เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมชาวไอร์แลนด์เหนือยอมรับว่าสมัยคุมลิเวอร์พูล การทำงานของเขาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะหากจะนำเข้านักเตะในแบบที่ต้องการเรื่องจำเป็นต้องผ่านคณะกรรมการซื้อขายเสียก่อน
กุนซือตาหวานให้สัมภาษณ์เปิดใจในรายการ Sky Sports' Goals เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยคำกล่าวอ้างของเขาสวนทางกับที่เอียน อายร์เคยบอกว่าร็อดเจอร์สมีสิทธิ์ขาดยามเซ็นสัญญานักเตะ
"โมเดลของสโมสรค่อนข้างจะแตกต่างกับที่อื่นโดยกลุ่มเจ้าของทีมมีแนวทางการทำงานที่อยากนำเข้านักเตะอายุน้อย พยายามพัฒนาพวกเขาและก้าวเดินต่อไป นักเตะหลายคนที่ย้ายเข้ามามีอายุประมาณ 24 ปีหรือน้อยกว่านั้น"
"ในฐานะผู้จัดการทีมคุณคือหัวหน้าในนามแต่มีทีมงานการสรรหานักเตะอยู่ในตำแหน่ง คนพวกนี้ทำงานกันหนักมาก"
"มันเป็นการตัดสินใจในแบบกลุ่ม มันไม่ใช่สิ่งที่ผมจะมีสิทธิ์ตัดสินใจเด็ดขาด ถือว่ายากนะเพราะคุณมีนักเตะในใจที่ต้องการแต่หากนักเตะคนนั้นไม่มีอยู่ในลิสต์รายชื่อคุณก็ต้องเลือกคนอื่น"
บีร็อดใช้กรณีการเซ็นสัญญาคว้าตัวมาริโอ บาโลเตลลี่ในการยกตัวอย่าง โดยเขากล่าวว่า
"เราต้องการนักเตะที่สามารถไล่บอลได้ตั้งแต่แดนหน้า ไม่ใช่แค่นักเตะจอมยิงประตูที่เราตามหาเพราะหลุยส์ ซัวเรซมอบอะไรหลายอย่างให้เรามากกว่านั้น"
"หลังเกมอุ่นเครื่องกับเอซี มิลาน ผมถูกถามคำถามและผมรู้สึกว่ามาริโอไม่ใช่นักเตะที่เข้ากับโปรไฟล์แบบที่เราตามหา แต่พอมาถึงช่วงท้ายของซัมเมอร์ตอนที่เรากระ
กระสนในการนำเข้านักเตะประเภทที่ต้องการ เจ้าของทีมคิดว่านี่อาจจะเป็นนักเตะที่ผมสามารถพัฒนาขึ้นมาได้"
"เขาเป็นนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์นะ เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย คุณได้เห็นเขาในสนามซ้อมทุกๆวัน เขาตัวใหญ่, แข็งแกร่งและจับบอลได้ยอดเยี่ยม พวกเขา(เจ้าของ)คิดกันว่านี่คือนักเตะราคา 50 ล้านปอนด์ที่เราอาจใช้เงินเพียง 16 ล้านปอนด์คว้ามาร่วมทีม"
"ยามที่เจ้าของสโมสรต้องการให้คุณก้าวเดินไปในเส้นทางสายนั้นคุณก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีก คุณต้องลองทำดู"
"สิ่งที่เสียหายที่สุดก็คือเราคิดว่าเราจะได้ตัวอเล็กซิส ซานเชซและนั่นจะเป็นเหมือนการทดแทนที่ยอดเยี่ยมในแนวทางการเพรสเกมของเรา ความดุดันของเขาช่วยได้ เราคิดว่าเขาคือนักเตะที่เพอร์เฟ็คต์ มันคงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ราบลื่นซึ่งริคกี้ แลมเบิร์ตจะเข้ามาเป็นตัวเลือกยามที่เราต้องการเล่นในลักษณะอื่น"
"แต่เราไม่ได้อเล็กซิส ซานเชซ ในส่วนริคกี้ก็มีความกดดันมหาศาลถาโถมเข้าใส่เขาซึ่งมันไม่ได้เป็นไปตามแผน เราจำเป็นต้องนำเข้าใครสักคน มาริโอเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ ผมไม่ได้คิดว่าผมจะแตกต่างกับผู้จัดการทีมคนอื่นในแง่มุมที่ต้องมีปัญหากับเขา ณ เวลานั้นเราไม่มีทางเลือกอื่น"
"มันเป็นบางสิ่งที่ไม่เวิร์คและก็ได้สร้างความเสียหายให้กับพวกเรา"
