สิ่งมีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิต ต่างกันยังไง
โลกเป็นโรงงานโดยอาศัยกฎฟิสิกส์และพลังงานจากในโลกและนอกโลกขับเคลื่อน สร้างหุ่นยนต์ สร้างทั้งเล็กทั้งใหญ่ เป็นเซลล์เดียวก็มี หุ่นยนต์พวกนี้สร้างตัวเองได้ก็จริง แต่จริงๆแล้วเป็นการรีไซเคิ้ลชิ้นส่วนของโลก หมุนเวียนอยู่อย่างนี้ จะว่าไปเราคือชิ้นส่วนของโลกนั่น หรือโลกไข่ออกมาเป็นเรา แล้วโลกมีชีวิตไหม?
แม้บางครั้งเราก็ออกจากโลกได้ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอื่น แล้วมันแตกต่างอะไรกับถ้าโลกโดนอุกกาบาตชนแล้วก้อนหินจากโลกกระเด็นไปดาวอื่น เราก็เป็นสสารในจักรวาลแค่นั้นเอง
งั้นชีวิตคืออะไร? >>ชีวิตคือสิ่งที่หุ่นยนต์ชนิดหนึ่งในโลก "มโน" ขึ้นมาเพื่อเป็นรากฐานความเชื่อ ซึ่งนำไปสู่ศาสนาและการปกครอง อำนาจ สิทธิหน้าที่ เพื่อจัดระเบียบหุ่นยนต์กันเอง ซึ่งทำให้หุ่นยนต์อยู่รอดมากขึ้น
แล้วถ้าบอกว่า สิ่งมีชีวิตคือสิ่งที่ "มโน"ได้ล่ะ? >> สิ่งที่คล้ายกับ "มโน" ที่มีอยู่เป็นธรรมชาติของทั้งจักรวาลคือ "การสุ่ม" และการสุ่มนี้โปรแกรมให้หุ่นยนต์มากมายหลายแบบ แต่การสุ่มที่ให้ตั้งธงเอาไว้ว่า "ฉันมีชีวิตนะ" ทำให้หุ่นยนต์นั่นมีอัตราการอยู่รอดมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ หุ่นยนต์ทั้งหลายจึงมโนชีวิตให้กับตัวเอง ความรู้สึกซึ่งชีวิตจึงถูกโปรแกรมไว้ในหุ่นยนต์ทั้งหลาย ถ้าหุ่นยนต์ตัวไหนไม่มีโปรแกรมนี้ก็มีความเสี่ยงที่จะพังได้ง่ายมากทั้งจากตัวเองและสภาพแวดล้อม
สรุป สิ่งมีชีวิต หรือไม่มีชีวิต ก็ขึ้นอยู่กับกรอบที่จะมอง ถ้ามองกว้างๆ ก็จะไม่มีชีวิต ถ้ามองแคบลงมาหน่อย ก็จะมีชีวิต
สิ่งมีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิต
โลกเป็นโรงงานโดยอาศัยกฎฟิสิกส์และพลังงานจากในโลกและนอกโลกขับเคลื่อน สร้างหุ่นยนต์ สร้างทั้งเล็กทั้งใหญ่ เป็นเซลล์เดียวก็มี หุ่นยนต์พวกนี้สร้างตัวเองได้ก็จริง แต่จริงๆแล้วเป็นการรีไซเคิ้ลชิ้นส่วนของโลก หมุนเวียนอยู่อย่างนี้ จะว่าไปเราคือชิ้นส่วนของโลกนั่น หรือโลกไข่ออกมาเป็นเรา แล้วโลกมีชีวิตไหม?
แม้บางครั้งเราก็ออกจากโลกได้ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอื่น แล้วมันแตกต่างอะไรกับถ้าโลกโดนอุกกาบาตชนแล้วก้อนหินจากโลกกระเด็นไปดาวอื่น เราก็เป็นสสารในจักรวาลแค่นั้นเอง
งั้นชีวิตคืออะไร? >>ชีวิตคือสิ่งที่หุ่นยนต์ชนิดหนึ่งในโลก "มโน" ขึ้นมาเพื่อเป็นรากฐานความเชื่อ ซึ่งนำไปสู่ศาสนาและการปกครอง อำนาจ สิทธิหน้าที่ เพื่อจัดระเบียบหุ่นยนต์กันเอง ซึ่งทำให้หุ่นยนต์อยู่รอดมากขึ้น
แล้วถ้าบอกว่า สิ่งมีชีวิตคือสิ่งที่ "มโน"ได้ล่ะ? >> สิ่งที่คล้ายกับ "มโน" ที่มีอยู่เป็นธรรมชาติของทั้งจักรวาลคือ "การสุ่ม" และการสุ่มนี้โปรแกรมให้หุ่นยนต์มากมายหลายแบบ แต่การสุ่มที่ให้ตั้งธงเอาไว้ว่า "ฉันมีชีวิตนะ" ทำให้หุ่นยนต์นั่นมีอัตราการอยู่รอดมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ หุ่นยนต์ทั้งหลายจึงมโนชีวิตให้กับตัวเอง ความรู้สึกซึ่งชีวิตจึงถูกโปรแกรมไว้ในหุ่นยนต์ทั้งหลาย ถ้าหุ่นยนต์ตัวไหนไม่มีโปรแกรมนี้ก็มีความเสี่ยงที่จะพังได้ง่ายมากทั้งจากตัวเองและสภาพแวดล้อม
สรุป สิ่งมีชีวิต หรือไม่มีชีวิต ก็ขึ้นอยู่กับกรอบที่จะมอง ถ้ามองกว้างๆ ก็จะไม่มีชีวิต ถ้ามองแคบลงมาหน่อย ก็จะมีชีวิต