สายตาเราสั้น 500 ทั้งสองข้างไม่มีเอียง แว่นเดิมที่ใส่อยู่ของเราเก่ามาก ใช้มานาน 10 ปี มีรอยขีดข่วนเต็มไปหมด
ใส่แล้วรู้สึกไม่สบายตา เราใส่แว่นเฉพาะก่อนนอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงกับตอนเพิ่งตื่นนอน หลังจากอาบน้ำตอนเช้าเราจะใส่คอนแทคเลนส์ยาวไปทั้งวัน
เราเห็นว่าแว่นนั้นเกินจะเยียวยา จึงหาร้านตัดแว่น ปกติตัดที่ร้านท็อปเจริญมา 3 ครั้งบริการดีได้แว่นที่ใส่แล้วสบายตา ถึงแม้จะราคาแพงก็ตาม
แต่เนื่องจากระยะหลังที่ผ่านมาเราประสบปัญหาเรื่องเงินมาตลอด เรียกง่ายๆว่ากลายเป็นคนจนไปแล้ว เราจึงเลือกลองตัดแว่นกับร้านเล็กๆดูบ้าง
ด้วยงบแค่ 500 จึงไปเจอร้านนึงที่อิมพีเรียลสำโรงอยู่ชั้น 1 ไม่อยากบอกชื่อร้านว่าร้านอะไรกลัวว่าจะมีปัญหา แต่ถ้าใครอยากรู้ถามหลังไมค์
ได้ค่ะ พูดจาใส่ลูกค้าได้ไม่ดีเลย เราเข้าไปกับแม่ถามราคากรอบแว่นพร้อมเลนส์ธรรมดาเท่าไหร่ มีผู้หญิงในร้าน 2 คนเป็นผู้หญิงผมสั้นคนนึงเหมือนจะเป็นทอม อีกคนก็ผมสั้นแต่น่าจะอายุมากกว่าคนที่เป็นทอม คนที่ไม่ได้เป็นทอมก็บอกเลือกเลย 450 บาทอยู่ตรงนี้ (ราคานี้มีให้เลือกแค่ 2 แบบ) แบบกรอบกลมลมๆ กลับสี่เหลี่ยม เราสนใจแบบกลมๆนะ แต่เขาก็บอกมาว่าไม่อยากให้เลือกอันนี้เพราะสายตาเราสั้นมากเลนส์จะหนาแล้วจะหนัก โอเคเราเชื่อนะ แต่ไม่ได้ตอบเขาไป ได้แต่ยิ้มและจะเอากรอบที่เป็นสี่เหลี่ยมแต่มันมีหลายสีเราก็เลยเลือกนานว่าจะเอาสีไหนดี คนที่เป็นทอม ก็ตะโกนมาจากด้านในว่า ปล่อยเขาไปเถอะ ให้เขาเลือกตามใจเลย เขาไม่เชื่อก็แล้วไป นี่ไม่ได้ไม่เชื่อนะ ก็เลือกสีอยู่นะ
นี่คือคำพูดแรกที่เราคิดว่าเขาพูดจาไม่ดี แล้วทำหน้าเหมือนไม่พอใจเราที่ซื้อราคาถูก พอเลือกได้ก็จะวัดสายตาแต่เราใส่คอนแทคเลนส์จึงบอกเขา
เรากะจะถอดออก เพราะรู้มาว่าวัดสายตาที่แม่นยำต้องถอดออกและนั่งพักสักครู่ ตอนไปตัดที่แว่นท็อปเจริญเขาก็ทำแบบนี้ แต่ที่นี่ไม่เลย เขาบอกไม่เป็นไร
ไม่ต้องถอดเดี๋ยวทำให้ เราก็เริ่มลังเล เฮ้ย ไม่ดีแระร้านนี้ แต่ในใจก็คิดเข้าข้างว่าไม่แน่เขาอาจจะชำนาญก็ได้ จึงยอม เขาก็วัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์อะไร
สักอย่างเราไม่รู้จักประมาณ 1 นาทีเร็วมาก แล้วก็มานั่งให้อ่านตัวเลขที่ผนังอยู่ไม่ถึงนาที โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนเลนส์ให้ลองหลายอันว่าอันไหนชัดกว่า เราคิดในใจแล้วมันจะได้ค่าที่แม่นยำไหม ไม่มีการลุกให้ยืนมองพื้นว่ามึน ว่าพื้นลอย หรือสบายตาไหมไม่ละเอียดเหมือนร้านแว่นท็อปเจริญ เบ็ดเสร็จรวมวัดสายตาไม่ถึง 2 นาที
