(จากซ้าย) นัยนา หงขาว หรือ ′แอมมี่ บอกรักผัว′, มันแกว-รุ่งตะวัน ชัยหา, ชนิกานต์ แก้วสิงห์ แฟนสาวของ ′เน วัดดาว′
เข้าสู่ยุคดิจิตอลที่โลกโซเชียลมีอิทธิพลในการสร้างชื่อเสียงให้ผู้คนเด่นดังเป็นที่รู้จักทางออนไลน์ ก่อเกิดเน็ตไอดอลมากมายซึ่งเป็นที่คลั่งไคล้ในโลกเสมือนจริงแต่เมื่อมีคนรักก็(อาจ)ย่อมมีคนเกลียดจึงมีผู้ไม่หวังดีส่งข้อความแอนตี้แบบ‘หลังไมค์’ในกล่องข้อความเฟซบุ๊กล่าสุด นางฟ้าโซเชียลได้พากันแคปหน้าจอออกมาโชว์ให้อ่านกันเพลิน
เริ่มจาก รุ่งตะวัน ชัยหา หรือ ‘มันแกว’ ผู้ทำให้โลกรู้จักคำว่า ‘นมคุณธรรม’ ซึ่งระบุว่าตนโดนบุคคลลึกลับรายหนึ่งตามก่อกวน จนทนไม่ไหว ต้องบล็อกเฟซบุ๊กดังกล่าวไป แต่ก็ไม่วายไปสร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่มาก่อกวนไม่เลิก
เช่นเดียวกับ นัยนา หงขาว หรือ ‘แอมมี่ บอกรักผัว’ ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ไม่แตกต่าง จึงออกมาตั้งคำถามว่า ผู้มีพฤติกรรมเช่นนี้เข้าข่าย ‘โรคจิต’ หรือไม่ ?
ด้าน ชนิกานต์ แก้วสิงห์ หรือแฟนสาวของ ‘เน วัดดาว’ ก็โดนหนัก เพราะถูกทักด้วยข้อความแนว ‘คุกคาม’ มาทางกล่องข้อความตลอดทั้งวัน
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเน็ตไอดอลอีกหลายราย ต้องเจอชะตากรรมเดียวกัน
ปัญหาเหล่านี้สะท้อนอะไรในสังคม
ผู้มีชื่อเสียงรวมทั้งคนทั่วไป หากต้องเจอปัญหาเช่นนี้ ควรรับมืออย่างไร
การกระทำดังกล่าว จัดเป็นการ ‘หมิ่นประมาท’ ที่สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้หรือไม่ ?
ช่างเป็นอะไรที่ควรเรียนรู้
สาวนิรนามส่งข้อความถึง ′มันแกว′
คุกคามทางโซเชียล
เงาสะท้อนสังคมป่วยจิต
นายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มองว่า ในอดีตการกลั่นแกล้งคนอื่นทำได้ยากกว่านี้ แต่ปัจจุบันอยู่ในยุคความรวดเร็วบนอินเตอร์เน็ต และสามารถใช้วิธีไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง โดยสร้างข้อมูลปลอมๆขึ้นมาในเฟซบุ๊กได้ จึงกล้ากว่าสมัยก่อน ซึ่งปกปิดตัวตนได้น้อย
"การโซเซียลนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ ประโยชน์คือการหาข้อมูลต่างๆได้อย่างรวดเร็ว แต่ในทางกลับกันก็เกิดผลร้ายทางด้านการกล่าวหา การประจาน ด้วยถ้อยคำต่างๆ ซึ่งอาจเกิดจากความอิจฉา ทำให้เกิดความรุนแรงบนโซเซียลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะทุกอย่างมันรวดเร็ว การกลั่นแกล้งโดนใช้คำกล่าวหา ถือเป็นความรุนแรงชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถนำไปสู่ความรุนแรงทางกายภาพ เป็นการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจ้องทำร้ายคนอื่น สังคมยุคนี้เป็นยุคแห่งความรวดเร็ว คนทำอะไรโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ คิดเพียงแต่ความสะใจของตัวเอง เป็นเงาสะท้อนสังคมป่วยจิต"
′แอมมี่ บอกรักผัว′ โดนด้วย
สติมา ปัญหาจบ
ทางแก้สงครามโซเชียล
