[CR] แบกกระเป๋าขึ้นไหล่ และไปภูกระดึงกันน จ.เลย

สวัสดีค่าา วันนี้เราจะมารีวิวการเดินทางไปเที่ยวที่ ภูกระดึง จ.เลยย 3วัน 2 คืนจ้าาา
ซึ่งที่นี่มีผู้คนไปกันเยอะมากก และเขียนรีวิวได้น่าไปมากๆ เราอยากไปก็เพราะเราไปอ่านรีวิวกระทู้พันทิปมานี่แหละ55555
เราจึงคุยๆกันว่าน่าไปจัง อยากไป จนช่วงต้นปีที่ผ่านมาเพื่อนก็มาชวนและถามว่าไปภูกระดึงกันมั้ยย เราก็ไปสิคะ 55555
เราจึงรวบรวมคนที่ไปร่วมทริปนี้ทั้งหมด 4 คน และเราก็หาวันที่ที่เราจะสะดวกไปคะ เพราะช่วงนั้นเราปิดเทอมที่มหาลัยพอดี
เราจึงตกลงกันว่าจะไปก่อนเปิดเทอม จึงเลือกวันที่ 7 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา และกลับวันที่ 10 มกราคม เพราะ 11 เปิดเทอมพอดี
จากนั้นเราก็ได้ทำการจองเต็นท์ที่อุทยานคะ เพราะการจองเต็นท์แบบนี้มันสะดวกมากกว่าไปต่อแถวยาวๆที่อุทยานคะ เมื่อเราไปถึงที่อุทยานเราก็นำใบสลิปที่เราโอนเงินไปยื่นที่หน้าเคาต์เตอร์ได้เลย สะดวกสุดๆคะ นานาเยี่ยม
จองเต็นท์ออนไลน์ค่ะ : http://www.dnp.go.th/parkreserve/tent_reservation.asp?lg=1

เมื่อเราจองเต็นท์เสร็จแล้วว เราก็ดูรอบรถที่จะไป ภูกระดึงคะ ซึ่งเราได้ภูกระดึงทัวร์ ซึ่งราคาก็ไม่แพงมาก อยู่ในระดับดีเลยคะ เราจึงเลือกรถรอบ 22.05 น.
เพราะจะไปถึงนู๊นประมาณ 6 โมงกว่าๆ ซึ่งรถเต็มเร็วมากๆเลยคะจองออนไลน์เยอะมาก เราเลยจองไม่ทันจึงได้ไปซื้อที่หมอชิตเองก็โชคดีคะ ซื้อทันมีที่นั่ง 5555 แล้วก็ถึงเวลาขึ้นรถคะ ตื่นเต้นมากๆตอนนั้นจะได้ไปเที่ยว55555

พอขึ้นรถเราก็หลับเลยคะ เก็บแรงไว้เดิน 5555 อ๊อออ พอขึ้นรถแล้วรถกำลังจะออกจะมีพนักงานมาถามคะว่าใครจะลงไหน
เราไปภูกระดึงเราต้องลงผานกเค้านะค่ะ จะสะดวกกว่าไปลง บขส.เลย

แล้วเราก็ถึงที่ผานกเค้าตอนตี5กว่าๆ ของวันที่ 8 มกราคม ถึงเร็วกว่าเวลาที่ตั้งไว้อีกค่ะ รถจะจอดตรงข้ามร้านข้าวเจ๊กิมนะคะ สังเกตง่ายมากร้านใหญ่มากคะ
จากนั้นเราก็ลงรถไปล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็ไปกินข้าวเช้าที่ร้านเจ๊กิมคะ รสชาติก็โอเคนะคะ แต่จืดไปนิด ให้น้อยไปหน่อย5555
แต่คนที่มาเที่ยวที่มากินข้าวที่ร้านเยอะมากๆเลย เราคิดว่าเราน่าจะมาช่วงคนน้อยเพราะหลังปีใหม่แล้ว แต่ผิดคาดคะ 55555

เราไม่ได้ถ่ายรูปที่ร้านมา ขอยืมเครดิตรูปด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ นานาขอบคุณ

จากนั้นเราก็นั่งรถ 2 แถวเพื่อจะไปอุทยานคะ คนละ 30 บาท คันละ 10 คน รถ 2 แถวจะจอดอยู่ข้างๆร้านเจ๊กิมเลยคะ
ช่วงที่เราไปค่อนข้างหนาวเลยทีเดียวคะ เหมาะกับการไปกินบรรยากาศมากๆ 5555 เราก็นั่งรถประมาณ 15 -20 นาที ถึงอุทยานคะ

