ตอนนี้เพื่อนร่วมงานในบริษัทฯ ของเรากำลังฮิตคำนี้มากๆ แชร์กันในเฟสเป็นว่าเล่น
ซึ่งเราเคยได้อ่านก่อนหน้านี้มานานสักพักแล้วน่าจะเกือบ 6 -7 เดือนที่แล้ว
ตอนที่เราอ่านบทความนี้ เราเข้าใจนะ คนที่ทุ่มเทเพื่อบริษัทฯ อย่างบ้าคลั่ง
ทำงานแบบลืมลูกเมีย-ผัวไว้ที่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เป็นแบบนี้ น่าจะบริษัทฯของญี่ปุ่น
ไม่ก็ลูกจ้างที่อายุเยอะๆ ทำงานสไตล์โบราณ แต่สำหรับที่บริษัทฯ เรานี่ไม่ใช่เลย
เพราะอะไรถึงบอกแบบนั้น เราก็นั่งทำงานอยุ่ร่วมกับคนเหล่านั้นที่แชร์ ๆ ข้อความ
1. เข้างานสาย มีข้ออ้าง มีลูกต้องดูแล ส่งไปโรงเรียน พอเจ้านายอนุญาตให้สายได้เล็กน้อย
ก็สายไปไกลกว่าเดิม จากสาย 15 นาที เป็นสาย 30 นาที ยังสายเป็นชั่วโมง แล้วลางานก็ใช้สิย
2. กลับบ้านเร็ว เลิกงานปุ๊บ ก็กลับบ้านเลย งานไม่เคลียร์อะไร คนทำงานด้วยก็อึดอัด
บางที่ต้องรอเอกสารจากเค้า
3. จัดสรรเวลาไปเป็น ยุ่งมันทั้งวัน ด้วยงานไม่ได้เรื่อง อะไรที่บอกว่าไม่ได้เรื่อง
บางคนทำงานจัดซื้อ ยุ่งทั่งวัน กับงานจัดซื้อขนมเลี้ยงลูกค้า กระดาษทิซซู่อะไรดี
แต่วัสดุที่จำเป็นในไลน์ผลิตไม่เห็นจะพิถืพิถันอะไรเลย
4. ไม่ค่อยชอบทำงานทีละนิดทุกวัน แต่ชอบทำงานที่เดียว เช่น งานบัญชี
ทุกวันไม่ลงรายกาย รับมา ใส่กล่อง ใส่ลิ้นชัก พอสิ้นเดือน ต้องวันสุดท้ายของเดือนด้วย
จะยุ่งมาก ใครจะถามอะไรไม่ได้เลยที่เดียว แถมไม่พอเริ่มเหวี่ยง เพราะดูเวลาแล้ว
พรุ่งนี้ยังไงก็ส่งงบใช้จ่ายประจำเดือนไม่ทันตอนเช้า ต้องทำงานดึกซิที่นี้ นี่ก็เรียกว่าทุ่มเทแล้วซินะ
5. งานตัวเองไม่ทำ ชอบยุ่งเรื่องงานชาวบ้าน เวลางานคนอื่นมีปัญหา ชอบขันอาสา
นั่งวิจารณ์กันทั้งวัน แต่ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย นอกจากเม้าท์มอยหาคนเห็นใจกันให้จบวันไป
แต่จะทำเหมือนตัวเองเข้ามาช่วย แต่ในความเป็นจริงคือ มาช่วยผลาญเวลาให้หมดวันเร็วขึ้น
6. ทำผิด ห้ามว่า ห้ามตำหนิ ห้ามตักเดือน เพราะสำนึกผิดแล้ว ไม่ต้องซ้ำเดิม
อย่างหลายๆคนจะเป็น คือ เวลาหัวหน้าตำหนิ จะไม่พอใจ มักจะอ้างคุณงามความดีที่มีมาในอดีต
ทำงานหามรุ่งหามค่ำ (ก็คือไอ้ที่กล่าวมาด้านบน) ฉันทำเพื่อบริษัท กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ เพื่อบริษัท
แต่แค่งานผิดพลาดนิดเดียว ต้องเรียกมาตักเตือนกันเลย มันเกี่ยวกันหรือเปล่า
7. มันก็จริง คนไหนทำงานได้เร็ว มักจะต้องแบกรับงานคนที่ช้าๆ มาทำเพิ่ม
ปัญหาไม่ใช่เพราะทำงานช้า (ช้าแต่ไม่ได้เนี๊ยบ) แต่เพราะเวลางานไม่ทำ แอบทำเรื่องส่วนตัว
ขายของในเนต คุยปัญหาครอบครัว เล่นเนต เม้ามอยกับเพื่อนร่วมงานที่ซี้ๆ กลายเป็นว่างานช้ามาก