นายแพทย์ ยงยุทธ บอกว่า เน็ตไอดอลที่เสียหายควรรับมือด้วยความหนักแน่น และทำความเข้าใจก่อนว่าที่เขากระทำแบบนี้ต้องการอะไร เพื่อความสะใจหรือเพื่อเหตุผลอย่างอื่น ควรคิดถึงเสมอว่านี่คือกระบวนการการกลั่นแกล้งว่าร้าย ควรสงบนิ่งด้วยจิตใจ พอใจนิ่ง ก็จะทำให้เรามีเหตุผลและสติ มาชี้แจงได้ หากเราไม่ได้ทำผิดก็ควรชี้แจงเขาไป แต่ไม่ด่าทอหรือใช้อารมณ์ เพราะจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเกิดการตบตีกันในอินเตอร์เน็ต เกิดสงครามในโซเซียล เกิดการแบ่งกันออกเป็นฝ่ายต่างๆ สังคมสมัยนี้คนชอบดูกันสดๆ เพราะในเน็ตมันรวดเร็ว มันแพร่ได้ง่าย ยิ่งถ้าเป็นคนเด่นคนเด่นคนดังแล้วด้วยยิ่งทำให้มันง่ายต่อสายตาของคนอื่นมาก
แฟนสาวของ ′เน วัดดาว′ ตอบกลับบุคคลนิรนามอย่างเผ็ดร้อน
ด่าหลังไมค์ ก็ไม่รอด
เสี่ยงคุก 1 เดือน ปรับ 1 หมื่น
อีกประเด็นน่าพิจารณาคือมุมมองทางกฎหมาย ว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ เพราะมักอ้างกันว่า หากเป็นการ ‘ด่าหลังไมค์’ ไม่มีบุคคลที่ 3 รับรู้ ไม่สามารถเอาผิดได้
รศ. คณาธิป ทองรวีวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเกี่ยวกับโลกโซเชียล บอกว่า ในส่วนแรกถ้าเป็นเฟซปลอมและข้อมูลที่สร้างขึ้นมาปลอมถือว่าเป็นการละเมิด พ.ร.บ คอมพิวเตอร์
ในส่วนที่สอง หากเนื้อหาเป็นการใส่ความให้เสียหาย ถือเป็นการหมิ่นประมาท อย่างไรก็ตาม ต้องบุคคลที่สามเข้ามารับรู้ ส่วนการส่งข้อความที่เห็นกันแค่สองคนในช่องทางการสนทนาส่วนตัว ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท แต่เข้าข่าย ‘การดูหมิ่นซึ่งหน้า’ ซึ่งมีโทษทางกฎหมายเช่นกัน
"เน็ตไอดอลแคปหน้าจอที่มีคนด่าลงเฟส แล้วมีคนแชร์ต่อๆกัน หากข้อความในนั้นมีการใส่ความจนก่อให้เกิดความเสียหาย คนที่แชร์ถือว่าผิดกฎหมายในการหมิ่นประมาทเน็ตไอดอลเสียเอง
ส่วนข้อความไหนจะเป็นหมิ่นประมาทหรือไม่ ต้องดูแต่ละข้อความไป ตามดุลพินิจของศาล หากจะไปแจ้งความต้องดูพฤติกรรมในส่วนที่เขากระทำการโพสต์ว่าร้ายแรงเพียงใดเสียหายมากหรือไม่ หากเป็นการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ความผิดสูงสุดตามมาตรา 328 จำคุก 2 ปี ปรับ 200,000 บาท
ในขณะที่คนด่าไม่ถือว่าผิดในแง่ของหมิ่นประมาทเพราะเขาตั้งใจด่าในช่องทางส่วนตัว แต่เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า หรือหากพิมพ์ข้อความในลักษณะที่ว่า ไม่สวย ไปศัลยกรรมมา ถือเป็นการติชม ก็เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า ตามมาตรา 393 จำคุกไม่เกิน 1 เดือนปรับไม่เกิน 10,000 บาท"
รศ.คณาธิปกล่าว พร้อมทั้งให้ความเห็นเพิ่มเติมในประเด็นที่ว่า นอกเหนือจากความผิดทางกฎหมายแล้ว พฤติกรรมดังกล่าวยังเป็นการคุกคามสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม ต้องมองด้วยว่าเน็ตไอดอล ถือเป็นบุคคลสาธารณะ เหมือนดารา ก็ต้องมีคนแอนตี้และติชมได้ แต่ต้องไม่ไปใส่ความให้เสียหาย ซึ่งสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้
