เป็นกระทู้แรกที่มารีวิวค่ะต้องขออภัยล่วงหน้าถ้ายังเขียนเรียงข้อมูลไม่ดีเท่าไหร่นะคะ (>.<)
ดองมานานในที่สุดก็มีได้ฤกษ์งามยามดีมาเขียนรีวิวแชร์ประสบการณ์ไปญี่ปุ่นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของตัวเองเป็นครั้งแรกค่ะ
ป.ล. รูปส่วนใหญ่ถ่ายจาก iphone6 ค่ะ เพราะว่าพกสะดวก
* * ติดตาม [CR]เที่ยวญี่ปุ่นแบบ slow life กินทุกอย่างที่อยากกินแช่ออนเซนช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแถบคันโต (Part 2 Start from day 6)
http://ppantip.com/topic/34719000 * * เนื่องจากเนื้อหา Part1 ยาวไปหน่อยขอตัดเป็น Part2 ตาม Link นะคะ (^@^)
เริ่มเลยนะคะ คือ Concept Japan trip ครั้งนี้ที่เรา Set เอาไว้คือ ไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ และเราจะไปแบบ Slow life กินทุกอย่างที่อยากกิน นอนเรียวกังแช่ออนเซ็น เน้นธรรมชาติไม่เน้นช๊อปปิ้ง เพราะตังหมดค่ะ ฮ่าฮ่า เลยเน้นกินๆๆๆ แช่ออนเซ็นแทนค่ะ สรุปไป 9 วัน แช่เกือบทุกวันเลยค่ะ ^^
เราเลยเริ่มจากไปหาข้อมูลช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จากเว็บนี้ก่อนค่ะ พอหาข้อมูลเสร็จเราก็ปักหมุดว่าจะไปช่วงต้นเดือน พ.ย. 9 วัน กันค่ะ
http://www.tiewyeepoon.com/hot-topics/news/koyo-autumn-2015/
พอได้วันก็ไม่รอช้า รีบหาตั๋วเครื่องบินค่ะ ทริปนี้โชคดีสุดๆ ไปเจอโปรลง นาริตะ ของ ANA พอดี ราคาไปกลับรวม TAX ประมาณ 17,000 ค่ะ
จองไป วันที่ 6 Nov - 14 Nov 2015 ค่ะ เครื่องบินลงนาริตะประมาณ 8.45 A.M. ปั้บเริ่มเดินทางเที่ยวเลยค่ะ แผนเที่ยวที่วางกันมาเป็นประมาณนี้ค่ะ
ข้อมูลที่พักทั้ง9 วัน จองก่อนไปตาะ ก็หาตามเว็บ Booking.com บ้าง Agoda.com บ้างค่ะ และดูข้อมูลอ่าน Review จาก Tripadvisor.com ประกอบค่ะ
Day 1 : กรุงเทพ - นาริตะ มุ่งหน้า Kawaguchiko
ถึง สนามบินนานาชาติ Narita Terminal 1 ช่วง 8.40 A.M. ลงปุ้บไปรับกระเป๋า แล้วออกจาก Gate เลยค่ะ อย่างแรกไปถึงซื้อ JR Kanto Area Pass กับ SIM Internet เพื่อใช้ดูแผนที่ใส่มือถือเลยค่ะ ทำเวลาในการซื้อสุดๆ จำได้เลยวิ่งกันหูตูบ เกือบไม่ทันรถไฟรอบ 9.15 A.M. ไป Kawaguchiko
ไปถึง สถานี Kawaguchiko ช่วงบ่ายโมงกว่าๆ ไปถึงเราก็ไปซื้อตั๋ว Retro Bus รูปร่างรถ Retro Bus ค่ะ เอามาให้ดูเป็นตัสอย่างจากเว็บ
http://www.gojapango.com/travel/mount_fuji_kawaguchiko.html
หลังจากลง Kawaguchiko Train station ชื่อ Kawaguchiko Saiko Area Coupon คนละ 1,300 เยน (นั่งรถบัสดูรอบทะเลสาบ) ใช้ได้ 2 วันพอดีเลยตั๋วใบนี้นั่งจนคุ้มค่ะ พอได้ตั๋วเราก็นั่งไปที่ National Park Station เพื่อโทรเรียก Guest house มารับกระเป๋าไปเก็บก่อนค่ะ จากนั้นก็มานั่งชิวดื่มกาแฟ ดูวิวฟูจิ ชิวๆ ซักพัก อุณหภูมิ กำลังเย็นสบาย 10 กว่าองศาค่ะ ช่วงที่ไป