อยากบางคน ชอบทำโตให้รกๆ เหมือนงานเยอะ แต่ความจริงคือเอกสารตั้งแต่หลายปีก็เอามากองให้รกๆ
ดูแล้วน่าสงสาร งานเยอะเลยทำไม่ทัน เซ็ง ปัญหาคือ คนที่ต้องมาช่วย แรกๆ ก็เรียกว่าช่วย
ทำไปทำมา กลายเป็นหน้าที่รับผิดชอบ สุดท้ายคนเดิมที่ทำไม่ทัน มันก็ยังทำงานที่เหลือน้อยไม่ทันอยู่ดี
8. มีสิทธิต้องใช้สิทธิให้ครบ ป่วย 30 วัน ก็ใช้ลาปวดหัว เกือบๆ 20 วัน/ปี แถมไม่พอยังสอนคนใหม่ๆ
ให้ทำตามๆ กัน บริษัทไม่เจ้งหลอก แถมไม่พอไม่ว่าใครป่วย ลูกของน้องสามีป่วย ก็ต้องลา ป้าของเมียป่วยก็ต้องลา
ลูกพี่ลูกน้องบวชก็ลาที 4 - 5 วัน ลา7-8 วันไปช่วยงานศพญาติสามี จะบอกว่าทำงานลืมญาติพี่น้องคงไมใช่
ขนาดแค่ญาติยังลาทีหลายๆวัน
9. วันหยุดต่อเนื่องเทศกาล ไม่เคยพลาดที่จะหยุดก่อน หรือไม่ก็หยุดเพิ่ม
ถ้าจะผิด ก็คือ หัวหน้างาน ผู้บริหาร และ เจ้าของ ที่ต้องสอดส่องความเป็นไป
แต่ส่วนใหญ่ คนไทยอะลุ่มอะล่วย ไม่อยากมีปัญหากระทบ อะไรๆ ก็ถือว่านิดๆ หน่อยๆ
พอสิ้นปีประเมินผลงานออกมา ไม่พอใจ แต่ไม่ยักจะมองย้อนกลับไปในสิ่งที่ทำมา
แถมบางคนยังกล้าพูดอีก ว่าสงสัยประเมินผลงานจากการเลียแข้งเลียขา
บางทีก็เซ็งนะคนแบบนี้ ........ ไม่ดูตัวเองเลย
เอ้า ไปรับงานเพิ่มจากพวกทำงานไม่ทัน(ชอบหมักไว้ทำวันสุดท้าย)
กลับบ้านดึก (ุทุ่มเท) เลยตื่นสาย(ผลจากการทุ่มเท)
ไม่มีอะไรหลอก แต่ระบายยย
ก่อนจะแชร์ วิเคราะห์หน่อยมันตรงกับตัวเองจริงเหรอ "อย่ารักบริษัท เพราะบริษัทไม่เคยรักคุณ"
ซึ่งเราเคยได้อ่านก่อนหน้านี้มานานสักพักแล้วน่าจะเกือบ 6 -7 เดือนที่แล้ว
ตอนที่เราอ่านบทความนี้ เราเข้าใจนะ คนที่ทุ่มเทเพื่อบริษัทฯ อย่างบ้าคลั่ง
ทำงานแบบลืมลูกเมีย-ผัวไว้ที่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เป็นแบบนี้ น่าจะบริษัทฯของญี่ปุ่น
ไม่ก็ลูกจ้างที่อายุเยอะๆ ทำงานสไตล์โบราณ แต่สำหรับที่บริษัทฯ เรานี่ไม่ใช่เลย
เพราะอะไรถึงบอกแบบนั้น เราก็นั่งทำงานอยุ่ร่วมกับคนเหล่านั้นที่แชร์ ๆ ข้อความ
1. เข้างานสาย มีข้ออ้าง มีลูกต้องดูแล ส่งไปโรงเรียน พอเจ้านายอนุญาตให้สายได้เล็กน้อย
ก็สายไปไกลกว่าเดิม จากสาย 15 นาที เป็นสาย 30 นาที ยังสายเป็นชั่วโมง แล้วลางานก็ใช้สิย
2. กลับบ้านเร็ว เลิกงานปุ๊บ ก็กลับบ้านเลย งานไม่เคลียร์อะไร คนทำงานด้วยก็อึดอัด
บางที่ต้องรอเอกสารจากเค้า
3. จัดสรรเวลาไปเป็น ยุ่งมันทั้งวัน ด้วยงานไม่ได้เรื่อง อะไรที่บอกว่าไม่ได้เรื่อง
บางคนทำงานจัดซื้อ ยุ่งทั่งวัน กับงานจัดซื้อขนมเลี้ยงลูกค้า กระดาษทิซซู่อะไรดี
แต่วัสดุที่จำเป็นในไลน์ผลิตไม่เห็นจะพิถืพิถันอะไรเลย
4. ไม่ค่อยชอบทำงานทีละนิดทุกวัน แต่ชอบทำงานที่เดียว เช่น งานบัญชี
ทุกวันไม่ลงรายกาย รับมา ใส่กล่อง ใส่ลิ้นชัก พอสิ้นเดือน ต้องวันสุดท้ายของเดือนด้วย
