#ชีวิตคู่ที่เป็นแบบนี้ปกติไหมค่ะ ?? ควรไปต่อ...หรือหยุดไว้แค่นี้ดี?

พาพันชอบนานาสวัสดี Say hi สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิบทุกๆคนนะคะ  ^_^
ได้มีโอกาสอ่านเรื่องราวของคนอื่นมามากมาย แต่วันนี้ขอแชร์เรื่องราวของตัวเองบ้างแล้วกัน...
เขียนผิดเขียนถูกประการใดก็ขออภัยไว้ด้วยนะค่ะ...

ขอเล่าเลยแล้วกัน... เรื่องมีอยู่ว่า

                มีผู้ชายคนนึงเข้ามาจีบเรา...ดูเป็นคนธรรมดา หน้าตาบ้านๆ นิสัยพอใช้ได้
เรารู้สึกคุยกันถูกคอ และมีอะไรที่คล้ายๆกันหลายอย่าง เราเลยตัดสินใจคบกันเป็นแฟน ไปๆมาๆ เราก็รู้จักเขามากขึ้น..
เขาทำอาชีพตำรวจ บ้านเขาอยู่ห่างจากบ้านเราไม่มากนัก น่าแปลกที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย...ทั้งๆที่อยู่จังหวัดเดียวกันแท้ๆ
และบ้านก็อยู่ห่างกันไม่มาก เราคบกันสักพักนึง  เราก็พลาดท่ามีอะไรกับเขา... และทางบ้านพ่อแม่ของเราทั้งสองคนก็รับรู้  เขาก็ให้เราทั้งสองอยู่ด้วยกัน

ชีวิตเราเลยเปลี่ยนไป... คือเรากับเขายังไม่แต่งงานกัน แต่อยู่บ้านเดียวกัน...
เหตุผลที่เรายังไม่แต่งงาน (จริงๆทางบ้านก็ให้แต่ง) เพราะว่า เรากับเขายังรู้จักกันไม่ถึง 3 ปียังไม่เคยลองอยู่ด้วยกัน
บางทีกลัวว่ารีบแต่งงานกันไปจะมีบางอย่างที่เข้ากันไม่ได้ ถ้าเกิดมีลูก แล้วต้องเลิกกัน... มันจะเป็นยังไง เลยคิดว่าลองอยู่ด้วยกัน
ก่อนดีไหม...ศึกษานิสัยใจคอกันและช่วยกันทำงาน ทำนองนี้ ถ้าโอเค ก็จะแต่งงานกัน...


ฐานะทางบ้านแฟนเราดี บวกกับแฟนเราเป็นคนที่เก่ง มีหน้าที่การงานดี และมีธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง
ตั้งแต่เราเรียนจบมา เราไม่เคยทำงานเลย เพราะแฟนเราไม่ให้เราออกไปทำงาน เขาให้เราทำงานบ้าน และช่วยงานธุรกิจเขาอย่างเดียว
ส่วนตัวเขาก็ทำ ทั้งงานตำรวจ ทั้งธุริจส่วนตัว ไปพบลูกค้าอยู่ทุกๆวัน

**กิจวัตรประจำวันของเราคือการตื่นแต่เช้า...
ซักผ้า กวาดบ้าน ถูบ้าน   ชงชา ไหว้พระตอนเช้า และทำอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น ให้เขากิน
แฟนเราก็ให้เงินเดือนเราใช้ ชีวิตเราเหมือนสุขสบายดี คือทำหน้าที่ตัวเองเสร็จก็ นอน ดูซีรีย์เกาหลี เล่นเกมส์ เข้าร้านทำผม เสริมสวย
ชอปปิ้ง มีเงิน อยากได้อะไรซื้อ ทานข้าวนอกบ้านบ้างโอกาส มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี

แต่พอนานๆไป ธุรกิจที่แฟนเราทำอยู่ก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นและขยับขยายสาขา ทำให้แฟนเรามีรายได้มากขึ้น แต่เวลาที่อยู่ด้วยกันของเรากลับน้อยลง
เรานอนด้วยกันทุกวัน...แต่ต่างคนก็แยกย้ายทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีโมเม้นเป็นห่วงเป็นใยกันเหมือนเดิมเท่าไร เราอยู่บ้านไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรเท่าไร
แต่เเฟนเรากลับมาก็มีระบายเรื่องงานให้เราฟังบ้าง ปรึกษาเราบ้าง  ไม่มีโม้นแบบพูดจาหวานๆ อะไรเหมือนแต่ก่อน

อยากไปไหนบางทีเราก็ขับรถไปเอง ไปเดินห้าง ดูหนัง ฟังเพลง ไปไหนมาไหนคนเดียว มีเงินแต่เหมือนไม่มีความสุขเท่าไหร่