ตอนเราขึ้นรถกำลังเดินทางไปอุทยานค่ะ หนาวมาก คนถ่ายมือสั่นมากค่ะ 55555

แล้วเราก็มาถึงอุทยานค่ะ จากนั้นเราก็นำใบสลิปจองเต็นท์ไปยื่นคะ แถวสั้นมากสะดวกฝุดๆค่ะ แล้วเราก็ไปต่อแถวซื้อบัตรขึ้นภูกระดึงคะ
คนไทยคนละ 40 บาทค่ะ ไม่แพงเลย


จากนั้นเราก็เข้าห้องน้ำเตรียมตัวขึ้นภูค่ะ เราเห็นว่ามีลูกหาบคอยแบกของของนักท่องเที่ยวเยอะมาก เราไม่อยากเปลืองเงินแล้วก็อยากแบกของขึ้นเอง
เราจึงไม่ให้ลูกหาบหาบค่ะ เราจึงแบกขึ้นเอง พี่ลูกเกดบอกต้องสตรองคะ55555 แต่ก็เกะกะใช้ได้เลยแบกของเองเนี้ยย ของที่จ้างลูกหาบเขาจะคิดกิโลกรัมละ 30 บาทค่ะ ไม่แพงเลยนะคะ ถ้าเทียบกับเส้นทางที่โหดร้าย

เส้นทางที่เราจะขึ้นค่ะ โหดร้ายมั้ยคะ ขึ้นไปนี่คุ้มมากกกกกค่ะ


อัพรูปสักนิดก่อนเดินขึ้น ถ่ายตอนกำลังดูดี ต่อไปนี้นี่ไม่มีแล้ว5555

นี่คือระยะทางที่เราจะขึ้นไปข้างบนค่ะ ซึ่งในตอนนั้นไม่รู้เลยว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จะเหนื่อยขนาดไหน
และเราก็เริ่มเดินกันค่ะ เราเริ่มเดินขึ้นประมาณ 8 โมงเช้า เดินแรกๆก็กำลังชิวอยู่เลยย พอเดินไปเรื่อยๆ ทางเริ่มชันแล้วว ชันขึ้น ชันขึ้น ของที่แบกเองนี่อยากโดยทิ้งเลยค่ะ55555


เหนื่อยดีค่ะ บ่นตลอดทาง5555 แต่ก็ยังไหววว เดินไปพักไปเรื่อยๆ ลูกหาบนี่เดินไวมากก เดินบ่อยชินเส้นทาง เดินแซงเราตลอดเลย5555
ถึงแม้ของที่เขาแบกจะหนักแค่ไหนก็ตาม แข็งแรงมากๆ ยอมใจลูกหาบเลยจริงๆ

เมื่อเรานั่งพักจนหายเหนื่อยเราก็เดินไปเรื่อยๆ ช่วงแรกของเขานี่ชันมากเลย เราเดินขึ้นมีคนเดินลง ให้กำลังใจกันตลอดทาง น่ารักมากๆเลย
บริเวณรอบๆก็มีไผ่เยอะแยะเลย ส่วนใหญ่ที่เห็นจะมีแต่ต้นไผ่

แล้วก็เดินมาจนถึงซำแรก "ซำแฮก" เป็นซำที่เดินไกลและเหนื่อยจนหอบแฮกๆ เลยได้ชื่อนี้มั้ง 5555


ซำนี้มีร้านขายของด้วยค่ะ มีขายข้าว ขายเสื้อผ้า ราคาก็แพงกว่าข้างล่างนิดหน่อยค่ะ แค่ซำแรกก็สวยแล้วนะ บอกเลยยย
ขึ้นมาหายเหนื่อยเลยย สวยมากจริงๆ วิวดีมากกกก



นี่คือผู้ร่วมเดินทางค่ะ เซลฟี่ให้หายเหนื่อยย 55555 เราพักซำนี้กันนานมากก แล้วเราก็เดินทางต่อไปยังซำต่อไปป
แล้วเราก็ถึงซำบอน แต่ซำนี้ไม่มีอะไร เราเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะเริ่มเหนื่อยละ ไม่มีแรงถ่ายละ55555
แล้วเราก็แวะทานข้าวเที่ยงที่ซำกอซางค่ะ ได้เยอะมากๆเลยย อิ่ม อร่อยยย แล้วเราก็พักซำนี้นานมากเช่นเดียวกัน 55555