วัดเสร็จก็ไม่มีบอกว่าสายตาเราสั้นเท่าไหร่แล้ว ให้เราออกมารอด้านนอก เราต้องตะโกนถามว่าตกลงเราสั้นเท่าไหร่ เขาบอก ซ้าย 475 ขวา 525
งงสิคะ ข้างซ้ายลดลงได้ด้วยเหรอ ชักไม่มั่นใจกับร้านนี้ แต่ก็ยังเข้าข้างตัวเองว่าเขาอาจจะประสบการณ์สูงมีฝีมือก็ได้ เห็นร้านเปิดมาหลายปีไม่งั้นคงอยู่ไม่ได้ ที่ร้านแว่นท็อปเจริญคงวัดผิด มั้งงงงงง
เสร็จแล้วก็มาบอกว่าเลนส์ยังไม่ได้นะ ไม่มีของต้องรอสั่ง แล้วทำไมไม่บอกก่อนฟระ นี่รีบใช้นะจะได้ไม่เลือกตัดร้านนี้ อารมณ์เสียอีกแล้ว
เราไปกับแม่ แม่บอกมัดจำเท่าไหร่ เขาบอกจ่ายมาหมดเลย เราคิดในใจมัดมือชกว่ะ
แล้วก็ได้ใบนัดรับแว่นอีก 2 วัน พอถึงวันไปรับเราไปรับ
แว่นยังไม่ได้คร้าาา ไม่มีการโทรบอกว่ายังไม่เสร็จ เราเสียเวลามาเสียค่ารถมาเอานะเว้ย ไม่ใช่คนรวยจะได้มีเวลาเดินเล่นไปมา เขาก็แค่ขอโทษ
แล้วบอกพรุ่งนี้ได้แน่นอน
พอถึงวันพรุ่งนี้คือเราไม่อยากจะคุยจะเข้าร้านนี้แล้ว อารมณ์เสียกับคำพูดไม่ดีของร้านแล้ว จึงให้แฟนไปถามว่าได้ยัง แต่ไม่ได้ให้ใบนัดรับแฟนไป
เพราะกะจะไปรับเอง แฟนก็ยังเจอร้านพูดไม่ดีใส่เหมือนกัน แฟนถามเสร็จยังเขาตอบมาแบบไม่เต็มใจว่าเสร็จแล้วกำลังจะโทรบอก แฟนเลยบอกว่าจะโทรบอกใช่ไหม หรือจะให้โทรเอง เขาตอบมาแล้วแต่พี่เลย แต่รู้ไหมคำพูดหรือท่าทางดูกวนมาแฟนบอก อยากให้คนอ่านไปเจอเอง
แล้วเราก็ให้แม่ไปรับแว่นให้ กลับมาลองใส่ดูเป็นแบบที่คิด มองไม่ชัดเลย เบลอ ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะเปลี่ยนแว่นอันใหม่อาจจะไม่ชิน แต่ความรู้สึกมันไม่ใช่นะ ถ้ามันเวียนหัวแต่ภาพมันควรจะชัด นี่เอาแว่นอันเก่ามาใส่ยังชัดกว่าเลย อยากจะเขวี้ยงทิ้งพยายามลองใส่มา 1 วันครึ่งเต็มก็ยังไม่ชัด
เลยลองไปวัดสายตาที่ร้านแว่นท็อปเจริญอีกครั้งเค้าบอกสายตาเราเท่าเดิม 500 ตกลงนี่ได้แว่นที่ไม่ตรงกับสายตา เสียเงินฟรี ไม่อยากจะกลับไปที่ร้าน
นั้นแล้ว กลับไปก็เจอแต่คำพูดไม่ดี อยากรู้จริงๆ ว่าเปิดและอยู่ได้ยังไง
สรุปกลับมาใส่แว่นอันเดิม และต้องเก็บเงินใหม่เพื่อรอไปตัดร้านแว่นท็อปเจริญเหมือนเดิมเงิน ถึงจะราคาแพงแต่ก็ยังได้แว่นที่ใส่สบายตา
เงิน450 ที่เสียไปฟรี บางคนอาจจะเห็นว่ามันเล็กน้อยนะ ก็ไปตัดแว่นใหม่ร้านอื่นสิ แต่สำหรับเรามันมีค่าและหายากมากนะคะ
กระทู้แค่อยากระบาย คงทำอะไรร้านนี้ไม่ได้
ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ถึงไม่มีใครตอบก็ไม่เป็นไรค่ะ