วันแรกมาถึงก็บ่ายๆแล้วค่ะ เราเลยเน้น ชิวๆ ดูวิวสวยๆ ถ่ายรูป ใบไม้แดงริมทะเลสาบกันค่ะช่วงเย็น
วันแรกหมดไปกับการเดินถ่ายรูปค่ะ ฮ่าฮ่า ^@^ ชอบบรรยากาศอย่างนี้ที่สุดเลยค่ะ
หมดแรงไปกับการเดินทางขอเข้าที่พักพักเอาแรงก่อนค่ะ ไปแช่ออนเซนคลายเมื่อยล้า ไม่ได้ถ่ายรูป ออนเซนมาค่ะแต่บรรยากาศดีสุดๆๆ
ดูบรรยากาศที่พักก่อนค่ะ ชิวสุดๆ ข้างหลังที่พักจะเป็นฟูจิค่ะแต่ฟ้าไม่เปิดซะแล้ว
Day2 ยังคงอยูที่ Kawaguchiko ค่ะ วันนี้เที่ยว Mt Fuji 5th Station (Kawaguchiko) และ รอบๆ Kawaguchiko ตาม Station ต่างๆ
ตื่นเช้ามา ก็ให้ทาง Guest house พามาส่งที่ Kawaguchiko station เพื่อฝากกระเป๋าที่ Locker ค่ะ แล้วเราก็พร้อมไป MT Fuji 5th Station กันแล้วโดย นั่ง Fujikyu Bus มีตารางรถบัสประมาณนี้ค่ะ
ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีก็ถึง วันนี้ฟ้าปิดลมแรง หนาวทีเดียว ขึ้นไปไม่เห็นฟูจิซังเลยค่ะ เลยไปหาขนมกินแทนค่ะ
ลองกินขนมรูปฟูจิ หวานๆค่ะมีน้ำตาลไอซซิ่งโรยๆ
มี อากาศกระป๋องขายด้วย
จริงๆมีกินราเมน แล้วก็ Soft Cream ด้วยค่ะไม่ได้ถ่ายมา กินเสร็จก็เดินเล่นแปปนึงแล้วเราก็ลงค่ะ เพราะ เห็นแต่หมอกค่ะวันนี้
ลงไปเดินเล่นรอบๆทะเลสาบดีกว่าค่ะ ต้นแป๊ะก้วยใบเหลืองเต็มไปหมดเลย
เดินไปเรื่อยๆไปขึ้นกระเช้า Kachi Kachi ค่ะ วันนี้หมอกเยอะไม่เห็นวิวเท่าไหร่เลย เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปวิว มาค่ะ
พอลงมาจากกระเช้า หันหน้าเข้าทะเลสาบจะมีร้านอาหารขายกันอยู่เลยเดินเข้าไปลองชิมดูค่ะ
เหมือนจะเป็นชุด ทงคัตสึ ค่ะ อร่อยดีค่ะยิ่งกินตอนหิวๆนี่ เอาไป 5 ดาวค่ะ ร้านจำชื่อไม่ได้อยู่ชั้น2 มีบันไดเล็กๆเดินขึ้นได้ค่ะ
พอกินเสร็จ เราก็เดินอีกคือทริปนี้เดินเยอะ มากค่ะ เดินไปรอรถบัส เพื่อไปดูงานใบไม้เปลี่ยนสีตอนกลางคืนค่ะ พอดีมีเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี
ที่อุโมงค์เมเปิ้ลค่ะ ฮ่าฮ่า ถ่ายมาไม่เยอะค่ะ ถ่ายออกมามืดๆอ่า T^T
จากนั้นเราก็นั่งรถบัสกลับที่พักวันที่ 2 ค่ะ
Day3 – Day4 : 8 Nov 2015 ไม่รีรอค่ะ ตื่นมาเราก็หาอะไรกินแล้วออกเดินทางไป Gunma กันแต่สายๆ ฮ่าฮ่า
>> Kawaguchiko to Gunma(NAGANOHARAKUSATSUGUCHI ) ยังคงใช้ตั๋ว JR Kanto Area Pass ได้นะคะ
พอถึงสถานี NAGANOHARAKUSATSUGUCHI แล้ว รถไฟจะ Local ประมาณนี้ค่ะ
ให้ไปต่อ JR Bus ซึ่ง Bus มาตามตารางค่ะ
เดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง ก็จะถึงที่หมายเราค่ะ Kusatsu Onsen ข้อมูลเพิ่มเติมตาม Link ค่ะ
https://www.visitgunma.jp/th/onsen/index.php
Kusatsu Onsen รอบๆ เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก เด่นเรื่อง ออนเซ็นค่ะ ช่วงที่ไป หนาวเย็นๆเช้าๆก็ประมาณ 10 องศาต้นๆค่ะ ฝนตกนิดหน่อยปรอยๆ
ปัจจุบันนี้ คุสะทสึอนเซ็นได้ถูกนับเป็นหนึ่งในสามของ "สามอนเซ็นที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น" เรียงลำดับจากอะริมาและเกโระอนเซ็น
เดินเล่นเสร็จก็หาร้านของกินค่ะ จำชื่อร้านไม่ได้แต่ร้านอยู่รอบๆบ่อน้ำร้อนเลยค่ะ
กินเสร็จก็ดึกแล้วค่ะซัก 3 ทุ่มเดินเล่นรอบๆ บ่อน้ำพุคุสะทสึ อนเซ็นต่อค่ะ ที่นี่มีออนเซ็น public แยกชายหญิง อยู่หลายจุดค่ะแต่น้ำค่อนข้างร้อนมากนะคะ มีให้แช่เท้าด้วย สบายสุดไม่เสียตังค่ะ เมืองนี้เมืองออนเซนค่ะ
แช่เท้าเสร็จแล้ว สบายสุดๆค่ะ เข้าที่พักนอนเตรียมเที่ยวต่อวันรุ่งขึ้นค่ะ
เนื่องจาก Kusatsu Onsen เป็นเมือง Onsen ดังนั้นจึงมี Onsen สาธารณะ อยู่รอบๆเมืองค่ะ Onsen สาธารณะตามรูปข้างล่างค่ะ
แยกชายหญิงนะคะ ^^ แต่ออนเซน สาธารณะตามจุดต่างๆ น้ำร้อนมากค่ะ เท้าแหย่ปุ้บ ร้องจ๊ากเลย ไม่ไหว สุกแน่ๆเลยไม่ได้แช่ค่ะขอผ่าน
เดี๋ยวมาต่อนะคะ ไปงีบก่อน
[CR] เที่ยวญี่ปุ่นแบบ slow life กินทุกอย่างที่อยากกินแช่ออนเซนช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแถบคันโต(Kawaguchiko,Gunma,Nikko,Tokyo)
ดองมานานในที่สุดก็มีได้ฤกษ์งามยามดีมาเขียนรีวิวแชร์ประสบการณ์ไปญี่ปุ่นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของตัวเองเป็นครั้งแรกค่ะ
ป.ล. รูปส่วนใหญ่ถ่ายจาก iphone6 ค่ะ เพราะว่าพกสะดวก
* * ติดตาม [CR]เที่ยวญี่ปุ่นแบบ slow life กินทุกอย่างที่อยากกินแช่ออนเซนช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแถบคันโต (Part 2 Start from day 6) http://ppantip.com/topic/34719000 * * เนื่องจากเนื้อหา Part1 ยาวไปหน่อยขอตัดเป็น Part2 ตาม Link นะคะ (^@^)
เริ่มเลยนะคะ คือ Concept Japan trip ครั้งนี้ที่เรา Set เอาไว้คือ ไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ และเราจะไปแบบ Slow life กินทุกอย่างที่อยากกิน นอนเรียวกังแช่ออนเซ็น เน้นธรรมชาติไม่เน้นช๊อปปิ้ง เพราะตังหมดค่ะ ฮ่าฮ่า เลยเน้นกินๆๆๆ แช่ออนเซ็นแทนค่ะ สรุปไป 9 วัน แช่เกือบทุกวันเลยค่ะ ^^
เราเลยเริ่มจากไปหาข้อมูลช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จากเว็บนี้ก่อนค่ะ พอหาข้อมูลเสร็จเราก็ปักหมุดว่าจะไปช่วงต้นเดือน พ.ย. 9 วัน กันค่ะ