เราไม่รู้ว่าเงินทำให้คนเราเปลี่ยนไปหรือเปล่า... แต่แฟนเราคนนึงแหละที่เรารู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป
เราเริ่มกินข้าวนอกบ้านกันมากขึ้น ซื้อของแพงๆ ซื้อรถ ซื้อบ้าน เอะอะอะไรก็เงินๆ
เช่น ทะเลาะกันจะถูกง้อด้วยเงินคือ อะ เอาเงินไปชอปปิ้งละกัน ทำนองนี้  แต่มันไม่ใช่ เราไม่ได้อยากได้เงิน เราต้องการให้แฟนเราแคร์ความรู้สึก
หรือทำอะไรเพื่อเราบ้าง... เอาใจใส่เราบ้าง.
มีความห่วงใยความรู้สึก หวานๆให้กัน มีเวลาไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัดโมเม้นหวานๆแบบนี้ไม่เคยมี
มีแต่อยู่บ้านกันไปวันๆ

เเต่เรื่องที่ทำให้เรารู้สึกเป็นทุกข์ไม่สบายใจก็เหมือนจะไร้สาระรึเปล่าไม่รู้ คือ




*****เรากับแฟน แต่ก่อนเคยเป็นเพื่อนกันในเฟส ลงรูป แท็ก ไปไหนก็แท็กคู่กัน เคยทะเลาะกันแรงๆ เหมือนไม่เข้าใจกัน พักหลังๆ แฟนเราก็
ตั้งสถานะอะไร ก็จะตั้งค่าในเฟสบุ๊กซ่อนเราไม่ให้เราเห็น... และบางทีคู่เรารักกันดีนะ แต่เขาก็ชอบทำเหมือนลงรูป ลงสเตตัส ลงเพลง
อะไรเหมือนชีวิตเหงาๆ อกหัก เหมือนโสดยังไงไม่รู้ (ที่เห็นเขาซ่อนๆ เพราะบางทีแอบดูโทรศัพท์เขา)


หนักสุดคือ พักหลังๆ  ไปกินข้าวนอกบ้านด้วยกัน ก็ไม่แท็กกัน บางทีก็ให้เราขยับจานข้าวออก  ถ่ายรูปให้เขา เหมือนเขามากินข้าวคนเดียว...
หน้าที่ของเราอีกอย่างนอกจากงานบ้านคือ คอยถ่ายรุปให้เขา แฟนเราไม่มีโมเม้นถ่ายรูปให้เราบ้างเลย...

เราต้องถ่ายรูปให้เขาเวลาเขากินข้าว เขาก็จะอัฟเฟสเหมือนเขาไปกินคนเดียว...ทั้งๆที่เราไปด้วย
บางทีเราทำอาหารเช้าให้เขากิน เขาก็ลงรูป เหมือนตัวเองตื่นมาทำเอง... ไม่ค่อยแสดงตัวว่าเราเป็นแฟน มีแฟนทำให้กิน ฯลฯ

เราเบื่อปัญหาเฟสบุ๊กมากเรา เลยตัดปัญหาด้วยการลบออกจากเพื่อน ไม่ต้องเป็นเพื่อนกันในเฟส
เวลาจะตั้งสเตตัส หรือจะโพสอะไร เขาจะได้ไม่ต้องตั้งค่าคอยซ่อน... ซึ่งเราก็ปรับความเข้าใจกับเขานะพูดไปตรงๆหลายครั้ง ว่าทำไมไม่แสดงตัวเหมือนแต่ก่อน ทำไมชอบลงเพลง โพสรูป เหมือนคนอกหัก เหมือนคนโสด... แฟนเราก็อ้างว่าที่ทำงานผู้ใหญ่มองเยอะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าสนใจแต่เรื่องมีแฟน
เราว่ามันเป็นแค่ข้ออ้างรึป่าว....

***เรื่องที่สอง โทรศัพท์ไอโฟนก็ถูกล็อครหัส ทั้งๆที่แต่ก่อนหยิบมาถ่ายรูปทำอะไรก้ได้เดี๋ยวนี้ใส่รหัสผ่าน บอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว
ต้องมีความเชื่อใจกันบ้าง ขนาดไม่ได้แต่งงานกันยังไม่เชื่อใจกันเลย เป็นการทดสอบพิสูจน์ความอดทน...

