วิเคราะห์ ตามแบบฉบับคุณ Manoi อีกสักบทความครับ

กระทู้สนทนา
★★★ วัดใจ ก่อนเกม ไทย - เกาหลีเหนือ:by Manoi★
« เมื่อ: วันนี้ เวลา 02:38:54 PM »





วัดใจ ก่อนเกม ไทย - เกาหลีเหนือ




ในวันที่ทีมชาติไทยของเรา รู้จุดอ่อน - จุดแข็ง ของคู่ต่อสู้แทบจะทุกซอกและทุกมุม
แต่เราอาจหลงลืมที่จะมองจุดอ่อนของทีมชาติตัวเอง จนอาจทำให้เราต้องนับหนึ่งกันใหม่อีกครั้ง

วันนี้กับเมื่อวาน ในวันที่เราเคยเจอะเจอเกาหลีเหนือมาก่อนในรอบคัดเลือก มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
คุณเชื่อหรือไม่ว่า "เกาหลีเหนือมีการเพรสซิ่งดีที่สุดในกลุ่ม B" ถ้าคุณไม่เชื่อคืนนี้คุณก็จะได้รู้

คุณรู้หรือไม่ว่าเกาหลีเหนือเกลียดทีมฝั่งตรงข้ามที่เล่นเกมตั้งรับแล้วรอสวนกลับมากที่สุด เพราะเกาหลีเหนือชุดนี้
เกมรุกจะตื้อตันในเวลาที่เจอคู่ต่อสู้ที่แพคแนวรับอย่างแน่นหนา (เพราะเกาหลีเหนือชุดนี้ถนัดเกมโต้กลับ)

ฉะนั้นเกมในวันนี้จะเป็นการวัดกึ๋นของโค๊ชทั้ง 2 ฝั่งว่าจะเลือกรูปแบบเกมให้กับทีมตัวเองในแนวทางไหน
ถ้าผมเป็นโค๊ชทีมชาติเกาหลีเหนือในวันนี้ ผมจะตั้งรับเพื่อรอความผิดพลาดของทีมชาติไทยแล้วอาศัยการโจมตี
ไปที่จุดอ่อนในแนวรับของทีมชาติไทยทางฝั่งซ้าย "พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา"


พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา



เป็นนักเตะที่ดีแต่ขาดความมั่นใจจนทำให้ฟอร์มตกลงไปมากจากเมื่อก่อน ถ้าวันนี้ "ซิโก้" ยังดื้อดึงใช้แบ็กซ้ายรายนี้
ผมบอกได้เลยว่า . . . (งานหนัก) เกาหลีเหนือจะระดมเกมรุกเพื่อนวดแบ็กซ้ายของเราไปตลอดทั้งเกม

ทีมชั้นนำทั่วโลกเขาใช้สถิติมาชี้วัดนักเตะในแต่ละตำแหน่งว่าควรหรือไม่ควรเปลี่ยนใคร แต่สิ่งที่ทีมชาติของเรา
กำลังทำนั่นคือเอาความรู้สึกเพื่อมาวัดความสามารถของนักเตะแต่ละตำแหน่งว่าใครสมควรเป็น 11 ตัวจริง

แต่เกมรับของทีมชาติไทยไม่ได้มีช่องโหว่เพียงแค่ช่องเดียว แต่เรายังมีช่องโหว่ขนาดใหญ่ให้คู่ต่อสู้เลือกที่จะเจาะแนวรับ
ทางด้านกลางสนามของทีมชาติไทยได้อีก 1 จุดอ่อนของทีมชาติในชุดนี้นั่นคือ "เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวกลาง"


อดิศร พรหมรักษ์



"อดิศร" เป็นนักเตะที่มีจุดอ่อนในเรื่องการประกบตัว และ ลูกกลางอากาศ ซึ่งถ้าเราเอาสถิติมากางออกดู
แต่ละประตูที่เราเสียหรือเกือบเสียประตู เขาคนนี้มีส่วนอยู่ด้วยเสมอ ผมไม่เข้าใจจริงๆ
ในเมื่อทีมงานขน "เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ" มาตั้งกี่ตัวแต่เลือกใช้เพียงแค่ 2 คนตลอดทั้งทัวร์นาเม้น
แล้วจะขนเอาพวกเขาเหล่านั้นมาทำไม ? ในเมื่อไม่คิดที่จะใช้งาน