http://www.tiewyeepoon.com/hot-topics/news/koyo-autumn-2015/
พอได้วันก็ไม่รอช้า รีบหาตั๋วเครื่องบินค่ะ ทริปนี้โชคดีสุดๆ ไปเจอโปรลง นาริตะ ของ ANA พอดี ราคาไปกลับรวม TAX ประมาณ 17,000 ค่ะ
จองไป วันที่ 6 Nov - 14 Nov 2015 ค่ะ เครื่องบินลงนาริตะประมาณ 8.45 A.M. ปั้บเริ่มเดินทางเที่ยวเลยค่ะ แผนเที่ยวที่วางกันมาเป็นประมาณนี้ค่ะ
ข้อมูลที่พักทั้ง9 วัน จองก่อนไปตาะ ก็หาตามเว็บ Booking.com บ้าง Agoda.com บ้างค่ะ และดูข้อมูลอ่าน Review จาก Tripadvisor.com ประกอบค่ะ
Day 1 : กรุงเทพ - นาริตะ มุ่งหน้า Kawaguchiko
ถึง สนามบินนานาชาติ Narita Terminal 1 ช่วง 8.40 A.M. ลงปุ้บไปรับกระเป๋า แล้วออกจาก Gate เลยค่ะ อย่างแรกไปถึงซื้อ JR Kanto Area Pass กับ SIM Internet เพื่อใช้ดูแผนที่ใส่มือถือเลยค่ะ ทำเวลาในการซื้อสุดๆ จำได้เลยวิ่งกันหูตูบ เกือบไม่ทันรถไฟรอบ 9.15 A.M. ไป Kawaguchiko
ไปถึง สถานี Kawaguchiko ช่วงบ่ายโมงกว่าๆ ไปถึงเราก็ไปซื้อตั๋ว Retro Bus รูปร่างรถ Retro Bus ค่ะ เอามาให้ดูเป็นตัสอย่างจากเว็บ
http://www.gojapango.com/travel/mount_fuji_kawaguchiko.html
หลังจากลง Kawaguchiko Train station ชื่อ Kawaguchiko Saiko Area Coupon คนละ 1,300 เยน (นั่งรถบัสดูรอบทะเลสาบ) ใช้ได้ 2 วันพอดีเลยตั๋วใบนี้นั่งจนคุ้มค่ะ พอได้ตั๋วเราก็นั่งไปที่ National Park Station เพื่อโทรเรียก Guest house มารับกระเป๋าไปเก็บก่อนค่ะ จากนั้นก็มานั่งชิวดื่มกาแฟ ดูวิวฟูจิ ชิวๆ ซักพัก อุณหภูมิ กำลังเย็นสบาย 10 กว่าองศาค่ะ ช่วงที่ไป
วันแรกมาถึงก็บ่ายๆแล้วค่ะ เราเลยเน้น ชิวๆ ดูวิวสวยๆ ถ่ายรูป ใบไม้แดงริมทะเลสาบกันค่ะช่วงเย็น
วันแรกหมดไปกับการเดินถ่ายรูปค่ะ ฮ่าฮ่า ^@^ ชอบบรรยากาศอย่างนี้ที่สุดเลยค่ะ
หมดแรงไปกับการเดินทางขอเข้าที่พักพักเอาแรงก่อนค่ะ ไปแช่ออนเซนคลายเมื่อยล้า ไม่ได้ถ่ายรูป ออนเซนมาค่ะแต่บรรยากาศดีสุดๆๆ
ดูบรรยากาศที่พักก่อนค่ะ ชิวสุดๆ ข้างหลังที่พักจะเป็นฟูจิค่ะแต่ฟ้าไม่เปิดซะแล้ว
Day2 ยังคงอยูที่ Kawaguchiko ค่ะ วันนี้เที่ยว Mt Fuji 5th Station (Kawaguchiko) และ รอบๆ Kawaguchiko ตาม Station ต่างๆ
ตื่นเช้ามา ก็ให้ทาง Guest house พามาส่งที่ Kawaguchiko station เพื่อฝากกระเป๋าที่ Locker ค่ะ แล้วเราก็พร้อมไป MT Fuji 5th Station กันแล้วโดย นั่ง Fujikyu Bus มีตารางรถบัสประมาณนี้ค่ะ
ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีก็ถึง วันนี้ฟ้าปิดลมแรง หนาวทีเดียว ขึ้นไปไม่เห็นฟูจิซังเลยค่ะ เลยไปหาขนมกินแทนค่ะ
ลองกินขนมรูปฟูจิ หวานๆค่ะมีน้ำตาลไอซซิ่งโรยๆ
มี อากาศกระป๋องขายด้วย