Cr : ข่าวสด ออนไลน์
หวิดตบผ่านเฟซ! รัวด่า ‘เน็ตไอดอล’ ป่วยจิตหรือริษยา ? นักกม.เตือนเสี่ยงคุก
เข้าสู่ยุคดิจิตอลที่โลกโซเชียลมีอิทธิพลในการสร้างชื่อเสียงให้ผู้คนเด่นดังเป็นที่รู้จักทางออนไลน์ ก่อเกิดเน็ตไอดอลมากมายซึ่งเป็นที่คลั่งไคล้ในโลกเสมือนจริงแต่เมื่อมีคนรักก็(อาจ)ย่อมมีคนเกลียดจึงมีผู้ไม่หวังดีส่งข้อความแอนตี้แบบ‘หลังไมค์’ในกล่องข้อความเฟซบุ๊กล่าสุด นางฟ้าโซเชียลได้พากันแคปหน้าจอออกมาโชว์ให้อ่านกันเพลิน
เริ่มจาก รุ่งตะวัน ชัยหา หรือ ‘มันแกว’ ผู้ทำให้โลกรู้จักคำว่า ‘นมคุณธรรม’ ซึ่งระบุว่าตนโดนบุคคลลึกลับรายหนึ่งตามก่อกวน จนทนไม่ไหว ต้องบล็อกเฟซบุ๊กดังกล่าวไป แต่ก็ไม่วายไปสร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่มาก่อกวนไม่เลิก
เช่นเดียวกับ นัยนา หงขาว หรือ ‘แอมมี่ บอกรักผัว’ ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ไม่แตกต่าง จึงออกมาตั้งคำถามว่า ผู้มีพฤติกรรมเช่นนี้เข้าข่าย ‘โรคจิต’ หรือไม่ ?
ด้าน ชนิกานต์ แก้วสิงห์ หรือแฟนสาวของ ‘เน วัดดาว’ ก็โดนหนัก เพราะถูกทักด้วยข้อความแนว ‘คุกคาม’ มาทางกล่องข้อความตลอดทั้งวัน
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเน็ตไอดอลอีกหลายราย ต้องเจอชะตากรรมเดียวกัน
ปัญหาเหล่านี้สะท้อนอะไรในสังคม
ผู้มีชื่อเสียงรวมทั้งคนทั่วไป หากต้องเจอปัญหาเช่นนี้ ควรรับมืออย่างไร
การกระทำดังกล่าว จัดเป็นการ ‘หมิ่นประมาท’ ที่สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้หรือไม่ ?
ช่างเป็นอะไรที่ควรเรียนรู้
สาวนิรนามส่งข้อความถึง ′มันแกว′
คุกคามทางโซเชียล
เงาสะท้อนสังคมป่วยจิต
นายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มองว่า ในอดีตการกลั่นแกล้งคนอื่นทำได้ยากกว่านี้ แต่ปัจจุบันอยู่ในยุคความรวดเร็วบนอินเตอร์เน็ต และสามารถใช้วิธีไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง โดยสร้างข้อมูลปลอมๆขึ้นมาในเฟซบุ๊กได้ จึงกล้ากว่าสมัยก่อน ซึ่งปกปิดตัวตนได้น้อย
"การโซเซียลนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ ประโยชน์คือการหาข้อมูลต่างๆได้อย่างรวดเร็ว แต่ในทางกลับกันก็เกิดผลร้ายทางด้านการกล่าวหา การประจาน ด้วยถ้อยคำต่างๆ ซึ่งอาจเกิดจากความอิจฉา ทำให้เกิดความรุนแรงบนโซเซียลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะทุกอย่างมันรวดเร็ว การกลั่นแกล้งโดนใช้คำกล่าวหา ถือเป็นความรุนแรงชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถนำไปสู่ความรุนแรงทางกายภาพ เป็นการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจ้องทำร้ายคนอื่น สังคมยุคนี้เป็นยุคแห่งความรวดเร็ว คนทำอะไรโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ คิดเพียงแต่ความสะใจของตัวเอง เป็นเงาสะท้อนสังคมป่วยจิต"
′แอมมี่ บอกรักผัว′ โดนด้วย
สติมา ปัญหาจบ
ทางแก้สงครามโซเชียล
