หากพูดถึง "ยุคมืด" ของยุโรป นั้นทุกคนต้องนึกภาพเดียวกันคือภาพสงครามครูเสด
เนื่องจากยุโรปสมัยนั้นคริสตศาสนจักรมีอิทธิพลมากที่สุด ใส่ร้ายป้ายสีคนที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาตนเองว่าเป็น "แม่มด" จับฆ่าและเผาทั้งเป็น
อีกทั้งมีการขายใบไถ่บาปเพื่อนำเงินไปสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งเป็นการค้ามากกว่าศรัทธา ซึ่งการขายใบไถ่บาปเป็นการขายบุญให้กับผู้มีเงินซื้อเท่านั้น
ใครมีเงินซื้อใบไถ่บาป ไม่ว่าทำเลวอย่างไร ถ้ามีเงินซื้อใบไถ่บาปได้ไปสวรรค์  (ล่อให้ทำบุญโดยเอาสวรรค์มาล่อ)

http://www.alittlebuddha.com/News%202008/July%202008/06%20July%202008.html
ไม่ต่างไปจากธรรมกาย ธรรมกายสอนว่า ทำบุญมาก ได้บุญมาก ทำน้อย ได้น้อย
มีการชักจูงให้คนทำบุญมากๆๆ โดยการใช้สวรรค์มาล่อ
ให้ร้ายผู้ที่ไม่สนับสนุนสมเด็จ "ช่วง ช่วง" ว่าเป็นมารศาสนาบ้าง ไม่ใช่คนพุทธบ้าง
ทั้งๆที่สมเด็จ "ช่วง ช่วง" ก็ยังมีมลทินอยู่

สังฆราช=มีตำแหน่งและฐานะคล้ายกับ=สันตปาปา (เราจึงควรเลือกคนที่ไม่มีมลทินใดๆมาดำรงตำแหน่ง)
เพราะไม่เช่นนั้น สีที่ใช้แทนศาสนา ไม่ควรเป็นสีขาวอีกต่อไป ถ้าได้คนมีมลทินอย่าง "ช่วง ช่วง" มาเป็นสังฆราช

เราเรียนประวัติศาสตร์มาแล้ว แต่ไม่มีใครเคยเรียนรู้จากประวัติศาสตร์เลยหรือ