แล้วเราก็เดินขึ้นเรื่อยๆ บ่นๆตลอดทาง จนใกล้ถึงหลังแป ทางจะเริ่มชันขึ้นอีก และหินก็เริ่มเยอะขึ้น เดินไม่ค่อยยากละ

แต่พอจะขึ้นบนหลังแป บันไดเริ่มเยอะ แต่พีคสุดคือมันมีบันไดชันมากกกก เกือบ 90 องศาได้ ชันมากกเรานี่ขึ้นขาสั่นเลย 5555

แล้ววววว .... วววว ในที่สุดเราก็ถึงหลังแป .. ปปปป จ้าาาา หายเหนื่อยไปเลยย คือสวยมากกก ดีใจมากกถึงแล้วว ขอถ่ายรูปสักหน่อยเหอะ5555

แล้วเราก็ต้องเดินไปประมาณ 3 กิโลกว่าๆ ถึงที่พักตรงอุทยานค่ะ ซึ่งตอนนี้ขาแทบจะก้าวไม่ไหว ล้ามากกกก

แล้วเราก็ถึงเต็นท์ เกือบ 5 โมงเย็นค่ะ 55555 เดินนานมากจริงๆ เกือบๆ 8 ชม. ไปดูพระอาทิตย์ตกไม่ไหวเลยย
จากนั้นเราก็แยกกันไปอาบน้ำ คนยังไม่ค่อยเยอะ ปกติมีน้ำอุ่นนะคะ แต่วันนั้นเราไปมีแต่น้ำเย็น เย็นแบบน้ำแช่น้ำแข็งวันสงกรานต์เลยค่ะ5555
อาบ 5 นาทีพอค่ะหนาวมากกกกกกก แล้วเราก็ออกไปหาข้าวกินคะ ราคาข้าวข้างบนก็แพงนะค่ะ แต่ถ้าเทียบกับคนหาบขึ้นไป
ก็คุ้มค่าราคาแหละค่ะ บนภูมืดเร็วมากกก จึงทำให้เรานอนตั้งแต่ทุ่มนึง ไม่รู้ง่วงหรือเหนื่อย 55555

แล้วเราก็ตื่นตั้งแต่ตี 4 กว่าๆ เพื่อจะไปดูพระอาติย์ขึ้นที่ผานกแอ่นค่ะ ไฟฉายสำคัญมากๆค่ะ เอาไว้นำทาง ระยะทางไปผานกแอ่นก็ประมาณ 2 กิโลกว่าๆ
แล้วก็ไปนั่งรอพระอาทิตย์ขึ้น คนนี่เยอะมากๆๆ

แล้วพระอาทิตย์ก็ขึ้นน คือสวยยย แสงแรกของวันที่ 9 มกราคม


แล้วเราก็กลับมาเปลี่ยนชุด กินข้าว เพื่อที่จะเดินไปดูพระอาทิตย์ตกที่ ผาหล่มสัก แต่ทางที่ผ่านก็จะมีน้ำตก และผาอื่นๆ ให้ซื้อข้าวไปเก็บไว้อีกชุดนึง
สำหรับเดินทาง เพราะอาจจะหิว มีจักรยานให้เช่าด้วยนะคะ แต่เราเลือกเดินค่ะ เพราะเราเลือกเดินทางน้ำตก เพื่อตามล่าหาใบเมเปิ้ล ซึ่งเส้นทางค่อนข้างยากต่อการปั่นจักรยาน
แต่ถ้าจะปั่นจักรยานก็จะมีอีกเส้นทางนึงค่ะ สำหรับจักรยานโดยเฉพาะ

แผนที่สำหรับไปดูพระอาทิตย์ตก แค่เห็นแผนที่ก็ตื่นเต้นแล้ว55555

แล้วเราก็เริ่มเดินทางไปน้ำตกโดยตามทางไปเรื่อยๆซึ่งจะมีป้ายบอกตลอด ทางก็โอเคเลยย เดินค่อนข้างง่าย แล้วเราก็มาถึงน้ำตกแรก "น้ำตกวังกวาง"
  