กระทู้ระบายประสบการณ์แย่ๆกับการตัดแว่น
ใส่แล้วรู้สึกไม่สบายตา เราใส่แว่นเฉพาะก่อนนอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงกับตอนเพิ่งตื่นนอน หลังจากอาบน้ำตอนเช้าเราจะใส่คอนแทคเลนส์ยาวไปทั้งวัน
เราเห็นว่าแว่นนั้นเกินจะเยียวยา จึงหาร้านตัดแว่น ปกติตัดที่ร้านท็อปเจริญมา 3 ครั้งบริการดีได้แว่นที่ใส่แล้วสบายตา ถึงแม้จะราคาแพงก็ตาม
แต่เนื่องจากระยะหลังที่ผ่านมาเราประสบปัญหาเรื่องเงินมาตลอด เรียกง่ายๆว่ากลายเป็นคนจนไปแล้ว เราจึงเลือกลองตัดแว่นกับร้านเล็กๆดูบ้าง
ด้วยงบแค่ 500 จึงไปเจอร้านนึงที่อิมพีเรียลสำโรงอยู่ชั้น 1 ไม่อยากบอกชื่อร้านว่าร้านอะไรกลัวว่าจะมีปัญหา แต่ถ้าใครอยากรู้ถามหลังไมค์
ได้ค่ะ พูดจาใส่ลูกค้าได้ไม่ดีเลย เราเข้าไปกับแม่ถามราคากรอบแว่นพร้อมเลนส์ธรรมดาเท่าไหร่ มีผู้หญิงในร้าน 2 คนเป็นผู้หญิงผมสั้นคนนึงเหมือนจะเป็นทอม อีกคนก็ผมสั้นแต่น่าจะอายุมากกว่าคนที่เป็นทอม คนที่ไม่ได้เป็นทอมก็บอกเลือกเลย 450 บาทอยู่ตรงนี้ (ราคานี้มีให้เลือกแค่ 2 แบบ) แบบกรอบกลมลมๆ กลับสี่เหลี่ยม เราสนใจแบบกลมๆนะ แต่เขาก็บอกมาว่าไม่อยากให้เลือกอันนี้เพราะสายตาเราสั้นมากเลนส์จะหนาแล้วจะหนัก โอเคเราเชื่อนะ แต่ไม่ได้ตอบเขาไป ได้แต่ยิ้มและจะเอากรอบที่เป็นสี่เหลี่ยมแต่มันมีหลายสีเราก็เลยเลือกนานว่าจะเอาสีไหนดี คนที่เป็นทอม ก็ตะโกนมาจากด้านในว่า ปล่อยเขาไปเถอะ ให้เขาเลือกตามใจเลย เขาไม่เชื่อก็แล้วไป นี่ไม่ได้ไม่เชื่อนะ ก็เลือกสีอยู่นะ
นี่คือคำพูดแรกที่เราคิดว่าเขาพูดจาไม่ดี แล้วทำหน้าเหมือนไม่พอใจเราที่ซื้อราคาถูก พอเลือกได้ก็จะวัดสายตาแต่เราใส่คอนแทคเลนส์จึงบอกเขา
เรากะจะถอดออก เพราะรู้มาว่าวัดสายตาที่แม่นยำต้องถอดออกและนั่งพักสักครู่ ตอนไปตัดที่แว่นท็อปเจริญเขาก็ทำแบบนี้ แต่ที่นี่ไม่เลย เขาบอกไม่เป็นไร
ไม่ต้องถอดเดี๋ยวทำให้ เราก็เริ่มลังเล เฮ้ย ไม่ดีแระร้านนี้ แต่ในใจก็คิดเข้าข้างว่าไม่แน่เขาอาจจะชำนาญก็ได้ จึงยอม เขาก็วัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์อะไร
สักอย่างเราไม่รู้จักประมาณ 1 นาทีเร็วมาก แล้วก็มานั่งให้อ่านตัวเลขที่ผนังอยู่ไม่ถึงนาที โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนเลนส์ให้ลองหลายอันว่าอันไหนชัดกว่า เราคิดในใจแล้วมันจะได้ค่าที่แม่นยำไหม ไม่มีการลุกให้ยืนมองพื้นว่ามึน ว่าพื้นลอย หรือสบายตาไหมไม่ละเอียดเหมือนร้านแว่นท็อปเจริญ เบ็ดเสร็จรวมวัดสายตาไม่ถึง 2 นาที