นายแพทย์ ยงยุทธ บอกว่า เน็ตไอดอลที่เสียหายควรรับมือด้วยความหนักแน่น และทำความเข้าใจก่อนว่าที่เขากระทำแบบนี้ต้องการอะไร เพื่อความสะใจหรือเพื่อเหตุผลอย่างอื่น ควรคิดถึงเสมอว่านี่คือกระบวนการการกลั่นแกล้งว่าร้าย ควรสงบนิ่งด้วยจิตใจ พอใจนิ่ง ก็จะทำให้เรามีเหตุผลและสติ มาชี้แจงได้ หากเราไม่ได้ทำผิดก็ควรชี้แจงเขาไป แต่ไม่ด่าทอหรือใช้อารมณ์ เพราะจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเกิดการตบตีกันในอินเตอร์เน็ต เกิดสงครามในโซเซียล เกิดการแบ่งกันออกเป็นฝ่ายต่างๆ สังคมสมัยนี้คนชอบดูกันสดๆ เพราะในเน็ตมันรวดเร็ว มันแพร่ได้ง่าย ยิ่งถ้าเป็นคนเด่นคนเด่นคนดังแล้วด้วยยิ่งทำให้มันง่ายต่อสายตาของคนอื่นมาก
แฟนสาวของ ′เน วัดดาว′ ตอบกลับบุคคลนิรนามอย่างเผ็ดร้อน
ด่าหลังไมค์ ก็ไม่รอด
เสี่ยงคุก 1 เดือน ปรับ 1 หมื่น
อีกประเด็นน่าพิจารณาคือมุมมองทางกฎหมาย ว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ เพราะมักอ้างกันว่า หากเป็นการ ‘ด่าหลังไมค์’ ไม่มีบุคคลที่ 3 รับรู้ ไม่สามารถเอาผิดได้
รศ. คณาธิป ทองรวีวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเกี่ยวกับโลกโซเชียล บอกว่า ในส่วนแรกถ้าเป็นเฟซปลอมและข้อมูลที่สร้างขึ้นมาปลอมถือว่าเป็นการละเมิด พ.ร.บ คอมพิวเตอร์
ในส่วนที่สอง หากเนื้อหาเป็นการใส่ความให้เสียหาย ถือเป็นการหมิ่นประมาท อย่างไรก็ตาม ต้องบุคคลที่สามเข้ามารับรู้ ส่วนการส่งข้อความที่เห็นกันแค่สองคนในช่องทางการสนทนาส่วนตัว ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท แต่เข้าข่าย ‘การดูหมิ่นซึ่งหน้า’ ซึ่งมีโทษทางกฎหมายเช่นกัน
"เน็ตไอดอลแคปหน้าจอที่มีคนด่าลงเฟส แล้วมีคนแชร์ต่อๆกัน หากข้อความในนั้นมีการใส่ความจนก่อให้เกิดความเสียหาย คนที่แชร์ถือว่าผิดกฎหมายในการหมิ่นประมาทเน็ตไอดอลเสียเอง
ส่วนข้อความไหนจะเป็นหมิ่นประมาทหรือไม่ ต้องดูแต่ละข้อความไป ตามดุลพินิจของศาล หากจะไปแจ้งความต้องดูพฤติกรรมในส่วนที่เขากระทำการโพสต์ว่าร้ายแรงเพียงใดเสียหายมากหรือไม่ หากเป็นการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ความผิดสูงสุดตามมาตรา 328 จำคุก 2 ปี ปรับ 200,000 บาท
ในขณะที่คนด่าไม่ถือว่าผิดในแง่ของหมิ่นประมาทเพราะเขาตั้งใจด่าในช่องทางส่วนตัว แต่เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า หรือหากพิมพ์ข้อความในลักษณะที่ว่า ไม่สวย ไปศัลยกรรมมา ถือเป็นการติชม ก็เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า ตามมาตรา 393 จำคุกไม่เกิน 1 เดือนปรับไม่เกิน 10,000 บาท"
รศ.คณาธิปกล่าว พร้อมทั้งให้ความเห็นเพิ่มเติมในประเด็นที่ว่า นอกเหนือจากความผิดทางกฎหมายแล้ว พฤติกรรมดังกล่าวยังเป็นการคุกคามสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม ต้องมองด้วยว่าเน็ตไอดอล ถือเป็นบุคคลสาธารณะ เหมือนดารา ก็ต้องมีคนแอนตี้และติชมได้ แต่ต้องไม่ไปใส่ความให้เสียหาย ซึ่งสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้
Cr : ข่าวสด ออนไลน์