น้ำแห้งมากกก เล่นไม่ได้เลยย ได้แต่นั่งมอง 5555 เราก็เดินไปต่อ ไปยังน้ำตกอื่นไปเรื่อยๆ ซึ่งน้ำแห้งทุกน้ำตกซึ่งก็เสียดาย เดินไปตั้งหลายที่
หวังว่าจะมีน้ำให้เล่น 55555 แล้วเราก็เจอใบเมเปิ้ล จริงๆมีทุกน้ำตกเลยใบเมเปิ้ล ซึ่งมันร่วงลงพื้นแล้วสวยมาก

แล้วก็เดินมาถึง "สระอโนดาด" เป็นสระน้ำไม่ใหญ่มาก น้ำเย็นมากๆ
  
แล้วก็เดินทางต่อ ระยะทางก็ค่อนข้างไกล เป็นทางราบ เดินไม่ยาก แต่ก็เหนื่อยใช้ได้ 5555 รอบข้างทางเดินเต็มไปด้วยต้นสน เยอะมากๆ
แล้วเราก็เดินมาถึงง "ผาเหยียบเมฆ" ซึ่งเป็นผาที่สวยมากๆรองจากผาหล่มสัก เราก็พักกันตรงนี้นานมากๆๆ ถ่ายรูปตรงผานี้เยอะมากๆ จนไม่อยากเดินต่อแล้ว55555 แข่งกันถ่ายรูปจริงๆ5555


แล้วเราก็จะเดินต่อถึงแม้ว่าจะเหนื่อยก็ตาม แต่เจอคนที่กำลังจะเดินไปเหมือนกัน เค้าบอกว่าวันนี้เมฆเยอะ อาจจะไม่เห็นพระอาทิตย์ตก
เราเลยย้อนกลับเลย 5555 ไม่ไหวขาอ่อนมากก เราจึงกลับไปนั่งพักต่อที่ผาเหยียบเมฆ แล้วจากนั้นก็เดินกลับที่เต็นท์ ซึ่งขานี่งอแงมากก ไม่อยากก้าวแล้ว
ก้าวขาไม่ออกเลยย แต่ก็ก้าวไปเรื่อยๆ ซึ่งเริ่มจะมืดแล้วว แต่ก็ยังดีที่มีเพื่อนเดินกลับเยอะพอสมควร แล้วก็ถึงเต็นท์ประมาณ 6 โมงเย็น
อาบน้ำ เตรียมตัวกินข้าว นอนนนน เก็บแรงลงเขาในวันพรุ่งนี้ วันนี้เรากินหมูกะทะด้วย หนาวๆนี่อุ่นมากก รสชาติโอเคเลย

วันที่ 10 มกราคม เดินทางลงภู เราเริ่มลงตั้งแต่ 10 โมงกว่าๆ ทางขึ้น ทางลง ทางเดียวกัน ก่อนลงขอถ่ายรูปซักหน่อยละกัน5555

เราชอบรูปนี้มาก  เหมือนทุกคนคิดเหมือนๆกันหมด55555


ตอนลงนี่ต้องทรงตัวดีกว่าตอนขึ้นนะ เพราะมันชันลงมันจะลงยากก แต่ก็ลงเร็วกว่าตอนขึ้น เราใช้เวลาลง เกือบๆ 5 ชม. ก็เยอะนะ55555
ตอนลงนี่เราจ้างลูกหาบแล้ว ไม่แบกแล้ว หนัก5555 จะได้สะดวกเราด้วย
พอเราลงมาถึงข้างล่างเราก็ไปเอาของที่ลูกหาบหาบลงมาถึงก่อน เค้านั่งรอเรานานมากก 55555
แล้วก็ไปล้างตัว ขึ้นรถ 2 แถว ไปรอรถทัวร์ที่ร้านเจ๊กิม ก็พักกินข้าวนั่งพักให้หายเหนื่อย จนรถมาเราก็ขึ้นกลับกรุงเทพฯ

**ซึ่งเราแค่อยากแชร์การไปเที่ยวในครั้งนี้ ซึ่งเป็นกระทู้แรกของเรา เพื่อเป็นการแนะนำการท่องเที่ยวของประเทศของเรา ถ้าใครมีโอกาสก็อยากให้ไปกันนะคะ บอกเลยว่าไปแล้วไม่มีทางผิดหวังอย่างแน่นอน ขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาอ่านทุกคนนะค่ะ หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการอยากไปเที่ยวที่ภูกระดึงนะคะ 5555 เม่าติดดอย
***แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ นานาขอบคุณ
ชื่อสินค้า:   ภูกระดึง จ.เลย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่