**** และแน่นอน การที่เขาทำตัวมีพิรุธแบบนี้ คือเราก็จับได้ภายหลัง
ว่าเขาแอบคุยกับคนอื่น  โกหกเราว่า ไปทำธุระที่นั่นที่นี่ แต่ เราก็จับได้ว่าแอบไปกับผู้หญิงคนอื่น
และแสดงตัวกับผู้หญิงคนนั้นว่าโสด แต่เราก็ใจร้อนมาก ไม่รอดูเหตุการณ์อย่างสงบๆ พอจับได้ก็เหวี่ยงเต็มที่...
เขาก็ยังเถียงว่าเขาไม่ผิดไม่ได้คิดอะไร เรื่องธรรมดาผู้ชาย ไม่มีไรเกินเลย แค่คุยขำๆ.

เคยเจอ น้ำยาคอนแท็กเลน ของผู้หญิงคนอื่นตกอยู่ในรถบ้าง...

ซึ่งเขาบอกว่า ก็แค่ไปส่งผุ้หญิงไปนั่นไปนี่ เขาไม่ได้จับมือ ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดี แค่คุยเฉย ๆ เขาไม่ผิด ทำนองนี้...
แรกๆ เราก็รับไม่ได้นะ แต่พอมีเหตุกาณ์แบบนี้ เข้ามาเรื่อยๆ เหมือนเราก็ชิน เสียใจจนชิน

จับได้ครั้งที่สองก็มีเด็กดริ้ง... คุย พาเด็กไปทานข้าว แต่เขาบอกเราว่าไม่ได้มีอะไรเกินเลย
เขาบอกว่าเราไม่ปกติ ที่รับไม่ได้  เขาหาว่าเราไม่ใจกว้างพอ... เขาแค่คุย เป็นปกติ... ไม่ได้มีอะไรเกินเลยถึงขนาด (มีไรกัน)
เขาไม่ผิด ยืนยันว่าไม่ผิดอยู่แบบนั้น

นานๆ ไป เราก็เหมือนชิน  พอเจออะไรแบบนี้เราก็ไม่โกรธ แถมหัวเราะอีกตังหากว่า เอาอีกแล้วหรอ กระล่อนอีกแล้ว...
ซึ่งมันกลายเป็นเรื่องปกติของเราไปแล้ว  แต่เอาเข้าจริงๆ เราคุยกับเพื่อนชายบ้างเขาก็ไม่ชอบ ทั้งๆที่ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย
เขาสั่งบล๊อก ลบเฟส ลบไลน์ เพื่อนชายเราทั้งหมด  ....

บางทีก็เหนื่อยนะกับความรักแบบนี้ คบกัน มีแค่ทางบ้านที่รู้ แต่คนใน Facebook ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร
เคยไปเจอ สเตตัสนึง ในเฟส คือ ประมาณว่า

" เราไม่สนใจหรอก ว่าแฟนเราจะคุยกับใคร แต่ทุกคืนเขานอนอยู่กับเรา " ทำนองนี้

ก็เลยปลงๆ เคยเลิกกันหลายครั้งเพราะเรื่องที่เขาคุยกับคนอื่น ไม่ชัดเจน ไม่เปิดเผย... แต่สุดท้ายก็ไม่เลิกกัน...
เขาได้แต่บอกว่า  เขาดูแลเราได้ เรามีหน้าที่แค่ทำงานบ้าน มันก็มีความสุขดีอยู่แล้ว เขาก็แค่มีคุยบ้างแต่ไม่ได้อะไร...
เราก็ไม่รู้เบื้องหลังเขาหรอก... เรามีแต่คำถามว่า

ทำไมเขาต้องคุยกับคนอื่นด้วย ทำไมเรายังคุยกับเขาคนเดียวได้เลย...
งานบ้านทุกอย่างเขาสบายมากไม่เคยต้องทำอะไรเลย เราดูแลปรนนิบัติเขาดีทุกอย่าง... เรื่องอย่างว่าก็โอเคกันดี
ไม่ได้มีปัญหาอะไร  เราไม่อยากหลอกตัวเองเลยว่าเรารับไม่ได้ เราอึดอัด ที่เขาเป็นแบบนี้คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง
จะเลิกกันหลายครั้ง ก็ไม่ตัดขาด คาราคาซังมาตามง้อ ใช้วิธีเผด็จการกับเราตลอด... สุดท้ายเราก็ต้องอดทน...

เราก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติไหม... บางคนก็บอกให้เราอดทนๆอยู่ไป
บางคนก็บอกให้เราเลิก...

เราก็รักเขานะ ถ้าไม่รักเราก็คงไม่อดทนขนาดนี้... แต่บางทีก็เหนื่อย... ตอนนี้เลยคิดหางานทำ... ออกจากบ้านเขามา
มาอยู่บ้านของตัวเอง พ่อแม่ก็ถามมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า แต่เราก็ไม่อยากให้มีปัญหาอะไร...

เราควรทำยังไงดีหรอค่ะ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่