จริงๆมีกินราเมน แล้วก็ Soft Cream ด้วยค่ะไม่ได้ถ่ายมา กินเสร็จก็เดินเล่นแปปนึงแล้วเราก็ลงค่ะ เพราะ เห็นแต่หมอกค่ะวันนี้
ลงไปเดินเล่นรอบๆทะเลสาบดีกว่าค่ะ ต้นแป๊ะก้วยใบเหลืองเต็มไปหมดเลย
เดินไปเรื่อยๆไปขึ้นกระเช้า Kachi Kachi ค่ะ วันนี้หมอกเยอะไม่เห็นวิวเท่าไหร่เลย เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปวิว มาค่ะ
พอลงมาจากกระเช้า หันหน้าเข้าทะเลสาบจะมีร้านอาหารขายกันอยู่เลยเดินเข้าไปลองชิมดูค่ะ
เหมือนจะเป็นชุด ทงคัตสึ ค่ะ อร่อยดีค่ะยิ่งกินตอนหิวๆนี่ เอาไป 5 ดาวค่ะ ร้านจำชื่อไม่ได้อยู่ชั้น2 มีบันไดเล็กๆเดินขึ้นได้ค่ะ
พอกินเสร็จ เราก็เดินอีกคือทริปนี้เดินเยอะ มากค่ะ เดินไปรอรถบัส เพื่อไปดูงานใบไม้เปลี่ยนสีตอนกลางคืนค่ะ พอดีมีเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี
ที่อุโมงค์เมเปิ้ลค่ะ ฮ่าฮ่า ถ่ายมาไม่เยอะค่ะ ถ่ายออกมามืดๆอ่า T^T
จากนั้นเราก็นั่งรถบัสกลับที่พักวันที่ 2 ค่ะ
Day3 – Day4 : 8 Nov 2015 ไม่รีรอค่ะ ตื่นมาเราก็หาอะไรกินแล้วออกเดินทางไป Gunma กันแต่สายๆ ฮ่าฮ่า
>> Kawaguchiko to Gunma(NAGANOHARAKUSATSUGUCHI ) ยังคงใช้ตั๋ว JR Kanto Area Pass ได้นะคะ
พอถึงสถานี NAGANOHARAKUSATSUGUCHI แล้ว รถไฟจะ Local ประมาณนี้ค่ะ
ให้ไปต่อ JR Bus ซึ่ง Bus มาตามตารางค่ะ
เดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง ก็จะถึงที่หมายเราค่ะ Kusatsu Onsen ข้อมูลเพิ่มเติมตาม Link ค่ะ
https://www.visitgunma.jp/th/onsen/index.php
Kusatsu Onsen รอบๆ เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก เด่นเรื่อง ออนเซ็นค่ะ ช่วงที่ไป หนาวเย็นๆเช้าๆก็ประมาณ 10 องศาต้นๆค่ะ ฝนตกนิดหน่อยปรอยๆ
ปัจจุบันนี้ คุสะทสึอนเซ็นได้ถูกนับเป็นหนึ่งในสามของ "สามอนเซ็นที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น" เรียงลำดับจากอะริมาและเกโระอนเซ็น
เดินเล่นเสร็จก็หาร้านของกินค่ะ จำชื่อร้านไม่ได้แต่ร้านอยู่รอบๆบ่อน้ำร้อนเลยค่ะ
กินเสร็จก็ดึกแล้วค่ะซัก 3 ทุ่มเดินเล่นรอบๆ บ่อน้ำพุคุสะทสึ อนเซ็นต่อค่ะ ที่นี่มีออนเซ็น public แยกชายหญิง อยู่หลายจุดค่ะแต่น้ำค่อนข้างร้อนมากนะคะ มีให้แช่เท้าด้วย สบายสุดไม่เสียตังค่ะ เมืองนี้เมืองออนเซนค่ะ
แช่เท้าเสร็จแล้ว สบายสุดๆค่ะ เข้าที่พักนอนเตรียมเที่ยวต่อวันรุ่งขึ้นค่ะ
เนื่องจาก Kusatsu Onsen เป็นเมือง Onsen ดังนั้นจึงมี Onsen สาธารณะ อยู่รอบๆเมืองค่ะ Onsen สาธารณะตามรูปข้างล่างค่ะ
แยกชายหญิงนะคะ ^^ แต่ออนเซน สาธารณะตามจุดต่างๆ น้ำร้อนมากค่ะ เท้าแหย่ปุ้บ ร้องจ๊ากเลย ไม่ไหว สุกแน่ๆเลยไม่ได้แช่ค่ะขอผ่าน
เดี๋ยวมาต่อนะคะ ไปงีบก่อน