึ้นรถสองแถวเลยจ้า เหมากลับ ไม่ไหวละ ขานี่แข็งไปทั้ง 2 ข้าง 555555 คิดแล้วก็ขำตัวเอง ห้าวดีนัก!!
ระหว่างนั่งรถกลับก็พล่างคิดกับเพื่อนว่า เราปั่นจักรยานกันเพื่ออะไร? เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่ามั๊ยวะ? 555555
รถสองแถวที่เราเหมามาส่งเราที่ร้านเช่าจักรยาน
แนะนำ : ร้านจักรยานมีให้เช่าอยู่ทั่วไปในเมืองวังเวียงเลยนะ

คืนจักรยานเสร็จเรียบร้อย เราเดินกลับที่พัก เตรียมกระเป๋ากันน้ำ โบกครีมกันแดด เพื่อไปล่องห่วงยาง Tubing
ขอชักภาพแปปปปปป


แนะนำ : กระเป๋ากันน้ำมีขายเยอะมากนะ แต่ส่วนใหญ่ร้านที่เราไปซื้อแพ็คเกจกิจกรรม เค้าก็จะมีกระเป๋าให้ด้วย

ไปลุย Tubing กัน เราจะต้องไปรับห่วงยางที่ร้าน Tubing เค้าจะให้เรามัดจำเงินไว้ด้วยนะ
เสร็จแล้วเค้าจะพาเราขึ้นรถกระบะ ไปส่งที่ต้นแม่น้ำซอง

ไปต่อกันตอนที่ 2 น้า >> http://ppantip.com/topic/34698527
ขอฝาก Page Facebook ของเราด้วยน้า นะนะ
https://www.facebook.com/Journey-With-Me-1544172655872842/?pnref=lhc
ขอบคุณค่ะ
ชื่อสินค้า:   วังเวียง, ลาว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่