เมื่อนำเอาจุดบอดในตำแหน่งกองหลังทั้ง 2 ตำแหน่งมาคำนวนและวิเคราะห์ดูแล้วเราจะเห็นได้ว่า
แทบจะทุกทีมที่เจอเราในรอบนี้จะเล่นงานจากแบ็กซ้ายสลับกับเจาะจากตรงกลาง เพราะเขารู้ว่าเรามีหัวใจในแนวรับ
นั่นก็คือ "ธนบูรณ์ เกษารัตน์" หลายครั้งที่ "ธนบูรณ์" ต้องพะวงแนวรับฝั่งซ้ายจนหลุดตำแหน่งของตัวเอง
และคู่ต่อสู้ก็เลือกเจาะไปที่จุดอ่อนในแนวรับอย่าง "อดิศร พรหมรักษ์" ที่มีจุดอ่อนที่การประกบตัว

เมื่อเขาดึง "ธนบูรณ์" ให้หลุดตำแหน่งเพื่อคอยพะวงเกมรับทางฝั่งซ้ายได้แล้ว ที่เหลือก็เพียงลุ้นว่าการเจาะตรงกลางสนาม
จะได้ผลหรือไม่แค่นั้นเอง ถ้าวันนี้ "ซิโก้" ยังดื้อดึงที่จะส่ง "อดิศร" ยืนคู่ "ธนบูรณ์" บอกเลยว่างานหนัก

และที่หนักกว่านั้นนั่นคือการที่เราไม่มี "มิดฟิลด์ตัวตัดเกม" ที่คอยดีเลย์เกมรุกของคู่ต่อสู้นั่นเท่ากับว่า เราเพิ่มภาระ
ไปที่ "เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ" ทั้ง 2 ตำแหน่งของเราให้ทำงานหนักขึ้น เมื่อ 2 ตำแหน่งนี้ทำงานหนักขึ้นก็เกิดอาการใจฝ่อ
ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเพื่อนร่วมทีม ซึ่งเราจะเห็นได้จาก ทำไม "ธนบูรณ์ เกษารัตน์" เตะบอลออกด้านข้างบ่อยจัง ?
คำตอบก็คือ เป็นสไตล์ของนักเตะอยู่แล้วที่เล่นเพลย์เซฟ แต่เมื่อมองแววตาของนักเตะแล้วมันคือความกังวลใจ
และไม่มั่นใจในตัวเพื่อนร่วมทีมในตำแหน่งตัวเชื่อมเกมจากรับเป็นรุก นั่นคือ "ชยาวัฒน์ ศรีนาวงษ์"


ชยาวัฒน์ ศรีนาวงษ์



เขาอาจเป็นนักเตะที่ดีถ้าได้เล่นในตำแหน่งที่ตัวเองถนัด แต่เขาอาจเป็นนักเตะที่ขาดความเชื่อมั่น
และความมั่นใจในตัวเองไปเลย ในวันที่เขาไม่ได้เล่นในตำแหน่งที่ตัวเองควรเป็น

คงไม่ต้องพูดอะไรมากไปกว่าคำว่า "ชยาวัฒน์ ศรีนาวงษ์ ไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้ในทีมชาติไทย"
ผมก็อยากถาม "ซิโก" เหมือนกันว่า คุณเอามิดฟิลด์ตัวรับอาชีพ ที่ติดมาในทีม มาด้วยทำไม ?
ในเมื่อคุณไม่คิดที่จะใช้เขาเหล่านั้น และจะใช้เมื่อใดเพราะนัดนี้อาจเป็นนัดสุดท้ายของทีมชาติไทยก็เป็นได้

เมื่อนำทั้ง 3 จุดบอดในแนวรับของทีมชาติไทยชุดนี้มารวมกัน มันคือช่องโหว่ขนาดใหญ่มากที่ทำให้คู่ต่อสู้
ใช้เล่นงานแผงแนวรับของทีมชาติไทย เพียงแค่ตั้งรับและเพรสซิ่งเพื่อรอความผิดพลาดของแผงมิดฟิลด์
หลังจากนั้นเปลี่ยนรับเป็นรุกให้ไวแล้วโจมตีไปที่จุดอ่อนทั้ง 3 จุด

ผมกล้าบอกได้เลยว่าไม่ว่าวันนี้ผลจะเป็นเช่นไร ถ้าทีมชาติไทยยังใช้ผู้เล่นชุดเดิมๆ ในแบบที่ผ่านมา
เราจะเจอเกมที่ยากเหมือนเช่นเกมที่ทีมชาติไทยชุดใหญ่เจอ "อิรัก" อย่างนั้นเลย


ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์



เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ แต่คิดช้าทำช้า เด็กคนนี้จะคิดและทำช้ากว่าคู่ต่อสู้ในระดับเอเชีย 2 สเต็ป
การเคลื่อนที่ของ "ฐิติพันธ์" ก็ยังช้ากว่าเมื่อก่อนมาก เขาไม่เหมาะที่จะยืนเป็น มิดฟิลด์ตัวรุก
เขาเหมาะที่จะยืนเป็น "มิดฟิลด์ตัวรับ" คอยเชื่อมเกมระหว่างแผงกองหลังไปสู่กองหน้า

ถ้า "ซิโก้" ยังมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวนักเตะคนนี้ว่ามีดีที่เกมรุก นั่นเท่ากับว่าทีมชาติไทย
ได้ต่อตัวผู้เล่นให้ฝั่งตรงข้ามไป 1 ตัว คนที่จะยืนเป็นแผงกองกลางคู่ "เจ" ได้นั้น ต้องคิดไวทำไว
และเคลื่อนที่ให้มาก เพื่อให้ "เจ" มีทางเลือกได้มากในแผงกองกลาง และคนที่เหมาะสมมากที่สุด
ในเวลานี้คงหนีไม่พ้น "เชาว์วัฒน์ วีระชาติ" เพราะนักเตะคนนี้มีการเคลื่อนที่ได้ดีมากถึงแม้ในระดับสโมสร
จะไม่ดีพอที่จะยึด 11 ตัวจริงของบุรีรัมย์ก็ตาม แต่การเคลื่อนที่นั้นดีกว่าทุกคนในแผงกองกลางทีมชาติไทยชุดนี้


ปกรณ์ เปรมภักดิ์



หลายต่อหลายนัดที่เราได้เห็นแล้วว่า เขามีอัตราการวิ่ง / 1 เกม นั้นน้อยมาก สถิติมันบ่งบอกอะไรเราได้บ้าง
สถิติมันบอกเราได้ว่ายิ่งนักเตะตำแหน่งไหนในทีมวิ่งน้อยกว่าคนอื่น ในเวลาที่เราเพรสซิ่งคู่แข่ง
มันจะทำให้เกิดช่องโหว่ขนาดใหญ่ให้คู่ต่อสู้สามารถโจมตีเราได้ และนั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไม ?
ทีมชาติไทยถึงเพรสซิ่งทีมชั้นนำในระดับเอเชียไม่ตาย นักเตะต่อให้เก่งแค่ไหนถ้าไม่วิ่งก็ไร้ค่าที่จะนำมาติดทีมชาติ

ถ้าใครยังไม่เข้าใจหรือสงสัยให้ไปย้อนเทปดูว่านักเตะทุกคนที่เล่นฝั่งเดียวกับ "ปกรณ์ เปรมภักดิ์"
จะรับบทหนักในเกมรับมากเป็นพิเศษ "บางคนถึงขั้นโดนด่าจนเสียผู้เสียคนเลยทีเดียว" ทั้งๆที่เขาก็เล่นได้ดี
แต่เพียงแค่ขาดคนคอยช่วยไล่ในเกมรับแค่นั้นเอง


ถ้าวันนี้ "ซิโก" เปิดเกมรุกเข้าใส่เกาหลีเหนือเมื่อใด นั่นเท่ากับว่าเรากำลังเดินตามเกมเกาหลีเหนือมากเท่านั้น
เพราะวันนี้ถ้าผมเป็นโค๊ชเกาหลีเหนือ ผมก็จะมาตั้งรับและเพรสซิ่งให้หนักตามแบบฉบับของเกาหลีเหนือ
แล้วรอจังหวะความผิดพลาดของแผงกองกลางของไทยแล้วเปิดเกมรุกจากรับเป็นรุกให้ไวแล้วโจมตีจุดอ่อนของเราในแนวรับ

แต่ถ้าวันนี้ผมเป็น "ซิโก" ผมก็จะเลือกรับให้แน่นแล้วรอความผิดพลาดของเกาหลีเหนือแล้วเปิดจากรับเป็นรุกให้ไว
เพราะเกาหลีเหนือชุดนี้แพ้ทีมที่มีการตั้งรับได้ดีแล้วรอสวน พวกเขาจะหาทางเจาะเข้าไปทำเกมรุกลำบากมาก
เพราะมันไม่ใช่สไตล์ที่พวกเขาถนัด

ขอให้ทีมชาติไทยจงโชคดี ขอให้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป เพราะเราจะไป "Rio De Janeiro" ไปด้วยกัน
by:Manoi
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่