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1321545
บีร็อดเปิดใจอยู่หงส์ทำงานแสนลำบากอยากเซ็นใครต้องให้ TC อนุมัติ
กุนซือตาหวานให้สัมภาษณ์เปิดใจในรายการ Sky Sports' Goals เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยคำกล่าวอ้างของเขาสวนทางกับที่เอียน อายร์เคยบอกว่าร็อดเจอร์สมีสิทธิ์ขาดยามเซ็นสัญญานักเตะ
"โมเดลของสโมสรค่อนข้างจะแตกต่างกับที่อื่นโดยกลุ่มเจ้าของทีมมีแนวทางการทำงานที่อยากนำเข้านักเตะอายุน้อย พยายามพัฒนาพวกเขาและก้าวเดินต่อไป นักเตะหลายคนที่ย้ายเข้ามามีอายุประมาณ 24 ปีหรือน้อยกว่านั้น"
"ในฐานะผู้จัดการทีมคุณคือหัวหน้าในนามแต่มีทีมงานการสรรหานักเตะอยู่ในตำแหน่ง คนพวกนี้ทำงานกันหนักมาก"
"มันเป็นการตัดสินใจในแบบกลุ่ม มันไม่ใช่สิ่งที่ผมจะมีสิทธิ์ตัดสินใจเด็ดขาด ถือว่ายากนะเพราะคุณมีนักเตะในใจที่ต้องการแต่หากนักเตะคนนั้นไม่มีอยู่ในลิสต์รายชื่อคุณก็ต้องเลือกคนอื่น"
บีร็อดใช้กรณีการเซ็นสัญญาคว้าตัวมาริโอ บาโลเตลลี่ในการยกตัวอย่าง โดยเขากล่าวว่า
"เราต้องการนักเตะที่สามารถไล่บอลได้ตั้งแต่แดนหน้า ไม่ใช่แค่นักเตะจอมยิงประตูที่เราตามหาเพราะหลุยส์ ซัวเรซมอบอะไรหลายอย่างให้เรามากกว่านั้น"
"หลังเกมอุ่นเครื่องกับเอซี มิลาน ผมถูกถามคำถามและผมรู้สึกว่ามาริโอไม่ใช่นักเตะที่เข้ากับโปรไฟล์แบบที่เราตามหา แต่พอมาถึงช่วงท้ายของซัมเมอร์ตอนที่เรากระกระสนในการนำเข้านักเตะประเภทที่ต้องการ เจ้าของทีมคิดว่านี่อาจจะเป็นนักเตะที่ผมสามารถพัฒนาขึ้นมาได้"
"เขาเป็นนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์นะ เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย คุณได้เห็นเขาในสนามซ้อมทุกๆวัน เขาตัวใหญ่, แข็งแกร่งและจับบอลได้ยอดเยี่ยม พวกเขา(เจ้าของ)คิดกันว่านี่คือนักเตะราคา 50 ล้านปอนด์ที่เราอาจใช้เงินเพียง 16 ล้านปอนด์คว้ามาร่วมทีม"
"ยามที่เจ้าของสโมสรต้องการให้คุณก้าวเดินไปในเส้นทางสายนั้นคุณก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีก คุณต้องลองทำดู"
"สิ่งที่เสียหายที่สุดก็คือเราคิดว่าเราจะได้ตัวอเล็กซิส ซานเชซและนั่นจะเป็นเหมือนการทดแทนที่ยอดเยี่ยมในแนวทางการเพรสเกมของเรา ความดุดันของเขาช่วยได้ เราคิดว่าเขาคือนักเตะที่เพอร์เฟ็คต์ มันคงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ราบลื่นซึ่งริคกี้ แลมเบิร์ตจะเข้ามาเป็นตัวเลือกยามที่เราต้องการเล่นในลักษณะอื่น"
"แต่เราไม่ได้อเล็กซิส ซานเชซ ในส่วนริคกี้ก็มีความกดดันมหาศาลถาโถมเข้าใส่เขาซึ่งมันไม่ได้เป็นไปตามแผน เราจำเป็นต้องนำเข้าใครสักคน มาริโอเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ ผมไม่ได้คิดว่าผมจะแตกต่างกับผู้จัดการทีมคนอื่นในแง่มุมที่ต้องมีปัญหากับเขา ณ เวลานั้นเราไม่มีทางเลือกอื่น"
"มันเป็นบางสิ่งที่ไม่เวิร์คและก็ได้สร้างความเสียหายให้กับพวกเรา"
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1321545