วัดเสร็จก็ไม่มีบอกว่าสายตาเราสั้นเท่าไหร่แล้ว ให้เราออกมารอด้านนอก เราต้องตะโกนถามว่าตกลงเราสั้นเท่าไหร่ เขาบอก ซ้าย 475 ขวา 525
งงสิคะ ข้างซ้ายลดลงได้ด้วยเหรอ ชักไม่มั่นใจกับร้านนี้ แต่ก็ยังเข้าข้างตัวเองว่าเขาอาจจะประสบการณ์สูงมีฝีมือก็ได้ เห็นร้านเปิดมาหลายปีไม่งั้นคงอยู่ไม่ได้ ที่ร้านแว่นท็อปเจริญคงวัดผิด มั้งงงงงง
เสร็จแล้วก็มาบอกว่าเลนส์ยังไม่ได้นะ ไม่มีของต้องรอสั่ง แล้วทำไมไม่บอกก่อนฟระ นี่รีบใช้นะจะได้ไม่เลือกตัดร้านนี้ อารมณ์เสียอีกแล้ว
เราไปกับแม่ แม่บอกมัดจำเท่าไหร่ เขาบอกจ่ายมาหมดเลย เราคิดในใจมัดมือชกว่ะ
แล้วก็ได้ใบนัดรับแว่นอีก 2 วัน พอถึงวันไปรับเราไปรับ
แว่นยังไม่ได้คร้าาา ไม่มีการโทรบอกว่ายังไม่เสร็จ เราเสียเวลามาเสียค่ารถมาเอานะเว้ย ไม่ใช่คนรวยจะได้มีเวลาเดินเล่นไปมา เขาก็แค่ขอโทษ
แล้วบอกพรุ่งนี้ได้แน่นอน
พอถึงวันพรุ่งนี้คือเราไม่อยากจะคุยจะเข้าร้านนี้แล้ว อารมณ์เสียกับคำพูดไม่ดีของร้านแล้ว จึงให้แฟนไปถามว่าได้ยัง แต่ไม่ได้ให้ใบนัดรับแฟนไป
เพราะกะจะไปรับเอง แฟนก็ยังเจอร้านพูดไม่ดีใส่เหมือนกัน แฟนถามเสร็จยังเขาตอบมาแบบไม่เต็มใจว่าเสร็จแล้วกำลังจะโทรบอก แฟนเลยบอกว่าจะโทรบอกใช่ไหม หรือจะให้โทรเอง เขาตอบมาแล้วแต่พี่เลย แต่รู้ไหมคำพูดหรือท่าทางดูกวนมาแฟนบอก อยากให้คนอ่านไปเจอเอง
แล้วเราก็ให้แม่ไปรับแว่นให้ กลับมาลองใส่ดูเป็นแบบที่คิด มองไม่ชัดเลย เบลอ ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะเปลี่ยนแว่นอันใหม่อาจจะไม่ชิน แต่ความรู้สึกมันไม่ใช่นะ ถ้ามันเวียนหัวแต่ภาพมันควรจะชัด นี่เอาแว่นอันเก่ามาใส่ยังชัดกว่าเลย อยากจะเขวี้ยงทิ้งพยายามลองใส่มา 1 วันครึ่งเต็มก็ยังไม่ชัด
เลยลองไปวัดสายตาที่ร้านแว่นท็อปเจริญอีกครั้งเค้าบอกสายตาเราเท่าเดิม 500 ตกลงนี่ได้แว่นที่ไม่ตรงกับสายตา เสียเงินฟรี ไม่อยากจะกลับไปที่ร้าน
นั้นแล้ว กลับไปก็เจอแต่คำพูดไม่ดี อยากรู้จริงๆ ว่าเปิดและอยู่ได้ยังไง
สรุปกลับมาใส่แว่นอันเดิม และต้องเก็บเงินใหม่เพื่อรอไปตัดร้านแว่นท็อปเจริญเหมือนเดิมเงิน ถึงจะราคาแพงแต่ก็ยังได้แว่นที่ใส่สบายตา
เงิน450 ที่เสียไปฟรี บางคนอาจจะเห็นว่ามันเล็กน้อยนะ ก็ไปตัดแว่นใหม่ร้านอื่นสิ แต่สำหรับเรามันมีค่าและหายากมากนะคะ
กระทู้แค่อยากระบาย คงทำอะไรร้านนี้ไม่ได้
ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ถึงไม่มีใครตอบก็ไม่เป็นไรค่ะ