จะยุ่งมาก ใครจะถามอะไรไม่ได้เลยที่เดียว แถมไม่พอเริ่มเหวี่ยง เพราะดูเวลาแล้ว
พรุ่งนี้ยังไงก็ส่งงบใช้จ่ายประจำเดือนไม่ทันตอนเช้า ต้องทำงานดึกซิที่นี้ นี่ก็เรียกว่าทุ่มเทแล้วซินะ
5. งานตัวเองไม่ทำ ชอบยุ่งเรื่องงานชาวบ้าน เวลางานคนอื่นมีปัญหา ชอบขันอาสา
นั่งวิจารณ์กันทั้งวัน แต่ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย นอกจากเม้าท์มอยหาคนเห็นใจกันให้จบวันไป
แต่จะทำเหมือนตัวเองเข้ามาช่วย แต่ในความเป็นจริงคือ มาช่วยผลาญเวลาให้หมดวันเร็วขึ้น
6. ทำผิด ห้ามว่า ห้ามตำหนิ ห้ามตักเดือน เพราะสำนึกผิดแล้ว ไม่ต้องซ้ำเดิม
อย่างหลายๆคนจะเป็น คือ เวลาหัวหน้าตำหนิ จะไม่พอใจ มักจะอ้างคุณงามความดีที่มีมาในอดีต
ทำงานหามรุ่งหามค่ำ (ก็คือไอ้ที่กล่าวมาด้านบน) ฉันทำเพื่อบริษัท กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ เพื่อบริษัท
แต่แค่งานผิดพลาดนิดเดียว ต้องเรียกมาตักเตือนกันเลย มันเกี่ยวกันหรือเปล่า
7. มันก็จริง คนไหนทำงานได้เร็ว มักจะต้องแบกรับงานคนที่ช้าๆ มาทำเพิ่ม
ปัญหาไม่ใช่เพราะทำงานช้า (ช้าแต่ไม่ได้เนี๊ยบ) แต่เพราะเวลางานไม่ทำ แอบทำเรื่องส่วนตัว
ขายของในเนต คุยปัญหาครอบครัว เล่นเนต เม้ามอยกับเพื่อนร่วมงานที่ซี้ๆ กลายเป็นว่างานช้ามาก
อยากบางคน ชอบทำโตให้รกๆ เหมือนงานเยอะ แต่ความจริงคือเอกสารตั้งแต่หลายปีก็เอามากองให้รกๆ
ดูแล้วน่าสงสาร งานเยอะเลยทำไม่ทัน เซ็ง ปัญหาคือ คนที่ต้องมาช่วย แรกๆ ก็เรียกว่าช่วย
ทำไปทำมา กลายเป็นหน้าที่รับผิดชอบ สุดท้ายคนเดิมที่ทำไม่ทัน มันก็ยังทำงานที่เหลือน้อยไม่ทันอยู่ดี
8. มีสิทธิต้องใช้สิทธิให้ครบ ป่วย 30 วัน ก็ใช้ลาปวดหัว เกือบๆ 20 วัน/ปี แถมไม่พอยังสอนคนใหม่ๆ
ให้ทำตามๆ กัน บริษัทไม่เจ้งหลอก แถมไม่พอไม่ว่าใครป่วย ลูกของน้องสามีป่วย ก็ต้องลา ป้าของเมียป่วยก็ต้องลา
ลูกพี่ลูกน้องบวชก็ลาที 4 - 5 วัน ลา7-8 วันไปช่วยงานศพญาติสามี จะบอกว่าทำงานลืมญาติพี่น้องคงไมใช่
ขนาดแค่ญาติยังลาทีหลายๆวัน
9. วันหยุดต่อเนื่องเทศกาล ไม่เคยพลาดที่จะหยุดก่อน หรือไม่ก็หยุดเพิ่ม
ถ้าจะผิด ก็คือ หัวหน้างาน ผู้บริหาร และ เจ้าของ ที่ต้องสอดส่องความเป็นไป
แต่ส่วนใหญ่ คนไทยอะลุ่มอะล่วย ไม่อยากมีปัญหากระทบ อะไรๆ ก็ถือว่านิดๆ หน่อยๆ
พอสิ้นปีประเมินผลงานออกมา ไม่พอใจ แต่ไม่ยักจะมองย้อนกลับไปในสิ่งที่ทำมา
แถมบางคนยังกล้าพูดอีก ว่าสงสัยประเมินผลงานจากการเลียแข้งเลียขา
บางทีก็เซ็งนะคนแบบนี้ ........ ไม่ดูตัวเองเลย
เอ้า ไปรับงานเพิ่มจากพวกทำงานไม่ทัน(ชอบหมักไว้ทำวันสุดท้าย)
กลับบ้านดึก (ุทุ่มเท) เลยตื่นสาย(ผลจากการทุ่มเท)
ไม่มีอะไรหลอก แต่ระบายยย